รายละเอียดข้อมูลสินเชื่อปิดบัตรเครดิต UOB มีสินเชื่อแบบไหนบ้าง รวมหนี้บัตรเครดิต UOB รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ทำยังไง เริ่มตรงไหน มาดูกัน
รีไฟแนนซ์บัตรเครดิตธนาคาร UOB – สวัสดีค่ะกลับมาพบกับพวกเรา iMoney ที่จะตอบทุกเรื่องเกี่ยวกับการเงิน ทุกคำถามของทุกคนเรามีคำตอบให้กับคุณค่ะ และวันนี้เราก็จะมีโปรโมชั่นดีๆจากธนาคาร UOB มาฝากกันสำหรับใครที่กำลังมองหาสินเชื่อเงินก้อนมาใช้หนี้ ซึ่งเราต้องยอมรับเลยว่าปัจจุบันนี้คนไทยเป็นหนี้กันมาก และหนี้ส่วนใหญ่ก็มาจากหนี้บัตรเครดิต เพราะการใช้จ่ายโดยผ่านบัตรเครดิตนั้นง่ายมาก ประกอบกับการมีบัตรเครดิตสักใบก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว พอคุณได้ทำงานไปซักระยะหนึ่ง ก็สามารถทำบัตรเครดิตได้แล้ว แค่มีเงินเดือนเพียง 15,000 บาท ก็บัตรเครดิตเหมือนคนอื่นได้แล้ว iMoney ต้องขอบอกเลยค่ะ ว่าการมีบัตรเครดิตนั้นไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไปนะคะ หากคุณรู้จักใช้บัตรเครดิตให้เป็น จ่ายตรงเวลา คุณก็จะไม่ตกเป็นทาสของบัตรเครดิต และไม่มีหนี้สินเกินตัว และส่วนใหญ่แต่ละคนก็มักจะมีบัตรเครดิตกัน และก็มักจะมีไม่ต่ำกว่า 1 ใบ ด้วยสิทธิประโยชน์ของแต่ละบัตรก็แตกต่างกันไป และเพื่อความสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอยนั้น ก็ทำให้หลายคนสนุกเพลิดเพลินไปกับรูดจ่ายผ่านบัตรเครดิต ชนิดที่เรียกว่า รูดปรื้ดๆ สะสมแต้มบ้าง รับส่วนลดบ้าง จนหลายครั้งลืมคำนึงตอนที่จ่ายเงิน เมื่อถึงสิ้นเดือนเห็นยอดเงินที่ต้องจ่ายนั้นก็แทบจะหน้ามืดเลย เล่นกันปวดหัวเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุผลที่ว่ารายได้ไม่สมดุลกับรายจ่าย ทำให้หลายคนเลยที่จะจ่ายเพียงแค่ขั้นต่ำเท่านั้น เพื่อรักษาเครดิตไว้เท่านั้น แต่การจ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆแบบนี้ นอกจากจะต้องเสียดอกเบี้ยที่สูงแล้ว ยังเป็นหนี้ที่วนเวียนไม่รู้จบอีก ทำให้คุณไม่สามารถหลุดพ้นจากการเป็นหนี้เสียที แต่ไม่เป็นไร คนเราเป็นหนี้กันได้ และก็เลิกเป็นหนี้ได้เช่นกัน iMoney จึงขอแนะนำสำหรับคนที่มีหนี้บัตรเครดิตหลายใบให้รวมหนี้ทุกบัตรเครดิตไว้ที่เดียว จะได้ไม่ต้องมานั่งจ่ายแต่ดอกเบี้ย ซึ่งวิธีนี้เราเรียกว่า “การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต” วิธีนี้ก็เป็นทางออกที่ดีวิธีหนึ่งนะคะ เพราะช่วยทำให้คุณจ่ายน้อยกว่าที่ต้องจ่ายไปในแต่ละเดือน ดอกเบี้ยก็ถูกลง มีเงินเหลือใช้ มีเงินให้ออมกันมากขึ้นด้วยค่ะ เรามีดูกันดีกว่าค่ะถ้าคุณคิดจะรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตธนาคาร UOB เขามีโปโปรโมชั่นดีๆอะไรกันบ้างติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ
เช็คข้อมูลสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตทุกธนาคารที่นี่
รับคำปรึกษาเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตได้ที่ Line ของ iMoney
Advertising :
รวมสินเชื่อปิดบัตรเครดิต UOB
ประเภทสินเชื่อ |
ชื่อสินเชื่อ |
จุดเด่น |
เงื่อนไขการกู้ |
ดอกเบี้ย |
สินเชื่อบุคคล |
สินเชื่อ UOB I-CASH | กู้ง่าย อนุมัติเร็วเพียงแค่ 1 วันก็รู้ผลทันที และสามารถยกเลิกได้ภายใน 7 วัน วงเงินอนุมัติก็ให้สูงถึง1,000,000 บาท | อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป พนักงานประจำ ต้องมีเงินเดือนตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือน และประกอบธุรกิจส่วนตัว จะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อเดือน |
อัตราดอกเบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 19.99 – 27.99 ต่อปี |
บัตรกดเงินสด |
สินเชื่อยูโอบี แคชพลัส | สมัครง่าย ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ หรือไม่ต้องมีคนค้ำประกัน ก็สมัครสินเชื่อได้ แถมได้วงเงินสูงสุดถึง 1 ล้านบาท และให้จ่ายคืนสบายๆ ขั้นต่ำเพียงร้อยละ 5 จากยอดที่ค้างเท่านั้น | สมัครได้ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป โดยจะต้องมีรายได้ 15,000 บาท สำหรับคนที่ทำงานประจำ และรายได้ 20,000 บาทขึ้นไป สำหรับคนที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว |
อัตราดอกเบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 25 – 28 ต่อปี โดยจะคิดดอกเบี้ยตามที่ใช้จริง |
Credit : https://pixabaycom
สินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต UOB I-CASH
สินเชื่อ UOB I-CASH เป็นสินเชื่ออเนกประสงค์ สมัครง่าย โดยที่ไม่ต้องมีหลักประกันหรือคนค้ำประกันในการสมัคร และไม่ได้กำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เงิน สามารถนำไปใช้จ่ายอะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการ ไม่ว่าคุณไปรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตก็สามารถทำได้ ขอเพียงแค่มีเงินเดือน 15,000 บาท ก็สามารถสมัครได้แล้ว วงเงินที่ให้นั้นสูงถึง 1,000,000 บาท คุณยังสามารถเลือกผ่อนจ่ายได้สูงถึง 5 ปีเลย และที่สำคัญเลยในกรณีที่ไม่ต้องการใช้เงินแล้วก็สามารถยกเลิกได้ภายใน 7 วันอีกด้วย โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆอีกด้วย เห็นไหมคะว่าสินเชื่อ UOB I-CASH น่าสนใจขนาดไหน หากต้องการใช้เงินสด เงินด่วน มาสมัครสินเชื่อนี้ได้เลย สมัครก็ง่าย อนุมัติไวใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงก็รู้ผลทันที ง่ายๆเลยใช่ไหมคะ คุณคงอยากจะสมัครกันแล้วใช่ไหม เราลองไปดูเงื่อนไขรายละเอียดต่างๆกันเลยค่ะ
เงื่อนไขการขอกู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต UOB I-CASh
- ผู้สมัครสินเชื่อ UOB I-CASH จะต้องมีสัญชาติไทย
- สมัครโดยที่ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือคนค้ำประกันในการขอสินเชื่อ UOB I-CASH
- พนักงานบริษัท ข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป (แต่เมื่อรวมอายุของผู้สมัครกับระยะเวลาในการผ่อนต้องไม่เกิน 60 ปีค่ะ) เงินเดือนตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือน และมีอายุการทำงานอย่างน้อย 1 ปีขึ้นไป
- ธรุกิจส่วนตัว อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป (แต่เมื่อรวมอายุของผู้สมัครกับระยะเวลาในการผ่อนต้องไม่เกิน 60ปีค่ะ) มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อเดือน และทำธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี
อัตราดอกเบี้ยในการกู้สินเชื่อ UOB I-CASH
อัตราดอกเบี้ย เริ่มตั้งแต่ 19.99% – 27.99% ต่อปี ทั้งนี้ ดอกเบี้ยขึ้นอยู่วงเงินที่ได้รับอนุมัติ
- สำหรับพนักงานบริษัท ข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่มีรายได้ประจำ
- หากผู้สมัครมีเงินเดือนตั้งแต่ 15,000 – 30,000 บาท ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR+20.24 หรือคิดเป็นร้อยละ 27.99 ต่อปี
- หากผู้สมัครมีเงินเดือนตั้งแต่ 30,000 – 50,000 บาท ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR+17.24 หรือคิดเป็นร้อยละ 24.99 ต่อปี
- หากผู้สมัครมีเงินเดือนตั้งแต่ 50,000 – 100,000 บาท ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR+14.24 หรือคิดเป็นร้อยละ 21.99 ต่อปี
- หากผู้สมัครมีเงินเดือนตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR+ 12.24 หรือคิดเป็นร้อยละ 19.99 ต่อปี
- สำหรับผู้ที่ทำธุรกิจส่วนตัว
- หากผู้สมัครมีรายได้หมุนเวียนตั้งแต่ 20,000 – 50,000 บาท ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR+20.24 หรือคิดเป็นร้อยละ 27.99 ต่อปี
- หากผู้สมัครมีรายได้หมุนเวียนตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR+17.24หรือคิดเป็นร้อยละ 24.99 ต่อปี
ทั้งนี้ หากคุณผิดนัดการชำระเงิน หรือชำระเงินไม่ตรงตามเวลาที่กำหนดธนาคารจะคิดดอกเบี้ยสูงสุด ซึ่งคุณอาจจะไม่ได้อัตราดอกเบี้ยที่เราได้แจ้งไปค่ะ แต่การคิดดอกเบี้ยจะต้องไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปีค่ะ ซึ่งปัจจุบัน MRR อยู่ที่ร้อยละ 7.75 ซึ่งข้อมูลนี้ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2560 ค่ะ
ค่าธรรมเนียมในกู้สินเชื่อปิดบัตรเครดิต UOB I-CASH
- ฟรีค่าธรรมเนียมในการขอกู้สินเชื่อ UOB I-CASH
- ค่าปรับกรณีที่คุณชำระปิดบัญชีก่อนหมดสัญญา โดยธนาคารจะใช้วิธีที่คำนวณ ดังนี้ค่ะ
- นำอัตราดอกเบี้ยที่คุณได้รับอนุมัติ ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นกับวงเงินที่คุณได้รับค่ะ กับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดคืออัตราร้อยละ 28 นำมาคูณกับยอดคงค้าง ทั้งจำนวน แล้วคูณจำนวนวันซึ่งจะนับตั้งแต่วันที่คุณทำสัญญา จนถึงวันที่คุณปิดบัญชีค่ะ แล้วนำผลทั้งหมดมาหารด้วย 365 ค่ะ
- ค่าอากรแสตมป์ในการทำสัญญาเงินกู้ของสินเชื่อ UOB I-CASH จะต้องเสียในอัตรา 0.05% ของวงเงินได้รับอนุมัติ
เอกสารประกอบการสมัครสินเชื่อปิดบัตรเครดิต UOB I-CASH
- สำหรับผู้สมัครที่มีรายได้ประจำ จะต้องเตรียมเอกสารประกอบการสมัครสินเชื่อดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการ หรือบัตรพนักงานรัฐวิสาหกิจ (เอกสารสำเนาต่างๆจะต้องเซ็นผู้สมัครสินเชื่อพร้อมสำเนาถูกต้องด้วยทุกครั้ง และควรเพิ่มในการเขียนวัตถุประสงค์ของการใช้งานเอกสารฉบับนี้ด้วยเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล)
- สำหรับผู้สมัครที่ใช้เป็นสำเนาบัตรข้าราชการ หรือสำเนาบัตรพนักงานรัฐวิสาหกิจ จะต้องแนบสำเนาทะเบียนบ้านของผู้สมัครสินเชื่อ
- สลิปเงินเดือน(เดือนล่าสุด) สามารถใช้ได้ทั้งตัวจริงและสำเนา หรือจะใช้เป็นหนังสือรับรองเงินเดือน โดยในหนังสือต้องมีข้อมูลถึงรายได้ของผู้สมัครด้วย จะใช้เอกสารตัวจริงเท่านั้น และเอกสารสำเนาทั้งหมดนี้จะต้องเซ็นชื่อของผู้สมัครพร้อมสำเนาถูกต้องมาด้วย
- สำเนารายการบัญชีเงินฝากที่มีเงินเดือนเข้าธนาคารไหนก็ได้ โดยจะต้องย้อนหลังติดต่อกันนาน 6 เดือน
- สำเนาบัญชีเงินฝากหน้าแรกที่มีชื่อของคุณ ซึ่งจะต้องเป็นบัญชีที่คุณต้องการให้ธนาคารโอนเงินให้คุณเมื่อได้รับอนุมัติแล้วค่ะ
- สำหรับผู้สมัครที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว จะต้องเตรียมเอกสารประกอบการสมัครสินเชื่อดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชน (เอกสารสำเนาต่างๆจะต้องเซ็นผู้สมัครสินเชื่อพร้อมสำเนาถูกต้องด้วยทุกครั้ง และควรเพิ่มในการเขียนวัตถุประสงค์ของการใช้งานเอกสารฉบับนี้ด้วยเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล)
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด ซึ่งผู้มีอำนาจจะต้องเซ็นพร้อมประทับตามบริษัทมาด้วย
- สำเนาใบทะเบียนการค้าจากกระทรวงพาณิชย์ คัดไม่เกิน 3 เดือน ซึ่งผู้มีอำนาจจะต้องเซ็นพร้อมประทับตามบริษัทมาด้วย
- สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นทั้งหมดของบริษัท คัดไม่เกิน 3 เดือน ซึ่งผู้มีอำนาจจะต้องเซ็นพร้อมประทับตามบริษัทมาด้วย
- สำเนารายการบัญชีเงินฝากที่มีเงินหมุนเวียนจะใช้ของธนาคารไหนก็ได้ โดยจะต้องย้อนหลังติดต่อกันนาน 6 เดือน
- สำเนาบัญชีเงินฝากหน้าแรกที่มีชื่อของคุณ ซึ่งจะต้องเป็นบัญชีที่คุณต้องการให้ธนาคารโอนเงินให้คุณเมื่อได้รับอนุมัติแล้วค่ะ
ช่องทางการชำระเงินสินเชื่อ UOB I-CASH
- ฟรี หากคุณจ่ายเงินค่างวดผ่านช่องทางของธนาคารยูโอบีทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น หักผ่านบัญชี หรือจะเป็นที่เคาน์เตอร์ หรือจะเลือกจ่ายเองผ่าน ระบบอินเทอร์เน็ต ยูโอบี เพอร์ซัลนอล อินเทอร์เน็ต แบงก์กิ้ง แต่จะต้องมีบัญชีออมทรัพย์หรือกระแสรายวัน กับทางธนาคารยูโอบีนะคะ จึงจะสามารถเลือกจ่ายด้วยวิธีนี้ได้ค่ะ คุณสามารถเลือกได้ตามสะดวกเลยค่ะ
- จุดบริการรับชำระเคาน์เตอร์เซอร์วิสทุกที่ ในการจ่ายบิลค่างวดจะต้องเสียค่าธรรมเนียมหากจ่ายในกรุงเทพฯและปริมณฑล จะเสียค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 15 บาท แต่ถ้าจ่ายบิลที่ต่างจังหวัด จะเสียค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 20 บาท
- หากจ่ายบิลที่เคาน์เตอร์ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในการจ่ายบิลค่างวดจะต้องเสียค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 15 บาท ไม่ว่าจะจ่ายในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลหรือต่างจังหวัด แต่ถ้าจ่ายผ่านช่องทาง Electronics ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ค่าธรรมเนียมในการจ่ายบิลก็จะถูกกว่า ซึ่งจะเสียอยู่ที่ 10 บาทเท่านั้น ราคาเดียวทั่วประเทศ
- หากจ่ายบิลที่เคาน์เตอร์ของธนาคารไทยพาณิชย์ ในการจ่ายบิลค่างวดจะต้องเสียค่าธรรมเนียมหากจ่ายในกรุงเทพฯและปริมณฑล จะเสียค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 17 บาท แต่ถ้าจ่ายบิลที่ต่างจังหวัด จะเสียค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 30 บาท
หากคุณเลือกที่จะจ่ายโดยผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือ ธนาคารไทยพาณิชย์ ถ้ายอดจ่ายของคุณเกิน 50,000 บาทขึ้นไป คุณจะต้องเสียค่าธรรมเพิ่มจากที่เราได้แจ้งไปนะคะ โดยจะคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มในอัตราร้อยละ 0.1 ค่ะ สูงสุดไม่เกิน 1,000 บาทค่ะ
สนใจสมัครสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต UOB ทุกประเภทได้ที่
- คุณสามารถสมัครได้ที่ธนาคาร UOB ได้ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือโทรสอบถามได้ที่ Call Center 02-285-1555 หรือถ้าจะให้สะดวกก็สามารถสมัครได้ทางออนไลน์ คลิกได้ที่นี่ค่ะ
Credit : https://pixabay.com
สินเชื่อรวมหนี้บัตรเครดิต UOB ยูโอบี แคชพลัส
สินเชื่อยูโอบี แคชพลัส จะมาในรูปของบัตร หรือที่เราเรียกกันว่า บัตรกดเงินสด ที่ให้คุณพร้อมใช้เงินได้สะดวกทุกทีที่ต้องการใช้เงิน สมัครบัตรกดเงินสดนี้ก็ง่ายนิดเดียว ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ หรือคนมาค้ำประกันให้วุ่นวายใจเลยค่ะ สมัครแค่เพียงครั้งเดียว สามารถใช้วงเงินได้ตลอดชีพเลย แถมธนาคารยังให้วงเงินสูงสุดถึง 1,000,000 บาท นับว่าเป็นวงเงินที่สูงใช้ได้เลยล่ะ หากนำมาเทียบกับสินเชื่อ UOB I-CASH ก็ได้เท่าๆกันเลย แต่จุดที่แตกต่างกันก็คือ สามารถเลือกจ่ายขั้นต่ำเพียงแค่ 500 บาทเท่านั้น หรือร้อยละ 5 จากยอดที่ค้าง หรือเดือนไหนมีเงินมากก็สามารถจ่ายได้มากกว่าที่กำหนด ยิ่งจ่ายมาก ดอกเบี้ยก็ยิ่งลดลง หนี้ก็หมดเร็วขึ้น ซึ่งการเลือกจ่ายคืนแบบนี้จะช่วยทำให้คุณมีสภาพคล่องตัวทางการเงินได้มากขึ้น และที่สำคัญถ้าไม่มีการเบิกถอนเงินมาใช้ หรือไม่ได้กดเงินมาใช้ทั้งหมดของวงเงินที่ได้รับอนุมัติ คุณก็จะจ่ายดอกเบี้ยเฉพาะยอดเงินที่เบิกมาใช้เท่านั้น เรียกได้ว่า ไม่กดเงิน ก็ไม่เสียดอกเบี้ย เพราะดอกเบี้ยจะถูกคิดต่อเมื่อกดเงินออกมาใช้เท่านั้น ส่วนรายละเอียดและเงื่อนไขในการสมัครจะเป็นอย่างไรมาดูกันเลยค่ะ
เงื่อนไขการขอกู้สินเชื่อรวมหนี้บัตรเครดิต UOB แคชพลัส
- จะต้องมีสัญชาติไทยเท่านั้น
- ไม่ต้องมีคนค้ำประกันหรือไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันในการสมัครสินเชื่อยูโอบี แคชพลัส
- กรณีที่ทำงานเป็นพนักงานบริษัท ข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป และเมื่อรวมอายุของกับระยะเวลาในการผ่อนจะต้องไม่เกิน 60 ปี
- รายได้ต่อเดือนตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป
- อายุการทำงานอย่างน้อย 1 ปีขึ้นไป
- กรณีที่ทำธรุกิจส่วนตัว
- อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป และเมื่อรวมอายุของกับระยะเวลาในการผ่อนจะต้องไม่เกิน 60 ปี
- รายได้ต่อเดือนตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป
- ดำเนินธุรกิจมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี
อัตราดอกเบี้ยในการกู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ยูโอบี แคชพลัส
สำหรับการคิดดอกเบี้ยของสินเชื่อยูโอบี แคชพลัสนั้น ธนาคารจะคิดแบบลดต้นลดดอก และ อัตราดอกเบี้ยก็จะขึ้นอยู่กับวงเงินที่ผู้สมัครได้รับอนุมัติจากธนาคาร โดยมีรายละเอียดดังนี้
- หากผู้สมัครสินเชื่อมีรายได้ต่อเดือนตั้งแต่ 15,000 – 24,999 บาท จะเสียดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ร้อยละ 28 ต่อปี
- หากผู้สมัครสินเชื่อมีรายได้ต่อเดือนตั้งแต่ 25,000 – 49,999 บาท จะเสียดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ร้อยละ 27 ต่อปี
- หากผู้สมัครสินเชื่อมีรายได้ต่อเดือนตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป จะเสียดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ร้อยละ 25 ต่อปี
ทั้งนี้ หากคุณผิดนัดการชำระเงิน หรือชำระเงินไม่ตรงตามเวลาที่กำหนดธนาคารจะคิดดอกเบี้ยสูงสุด ซึ่งคุณอาจจะไม่ได้อัตราดอกเบี้ยที่เราได้แจ้งไปค่ะ แต่การคิดดอกเบี้ยจะต้องไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปีค่ะ ยังไงก็รักษาวินัยในการจ่ายเงินด้วยนะคะ เพื่อที่คุณเองก็จะได้ไม่เสียเครดิต หรือมีประวัติทางการเงินที่ไม่ดีค่ะ
วิธีการคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อปิดบัตรเครดิต UOB ยูโอบี แคชพลัส
หลายคนอาจจะยังไม่รู้วิธีของการคิดดอกเบี้ยแบบตามจริงการกดของคุณ วันนี้ iMoney เรามีวิธีคิดแบบง่ายๆ เป็นตัวอย่างคุณได้ลองคิดกันเล่นๆกันค่ะ
ดอกเบี้ยมาจากการ = จำนวนเงินที่คุณได้เบิก x จำนวนวัน x อัตราดอกเบี้ยต่อปี (ซึ่งดอกเบี้ยดูเงินเดือนของคุณ) และนำมาผลที่ได้จากการคูณ มาหารด้วย 365 วันค่ะ
เราจะมายกตัวอย่างในการคิดดอกเบี้ยจากสูตรที่เราได้บอกไปนะคะ ในที่นี่เราจะคิดดอกเบี้ยต่อระยะเวลา 30 วันค่ะ ถ้าในความเป็นจริงอาจมากกว่านี้ก็ได้ค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น = 1,500 บาท x 30 วัน x 0.25 (ดอกเบี้ยร้อยละ 25 ต่อปี) และนำมาผลที่ได้จากการคูณแล้วมาหารด้วย 365 วัน
ฉะนั้น ดอกเบี้ยที่กดเงินในครั้งนี้จะต้องเสียเท่ากับ 30.82 บาท
หากดอกเบี้ยเงินกู้ที่คุณได้รับอยู่ที่ร้อยละ 25 ต่อปี ฉะนั้นเมื่อมีการเบิกถอนเงินสดมาใช้ธนาคาร ดังนี้
- ถ้ากดเงินสดทุกช่องทาง เป็นเงิน 1,500 บาท ดอกเบี้ยเงินกู้ในครั้งนี้จะเท่ากับ 30.82 บาทต่อครั้งที่กดเงิน
- ถ้ากดเงินสดทุกช่องทาง เป็นเงิน 5,000 บาท ดอกเบี้ยเงินกู้ในครั้งนี้จะเท่ากับ 102.74 บาทต่อครั้งที่กดเงิน
- ถ้ากดเงินสดทุกช่องทาง เป็นเงิน 10,000 บาท ดอกเบี้ยเงินกู้ในครั้งนี้จะเท่ากับ 205.48 บาทต่อครั้งที่กดเงิน
- ถ้ากดเงินสดทุกช่องทาง เป็นเงิน 15,000 บาท ดอกเบี้ยเงินกู้ในครั้งนี้จะเท่ากับ 308.22 บาทต่อครั้งที่กดเงิน
- ถ้ากดเงินสดทุกช่องทาง เป็นเงิน 20,000 บาท ดอกเบี้ยเงินกู้ในครั้งนี้จะเท่ากับ 410.95 บาทต่อครั้งที่กดเงิน
- ถ้ากดเงินสดทุกช่องทาง เป็นเงิน 30,000 บาท ดอกเบี้ยเงินกู้ในครั้งนี้จะเท่ากับ 616.44 บาทต่อครั้งที่กดเงิน
หากดอกเบี้ยเงินกู้ที่คุณได้รับอยู่ที่ร้อยละ 27 ต่อปี ฉะนั้นเมื่อมีการเบิกถอนเงินสดมาใช้ธนาคาร ดังนี้
- ถ้ากดเงินสดทุกช่องทาง 1,500 บาท ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ร้อยละ 33.29 บาท
- ถ้ากดเงินสดทุกช่องทาง 5,000 บาท ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ร้อยละ 110.96 บาท
- ถ้ากดเงินสดทุกช่องทาง 10,000 บาท ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ร้อยละ 221.92 บาท
- ถ้ากดเงินสดทุกช่องทาง 15,000 บาท ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ร้อยละ 332.88 บาท
- ถ้ากดเงินสดทุกช่องทาง 20,000 บาท ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ร้อยละ 443.84 บาท
- ถ้ากดเงินสดทุกช่องทาง 30,000 บาท ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ร้อยละ 665.75 บาท
หากดอกเบี้ยเงินกู้ที่คุณได้รับอยู่ที่ร้อยละ 28 ต่อปี ฉะนั้นเมื่อมีการเบิกถอนเงินสดมาใช้ธนาคาร ดังนี้
- หากคุณกดเงินสดมาใช้จำนวน 1,500 บาท คุณจะต้องเสียดอกเบี้ยอยู่ที่ 34.52 บาท
- หากคุณกดเงินสดมาใช้จำนวน 5,000 บาท คุณจะต้องเสียดอกเบี้ยอยู่ที่ 115.07 บาท
- หากคุณกดเงินสดมาใช้จำนวน 10,000 บาท คุณจะต้องเสียดอกเบี้ยอยู่ที่ 230.14 บาท
- หากคุณกดเงินสดมาใช้จำนวน 15,000 บาท คุณจะต้องเสียดอกเบี้ยอยู่ที่ 345.05 บาท
- หากคุณกดเงินสดมาใช้จำนวน 20,000 บาท คุณจะต้องเสียดอกเบี้ยอยู่ที่ 460.27 บาท
- หากคุณกดเงินสดมาใช้จำนวน 30,000 บาท คุณจะต้องเสียดอกเบี้ยอยู่ที่ 690.41 บาท
โดยวิธีการคำนวณดอกเบี้ยก็จะประมาณนี้ค่ะ สำหรับบัตรกดเงินสดค่ะ เพื่อนลองกับคำนวณดูนะคะ ซึ่งสามารถทดลองได้จากบิลเก่าๆของคุณ ดูสิว่าธนาคารเขาคิดดอกเบี้ยให้คุณถูกหรือไม่ การคิดดอกเบี้ยเป็นเรื่องที่คุณควรจะต้องรู้นะคะ เพื่อผลประโยชน์ของคุณเองค่ะ
ค่าธรรมเนียมในกู้เงินสินเชื่อปิดบัตรเครดิต UOB ยูโอบี แคชพลัส
- ฟรีค่าธรรมเนียมในการขอกู้สินเชื่อยูโอบี แคชพลัส
- ฟรีค่าธรรมเนียมบัตรกดเงินสดรายปีโดยไม่มีเงื่อนไขใด
- ค่าอากรแสตมป์ ซึ่งอัตราการ 0.05% ของวงเงินได้รับอนุมัติ
เอกสารประกอบการสมัครสินเชื่อรวมหนี้บัตรเครดิต UOB ยูโอบี แคชพลัส
- กรณีที่ทำงานเป็นพนักงานบริษัท ข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่มีรายได้ประจำ
- บัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการ หรือบัตรพนักงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งจะต้องถ่ายเอกสารมาให้ชัดเจนและเซ็นชื่อและสำเนาถูกต้อง และควรจะขีดคร่อมระบุเลยว่าเอกสารนี้ใช้เพื่อในการสมัครสินเชื่อกับธนาคารยูโอบีเท่านั้น
- กรณีที่ใช้เป็นสำนาบัตรข้าราชการหรือสำเนาบัตรพนักงานรัฐวิสาหกิจ จะต้องยื่นพร้อมสำเนาทะเบียน โดยจะต้องเลือกหน้าที่มีชื่อของคุณเพื่อประกอบในการสมัคร และให้เซ็นชื่อพร้อมสำเนาถูกต้องกำกับทุกแผ่นด้วย (แต่ถ้ายื่นสมัครด้วยบัตรประชาชนก็ไม่ต้องยื่นสำเนาทะเบียนบ้าน)
- สลิปเงินเดือน เดือนล่าสุดนับสมัครเดือนไหนก็ใช้เดือนก่อนหน้านั้น จะใช้เป็นสำเนาหรือตัวจริงก็ได้ หรือจะเลือกใช้เป็นหนังสือรับรองเงินเดือน แต่จะต้องเป็นฉบับจริงเท่านั้น
- กรณีที่ใช้หนังสือรับรองเงินเดือน จะต้องแนบเอกสารสำเนารายการบัญชีเงินฝากที่มีเงินเดือนเข้า หรือ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน และจะต้องเป็นเดือนที่ติดต่อกันห้ามเว้นเดือน
- สำเนาหน้า Book Bank ที่มีเลขที่บัญชีและชื่อของผู้สมัครสินเชื่อ หากได้รับอนุมัติธนาคารจะโอนเงินส่วนหนึ่งเข้าบัญชีธนาคารให้ และส่วนที่เหลือจะมาพร้อมกับบัตร
- กรณีทำธุรกิจส่วนตัว
- สำเนาบัตรประชาชน โดยจะต้องเซ็นชื่อของผู้สมัครสินเชื่อและสำเนาถูกต้อง
- สำเนารายการบัญชีเงินฝากที่มีเงินหมุนเวียนที่เกี่ยวกับธรุกิจที่ดำเนินการอยู่นั้น โดยจะต้องย้อนหลังติดต่อกันนาน 6 เดือน โดยจะต้องเซ็นชื่อของผู้สมัครสินเชื่อและสำเนาถูกต้อง
- สำเนาหน้า Book Bank ที่มีเลขที่บัญชีและชื่อของผู้สมัครสินเชื่อ หากได้รับอนุมัติธนาคารจะโอนเงินส่วนหนึ่งเข้าบัญชีธนาคารให้ และส่วนที่เหลือจะมาพร้อมกับบัตร โดยจะต้องเซ็นชื่อของผู้สมัครสินเชื่อและสำเนาถูกต้อง
- เอกสารบริษัทต่างๆ ดังนี้
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด
- สำเนาใบทะเบียนการค้าจากกระทรวงพาณิชย์ คัดสำเนามาไม่เกิน 3 เดือน
- สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัท คัดสำเนามาไม่เกิน 3 เดือน
- ทั้งนี้ เอกสารบริษัทจะต้องให้กรรมการหรือผู้มีอำนาจเซ็นกำกับและประทับตราบริษัทมาด้วย
ช่องทางการชำระเงินสินเชื่อปิดบัตรเครดิต UOB ยูโอบี แคชพลัส
- ฟรีค่าธรรมเนียมนการจ่ายบิลในกรณีที่เลือกจ่ายผ่านธนาคารยูโอบีทุกช่องทางของธนาคาร ดังนี้
- หักผ่านบัญชีออมทรัพย์หรือกระแสรายวันธนาคารยูโอบี
- จ่ายผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารยูโอบีทุกสาขาทั่วประเทศ
- จ่ายผ่าน ยูโอบี เพอร์ซัลนอล อินเทอร์เน็ต แบงก์กิ้ง
- จ่ายผ่านโทรศัพท์ด้วย ยูโอบี โฟนแบงก์กิ้ง โทร 02-285-1555
- จ่ายด้วยเงินสดที่จุดชำระเงินที่ทำการไปรษณีย์ (Pay at Post) สามารถจ่ายบิลได้ไม่เกิน 50,000 บาท และจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการจ่ายบิลอยู่ที่ 10 บาท ราคาค่าธรรมเนียมทั่วประเทศ
- จ่ายด้วยเงินสดที่จุดบริการรับชำระเคาน์เตอร์เซอร์วิส จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการจ่ายบิลประมาณ 15 – 20 บาท ซึ่งค่าธรรมเนียมจะขึ้นอยู่เขตพื้นที่ในการจ่ายบิลว่าอยู่ในกรุงเทพหรือต่างจังหวัด
- จ่ายบิลได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งสามารถจ่ายได้ที่เคาน์เตอร์ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือ จ่ายผ่าน Electronics ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการจ่ายบิลอยู่ที่ 10 – 15 บาท
- จ่ายบิลได้ที่เคาน์เตอร์ธนาคารไทยพาณิชย์ จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการจ่ายบิลประมาณ 17 – 30 บาท ซึ่งค่าธรรมเนียมจะขึ้นอยู่เขตพื้นที่ในการจ่ายบิลว่าอยู่ในกรุงเทพหรือต่างจังหวัด
- จ่ายด้วยเงินสดที่ เทสโก้ โลตัส หรือจะเป็น เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส จ่ายค่าธรรมเนียมบิลละ 10 บาท
- จ่ายด้วยเงินสดที่ TOT จ่ายค่าธรรมเนียมบิลละ 15 บาท
- จ่ายด้วยเงินสดที่ JAY MART จ่ายค่าธรรมเนียมบิลละ 15 บาท
- จ่ายด้วยเงินสดที่ mPay STATION จ่ายค่าธรรมเนียมบิลละ 15 บาท
- จ่ายด้วยเงินสดที่ True Money จ่ายค่าธรรมเนียมบิลละ 20 บาท
หากคุณเลือกที่จะจ่ายโดยผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือ ธนาคารไทยพาณิชย์ ถ้ายอดจ่ายของคุณเกิน 50,000 บาทขึ้นไป คุณจะต้องเสียค่าธรรมเพิ่มจากที่เราได้แจ้งไปนะคะ โดยจะคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มในอัตราร้อยละ 0.1 ค่ะ สูงสุดไม่เกิน 1,000 บาทค่ะ
สนใจสมัครสินเชื่อปิดบัตรเครดิตทุกประเภทได้ที่
- หากมีข้อสงสัยหรือต้องการรู้รายละเอียดต่างๆ หรือต้องการสมัครก็สอบถามได้ที่ธนาคาร UOB ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือโทรสอบถามได้ที่ Call Center 02-285-1555 หรือจะสมัครทางออนไลน์ได้ง่ายๆ สะดวกๆ สบายๆ ก็คลิกที่นี่ได้เลย
สินเชื่อบุคคลของธนาคาร UOB ที่เราได้แนะนำไปหลายคนอาจจะยังสงสัย หาต้องการรีไฟแนนซ์ ควรจะสมัครสินเชื่อไหนดี ระหว่าง สินเชื่อ UOB I-CASH กับ สินเชื่อยูโอบี แคชพลัส พวกเราได้รวบรวมคำถามต่างๆ ที่คุณควรจะรู้มาให้ค่ะ เพื่อประกอบการพิจารณาก่อนการตัดสินใจสมัครสินเชื่อค่ะ
Credit : https://pixabay.com
คำถาม-มีคำตอบ ที่คุณควรรู้เกี่ยวกับสินเชื่อปิดบัตรเครดิตของธนาคาร UOB
ต้องการจะรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต UOB ควรสมัครสินเชื่อไหนดี?
- คุณสามารถสมัครได้ทุกสินเชื่อของธนาคาร UOB ได้แก่ สินเชื่อ UOB I-CASH กับ สินเชื่อยูโอบี แคชพลัส โดยเป็นไปตามเงื่อนไขแต่ละประเภทของสินเชื่อ และวงเงินที่ได้รับก็ไม่แตกต่างกัน
สินเชื่อส่วนบุคคลไหนที่ได้มีดอกเบี้ยถูกที่สุด?
- สินเชื่อที่มีดอกเบี้ยถูกที่สุดคือ สินเชื่อ UOB I-CASH แต่ถ้าถามว่าถูกกว่ากันมากไหม ตอบได้เลยว่าไม่มากกว่ากันเท่าไรเลยค่ะ เพราะถ้าคุณมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ดอกเบี้ยก็จะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 27.99 ต่อปี แต่ถ้าเป็น สินเชื่อยูโอบี แคชพลัส ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 28 ต่อปี แต่ถ้าหากคุณมีรายได้ที่มากกว่า 30,000 บาทขึ้นไป ดอกเบี้ยก็จะเริ่มที่แตกต่างกันแล้วนะคะ ซึ่ง สินเชื่อ UOB I-CASH ดอกเบี้ยจะถูกกว่า ยังไงลองพิจารณาดูนะคะ
สินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต UOB I-CASH กับ สินเชื่อยูโอบี แคชพลัส แตกต่างกันอย่างไง?
- สินเชื่อทั้ง 2 แตกต่างกันตรงที่ สินเชื่อ UOB I-CASH จะให้เงินก้อนกับคุณโดยโอนเข้าบัญชี และมีระยะเวลาในการผ่อนที่แน่นอน โดยแต่ละเดือนจะต้องผ่อนจ่าย เดือนละเท่าๆกัน และในส่วนของ สินเชื่อยูโอบี แคชพลัส จะมาในรูปแบบของบัตรกดเงินสด คือ ต้องการใช้เงินเมื่อไรก็กดเมื่อนั้น ดอกเบี้ยก็จะคิดจากยอดจำนวนเงินที่กดไปจริง แต่จะไม่ผ่อนเป็นรายเดือน เดือนละเท่าๆกันนะคะ โดยที่คุณสามารถจ่ายแบบขั้นต่ำได้ หรือถ้ามีเงินก้อนก็โปะได้ค่ะ
สินเชื่อส่วนบุคคลไหนที่สามารถผ่อนได้นานที่สุด?
- สินเชื่อยูโอบี แคชพลัส สามารถผ่อนได้นานค่ะ เพราะหากคุณยังไม่มีเงินไปปิดบัญชี ก็สามารถจ่ายขั้นต่ำไปได้เรื่อยๆ แต่ว่าคุณจะต้องเสียดอกเบี้ยแพงกว่า สินเชื่อ UOB I-CASH
สินเชื่อปิดบัตรเครดิต UOB แต่ละประเภทให้วงเงินเท่าไรบ้าง?
- สินเชื่อ UOB I-CASH กับ สินเชื่อยูโอบี แคชพลัส ให้วงเงินสูงสุดเท่ากันเลยค่ะ คือวงเงิน 1,000,000 บาท
คุณสมบัติในการสมัครสินเชื่อปิดบัตรเครดิต UOB I-CASH กับ สินเชื่อยูโอบี แคชพลัส แตกต่างกันไหม?
- ตอบได้เลยว่าไม่แตกต่างกันเลยค่ะ เพราะเงื่อนการสมัครก็คล้ายๆกัน สมัครได้ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป มีฐานเดือนไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท และเอกสารอื่นๆที่ประกอบการพิจารณา เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน และ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน ก็จะต้องเตรียมเอกสารเหมือนกันค่ะ
หากทำธุรกิจส่วนตัวสามารถสมัครสินเชื่อยูโอบี แคชพลัส ได้หรือไม่?
- สมัครได้ค่ะ ในการสมัครนั้นคุณจะต้องเตรียมประกอบการสมัคร ดังนี้ 1.สำเนาบัตรประชาชน 2.สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท/ใบทะเบียนการค้า ต้องไม่เกิน 3 เดือน 3.บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ต้องไม่เกิน 3 เดือน 4.สำเนารายการบัญชีเงินฝาก หรือ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน 5.สำเนาบัญชีเงินฝากหน้าแรกที่มีชื่อคุณค่ะ ซึ่งการคิดดอกเบี้ยนั้น จะเริ่มตั้งแต่ร้อยละ 25 – 28 ต่อปี ทั้งนี้ ดอกเบี้ยขึ้นอยู่วงเงินที่ได้รับอนุมัติ
การอนุมัติสินเชื่อ UOB I-CASH ใช้เวลานานเท่าไหร่?
- อนุมัติภายใน 3 วันเท่านั้น แต่คุณจะต้องส่งเอกสารในการสมัครให้ครบถ้วน
สามารถยกเลิกวงเงินได้หรือไม่ หากได้รับอนุมัติจากธนาคารแล้ว?
- สามารถยกเลิกการอนุมัติวงเงินได้ภายใน 7 วัน ซึ่งจะต้องนับจากวันที่ได้รับอนุมัติวงเงิน ในการยกเลิกนี้จะไม่เสียธรรมเนียมใดๆ และหากมีความจำเป็นในครั้งต่อไปก็ยังสามารถสมัครใหม่ได้อีกครั้ง
การมีบัตรเครดิตนั้น มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะคะ ก็เหมือนเหรียญย่อมมีสองด้าน มีทั้งดีและไม่ดี iMoney จึงอยากจะให้เพื่อนๆทุกคนวางแผนการเงิน มีวินัยในการใช้เงิน เพื่อที่คุณจะไม่ต้องมาเสียดอกเบี้ยโดยที่ไม่จำเป็น หรือบางคนเป็นหนี้สินจนไม่มีเงินจ่ายธนาคาร ก็ต้องเสียประวัติทางการเงิน หากในอนาคตต้องการจะขอกู้สินเขื่ออะไรก็มีโอกาสยากขึ้น อย่างไรก็ตาม iMoney ก็ขอเป็นกำลังให้กับทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นหนี้มากแค่ไหน หรือถึงขั้นต้องติดในฐานข้อมูลหนี้ค้างชำระ ก็ไม่ต้องเครียด เพราะทุกปัญหาย่อมมีทางแก้ไข ขอเพียงแค่ให้คุณตั้งสติ และวางแผนการเงินให้มากขึ้น รู้จักออมเงินกันด้วยนะคะ เพื่ออนาคตที่ดีในวันข้างหน้า สำหรับวันนี้ iMoney ก็หวังข้อมูลที่เราได้นำมาจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆทุกคนเป็นอย่างมากนะคะ และในครั้งหน้า เรายังมีบทความดีๆเกี่ยวกับการเงินมาฝากกันอย่างแน่นอน อย่าลืมติดตามและเป็นกำลังใจกับพวกเราด้วยนะคะ imoney.in.th
ขอบคุณข้อมูลสำคัญจาก www.uob.co.th