รวมผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตค่ารักษาพยาบาล ที่น่าสนใจอัพเดท 2563 ประกันชีวิตค่ารักษาพยาบาลคืออะไร ซื้อประกันชีวิตค่ารักษาพยาบาลที่ไหนดี ใครที่กำลังหาข้อมูลอยู่ห้ามพลาด
ประกันชีวิต ค่ารักษาพยาบาล – ช่วงนี้ก็เข้าสู่หน้าหนาวกันแล้วเพื่อนๆอย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวก็ฝนตก ทำให้เป็นหวัดกันง่ายขึ้น เพราะเดี๋ยวค่ารักษาพยาบาลมีราคาค่อนข้างสูง เจ็บป่วยนิดๆหน่อยๆเข้าโรงพยาบาลทีไรก็หมดเงินไปหลายร้อย หรือบางทีก็เป็นพันก็มี ทำให้หลายคนนิยมจะซื้อยากินเอง แต่ถ้าใครมีประกันชีวิตที่มาพร้อมกับการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลก็หายห่วงได้เลย เพราะไม่ว่าจะเจ็บป่วย หรือจะได้รับบาดเจ็บจากการเกิดอุบัติเหตุก็สามารถเข้ารับการรักษาได้ที่โรงพยาบาลที่ร่วมกับบริษัทประกันชีวิต ซึ่งบางที่ในการเลือกทำประกันสุขภาพนั้นก็จะต้องซื้อประกันชีวิตเป็นประกันหลักเสียก่อนจึงสามารถจะซื้อประกันสุขภาพ แต่จะดีกว่าไหมถ้ามีประกันชีวิตที่พ่วงมากับความคุ้มครองดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาล วันนี้ iMoney จึงไม่พลาดที่จะมีประกันชีวิต ค่ารักษาพยาบาล ดีๆมาฝากเพื่อนๆกันด้วยล่ะค่ะ เผื่อว่าที่กำลังสนใจอยู่จะได้ดูเผื่อเป็นตัวเลือกก่อนที่จะตัดสินเลือกทำประกันชีวิต จะมีอะไรบ้างนั้น จะน่าสนใจแค่ไหน เรามาดูไปพร้อมๆกันเลยค่ะ
รับคำปรึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้ที่ Line@ ของ iMoney
Advertising :
รวมผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตค่ารักษาพยาบาล จากบริษัทประกันชีวิตที่น่าสนใจ อัพเดท 2563
|
บริษัทประกันชีวิต |
ชื่อผลิตภัณฑ์ | จุดเด่น | เงื่อนไขการสมัคร |
| กรุงเทพประกันชีวิต | ประกันชีวิต กรุงเทพ 118 | จ่ายเบี้ยเพียงวันละ 40 บาท คุ้มครองทั้งชีวิต และค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุ |
จะต้องมีอายุตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไปจนถึง 60 ปี และจ่ายเบี้ย 12 ปี คุ้มครอง 18 ปี |
|
ธนาคารไทยพาณิชย์ |
ประกันเพราะห่วงใย คุ้มครองสุขภาพ | คุ้มครองชีวิต และดูแลค่ารักษาพยาบาลทั้งยามเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ | จะต้องมีอายุตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไปจนถึง 60 ปี และจ่ายเบี้ยตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย |
| ธนาคารไทยพาณิชย์ | ประกันชีวิต LifeCARE 80/70 ดูแลสุขภาพ | เจ็บป่วย อุบัติเหตุคุ้มครองทุกทีทั่วโลก ด้วยวงเงินคุ้มครองชีวิตสูง ไม่มีเคลมประกันรับเงินคืน |
เริ่มทำประกันชีวิตได้ตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไปจนถึง 60 ปี โดยจ่ายเบี้ยตลอดระยะเวลาในการเอาประกันภัย |
|
ไทยประกันชีวิต |
ประกันชีวิต คุ้มธนกิจ 99 คุ้มครองสุขภาพ | จ่ายเบี้ยเริ่มต้นเพียงหมื่นนิดๆ คุ้มครองชีวิตสูงถึงหลักล้าน และยังคุ้มครองในกรณีที่ค่าล้างไต ค่าเคมีบำบัด ค่ารังสีบำบัดและอื่นๆ | จะต้องมีอายุตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไปจนถึง 70 ปี และจ่ายเบี้ยตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย |
| พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต | ประกันชีวิต พรูอีซี่ แคร์ | จ่ายเบี้ยเริ่มเพียง 7,963 บาทต่อปีเท่านั้น ที่ให้ความคุ้มครองทั้งชีวิต หรือเจ็บป่วย รวมไปถึงโรคร้ายแรง |
จะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 – 60 ปี และจ่ายเบี้ยตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย |
|
พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต |
ประกันชีวิต พรูเฮลธี้ พลัส | สมัครง่าย รวดเร็ว จ่ายเบี้ยคงที่ตลอดอายุสัญญา คุ้มครองชีวิตและรับเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาลด้วยวงเงินที่สูง | จะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 – 50 ปี และจ่ายเบี้ยจนถึงอายุ 60 ปี แต่คุ้มครองชีวิตถึงอายุ 80 ปี |
| เมืองไทยประกันชีวิต | ประกันชีวิต โครงการ SME คุ้มชัวร์ | สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องตรวจสุขภาพ คุ้มครองทุกที่ทั่วโลก จ่ายเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียงแค่หลัก แต่คุ้มครองสูง |
จะต้องมีอายุตั้งแต่ 15 – 55 ปี โดยจะจ่ายเบี้ยประกันภัยแบบปีต่อปี และให้ความคุ้มครองจนถึงอายุ 65 ปี |
Credit : https://pixabay.com
ประกันชีวิตค่ารักษาพยาบาล กรุงเทพ 118 จากกรุงเทพประกันชีวิต
อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการออมเงินแบบสบายๆกระเป๋า ที่จะช่วยเพิ่มความมั่นคงในอนาคตเลือกทำประกันชีวิต กรุงเทพ 118 ไม่เพียงแต่จะให้การคุ้มครองชีวิตอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังให้การคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุด้วยวงเงินที่สูงอีกด้วย ซึ่งเราก็ต้องยอมรับเลยว่าค่ารักษาพยาบาลในปัจจุบันนี้ค่อนข้างสูง ยิ่งโรงพยาบาลเอกชนด้วยแล้วไม่ต้องพูดถึงเลย หากคุณเลือกทำประกันชีวิต กรุงเทพ 118 นี้ ให้จ่ายเบี้ยประกันภัยเพียงวันละ 40 บาท หรือคำนวณง่ายๆก็ตกเดือน 1,200 บาทเท่านั้น แต่รับรองได้เลยว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับคุ้มจริงๆ
จุดเด่นของประกันชีวิต กรุงเทพ 118
- จ่ายเบี้ยน้อยเริ่มต้นเพียงวันละ 40 บาท
- คุ้มครองทั้งชีวิต และค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุ
- จ่ายเบี้ยประกันเพียง 12 ปี แต่คุ้มครองนานสูงถึง 18 ปี
- ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่ หรือเสียชีวิต ก็ยังได้รับเงินเมื่อครบสัญญา
ผลประโยชน์ในความคุ้มครองที่จะได้รับนั้น จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ อย่างที่ 1 เลย ก็คือจะคุ้มครองในกรณีที่มีชีวิตอยู่จนครบสัญญา และต่อมาก็คือคุ้มครองเมื่อเสียชีวิต และสุดท้ายก็คือ คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในกรณีทีเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งแต่ละความคุ้มครองนั้นจะได้รับผลประโยชน์เท่าไรกันบ้าง เราก็ได้นำรายละเอียดต่างๆมาฝากกันด้วย
กรณีที่มีชีวิตอยู่จนครบสัญญา
- คุณก็จะได้รับเงินก้อนตามจำนวนทุนประกันภัยที่เลือกทำไว้ตั้งแต่ตอนแรก และยังได้รับเงินเพิ่มอีก เมื่อรวมๆแล้วก็จะได้รับ 118% ของจำนวนเงินเอาทุนประกันภัย
กรณีที่เสียชีวิต จะแบ่งออกเป็น 2 กรณี มีรายละเอียดดังนี้
- หากเสียชีวิตด้วยสาเหตุทั่วไป ที่ไม่ใช่มาจากการเกิดอุบัติเหตุ ทายาทหรือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์รับเงินคืน 118% ของเบี้ยประกันชีวิตที่ชำระแล้ว พร้อม 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- รับเพิ่มความคุ้มครองพิเศษ โดยมีการเสียชีวิตที่มาจากอุบัติเหตุ ซึ่งประกันชีวิตจะจ่ายให้แล้วแต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับคุณ มีรายละเอียดดังนี้
- หากเสียชีวิตที่มีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุ จะได้รับเงิน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- หากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นทำให้สูญเสีย มือ 2 ข้าง หรือเท้า 2 ข้าง หรือสายตา 2 ข้าง จะได้รับเงิน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- หากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นทำให้สูญเสีย มือ 1 ข้างและเท้า 1 ข้าง หรือมือ 1 ข้าง และสายตา 1 ข้าง หรือเท้า 1 ข้างและสายตา 1 ข้าง จะได้รับเงิน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- หากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นทำให้สูญเสีย มือ 1 ข้าง หรือเท้า 1 ข้าง หรือสายตา 1 ข้าง จะได้รับเงิน 60% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- หากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นทำให้สูญเสีย นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ของมือข้างเดียวกัน โดยต้องตัดออกไปที่หรือเหนือโคนนิ้ว จะได้รับเงิน 25% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
กรณีคุ้มค่ารักษาพยาบาล
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ซึ่งในการรักษาพยาบาลนั้นจะต้องมาจากสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ และจะต้องเกิดขึ้นภาย52 สัปดาห์นับแต่วันเกิดอุบัติเหตุ โดยจะได้รับการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่จะจ่ายให้ตามจริงสูงสุด 5 เท่าของเบี้ยประกันชีวิตรายเดือน และต่อครั้งที่เข้ารับการรักษา อย่างเช่น ถ้าจ่ายเบี้ยประกันภัยรายเดือนอยู่ที่เดือนละ 1,200 บาท ก็จะได้รับการคุ้มครองสูงสุดอยู่ที่ 6,000 บาท
อัตราเบี้ยประกันภัยรายปี ซึ่งจะคำนวณโดยฐานมาจาก จำนวนเงินเอาประกันภัย 1,000 บาท โดยมีรายละเอียดดังนี้
- สำหรับผู้หญิง
- อายุแรกเกิด เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ 45.19 บาท
- อายุ 10 ปี เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ 45.57 บาท
- อายุ 20 ปี เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ 47.01 บาท
- อายุ 30 ปี เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ 50.34 บาท
- อายุ 40 ปี เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ 60.49 บาท
- อายุ 50 ปี เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ 93.01 บาท
- อายุ 60 ปี เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ 238.90 บาท
- สำหรับผู้ชาย
- อายุแรกเกิด เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ 46.44 บาท
- อายุ 10 ปี เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ 51.27 บาท
- อายุ 20 ปี เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ 57.39 บาท
- อายุ 30 ปี เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ 65.27 บาท
- อายุ 40 ปี เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ 87.22 บาท
- อายุ 50 ปี เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ 149.52 บาท
- อายุ 60 ปี เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ 399.26 บาท
คุณสมบัติในการสมัคร
- จะต้องมีอายุตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไปจนถึง 60 ปี
- จ่ายเบี้ยประกันภัย 12 ปี คุ้มครองชีวิต 18 ปี
ช่องทางการสมัคร : หากสนใจสามารถสมัครได้กับตัวแทนขายประกันชีวิตได้เลย หรืออยากจะดูรายละเอียดเพิ่มเติม ก็เข้ามาดูได้ที่เว็บไซต์ที่นี่ได้เลย 
Credit : https://pixabay.com
ประกันชีวิตค่ารักษาพยาบาล ประกันเพราะห่วงใย คุ้มครองสุขภาพ จากธนาคารไทยพาณิชย์
เพราะเรื่องของความเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุเป็นสิ่งไม่มีใครที่คาดเดาได้ และก็ยังจะไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนที่เรารัก แต่ถ้าเมื่อเกิดขึ้นแล้วสิ่งที่ตามมาก็คือความสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียเงินที่จะต้องเป็นค่ารักษาพยาบาล ซึ่งค่าใช้จ่ายเดี๋ยวก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ หรือถ้าร้ายแรงก็อาจจะทำให้ต้องสูญเสียชีวิต แล้วจะดีกว่าไหมถ้ามีประกันชีวิตเพื่อทำให้อุ่นใจทุกการรักษาแบบเหมาจ่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บป่วย ไม่ว่าเจ็บป่วยครั้งนั้นจะเป็นการรักษาแบบผู้ป่วยนอก หรือจะเป็นผู้ป่วยใน ด้วยการเลือกทำประกันเพราะห่วงใย คุ้มครองสุขภาพ ที่ให้ความคุ้มครองทุกที่ ทั่วโลก อยู่ที่ไหนก็ได้ความคุ้มครอง อุ่นใจได้ทุกการเดินทาง
จุดเด่นของประกันเพราะห่วงใย คุ้มครองสุขภาพ
- เจ็บป่วย อุบัติเหตุ คุ้มครองทุกที่ ทั่วโลก
- อุ่นใจกับทุกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
- ไม่มีการเคลมประกัน ก็ยังได้รับเงินอีกด้วย
- คุ้มครองในการเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยใน และผู้ป่วยนอก
- สามารถนำเบี้ยประกันภัยมาลดหย่อนภาษีได้
ผลประโยชน์และความคุ้มครอง โดยจะมีแผนความคุ้มครองให้เลือกด้วยกัน 3 แผน คือ Silver หรือ Gold และ Platinum ซึ่งแต่ละแผนก็มีทุนประกันภัยที่แตกต่างกันและยังให้ความคุ้มครองที่ไม่เท่ากัน จะน่าสนใจแค่ไหนมาดูกันเลย
แผนความคุ้มครอง Silver 1,000,000
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลต่างๆที่เกิดขึ้นในขณะที่นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน
- ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาลต่างๆที่เกิดขึ้น สามารถเบิกประกันชีวิตได้ไม่เกินวันละ 2,000 บาท
- ค่าแพทย์ตรวจรักษา สามารถเบิกประกันชีวิตได้ไม่เกินวันละ 2,000 บาท และจะเบิกค่าแพทย์ได้ไม่เกิน 150 วัน
- กรณีที่ต้องรักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยหนัก หรือ ไอ.ซี.ยู (ICU) หรือค่าผ่าตัดในกรณีที่จะต้องมีการผ่าจัดนั้น หรือค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยา และตรวจในห้องปฏิบัติการ ประกันจะจ่ายค่าใช้จ่ายให้ตามจริงที่เกิดขึ้นแต่จะต้องรวมแล้วไม่เกินค่ารักษาพยาบาล 1,000,000 บาทต่อปี
- สามารถเบิกค่ายากลับบ้านได้ไม่เกิน 7 วัน ประกันจะจ่ายค่ายากลับมาให้ตามยอดจริงแต่จะไม่เกินผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 1,000,000 บาทต่อปี
- กรณีที่มีการใช้รถพยาบาล หรือมีค่าใช้อื่นๆที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลนั้น ประกันจะจ่ายให้ตามจริงแต่จะไม่เกินผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 1,000,000 บาทต่อปี
- ในระหว่างการคุ้มครองไม่มีการเคลมขอเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลใดๆเลย ประกันจะจ่ายเงินเพื่อเป็นการชดเชยให้ 6,000 บาทต่อครั้ง และจะเบิกได้ไม่เกิน 3 ครั้งต่อปีกรมธรรม์
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลต่างๆที่เกิดขึ้นในขณะที่นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยนอก ซึ่งจะให้ความคุ้มครองทั่วโลก
- ค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทุกกรณี ประกันก็จะดูแลค่ารักษาพยาบาลให้ไม่เกินครั้งละ 10,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลในการผ่าตัด โดยเป็นการผ่าตัดเล็กที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ประกันจะจ่ายค่าใช้จ่ายให้ตามจริงที่เกิดขึ้นแต่จะต้องรวมแล้วไม่เกินค่ารักษาพยาบาล 1,000,000 บาทต่อปี
- คุ้มครองกรณีที่เสียชีวิตทุกกรณีทั้งเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ประกันจะให้วงเงินคุ้มครองชีวิต 200,000 บาท
แผนความคุ้มครอง Gold 1,500,000
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลต่างๆที่เกิดขึ้นในขณะที่นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน
- ประกันจะจ่ายค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาลต่างๆให้ โดยจะต้องไม่เกินวันละ 3,000 บาท
- ประกันจ่ายค่าแพทย์ตรวจรักษาในขณะที่นอนอยู่โรงพยาบาล โดยจะต้องไม่เกินวันละ 3,000 บาท และจะเบิกค่าแพทย์ได้ไม่เกิน 150 วัน
- กรณีที่ต้องรักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยหนัก หรือ ไอ.ซี.ยู (ICU) ประกันจะจ่ายค่าใช้จ่ายให้ตามจริงที่เกิดขึ้นแต่จะต้องรวมแล้วไม่เกินค่ารักษาพยาบาล 1,500,000 บาทต่อปี
- ประกันจะจ่ายค่ายากลับบ้านในกรณีที่แพทย์สั่งยาให้หลังจากออกจากโรงพยาบาล ซึ่งจะเบิกกลับได้ไม่เกิน 7 วัน และหากมีความจำเป็นจะต้องใช้รถพยาบาล รวมไปถึงค่ารักษาพยาบาลอื่นๆที่เกิดขึ้นนั้น ประกันจะจ่ายค่าใช้จ่ายให้ตามจริงที่เกิดขึ้นแต่จะต้องรวมแล้วไม่เกินค่ารักษาพยาบาล 1,500,000 บาทต่อปี
- ในระหว่างการคุ้มครองไม่มีการเคลมขอเบิกเงินค่ารักษาพยาบาล จะได้รับเงินคืน 6,000 บาทต่อครั้ง และจะเบิกได้ไม่เกิน 3 ครั้งต่อปีกรมธรรม์
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลต่างๆที่เกิดขึ้นในขณะที่นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยนอก ซึ่งจะให้ความคุ้มครองทั่วโลก
- ค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุเล็กหรืออุบัติเหตุใหญ่ ประกันก็จะดูแลค่ารักษาพยาบาลให้ไม่เกินครั้งละ 15,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วยทุกโรคภัยที่เกิดขึ้น สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ไม่เกินครั้งละ 3,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลในการผ่าตัด โดยเป็นการผ่าตัดเล็กที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ประกันจะจ่ายค่าใช้จ่ายให้ตามจริงที่เกิดขึ้นแต่จะต้องรวมแล้วไม่เกินค่ารักษาพยาบาล 1,500,000 บาทต่อปี
- คุ้มครองกรณีที่เสียชีวิตทุกกรณีทั้งเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ประกันจะให้วงเงินคุ้มครองชีวิต 300,000 บาท
Credit : https://pixabay.com
แผนความคุ้มครอง Platinum 3,000,000
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลต่างๆที่เกิดขึ้นในขณะที่นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน
- คุ้มครองค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาล วันละ 3,000 บาท
- คุ้มครองค่าแพทย์ตรวจรักษาในขณะที่นอนอยู่โรงพยาบาล วันละ 3,000 บาท และจะเบิกค่าแพทย์ได้ไม่เกิน 150 วัน
- หากจะต้องนอนห้องผู้ป่วยหนัก หรือ ไอ.ซี.ยู (ICU) หรือค่าผ่าตัดในกรณีที่จะต้องมีการผ่าจัดนั้น หรือค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยา และตรวจในห้องปฏิบัติการ ประกันจะเหมาจ่ายให้ตามจริงแต่จะต้องรวมแล้วไม่เกินค่ารักษาพยาบาล 3,000,000 บาทต่อปี
- ค่ายากลับบ้านในกรณีที่แพทย์สั่งยาให้หลังจากออกจากโรงพยาบาล ประกันจะเหมาจ่ายให้ตามจริงแต่จะต้องรวมแล้วไม่เกินค่ารักษาพยาบาล 3,000,000 บาทต่อปี
- กรณีที่มีค่ารถพยาบาลหรือค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ ประกันจะเหมาจ่ายให้ตามจริงแต่จะต้องรวมแล้วไม่เกินค่ารักษาพยาบาล 3,000,000 บาทต่อปี
- กรณีที่นอนโรงพยาบาลแต่ไม่ได้เบิกค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะค่าห้อง ค่าแพทย์ ค่ายานั้น ประกันจจะให้เงินครั้งละ 10,000 บาท และจะเบิกได้ไม่เกิน 3 ครั้งต่อปีกรมธรรม์
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลต่างๆที่เกิดขึ้นในขณะที่นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยนอก ซึ่งจะให้ความคุ้มครองทั่วโลก
- ค่ารักษาพยาบาลหากเกิดอุบัติเหตุ ด้วยวงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลครั้งละ 30,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลหากเกิดเจ็บป่วยด้วยโรคทั่วไป ด้วยวงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลครั้งละ 5,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลในการผ่าตัด ประกันจะจ่ายค่าใช้จ่ายให้ตามจริงที่เกิดขึ้นแต่จะต้องรวมแล้วไม่เกินค่ารักษาพยาบาล 3,000,000 บาทต่อปี
- เสียชีวิตทุกกรณีไม่ว่าจะเกิดจากโรคภัยหรือเกิดเพราะอุบัติเหตุ จะได้รับความคุ้มครองชีวิต 500,000 บาท
คุณสมบัติในการสมัคร
- อายุ 1 วัน – 60 ปี
- จ่ายเบี้ยประกันภัยจนถึงอายุ 80 ปี
ช่องทางการสมัคร : หากสนใจสมัครก็สามารถติดต่อสอบถามได้กับเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา ทั่วประเทศ หรือสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ง่ายๆที่นี่ได้เลย
Credit : https://pixabay.com
ประกันชีวิตค่ารักษาพยาบาล LifeCARE 80/70 ดูแลสุขภาพ จากธนาคารไทยพาณิชย์
ประกันชีวิต LifeCARE 80/70 ดูแลสุขภาพ ที่พร้อมจะดูแลชีวิตและช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และยังได้รับการบริการที่ดีในการรักษาที่รวดเร็วทันใจอีกด้วย และไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยหรือที่มีจากสาเหตุมากจากอุบัติเหตุ จะเล็กหรือใหญ่ ไม่สำคัญ เพราะประกันชีวิตนี้คุ้มครองครอบคลุมหมดเลย ไม่เพียงเท่านั้นยังจะได้รับเงินคืนในช่วงวัยเกษียณอีกด้วยซึ่งจะได้รับเงินสูงสุดถึง 200,000 บาทต่อปีเลย ถือว่าตอบโจทย์มากๆสำหรับใครที่ต้องการประกันชีวิตที่คุ้มครองทั้งชีวิต ดูแลเรื่องค่าใช้รักษาพยาบาล และมีเงินใช้อีกด้วย
จุดเด่นของประกันชีวิต LifeCARE 80/70 ดูแลสุขภาพ
- คุ้มครองชีวิตสูงถึง 1,000,000 บาท
- เจ็บป่วย อุบัติเหตุ คุ้มครองทุกที่ทั่วโลก
- รับเงินคืนตลอดสัญญารวมสูงถึง 2,100,000 บาท
- ครอบคลุมทุกค่ารักษาพยาบาล ทั้งผู้ป่วยในหรือผู้ป่วยนอก
ผลประโยชน์และความคุ้มครอง โดยจะมีแผนความคุ้มครองให้เลือกด้วยกัน 5 แผน ล้วนแต่มีความคุ้มครองที่แตกต่างกัน จะมีแผนประกันชีวิตไหนที่น่าสนใจและโดนใจบ้างมาดูกันเลย
แผน 1,500 โดยแผนนี้จะได้รับผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 750,000 บาทต่อปีต่อปีกรมธรรม์
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยใน ซึ่งจะให้ความคุ้มครองทั่วโลก ดังนี้
- เบิกค่ารักษาพยาบาล ค่าห้อง ค่าอาหาร รวมถึงค่าแพทย์ในการรักษา สามารถเบิกได้วันละ 1,500 บาท
- เบิกค่ายากลับบ้านได้ไม่เกิน 7 วัน โดยจะนับตั้งแต่วันที่ออกจากโรงพยาบาล และจะเบิกได้ค่ายาได้ไม่เกิน 750 บาท
- ค่าห้องผู้ป่วยหนัก หรือ ไอ.ซี.ยู ค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัด ค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยาและการตรวจในห้องปฏิบัติการ ค่ารถพยาบาล และค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ ซึ่งจะประกันจะจ่ายให้ตามจริงที่โรงพยาบาลเรียกเก็บแต่ไม่เกินผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 750,000 ต่อปี ซึ่งจะนับรวมทุกครั้งที่มีเบิกค่ารักษาพยาบาล
- กรณีที่เป็นการรักษาพยาบาลต่อเนื่องหลังจากออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว และยังไม่หายจะต้องกลับเข้ามารักษาตัวด้วยสาเหตุเดิมนั้น สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้แต่จะต้องภายใน 30 วันหลังจากออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว โดยที่เบิกได้ครั้งละ 750 บาท และไม่เกิน 10 ครั้งต่อปี
- กรณีที่เจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุแต่ไม่ได้มีการขอเบิกในส่วนของค่ารักษาพยาบาลใดๆเลย ประกันจะจ่ายเงินชดเชยให้ 3,000 บาทต่อครั้ง และจะได้ไม่เกิน 3 ครั้งต่อปี
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก ซึ่งจะให้ความคุ้มครองทั่วโลก ดังนี้
- เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ด้วยวงเงินคุ้มครองอยู่ที่ 7,500 บาท
- เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ในกรณีที่ต้องมีการทำคีโม ล้างไต รังสีบำบัด ด้วยวงเงินคุ้มครองอยู่ที่ 50,000 บาท
- เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ในกรณีที่มีการผ่าตัด ซึ่งจะประกันจะจ่ายให้ตามจริงที่โรงพยาบาลเรียกเก็บแต่ไม่เกินผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 750,000 ต่อปี ซึ่งจะนับรวมทุกครั้งที่มีเบิกค่ารักษาพยาบาล
- ทายาทหรือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จะได้รับหากคุณเสียชีวิตทุกสาเหตุ จะได้รับเงิน 200,000 บาท
แผน 2,000 โดยแผนนี้จะได้รับผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 1,000,000 บาทต่อปีต่อปีกรมธรรม์
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยใน ซึ่งจะให้ความคุ้มครองทั่วโลก ดังนี้
- เบิกค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาลในแต่ละครั้ง รวมถึงค่าแพทย์ในการรักษา สามารถเบิกได้วันละ 2,000 บาท
- เบิกค่ายากลับบ้านได้ไม่เกิน 7 วัน โดยจะนับตั้งแต่วันที่ออกจากโรงพยาบาล และจะเบิกได้ค่ายาได้ไม่เกิน 1,000 บาท
- กรณีที่นอนพักรักษาตัวที่ค่าห้องผู้ป่วยหนัก หรือ ไอ.ซี.ยู หรือมีค่ารักษาพยาบาลในการผ่าตัด หรือค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยาและการตรวจในห้องปฏิบัติการ ค่ารถพยาบาล และค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ ซึ่งจะประกันจะจ่ายให้ตามจริงแต่ไม่เกินผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 1,000,000 ต่อปี ซึ่งจะนับรวมทุกครั้งที่มีเบิกค่ารักษาพยาบาลภายในปีกรมธรรม์
- หากเป็นการรักษาพยาบาลต่อเนื่องด้วยสาเหตุเดิม หลังจากออกจากโรงพยาบาลไปแล้วซึ่งจะต้องรักษาภายใน 30 วันหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ครั้งละ 1,000 บาท และไม่เกิน 10 ครั้งต่อปี
- กรณีที่เจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุแต่ไม่ได้มีการขอเบิกในส่วนของค่ารักษาพยาบาลใดๆเลย ประกันจะจ่ายเงินชดเชยให้ 4,000 บาทต่อครั้ง และจะได้ไม่เกิน 3 ครั้งต่อปี
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก ซึ่งจะให้ความคุ้มครองทั่วโลก ดังนี้
- เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ด้วยวงเงินคุ้มครองอยู่ที่ 10,000 บาท
- เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ในกรณีที่ต้องมีการทำคีโม ล้างไต รังสีบำบัด ด้วยวงเงินคุ้มครองอยู่ที่ 60,000 บาท
- เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ในกรณีที่มีการผ่าตัด ซึ่งจะประกันจะจ่ายให้ตามจริงที่โรงพยาบาลเรียกเก็บแต่ไม่เกินผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 1,000,000 ต่อปี ซึ่งจะนับรวมทุกครั้งที่มีเบิกค่ารักษาพยาบาล
- ทายาทหรือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จะได้รับหากคุณเสียชีวิตทุกกรณี เช่น อุบัติเหตุ โรคภัยไข้เจ็บ เป็นต้น จะได้รับวงเงินคุ้มครองชีวิต 200,000 บาท
แผน 3,000 โดยแผนนี้จะได้รับผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 1,500,000 บาทต่อปีต่อปีกรมธรรม์
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยใน ซึ่งจะให้ความคุ้มครองทั่วโลก ดังนี้
- คุณสามารถเบิกค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล และค่าแพทย์ในการรักษาพยาบาลที่มาดูแลในแต่ละวันได้ ซึ่งจะเบิกได้วันละ 3,000 บาท
- เบิกค่ายากลับบ้านได้ไม่เกิน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ออกจากโรงพยาบาล และจะเบิกได้ค่ายาได้ครั้งละไม่เกิน 1,500 บาท
- คุณสามารถเบิกค่าห้องผู้ป่วยหนัก หรือ ไอ.ซี.ยู ค่ารักษาพยาบาลในการผ่าตัด ค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยาและการตรวจในห้องปฏิบัติการ ค่ารถพยาบาลฉุกเฉินในกรณีที่ต้องมีการใช้บริการ และค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ จะคุ้มครองด้วยการจ่ายให้ตามจริงแต่ไม่เกินผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 1,500,000 ต่อปี ซึ่งจะนับรวมทุกครั้งที่มีเบิกค่ารักษาพยาบาลภายในปีกรมธรรม์
- คุณสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่เป็นการรักษาพยาบาลต่อเนื่องภายใน 30 วันหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล ประกันจะจ่ายให้ครั้งละไม่เกิน 1,500 บาท และไม่เกิน 10 ครั้งต่อปีกรมธรรม์
- กรณีที่เจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุแต่ไม่ได้มีการขอเบิกเงินค่ารักษาพยาบาล จะได้รับเงินชดเชยให้ 6,000 บาทต่อครั้ง และจะได้ไม่เกิน 3 ครั้งต่อปี
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก ซึ่งจะให้ความคุ้มครองทั่วโลก ดังนี้
- ค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุ ด้วยวงเงินคุ้มครองอยู่ที่ 15,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลหากมีการทำคีโม ล้างไต รังสีบำบัด ด้วยวงเงินคุ้มครองอยู่ที่ 75,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลกรณีผ่าตัด ซึ่งจะประกันจะจ่ายให้ตามจริงที่โรงพยาบาลเรียกเก็บแต่ไม่เกินผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 1,500,000 ต่อปี ซึ่งจะนับรวมทุกครั้งที่มีเบิกค่ารักษาพยาบาล
- ทายาทหรือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จะได้รับหากคุณเสียชีวิตทุกกรณี เช่น อุบัติเหตุ โรคภัยไข้เจ็บ เป็นต้น จะได้รับวงเงินคุ้มครองชีวิต 300,000 บาท
Credit : https://pixabay.com
แผน 5,000 โดยแผนนี้จะได้รับผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 3,000,000 บาทต่อปีต่อปีกรมธรรม์
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยใน ซึ่งจะให้ความคุ้มครองทั่วโลก ดังนี้
- ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล และค่าแพทย์ในการรักษาพยาบาลที่มาดูแลในแต่ละวันได้ ซึ่งจะเบิกได้วันละ 5,000 บาท
- ค่ายากลับบ้านได้ไม่เกิน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ออกจากโรงพยาบาล และจะเบิกได้ค่ายาได้ครั้งละไม่เกิน 2,500 บาท
- ค่าห้องผู้ป่วยหนัก หรือ ไอ.ซี.ยู ค่ารักษาพยาบาลในการผ่าตัด ค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยาและการตรวจในห้องปฏิบัติการ ค่ารถพยาบาลฉุกเฉินในกรณีที่ต้องมีการใช้บริการ และค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ จะคุ้มครองด้วยการจ่ายให้ตามจริงแต่ไม่เกินผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 3,000,000 ต่อปี
- ค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่เป็นการรักษาพยาบาลต่อเนื่องภายใน 30 วันหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล เบิกได้ครั้งละไม่เกิน 2,500 บาท และไม่เกิน 10 ครั้งต่อปีกรมธรรม์
- กรณีที่ไม่มีการเคลมในขณะที่นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล จะได้รับเงินชดเชยให้ 10,000 บาทต่อครั้ง และจะได้ไม่เกิน 3 ครั้งต่อปี
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก ซึ่งจะให้ความคุ้มครองทั่วโลก ดังนี้
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุ ด้วยวงเงินคุ้มครองอยู่ที่ 30,000 บาท
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลการทำคีโม ล้างไต รังสีบำบัด ด้วยวงเงินคุ้มครองอยู่ที่ 100,000 บาท
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีผ่าตัด ซึ่งจะประกันจะจ่ายให้ตามจริงที่โรงพยาบาลเรียกเก็บแต่ไม่เกินผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 3,000,000 ต่อปี ซึ่งจะนับรวมทุกครั้งที่มีเบิกค่ารักษาพยาบาล
- ทายาทหรือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์หากเสียชีวิตทุกกรณี จะได้รับวงเงินคุ้มครองชีวิต 500,000 บาท
แผน 10,000 โดยแผนนี้จะได้รับผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 5,000,000 บาทต่อปีต่อปีกรมธรรม์
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยใน ซึ่งจะให้ความคุ้มครองทั่วโลก ดังนี้
- ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล และค่าแพทย์ในการรักษา เบิกได้วันละ 10,000 บาท
- กรณีที่ออกจากโรงพยาบาลและมียาที่ต้องนำกลับไปกินต่อที่บ้านนั้น สามารถเบิกค่ายากลับบ้านได้ไม่เกิน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ออกจากโรงพยาบาล และจะเบิกได้ค่ายาได้ครั้งละไม่เกิน 5,000 บาท
- ค่าห้องผู้ป่วยหนัก หรือ ไอ.ซี.ยู ค่ารักษาพยาบาลในการผ่าตัด ค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยาและการตรวจในห้องปฏิบัติการ ค่ารถพยาบาลฉุกเฉินในกรณีที่ต้องมีการใช้บริการ และค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ จะคุ้มครองด้วยการจ่ายให้ตามจริงแต่ไม่เกินผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 5,000,000 ต่อปี
- กรณีที่เป็นการรักษาพยาบาลแบบต่อเนื่องหลังจากที่ออกโรงพยาบาลไปแล้วภายใน 30 วัน สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ครั้งละไม่เกิน 5,000 บาท และไม่เกิน 10 ครั้งต่อปีกรมธรรม์
- รับเงินชดเชยในกรณีที่ไม่มีการเคลมค่ารักษาพยาบาล จะได้รับเงินชดเชยให้ 10,000 บาทต่อครั้ง และจะได้ไม่เกิน 3 ครั้งต่อปี
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก ซึ่งจะให้ความคุ้มครองทั่วโลก ดังนี้
- ดูแลค่ารักษาพยาบาลต่างๆที่เกิด หากคุณเกิดอุบัติเหตุ ด้วยวงเงินคุ้มครองอยู่ที่ 50,000 บาท
- ดูแลค่ารักษาพยาบาลการทำคีโม ล้างไต รังสีบำบัด ด้วยวงเงินคุ้มครองอยู่ที่ 150,000 บาท
- ดูแลค่ารักษาพยาบาลกรณีผ่าตัด ซึ่งจะประกันจะจ่ายให้ตามจริงแต่ไม่เกินผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 5,000,000 ต่อปี ซึ่งจะนับรวมทุกครั้งที่มีเบิกค่ารักษาพยาบาลต่อปีกรมธรรม์
- ทายาทหรือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์หากเสียชีวิตทุกกรณี จะได้รับวงเงินคุ้มครองชีวิต 1,000,000 บาท
ในส่วนของเรื่องการรับเงินคืนนั้น จะแบ่งออกเป็น 3 ช่วงระยะของอายุ โดยจะได้รับเงินคืนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามอายุนั้น และตามแผนประกันที่เลือกทำไว้นั้นเอง
สำหรับแผน 1,500 หรือ แผน 2,000 จะได้รับเงินคืนเท่ากันเลย ไม่ว่าจะช่วงอายุอยู่ที่เท่าไรก็ตาม ดังนี้
- รับเงินคืนปีละ 2% หรือ 4,000 บาทต่อปี เมื่ออายุครบ 66 – 70 ปี
- รับเงินคืนปีละ 4% หรือ 8,000 บาทต่อปี เมื่ออายุครบ 71 – 75 ปี
- รับเงินคืนปีละ 20% หรือ 40,000 บาทต่อปี เมื่ออายุครบ 76 – 79 ปี
สำหรับแผน 3,000 จะได้รับเงินคืนดังนี้
- รับเงินคืนปีละ 2% หรือ 6,000 บาทต่อปี เมื่ออายุครบ 66 – 70 ปี
- รับเงินคืนปีละ 4% หรือ 12,000 บาทต่อปี เมื่ออายุครบ 71 – 75 ปี
- รับเงินคืนปีละ 20% หรือ 60,000 บาทต่อปี เมื่ออายุครบ 76 – 79 ปี
สำหรับแผน 5,000 จะได้รับเงินคืนดังนี้
- รับเงินคืนปีละ 2% หรือ 10,000 บาทต่อปี เมื่ออายุครบ 66 – 70 ปี
- รับเงินคืนปีละ 4% หรือ 20,000 บาทต่อปี เมื่ออายุครบ 71 – 75 ปี
- รับเงินคืนปีละ 20% หรือ 100,000 บาทต่อปี เมื่ออายุครบ 76 – 79 ปี
สำหรับแผน 10,000 จะได้รับเงินคืนดังนี้
- รับเงินคืนปีละ 2% หรือ 20,000 บาทต่อปี เมื่ออายุครบ 66 – 70 ปี
- รับเงินคืนปีละ 4% หรือ 40,000 บาทต่อปี เมื่ออายุครบ 71 – 75 ปี
- รับเงินคืนปีละ 20% หรือ 200,000 บาทต่อปี เมื่ออายุครบ 76 – 79 ปี
คุณสมบัติในการสมัคร
- เริ่มทำประกันชีวิตดูแลค่ารักษาพยาบาลได้ตั้งแต่แรกเกิดแต่จะต้องมีอายุไม่เกิน 60 ปี
- สามารถเลือกความคุ้มครองได้ไปจนถึงอายุ 80 ปี
ช่องทางการสมัคร : สมัครได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือทางออนไลน์
Credit : https://pixabay.com
ประกันชีวิตค่ารักษาพยาบาล คุ้มธนกิจ 99 คุ้มครองสุขภาพ จากไทยประกันชีวิต
สำหรับใครที่ต้องการประกันชีวิตที่คุ้มครองทั้งชีวิตที่มาพร้อมกับความคุ้มครองต้องเลือกทำประกันชีวิต คุ้มธนกิจ 99 คุ้มครองสุขภาพ ที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลด้วยวงเงินที่สูงถึง 5 ล้านบาท นับว่าเป็นวงเงินที่สูงมากเลย หากสนใจเลือกทำประกันชีวิตนี้ ก่อนอื่นก็จะต้องเลือกซื้อประกันชีวิตหลักเสียก่อน แล้วจึงค่อยซื้อความคุ้มครองเรื่องสุขภาพเพิ่มเติม จ่ายเงินเพิ่มอีกนิดหน่อยแต่รับความคุ้มครองในการรักษาที่สูงปรี๊ด และยังมีหลากหลายแผนความคุ้มครองให้เลือกกันได้ตามความเหมาะสมอีกด้วย
จุดเด่นของประกันชีวิต คุ้มธนกิจ 99 คุ้มครองสุขภาพ
- จ่ายเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียงหมื่นนิดๆ
- ยามเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุมีค่ารักษาพยาบาลให้
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลด้วยวงเงินที่สูงถึง 5 ล้าน
- คุ้มครองพิเศษ ค่าล้างไต ค่าเคมีบำบัด ค่ารังสีบำบัดและอื่นๆ
เรามาดูผลประโยชน์ความคุ้มครองของแผนหลักกันก่อน ซึ่งจะมีให้เลือกด้วยกัน 5 แผน ซึ่งจะเริ่มทุนประกันภัยตั้งแต่ 200,000 บาทไปจนถึง 500,000 บาท โดยความคุ้มครองไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่ หรือเสียชีวิตก็ตาม และยังได้รับเงินคืนทุกสิ้นปีกรมธรรม์อีกด้วย
- รับเงินคืน 1% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่กรมธรรม์ปีที่ 2 ขึ้นไปจนถึงอายุ 98 ปี
- หากมีชีวิตอยู่จนครบสัญญา หรืออายุครบ 99 ปี จะได้รับเงิน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- กรณีที่เสียชีวิตก่อนครบสัญญา จะได้รับเงิน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
คราวนี้เรามาต่อกันในส่วนของผลประโยชน์ความคุ้มครองของแผนการประกันสุขภาพโกลด์(สพ.โกลด์) (สัญญาเพิ่มเติม) ซึ่งจะมีให้เลือกด้วยกัน 5 แผน ได้แก่ สพ.โกลด์ 2000 สพ.โกลด์ 4000 สพ.โกลด์ 6000 สพ.โกลด์ 8000 และสพ.โกลด์ 10000 มีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
แผนความคุ้มครอง สพ.โกลด์ 2000
- ประกันจะเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
- ค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ จะเบิกได้ 500,000 บาทต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง
- ค่ารักษาพยาบาลในกรณีบาดเจ็บเนื่องจากอุบัติเหตุร้ายแรง จะเบิกได้ 1,000,000 บาทต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง
- กรณีที่จะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน
- ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาล ซึ่งจะได้รับเงินวันละ 2,000 บาท แต่ถ้านอนห้องผู้ป่วยหนัก หรือ ไอ.ซี.ยู (ICU) จะได้เพิ่มเป็น 2 เท่า ก็เท่ากับ 4,000 บาท
- สำหรับค่าใช้จ่ายสำหรับผลประโยชน์อื่นๆ
- ค่ายากลับบ้าน จะเบิกได้ 1,500 บาทต่อครั้ง
- ค่าแพทย์ตรวจรักษาในโรงพยาบาลประจำวันต่อวัน จะเบิกได้ 1,200 บาท โดยจะเบิกได้ไม่เกิน 150 วัน
- กรณีที่จะต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลแต่ไม่นอนโรงพยาบาลจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก โดยจะให้ความคุ้มครองทั่วโลก
- กรณีที่เกิดอุบัติเหตุ จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินสูงถึง 10,000 บาท
- ค่าล้างไต ค่าเคมีบำบัด ค่ารังสีบำบัด จะเบิกได้ 60,000 บาทต่อครั้ง
- หากจะต้องมีรักษาตัวอย่างต่อเนื่อง จะเบิกได้ 1,000 บาทต่อครั้ง
แผนความคุ้มครอง สพ.โกลด์ 4000
- ประกันจะเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
- กรณีที่ได้เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทุกกรณี จะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้สูงสุด 1,000,000 บาท
- กรณีที่เป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรงจนคุณได้รับบาดเจ็บสาหัสสูญเสียอวัยวะตั้งแต่ มือหนึ่งข้าง หรือเท้าหนึ่งข้าง หรือสายตาหนึ่งข้าง หรือทำให้ทุพพลถาวรสิ้นเชิง จะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้สูงสุด 2,000,000 บาทต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง
- กรณีที่จะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน
- กรณีที่ได้เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทุกกรณี สามารถเบิกค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาล ได้วันละไม่เกิน 4,000 บาท ซึ่งจะเบิกได้สูงสุดไม่เกิน 150 วัน
- กรณีที่ได้เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทุกกรณี จนต้องนอนห้องผู้ป่วยหนัก (ICU) จะเบิกค่าห้องได้วันละ 8,000 บาท และเบิกได้สูงสุดไม่เกิน 30 วัน
- สำหรับค่าใช้จ่ายสำหรับผลประโยชน์อื่นๆ
- กรณีมียาที่จะต้องนำกลับไปรับประทานต่อที่บ้าน สามารถเบิกค่ายากลับบ้าน ได้ 2,000 บาทต่อครั้ง
- ค่าแพทย์ตรวจรักษาประจำวันต่อวัน เบิกได้ 2,400 บาท และไม่เกิน 150 วัน
- กรณีที่จะต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลแต่ไม่นอนโรงพยาบาลจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก โดยจะให้ความคุ้มครองทั่วโลก
- กรณีที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน จะเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ไม่เกิน 15,000 บาท
- ค่าล้างไต ค่าเคมีบำบัด ค่ารังสีบำบัด สามารถขอเบิกได้ไม่เกิน 90,000 บาทต่อครั้ง
- กรณีที่เป็นการรักษาพยาบาลแบบต่อเนื่องนั้น สามารถขอเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ไม่เกิน 2,000 บาทต่อครั้ง
แผนความคุ้มครอง สพ.โกลด์ 6000
- ประกันจะเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
- เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ในกรณีที่เจ็บป่วยหรือได้รับเกิดอุบัติเหตุทุกกรณี จะเบิกเงินได้สูงสุด 1,500,000 บาท
- เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ในกรณีเป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรง ทำให้ต้องสูญเสียอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย เช่น มือหนึ่งข้าง หรือเท้าหนึ่งข้าง หรือสายตาหนึ่งข้าง หรือทำให้ทุพพลถาวรสิ้นเชิง จะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้สูงสุด 3,000,000 บาทต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง
- กรณีที่จะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน
- กรณีที่ได้เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทุกกรณี สามารถเบิกค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาล ได้วันละไม่เกิน 6,000 บาท ซึ่งจะเบิกได้สูงสุดไม่เกิน 150 วัน
- กรณีที่ได้เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทุกกรณี จนต้องนอนห้องผู้ป่วยหนัก (ICU) จะเบิกค่าห้องได้วันละ 12,000 บาท และเบิกได้สูงสุดไม่เกิน 30 วัน
- สำหรับค่าใช้จ่ายสำหรับผลประโยชน์อื่นๆ
- สามารถเบิกค่ายากลับบ้าน ซึ่งประกันจะจ่ายให้ครั้งละไม่เกิน 2,500 บาท
- ค่าแพทย์ตรวจรักษาประจำวันต่อวัน เบิกได้ 3,600 บาท และไม่เกิน 150 วัน
- กรณีที่จะต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลแต่ไม่นอนโรงพยาบาลจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก โดยจะให้ความคุ้มครองทั่วโลก
- หากประสบอุบัติเหตุฉุกเฉินต้องเข้ารับการรักษาสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ 20,000 บาท
- ค่าล้างไต ค่าเคมีบำบัด ค่ารังสีบำบัด สามารถขอเบิกได้ไม่เกิน 120,000 บาทต่อครั้ง
- เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ ในกรณีที่เป็นการรักษาแบบต่อเนื่อง ซึ่งจะเบิกได้ไม่เกิน 2 ครั้ง และเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ครั้งละไม่เกิน 3,000 บาท
Credit : https://pixabay.com
แผนความคุ้มครอง สพ.โกลด์ 8000
- ประกันจะเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
- คุ้มครองดูแลค่ารักษาพยาบาลให้ในกรณีที่เจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุทุกกรณี จะเบิกเงินได้สูงสุด 2,000,000 บาท
- เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ในกรณีเป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรง ทำให้ต้องสูญเสียอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย เช่น มือหนึ่งข้าง หรือเท้าหนึ่งข้าง หรือสายตาหนึ่งข้าง หรือทำให้ทุพพลถาวรสิ้นเชิง จะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้สูงสุด 4,000,000 บาทต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง
- กรณีที่จะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน
- กรณีที่ได้เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทุกกรณี สามารถเบิกค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาล ได้วันละไม่เกิน 8,000 บาท ซึ่งจะเบิกได้สูงสุดไม่เกิน 150 วัน
- กรณีที่ได้เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทุกกรณี จนต้องนอนห้องผู้ป่วยหนัก (ICU) จะเบิกค่าห้องได้วันละ 16,000 บาท และเบิกได้สูงสุดไม่เกิน 30 วัน
- สำหรับค่าใช้จ่ายสำหรับผลประโยชน์อื่นๆ
- ค่ายากลับบ้าน สามารถเบิกประกันได้ไม่เกินครั้งละ 3,000 บาท
- ค่าแพทย์ตรวจรักษาประจำวันต่อวัน เบิกได้ 4,800 บาท และไม่เกิน 150 วัน
- กรณีที่จะต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลแต่ไม่นอนโรงพยาบาลจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก โดยจะให้ความคุ้มครองทั่วโลก
- ค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่ประสบอุบัติเหตุฉุกเฉิน คุ้มครองอยู่ที่ 25,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลในกรณี ค่าล้างไต ค่าเคมีบำบัด ค่ารังสีบำบัด คุ้มครองอยู่ที่ 150,000 บาทต่อครั้ง
- ค่ารักษาพยาบาลกรณีที่ต่อเนื่องนั้น เบิกได้ไม่เกิน 2 ครั้ง และเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ครั้งละไม่เกิน 4,000 บาท
แผนความคุ้มครอง สพ.โกลด์ 10000
-
- ประกันจะเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
- ค่ารักษาพยาบาลหากเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากการเกิดอุบัติเหตุทุกกรณี จะเบิกเงินได้สูงสุด 2,500,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลกรณีเป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรง จะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้สูงสุด 5,000,000 บาทต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง
- กรณีที่จะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน
- ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาล หากเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลไม่ว่าจะเป็นสาเหตุที่มาจากการเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทุกกรณี เบิกได้วันละไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งจะเบิกได้สูงสุดไม่เกิน 150 วัน
- กรณีที่ได้เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทุกกรณี จนต้องนอนห้องผู้ป่วยหนัก (ICU) จะเบิกค่าห้องได้วันละ 20,000 บาท และเบิกได้สูงสุดไม่เกิน 30 วัน
- สำหรับค่าใช้จ่ายสำหรับผลประโยชน์อื่นๆ
- ค่ายากลับบ้าน เบิกได้ไม่เกินครั้งละ 3,500 บาท
- ค่าแพทย์ตรวจรักษาประจำวันต่อวันซึ่งขอเบิกได้ไม่เกิน 150 วัน และจะเบิกได้ 6,000 บาท
- กรณีที่จะต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลแต่ไม่นอนโรงพยาบาลจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก โดยจะให้ความคุ้มครองทั่วโลก
- ค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่ประสบอุบัติเหตุฉุกเฉิน คุ้มครองอยู่ที่ 30,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลในกรณี ค่าล้างไต ค่าเคมีบำบัด ค่ารังสีบำบัด คุ้มครองอยู่ที่ 180,000 บาทต่อครั้ง
- ค่ารักษาพยาบาลกรณีที่ต่อเนื่องนั้น เบิกได้ไม่เกิน 2 ครั้ง และเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ครั้งละไม่เกิน 5,000 บาท
- ประกันจะเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
ทั้งนี้ทุกแผนความคุ้มครองไม่ว่าจะเป็น แผนสพ.โกลด์ 2,000 แผนสพ.โกลด์ 4,000 แผนสพ.โกลด์ 6,000 สพ.โกลด์ 8,000 และสพ.โกลด์ 10,000 จะได้รับความที่เหมือนกันก็คือดังนี้
- ค่ารถพยาบาลฉุกเฉิน ค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยา และการตรวจทางห้องปฏิบัติการผู้ป่วยนอก ค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ ในโรงพยาบาล รวมไปถึงค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัด ไทยประกันชีวิตค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่ายโดยที่ค่าใช้จ่ายนั้นแต่ไม่เกินจำนวนเงินที่ต้องจ่ายจริง
- กรณีที่เสียชีวิตไม่ว่าจะสาเหตุไหนก็ตามจะเป็นการเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุหรือเสียชีวิตด้วยการเจ็บป่วย จะได้รับเงินช่วยเหลือจัดการเกี่ยวกับงานศพ ด้วยวงเงินคุ้มครองอยู่ที่ 10,000 บาท
คุณสมบัติและเงื่อนไขในการทำประกันชีวิต
- สำหรับคนที่เลือกแผนสพ.โกลด์ 4,000 และสพ.โกลด์ 6,000 จะต้องมีอายุตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไปจนถึง 70 ปี
- สำหรับคนที่เลือกแผนสพ.โกลด์ 2,000 สพ.โกลด์ 8,000 และสพ.โกลด์ 10,000 จะต้องมีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปจนถึง 70 ปี
- ในการจ่ายเบี้ยประกันภัยจะต้องจ่ายแบบปีต่อปีโดยจะต้องจ่ายไปจนถึงอายุการคุ้มครองชีวิต หรืออายุ 80 ปี และในการจ่ายสามารถเลือกจ่ายได้ทั้งแบบรายเดือนหรือรายปี
ช่องทางการในสมัคร สามารถสมัครได้กับตัวแทนขายประกันชีวิต หรือเลือกสมัครง่ายๆผ่านทางออนไลน์ได้ที่นี่เลย
Credit : https://pixabay.com
ประกันชีวิตค่ารักษาพยาบาล พรูอีซี่ แคร์ จากพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต
ปัญหาเรื่องสุขภาพไม่เข้าใครออกใคร ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็มีโอกาสที่จะเป็นได้หมด และยิ่งสมัยนี้ด้วยแล้วโรคที่คนไทยเป็นกันมากก็คือ โรคมะเร็ง แค่ได้ยินชื่อหลายคนก็ถึงกลัวแล้ว เพราะนอกจากจะคร่าชีวิตแล้ว ยังตามด้วยเรื่องการค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลอีกด้วย จะดีกว่าไหมถ้ามีประกันชีวิตดีๆที่พร้อมกับการดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลและให้ความคุ้มครองในกรณีที่เป็นโรคมะเร็ง สนใจเลือกทำเลยประกันชีวิต พรูอีซี่ แคร์ ให้จ่ายเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 7,963 บาทต่อปีเท่านั้น พร้อมรับผลประโยชน์ในการคุ้มครองมากมาย เรามาดูรายละเอียดต่างๆ รวมไปถึงเงื่อนในการสมัครกันดีกว่าค่ะ
จุดเด่นของประกันชีวิต พรูอีซี่ แคร์
- จ่ายเบี้ยไม่แพง คุ้มครองชีวิตสูง
- คุ้มครอบแบบเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกโรคมะเร็ง
ผลประโยชน์และความคุ้มครองที่จะได้รับ ซึ่งจะมีให้เลือกด้วยกัน 4 แผน มีทุนประกันภัยเริ่มต้นที่ 300,000 บาท และสูงสุดจะอยู่ที่ 1,000,000 บาท โดยผลประโยชน์ที่จะได้รับความคุ้มครองค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามทุนประกันภัยที่เลือกทำ ส่วนรายละเอียดความคุ้มครองและให้วงเงินในการคุ้มครองจะมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลย
แผนความคุ้มครองที่ 1 ความคุ้มครองสูงสุด 300,000 บาทต่อปีกรมธรรม์
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีที่เป็นผู้ป่วยใน โดยจะให้ความคุ้มครองด้วยวงเงินสูงสุด 30,000 บาท และจะเบิกได้ไม่เกิน 4 ครั้งต่อปีกรมธรรม์
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในการรักษาโรคมะเร็งที่เป็นการรักษาต่อเนื่อง ซึ่งจะรวมกับในการทำเคมีบำบัด หรือรังสีบำบัด ซึ่งจะเบิกค่ารักษาพยาบาลได้สูงสุดไม่เกิน 130,000 บาทต่อปีกรมธรรม์
- คุ้มครองชีวิตทั้งในกรณีที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จะได้รับเงินคุ้มครองอยู่ที่ 50,000 บาท
แผนความคุ้มครองที่ 2 ความคุ้มครองสูงสุด 500,000 บาทต่อปีกรมธรรม์
- ค่ารักษาพยาบาลหากจะต้องนอนรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล โดยประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆให้ไม่ว่าจะเป็น เช่น ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าผ่าตัด ค่าแพทย์ ค่ารถพยาบาล ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกฉุกเฉิน และค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ โดยจะให้ความคุ้มครองด้วยวงเงินสูงสุด 50,000 บาท และจะเบิกได้ไม่เกิน 4 ครั้งต่อปีกรมธรรม์
- ค่ารักษาพยาบาลในการรักษาโรคมะเร็งที่เป็นการรักษาต่อเนื่อง เช่น การทำเคมีบำบัด หรือรังสีบำบัด ซึ่งจะเบิกค่ารักษาพยาบาลได้สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาทต่อปีกรมธรรม์
- คุ้มครองชีวิตทั้งในกรณีที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จะได้รับเงินคุ้มครองอยู่ที่ 100,000 บาท
แผนความคุ้มครองที่ 3 ความคุ้มครองสูงสุด 750,000 บาทต่อปีกรมธรรม์
- ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าผ่าตัด ค่าแพทย์ ค่ารถพยาบาล ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกฉุกเฉิน และค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลเหล่านี้ได้หากคุณจะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งประกันจะจ่ายให้ไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี และจะจ่ายให้ครั้งละไม่เกิน 75,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลในฐานะผู้ป่วยนอกกรณีที่มารักษาด้วยโรคมะเร็งที่เป็นการรักษาต่อเนื่อง ที่มารักษาด้วยการทำเคมีบำบัด หรือรังสีบำบัด ซึ่งจะเบิกค่ารักษาพยาบาลได้สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาทต่อปีกรมธรรม์
- คุ้มครองชีวิตทั้งในกรณีที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จะได้รับเงินคุ้มครองอยู่ที่ 150,000 บาท
แผนความคุ้มครองที่ 4 ความคุ้มครองสูงสุด 1,000,000 บาทต่อปีกรมธรรม์
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีที่เป็นผู้ป่วยใน ซึ่งจะรวมค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าผ่าตัด ค่าแพทย์ ค่ารถพยาบาล ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกฉุกเฉิน และค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ ประกันจะจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลให้ไม่เกิน 4 ครั้งและครั้งละไม่เกิน 100,000 บาท
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในการรักษาโรคมะเร็งที่เป็นการรักษาต่อเนื่อง ในการทำเคมีบำบัด หรือรังสีบำบัด ประกันจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้สูงสุดไม่เกิน 400,000 บาท
- คุ้มครองชีวิตทั้งในกรณีที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จะได้รับเงินคุ้มครองอยู่ที่ 200,000 บาท
จะได้เห็นว่าเมื่อทุนประกันภัยเริ่มสูงขึ้นความคุ้มครองชีวิตก็เริ่มสูงขึ้นตามไปด้วย และแน่นอนว่าเบี้ยประกันภัยนั้นก็ย่อมจะสูงตามไปกับผลประโยชน์ที่จะได้รับนั่นเอง แล้วใครบ้างล่ะที่จะสมัครทำประกันชีวิตนี้ได้บ้าง จะต้องมีคุณสมบัติในการสมัครอย่างไรบ้างนั้น มาดูกันเลย
- จะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 – 60 ปี
- ซึ่งจะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยตั้งแต่สมัครจนถึงอายุ 65 ปี
- นำเบี้ยประกันภัยมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท
หากเพื่อนๆสนใจสมัครหรือต้องการสอบถามข้อมูล รายละเอียดเพิ่มเติมก็ติดต่อได้กับตัวแทนขายประกันชีวิตของพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต ได้เลย หรือจะสมัครผ่านทางออนไลน์ก็สะดวก รวดเร็วดีนะคะ ง่ายๆเพียงแค่คลิกที่นี่ได้เลย
Credit : https://pixabay.com
ประกันชีวิตค่ารักษาพยาบาล พรูเฮลธี้ พลัส จากพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต
ประกันชีวิต พรูเฮลธี้ พลัส ที่ให้ความคุ้มครองชีวิตยาวนานจนถึงอายุ 80 ปีเลย ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตก็รับผลประโยชน์ที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่เพียงเท่านั้น ยังห่วงใยดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาล และยังได้รับเงินชดเชยในกรณีที่มีการผ่าตัดไม่ว่าจะอยู่ในฐานะผู้ป่วยในหรือจะเป็นผู้ป่วยนอกก็ตาม โดยประกันชีวิตนี้จะให้ก้อนเป็น 2 ช่วงของอายุ เพื่อให้เมื่อตอนเกษียณอายุมีเงินไว้ใช้สำรอง ไม่ต้องเป็นภาระให้กับลูกหลาน ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตก่อนครบกำหนดก็รับผลประโยชน์ที่สุดคุ้มมากๆเลยค่ะ และสำคัญก็คือเริ่มจ่ายเบี้ยประกันภัยอยู่ที่เท่าไรตอนสมัครครั้งแรกก็ให้จ่ายเท่าเดิม ตลอดอายุสัญญา อายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีความเสี่ยงมากขึ้น แต่เบี้ยประกันภัยยังคงเท่าเดิมนะคะ
จุดเด่นของประกันชีวิต พรูเฮลธี้ พลัส
- สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก
- จ่ายเบี้ยประกันภัยคงที่ตลอดอายุสัญญา
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลนานถึงอายุ 80 ปี
จำนวนเงินเอาทุนประกันภัย ขั้นต่ำจะอยู่ที่ 300,000 บาท หรือสูงสุด 1,000,000 บาท
ผลประโยชน์ความคุ้มครองชีวิตที่จะได้รับนั้น เราขอแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ก็คือ การคุ้มครองชีวิต และการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล จะมีรายละเอียดยังไงบ้างนั้นมาดูกันเลย
กรณีที่มีชีวิตอยู่ ซึ่งจะได้รับเงินคืน โดยแบ่งเป็น 2 ช่วงอายุคือ
- เมื่อายุครบ 60 ปี จะได้รับเงินคืน 20% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- เมื่อายุครบ 80 ปี จะได้รับเงินคืน 80% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
กรณีที่เสียชีวิต ทายาทหรือผู้รับประโยชน์ จะได้รับเงินคืน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
คราวนี้เรามาดูในเรื่องของผลประโยชน์ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกันบ้าง ซึ่งจะมีแผนความคุ้มครองให้เลือกมากมายสูงถึง 9 แผน มีรายละเอียดดังนี้
- รับเงินชดเชยรายวันในกรณีที่จะต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเริ่มต้นวันละ 600 – 2,000 บาท ซึ่งจะเบิกได้สูงสุดไม่เกิน 365 วัน
- รับเงินชดเชยรายวันในกรณีที่จะต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ในห้องผู้ป่วยหนัก หรือ ไอ.ซี.ยู (ICU) จะได้เพิ่มเป็น 2 เท่า เริ่มต้นวันละ 1,200 –4,000 บาท ซึ่งจะเบิกได้สูงสุดไม่เกิน 30 วัน
- รับเงินชดเชยค่ายาและเวชภัณฑ์กรณีที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน จะเบิกได้ 600 – 2,000 บาท
- รับเงินชดเชยค่าผ่าตัดและหัตถการค่าผ่าตัด และอุปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึงแพทย์ในโรงพยาบาล ซึ่งจะคุ้มครองทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกเลย
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก จะได้รับเงินชดเชยอยู่ที่ 1,500 – 5,000 บาท
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยใน จะได้รับเงินชดเชยอยู่ที่ 6,000 – 20,000 บาท
คุณสมบัติในการสมัครอย่างไรบ้างนั้น มาดูกันเลย
- คุ้มครองชีวิตยาวนานถึงอายุ 80 ปี
- จ่ายเบี้ยประกันภัยตั้งแต่สมัครจนถึงอายุ 60 ปี
- ประกันชีวิตที่พ่วงมาด้วยค่ารักษาพยาบาลนี้สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท
ช่องทางการสมัคร เพื่อนๆสามารถสมัครได้กับตัวแทนขายประกันชีวิตของพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต ได้เลย หรือจะสมัครผ่านทางออนไลน์ก็สะดวก รวดเร็วดีนะคะ ง่ายๆเพียงแค่คลิกที่นี่ได้เลย
Credit : https://pixabay.com
ประกันชีวิตค่ารักษาพยาบาล โครงการ SME คุ้มชัวร์ จากเมืองไทยประกันชีวิต
ประกันชีวิต โครงการ SME คุ้มชัวร์ สมัครง่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ จ่ายเบี้ยน้อยเริ่มต้นเพียงหลักร้อยเท่านั้น แต่รับผลประโยชน์ที่สุดคุ้ม คุ้มชีวร์ยิ่งกว่าชัวร์เสียอีก ไม่ว่าจะมีเจ็บป่วยที่ไหน ประกันชีวิตก็ดูแล ไม่จะเป็นการเจ็บป่วยในประเทศ หรือจะไปท่องเที่ยวต่างประเทศแล้วจะต้องมาเจ็บป่วยก็หมดห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลไปได้เลยด้วยประกันชีวิต โครงการ SME คุ้มชัวร์ ที่จะทำให้คุณคุ้มทุกบาท ทุกสตางค์ จ่ายเบี้ยน้อย
จุดเด่นของประกันชีวิต โครงการ SME คุ้มชัวร์
- จ่ายเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียงแค่หลักร้อย
- คุ้มครองทุกที่ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
แผนความคุ้มครอง จะมีให้เลือกด้วยกัน 2 แผน
- แผนความคุ้มครองที่ 1
- แบบประกันภัยคุ้มครองภายในระยะเวลา 10/10 จำนวนเงินเอาประกันภัยจะอยู่ที่ 100,000 บาท
- สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ แบบเหมาจ่าย จำนวนเงินเอาประกันภัยจะอยู่ที่ ย 50,000 บาท
- แผนความคุ้มครองที่ 2
- แบบประกันภัยคุ้มครองภายในระยะเวลา 10/10 ทุนประกันภัยจะอยู่ที่ 100,000 บาท
- สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ แบบเหมาจ่าย ทุนประกันภัยจะอยู่ที่ 75,000 บาท
ทั้งนี้จะเห็นได้เลยว่าทุนประกันภัยที่คุ้มครองชีวิตหลักๆก็จะอยู่ที่ 100,000 บาท แต่ในส่วนของความคุ้มครองเรื่องค่ารักษาพยาบาลนั้นก็ขึ้นอยู่เพื่อนๆแล้วว่าต้องการความคุ้มครองวงเงินสูงเท่าไร
ผลประโยชน์ความคุ้มครองที่จะได้รับ ซึ่งจะเป็นออกเป็น 2 สัญญา ดังนี้
- แบบประกันภัยคุ้มครองภายในระยะเวลา 10/10
- หากเสียชีวิต ทายาทหรือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์นั้นจะได้รับเงิน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ แบบเหมาจ่าย ซึ่งจะแบ่งไปตามแผนความคุ้มครองที่ได้เลือกไว้นั่นเอง
- แผนความคุ้มครองที่ 1
- ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาลประจำวัน จะเบิกได้ไม่เกิน 2,000 บาทต่อวัน โดยจะเบิกได้สูงสุดไม่เกิน 120 วัน
- ค่ารักษาพยาบาลเหมาจ่าย ต่อการเข้าพักรักษาตัว จะเบิกได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อครั้ง
- ผลประโยชน์สูงสุดต่อปีกรมธรรม์ ที่จะได้รับก็คือ 250,000 บาท
- แผนความคุ้มครองที่ 2
- กรณีที่นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสามารถเบิกค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาลได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อวัน และจะเบิกได้สูงสุดไม่เกิน 120 วัน
- ประกันจะเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลในการรักษา ซึ่งจะให้เบิกได้ไม่เกิน 75,000 บาทต่อครั้ง
- ผลประโยชน์สูงสุดต่อปีกรมธรรม์ ที่จะได้รับก็คือ 375,000 บาท
- แผนความคุ้มครองที่ 1
ในส่วนของเงื่อนไขและคุณสมบัติในการสมัครประกันชีวิตกันบ้าง
- จะต้องมีอายุตั้งแต่ 15 – 55 ปี จะให้ความคุ้มครองชีวิตจนถึงอายุ 65 ปี
- โดยจะต้องเบี้ยประกันภัยแบบปีต่อปี โดยที่คุณสามารถเลือกจ่ายได้ทั้งแบบรายเดือนหรือรายปี
ช่องทางในการสมัคร : หากสนใจก็สามารถสมัครได้กับตัวแทนขายประกันชีวิตของเมืองไทยประกันชีวิต หรือจะเลือกสมัครง่ายๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ก็คลิกที่นี่ได้เลย
เป็นยังไงกันบ้างกับ 7 ประกันชีวิต ค่ารักษาพยาบาล ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าข้อมูลที่ได้คัดเลือกแบบเด่นๆมาให้นั้นจะเป็นประโยชน์ที่ดีในการช่วยเลือกตัดสินใจก่อนที่จะเลือกทำประกันชีวิต และสำหรับเพื่อนๆคนไหนที่ต้องการอยากรู้เรื่องประกันชีวิตในประเภทอื่นๆ ก็สามารถเข้ามาอ่านบทความที่น่าสนใจ ในรูปแบบเข้าใจง่ายๆ ได้ที่เว็บไซต์ iMoney.in.th ได้เลย นอกจากนี้แล้วยังมีบทความอื่นๆที่เกี่ยวกับการเงินทุกรูปแบบอีกด้วย หากเพื่อนๆสนใจก็อย่าลืมแวะเข้ามาอ่านกันมากๆนะคะ
