รถยนต์ นับว่าเป็นพาหนะที่มีความสำคัญอีกอย่างหนึ่ง หรือเรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่ 5 ของคนเราก็ว่าได้เลย ด้วยความที่สมัยนี้การที่จะซื้อรถยนต์สักคันไม่ใช่เป็นเรื่องที่ยากเหมือนสมัยก่อน ทั้งด้วยราคาก็ถูกลง มีหลากหลายราคาสามารถตอบโจทย์ให้กับทุกกลุ่ม และใครที่ไม่มีเงินสดซื้อรถยนต์ก็ยังยื่นขอสินเชื่อรถยนต์ได้อีกด้วย แต่ปัญหาอาจจะไม่ได้จบลงตรงที่ซื้อรถยนต์มาแล้ว เนื่องจากหลายคนอาจะต้องประสบปัญหาทางการเงิน หลังจากที่จะต้องผ่อนรถยนต์ หมุนเงินไม่ทันบ้าง ทำให้ต้อง “รีไฟแนนซ์รถยนต์” คำนี้อาจจะคุ้นเคยสำหรับคนที่มีรถยนต์ เพราะการรีไฟแนนซ์รถยนต์นั้นสามารถช่วยเราได้ในยามที่เดือดร้อนเงิน ต้องการใช้เงินสด เงินก้อน รถยนต์ช่วยได้ และสำหรับใครที่คิดว่ากำลังผ่อนรถยนต์แล้วจะรีไฟแนนซ์ได้หรือเปล่านั้น ไม่ต้องกังวลในส่วนนี้เลย เพราะจะมีบางลิสซิ่งหรือสถาบันการเงินที่เปิดให้รีไฟแนนซ์แม้ว่าจะยังมีภาระการผ่อนอยู่ก็ตาม หรือใครจะไปยื่นรีไฟแนนซ์กับลิสซิ่งหรือสถาบันการเงินเดิมก็ได้เช่นกัน ส่วนใครที่กำลังอยากจะรีไฟแนนซ์รถยนต์บ้าง แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกที่ไหนดีนั้น iMoney เราขอแนะนำให้ลองมารีไฟแนนซ์รถยนต์ เมืองไทยลิสซิ่ง หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) สมัครง่าย บริการดี ให้วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนจ่ายนาน ส่วนรายละเอียดจะมีอะไรบ้างนั้น เรามาอ่านไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ
รับคำปรึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้ที่ Line@ ของ iMoney
Advertising :
credit : https://pixabay.com
สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ เมืองไทยลิสซิ่ง อัพเดทล่าสุด 2563
|
ชื่อสินเชื่อ |
จุดเด่น | เงื่อนไขการสมัคร | ประเภทรถยนต์ |
| สินเชื่อรถทุกประเภท
|
สมัครง่าย อนุมัติรวดเร็วทันใจ ได้รับเงินทันที พร้อมให้วงเงินสูงสุดถึง 400,000 บาท | ต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในเล่มทะเบียนรถยนต์ |
รถยนต์ได้ทุกประเภท ตั้งแต่ รถเก๋ง และรถกระบะ ที่ไม่ใช่เป็นรถรับจ้าง |
สินเชื่อรถทุกประเภท
สินเชื่อรถทุกประเภท ของเมืองไทยลิสซิ่ง ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัวสำหรับใครที่กำลังอยู่ในสภาวะเงินตึงมือ หมุนเงินไม่ทัน มีความต้องการใช้เงินสด เพื่อไปโปะหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือหนี้นอกระบบ สามารถมายื่นขอรีไฟแนนซ์รถยนต์ โดยเลือกสินเชื่อรถทุกประเภท สมัครก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่คุณเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์เท่านั้น นำเล่มทะเบียนมายื่นขอสินเชื่อได้เลย โดยวงเงินกู้จะอนุมัติให้สูงสุดอยู่ที่ 400,000 บาท และยังผ่อนจ่ายแบบสบายกระเป๋าเริ่มต้นเพียงแค่ 12 เดือน หรือผ่อนได้นานสูงสุด 50 เดือน เรียกได้ว่า ใครที่ต้องการใช้เงิน รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
จุดเด่นของสินเชื่อรถทุกประเภท
- สมัครง่าย อนุมัติเร็ว
- รับเงินทันทีในวันทำสัญญา
- ให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 4 แสนบาท
- ผ่อนจ่ายได้สบาย นานถึง 50 เดือน
วงเงินในการอนุมัติ
- วงเงินในการอนุมัตินั้นจะขึ้นอยู่กับการประเมินรถยนต์ ซึ่งจะมีกรอบวงเงินสูงสุดไม่เกิน 400,000 บาท
อัตราดอกเบี้ย
- สำหรับการคิดดอกเบี้ยนั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ การคิดดอกเบี้ยคงที่ และดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ทั้งนี้ ในการคิดดอกเบี้ยนั้นก็จะต้องมีหลายปัจจัย เช่น ยี่ห้อรถยนต์ อายุการใช้งานของรถยนต์ เป็นต้น
วันนี้เราได้ยกตัวอย่างในการคิดดอกเบี้ยและยอดในการผ่อนต่อเดือนมาฝากกัน เพื่อให้คุณได้ลองกลับไปคำนวณเล่นๆ ดูว่าหากต้องการเงินเท่านี้ เสียดอกเบี้ยเท่านี้ จะต้องจ่ายรายเดือนกันเท่าไรบ้างนั้น มาดูกันเลย
ยกตัวอย่าง กรณีที่รีไฟแนนซ์รถยนต์ หากได้รับวงเงินกู้ 100,000 บาท โดยมีระยะการผ่อนอยู่ที่ 12 เดือน ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.99 ต่อเดือน แต่ก่อนอื่นจะไปดูว่าแต่ละเดือนจะต้องผ่อนจ่ายเท่าไรนั้น คุณจะต้องรู้ก่อนว่าวิธีการคิดคำนวณในการหาค่างวดต่อเดือนมีวิธีการคิดอย่างไร
วิธีการคำนวณหาค่างวดต่อเดือน ดังนี้
จำนวนดอกเบี้ยทั้งหมด = เงินต้น x อัตราดอกเบี้ย x ระยะการผ่อน
= 100,000 x 0.99/100 x 12
= 11,880 บาท
เมื่อรู้แล้วว่าดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายเป็นเงินเท่าไร คราวนี้เรามาดูกันในส่วนของค่างวดที่จะต้องผ่อนจ่ายในแต่ละเดือนกันบ้างว่าจะต้องจ่ายเท่าไร ซึ่งจะมีวิธีการคิดคำนวณ ดังนี้
จำนวนค่างวดในการผ่อนจ่าย = เงินต้น + ดอกเบี้ยทั้งหมด / ระยะการผ่อน
= 100,000 + 11,880 / 12
= 9,324 บาทต่องวด
ฉะนั้น จากสูตรการคิดดังกล่าว คุณสามารถลองคำนวณดูเองได้เลยว่ายอดเงินที่จะต้องผ่อนจ่ายต่อเดือนนั้นสามารถจ่ายได้หรือไม่ หากคิดว่าสูงไปก็ขอทางลิสซิ่งให้ยืดระยะเวลาการผ่อนได้นานขึ้น เพื่อที่จะช่วยทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนน้อยลง
ประเภทของรถยนต์ที่สามารถสมัครได้
- รถเก๋ง
- รถกระบะ
- รถตู้
ระยะเวลาในการผ่อนชำระ
- สามารถเริ่มต้นในการผ่อนจ่ายได้ตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป หรือผ่อนจ่ายสูงสุด 50 เดือน
เงื่อนไขในการขอรีไฟแนนซ์กับสินเชื่อรถทุกประเภท ของเมืองไทยลิสซิ่ง
- เฉพาะรถยนต์ที่ปลอดภาระการผ่อนและผู้ที่ยื่นขอรีไฟแนนซ์จะต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์
- สมัครได้ทุกอาชีพ ทั้งมีรายได้ประจำ ทำงานบริษัทเอกชน รับราชการ หรือเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ รวมไปถึงกลุ่มคนที่มีรายได้เป็นรายวัน หรือทำงานอาชีพอิสระ
เอกสารที่ใช้ในการขอยื่นรีไฟแนนซ์รถยนต์
- บัตรประชาชนตัวจริงของผู้ที่ยื่นขอกู้ และผู้ที่ค้ำประกัน
- ทะบียนบ้านตัวจริงของผู้ที่ยื่นขอกู้ และผู้ที่ค้ำประกัน
- เล่มทะเบียนรถยนต์ที่ต้องการขอรีไฟแนนซ์ โดยมีชื่อของผู้ยื่นเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
รีไฟแนนซ์รถยนต์มีค่าอะไรบ้างที่จะต้องจ่าย
แม้ว่าการรีไฟแนนซ์รถยนต์จะทำให้ได้รับเงินก้อนก็ตาม แต่ก็จะต้องมีเงินส่วนหนึ่งไว้ใช้ในระหว่างการยื่นเรื่องขอรีไฟแนนซ์ ซึ่งเราได้สรุปค่าใช้จ่ายต่างๆ มาไว้แล้ว ดังนี้
- ค่าอากรแสตมป์ ในการทำสัญญา กรณีที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อ
- ค่าธรรมเนียม กรณีที่จ่ายค่างวดผ่านตัวแทนต่าง ๆ โดยค่าธรรมเนียมนั้นจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของผู้ให้บริการ
- ค่าติดตามทวงถามหนี้ ในกรณีที่จ่ายไม่ตรงตามที่กำหนด
- ค่าต่อภาษีรถยนต์ และค่าต่อ พ.ร.บ. รถยนต์
ช่องทางการจ่ายเงินค่างวด
- สามารถจ่ายได้ที่บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล ทุกสาขาทั่วประเทศ ที่เปิดให้บริการ หรือใครไม่สะดวกก็สามารถจ่ายผ่านตัวแทนต่างๆ ได้ ดังนี้ เคาน์เตอร์เซอร์วิส เทสโก้โลตัส บิ๊กซี แอร์เพย์ และจ่ายผ่าน K-PLUS หรือ K-Cyber ซึ่งอาจจะต้องเสียค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับตัวแทนต่าง ๆ
สนใจสมัครได้ที่
- สำหรับใครที่สนใจอยากรีไฟแนนซ์รถยนต์ กับ เมืองไทย แคปปิตอล สามารถติดต่อได้ที่บริษัททุกสาขาทั่วประเทศ หรือถ้ามีข้อสงสัยที่ต้องสอบถามเพิ่มเติมก็สามารถโทรได้ที่เบอร์ 02-880-1033
credit : https://pixabay.com
นอกจากนี้แล้วเรายังได้รวบรวมคำถามต่างๆ ที่น่าสนใจสำหรับใครที่ต้องการรีไฟแนนซ์รถยนต์กับเมืองไทย แคปปิตอล
คำถาม-คำตอบ ที่ควรรู้ก่อนที่จะรีไฟแนนซ์รถยนต์กับเมืองไทย แคปปิตอล
คำถาม : เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) เปิดให้บริการอะไรบ้าง
คำตอบ : ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ ทะเบียนรถทุกประเภท และรับรถทุกจังหวัด รวมถึงให้บริการคนนอกพื้นที่
คำถาม : ในการอนุมัติวงเงิน เมืองไทย แคปปิตอล ใช้หลักเกณฑ์อะไรในการอนุมัติ
คำตอบ : การขอสินเชื่อรถยนต์นั้น หลักเกณฑ์ที่จะอนุมัติวงเงินนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับประเภทของสินเชื่อรถยนต์ ประกอบกับจะต้องพิจารณารถยนต์ โดยจะดูอายุการใช้งาน และสภาพของรถยนต์
คำถาม : หากยื่นขอรีไฟแนนซ์รถยนต์ จะต้องใช้เวลาการในการพิจารณากี่วัน จึงจะอนุมัติ
คำตอบ : หากส่งเอกสารครบถ้วนก็จะใช้เวลาภายใน 20 นาทีเท่านั้น หากอนุมัตแล้วสามารถรับเงินสดได้ที่สาขาที่ยื่นรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้เลย
คำถาม : กรณีที่ทำงานอิสระ ไม่มีงานประจำ ไม่มีรายได้ที่แน่นอน สามารถยื่นเรื่องขอรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้หรือไม่
คำตอบ : สามารถยื่นเรื่องขอรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้ ไม่จำเป็นจะต้องมีรายได้ประจำก็สามารถสมัครได้ เพียงแค่มีรถยนต์ และเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ โดยที่จะต้องมีเล่มทะเบียนรถยนต์มารีไฟแนนซ์
คำถาม : หากต้องการจะโปะหนี้ก่อนกำหนดได้หรือไม่ และจะต้องเสียค่าปรับไหม
คำตอบ : หากต้องการที่จะปิดหนี้ก่อนเวลาที่กำหนดนั้นก็สามารถโปะหนี้ได้เลย โดยที่ไม่ต้องเสียค่าปรับใดๆ แถมยังได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยที่เหลืออีกด้วย
คำถาม : กรณีที่รถยนต์ยังมีภาระการผ่อนสามารถมายื่นขอรีไฟแนนซ์ได้หรือไม่
คำตอบ : ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเงื่อนไขในการรีไฟแนนซ์รถยนต์จะต้องเป็นรถยนต์ที่หมดภาระการผ่อนแล้ว และจะต้องมีเล่มทะเบียนรถยนต์ตัวจริงมายื่นเรื่องเท่านั้น
แหละนี้ก็คือข้อมูลที่เกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์รถยนต์กับเมืองไทยลิสซิ่ง หรือ เมืองไทย แคปปิตอล ซึ่งจริงๆแล้วการรีไฟแนนซ์รถยนต์นั้น มีหลากหลายลิสซิ่ง รวมไปถึงสถาบันการเงิน ที่มีสินเชื่อนี้ให้บริการ โดยแต่ละแห่งก็จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป บางแห่งก็จะรับรีไฟแนนซ์เฉพาะลูกเดิมเท่านั้น หรือบางแห่งก็รับรีไฟแนนซ์แม้ว่ารถยนต์จะอยู่ระหว่างการผ่อนจ่ายก็ตาม หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจอยากจะรีไฟแนนซ์รถยนต์ และต้องการหาข้อมูลเพื่อนำมาเปรียบเทียบว่าลิสซิ่งหรือสถาบันการเงินไหนที่ตอบโจทย์คุณได้อย่างดีนั้น สามารถเข้ามาอ่านบทความต่างๆได้ที่ iMoney เราได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์รถยนต์ต่างๆ รวมกันไว้ที่นี่ที่เดียว ที่ให้คุณหาข้อมูลได้ครบถ้วน
ขอขอบคุณข้อมูลสำคัญจากเมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
