รวมข้อมูลประกันสุขภาพ 2563 แบบไหนดี แบบไหนเหมาะกับคุณ จ่ายเบี้ยเท่าไหร่ แบบไหนมีเงินชดเชย ใครกำลังหาประกันสุขภาพคุ้มครองตนเองและคนรัก ห้ามพลาด
การมีสุขภาพดีก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญที่เราทุกคนควรจะต้องใส่ใจกันเป็นพิเศษ แม้ว่าปัจจุบันนี้จะมีวิวัฒนาการในการรักษาพยาบาลแล้วก็ตาม แต่ใครล่ะที่อยากจะเจ็บป่วย คงไม่มีใครที่อยากจะไปโรงพยาบาลกันใช่ไหมคะ แต่เราเองก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าอาจจะต้องมีสักวันที่เราจะต้องเข้าโรงพยาบาลไม่ว่าสาเหตุจะมาจากการเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุก็ตาม เราก็ควรจะเตรียมตัวให้พร้อมกับปัญหาสุขภาพ เพราะนอกจากจะเตรียมรับมือกับโรคภัยแล้วก็ยังจะต้องเตรียมเงินในการรักษาพยาบาลอีกด้วย เนื่องจากเมื่อมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย แม้ว่าทุกคนจะมีสิทธิขั้นพื้นฐานในการรักษาพยาบาลแล้วก็ตาม แต่ก็อาจจะยังไม่เพียงสำหรับใครอีกหลายๆคน และการเลือกทำประกันสุขภาพก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คนส่วนใหญ่นิยมทำกันมากขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยลดแบ่งเบาภาระทางการเงินแล้วยังจะได้รับการบริการที่ดี สะดวก รวดเร็ว กว่าการเลือกใช้บัตร 30 บาท หรือประกันสังคมจริงไหมคะ และยังสามารถนำเบี้ยประกันภัยนี้ไปลดหย่อนภาษีตอนสิ้นปีได้อีกต่อหนึ่งด้วยค่ะ แต่การจะซื้อประกันสุขภาพนั้นก็แน่นอนว่าจะต้องมีประกันชีวิตหลักเสียก่อน แล้วจึงสามารถซื้อประกันสุขภาพเสริมได้ และวันนี้ iMoney ก็ไม่พลาดจะมีแนะนำประกันสุขภาพที่น่าสนใจจากหลากหลายบริษัทประกันภัยชั้นนำมาฝากเพื่อนๆ ว่าแต่จะน่าสนใจแค่ไหนเราไปติดตามกันเลยค่ะ
รับคำปรึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้ที่ Line@ ของ iMoney
Advertising :
ตารางเปรียบเทียบประกันสุขภาพ น่าสนใจ ประจำปี 2563
| ประกันชีวิต | ชื่อผลิตภัณฑ์ | จุดเด่น | เงื่อนไขการสมัคร |
| AIA | เอไอเอ เอช แอนด์ เอส พลัส โกลด์ | ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล คุ้มครองการรักษาพยาบาลได้ทั้งเป็นผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก พร้อมรักษาได้ทั้งเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ และมีแผนความคุ้มครองให้เลือกถึง 5 แผน ด้วยความคุ้มครองที่สูงสุดถึง 5,000,000 บาท | อายุตั้งแต่ 1 เดือนจนถึงอายุ 70 ปี และจะต้องจ่ายเบี้ยประกันแบบปีต่อปี |
| ไทยประกันชีวิต | คุ้มธนกิจ99 คุ้มครองสุขภาพ | ความคุ้มครองที่สูง พร้อมคุ้มครองชีวิตตลอดชีพ ไม่ว่าเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ มีค่ารักษาพยาบาลให้วงเงินสูงสุดถึง 5,000,000 บาท และยังเพิ่มความคุ้มครองพิเศษด้วยค่าล้างไต ค่าเคมีบำบัด ค่ารังสีบำบัดและอื่นๆ และได้
รับเงินคืน 1% ทุกปีกรมธรรม์ |
อายุตั้งแต่ 1 เดือนจนถึงอายุ 70 ปี โดยที่จะให้ความคุ้มครองจนถึงอายุ 99 ปี และจะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยจนถึงอายุ 99 ปีเช่นกัน และอิสระในการเลือกจ่ายได้เองว่าจะจ่ายรายเดือน ราย 3 เดือน ราย 6 เดือน หรือจะเป็นรายปี |
| กรุงไทยแอกซ่า | ประกันสุขภาพ iHealthy | คุ้มครองผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก พร้อมครอบคลุมทุกการรักษาพยาบาลทุกที่ทั่วโลก ด้วยการรักษาแผนปัจจุบันหรือจะรักษาโดยแพทย์ทางเลือก และพิเศษสำหรับผู้หญิงด้วยการเบิกค่ารักษาพยาบาลสําหรับการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร | อายุตั้งแต่ 16ปีจนถึงอายุ 80 ปี และจ่ายเบี้ยประกันภัยจนถึงอายุ 85 ปี ซึ่งได้รับความคุ้มครองจนถึงอายุ 85 ปี |
| เมืองไทยประกันชีวิต | อีลิท เฮลท์ สำหรับผู้มีอายุ 18-80 ปี | คุ้มครองทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก พร้อมด้วยคุ้มครองที่หลากหลายความต้องการด้านสุขภาพ และยังให้การคุ้มครองที่ครอบคลุมทุกที่ ทุกเวลา ทั่วโลก | อายุตั้งแต่ 18 – 80 ปี จ่ายเบี้ยประกันภัยปีต่อปี และสามารถต่ออายุการรับประกันได้สูงถึงอายุ 84 ปี ซึ่งได้รับความคุ้มครองจนถึงอายุ 85 ปี และอิสระในการเลือกจ่ายได้เองว่าจะจ่ายรายเดือน ราย 3 เดือน ราย 6 เดือน หรือจะเป็นรายปี |
| Aetna | ประกันสุขภาพแผนเพอร์ซันนัลแคร์ | ด้วยความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งการเจ็บป่วย และอุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมงทั่วโลก ไม่จำกัดจำนวนครั้งในการรักษาพยาบาล มีแผนให้เลือกที่หลากหลาย แถมยังไม่ต้องซื้อพ่วงประกันชีวิต | อายุตั้งแต่ 15 วันขึ้นไปจนถึง 65 ปี |
| ธนาคารทหารไทย | ประกันสุขภาพ ทีเอ็มบี เบิกเต็มแม็กซ์ | สมัครง่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ พร้อมคุ้มครองทั้งเจ็บป่วย และอุบัติเหตุ เบิกได้แบบเต็มแม็กซ์ทั้งค่าห้องปกติ หรือห้อง I.C.U รักษาได้ทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ด้วยวงเงินสูงถึง 300,000 บาท และยังผ่อนจ่ายเบี้ยประกันภัยสบายๆด้วยดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน | อายุตั้งแต่ 1 เดือนจนไปถึง 70 ปี |
| ธนาคารไทยพาณิชย์ | ประกันสุขภาพ ไพร์ม โพรเทคชั่น | สมัครง่าย ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม อุบัติเหตุ การเจ็บป่วย รับค่ารักษาผู้ป่วยใน สูงสุดโรคละ 2,500,000 บาทต่อปี หรือตรวจพบโรคมะเร็ง รับเงินก้อนทันที และเบิกค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่องได้อีก | เฉพาะคนที่เป็นลูกค้า SCB Prime หรือ SCB first หรือ Private Banking เท่านั้น และมีอายุตั้งแต่ 20 – 60 ปี |
| ไทยวิวัฒน์ | ประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์ | สมัครง่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ ได้ทุกชนชาติ ครบทุกความคุ้มครอง ด้วยวงเงินที่สูง พร้อมรับส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยสูงสุด 15% และถ้าสมัครพร้อมกัน 3 คน จะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 10% | อายุตั้งแต่ 21 ปีจนไปถึง 60 ปี และจ่ายเบี้ยประกันได้ทั้งรายเดือนและรายปี
|
| ธนาคารกรุงศรีอยุธยา | กรุงศรี กู๊ด เฮลธ์ | คุ้มครองเจ็บป่วยจะนอนหรือไม่นอนโรงพยาบาล หรือเกิดอุบัติเหตุ หมดห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายค่าหมอ ค่ายา ค่าผ่าตัด เหมาจ่ายตามจริง ครอบคลุมทั่วโลก ด้วยวงเงินสูงสุดถึง 3,000,000 บาท และมีความหลากหลายแผนความคุ้มครอง | ผู้สมัครจะต้องมีอายุตั้งแต่ 1 เดือน 1 วัน – 70 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการคุ้มครอง และอิสระในการเลือกจ่ายได้เองว่าจะจ่ายรายเดือน ราย 3 เดือน ราย 6 เดือน หรือจะเป็นรายปี |
| AIA | สัญญาเพิ่มเติมกลุ่มโรคร้ายแรง (ECIR) | คุ้มครองโรคร้ายแรงสูงถึง 44 โรคร้าย เมื่อตรวจพบเป็นโรคร้ายแรงจะได้รับเงินก้อนทันที และให้ความคุ้มครองนานถึงอายุ 80 ปี | อายุตั้งแต่ 1 เดือน จนถึง 70 ปี และจะต้องจ่ายเบี้ยประกันแบบปีต่อปี |
รวม 10 ประกันสุขภาพ ที่น่าสนใจประจำปี 2563
เอไอเอ เอช แอนด์ เอส พลัส โกลด์ (AIA H&S PLUS GOLD)
ประกันสุขภาพที่ใครๆก็สามารถทำได้ ที่ให้ความคุ้มครองในกรณีที่เจ็บป่วย ไม่ว่าจะนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือจะไม่ได้นอนโรงพยาบาลก็ตาม ที่ให้ความคุ้มครองแบบจัดหนัก จักเต็ม หายห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลไปได้เลย เพราะประกันสุขภาพสัญญาเพิ่มเติมเอไอเอ เอช แอนด์ เอส พลัส โกลด์ (AIA H&S PLUS GOLD) เป็นแบบเหมาจ่ายตามจริง ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว และยังรวมไปถึงได้รับการบริการที่ดีอีกด้วย และยังมีแผนความคุ้มครองที่ให้เลือกด้วยกันถึง 5 แผน ด้วยวงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 5,000,000 บาท
แผนความคุ้มครอง : มีให้เลือกด้วยกัน 5 แผน เริ่มต้นที่ทุนประกัน 1,000,000 – 5,000,000 บาท
สิทธิประโยชน์ความคุ้มครองจากประกันสุขภาพ AIA H&S PLUS GOLD: โดยมีแผนความคุ้มครองจะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ กรณีที่ให้ความคุ้มครองในการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือกรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก และกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งมีความคุ้มครองต่างๆ ดังนี้
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยใน จะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
- ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการในการรักษาพยาบาลประจำวันต่อวัน วงเงินตั้งแต่ ตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท แต่ถ้าต้องนอนห้อง C.U จะได้รับความคุ้มครองเพิ่มเป็น 2 เท่า
- ค่ายากลับบ้านไม่เกิน 7 วันนับแต่วันที่ออกจากโรงพยาบาล วงเงินตั้งแต่ 1,500 – 3,500 บาทต่อครั้ง
- ค่าแพทย์ตรวจรักษาในโรงพยาบาลต่อวัน วงเงินตั้งแต่ 1,200 – 6,000 บาทต่อครั้ง
- ค่าบริการรถพยาบาลฉุกเฉินต่อการเข้ารักษาตัว / ค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยา /ค่าห้องผ่าตัดและอุปกรณ์ผ่าตัด และรวมถึงค่ารักษาพยาบาลอื่นๆในโรงพยาบาล จะจ่ายให้ตามจริงแต่จะต้องไม่เกินวงเงินที่กำหนด
- กรณีผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาล จะได้รับความคุ้มครองสำหรับการเบิกค่าล้างไต ค่าเคมีบำบัด และค่ารังสีบำบัด วงเงินตั้งแต่ 60,000 – 180,000 บาทต่อปีกรมธรรม์
- กรณีอุบัติเหตุ จะให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุภายใน 24 ชั่วโมงนับจากเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ ด้วยวงเงินตั้งแต่ 10,000 – 30,000 บาท
- กรณีที่เสียชีวิต จะได้รับเงินช่วยเหลืออยู่ที่ 10,000 บาท
เงื่อนไขการทำประกันสุขภาพ AIA H&S PLUS GOLD : สามารถทำประกันได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือนจนถึงอายุ 70 ปี จะให้ความคุ้มครองไปจนถึงอายุ 80 ปี และจะต้องจ่ายเบี้ยประกันเป็นรายปี
ช่องทางการสมัครประกันสุขภาพ : สมัครได้ที่ตัวแทนขายประกันได้ทั่วประเทศ หรือสมัครง่ายผ่านออนไลน์ คลิกที่นี่ได้เลย https://www.aia.co.th/th/our-products/medical-protection/aia-h-and-s-plus-gold.html#leads-form
คุ้มธนกิจ 99 คุ้มครองสุขภาพ จากไทยประกันชีวิต
คิดจะทำประกันสุขภาพกับไทยประกันชีวิต เลือกทำประกันสุขภาพคุ้มธนกิจ99 คุ้มครองสุขภาพ ที่ให้ความคุ้มครองแบบครอบคลุมทุกการรักษา จ่ายเบี้ยประกันภัยเพียงหลักหมื่น แต่รับความคุ้มครองหลักล้าน ไม่ว่าจะเจ็บป่วยนอนหรือไม่นอนโรงพยาบาลหรือในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ประกันก็จ่ายรักษาพยาบาลให้ แถมยังคุ้มครองชีวิตแบบตลอดชีพอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นยังจะได้รับเงินคืนอีก 1% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และเมื่อครบกำหนดระยะเวลาหรือเสียชีวิตก่อนก็รับเงินคืนไปเลย 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย นอกจากนี้แล้วยังสามารถซื้อประกันสุขภาพโกลด์ (สพ.โกลด์) เพื่อเพิ่มความคุ้มครองเพิ่มเติมได้อีกด้วย อะไรจะดีขนาดนี้
แผนความคุ้มครองประกันสุขภาพกับไทยประกันชีวิต : มีให้เลือกด้วยกัน 5 แผน เริ่มต้นที่ทุนประกัน 200,000 – 500,000 บาท
สิทธิประโยชน์ความคุ้มครองจากประกันสุขภาพคุ้มธนกิจ99 คุ้มครองสุขภาพ : ในการเลือกทำประกันสุขภาพคุ้มธนกิจ99 คุ้มครองสุขภาพ ควรที่จะซื้อประกันสุขภาพโกลด์ (สพ.โกลด์) เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความคุ้มครอง เพราะทั้ง 2 ประกันจะให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกันไป มีรายละเอียดดังนี้
- ความคุ้มครองสำหรับประกันสุขภาพคุ้มธนกิจ99 คุ้มครองสุขภาพ (สัญญาหลัก)
- รับเงินคืนทุกปี 1% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ทุกสิ้นปีกรมธรรม์ ตั้งแต่กรมธรรม์ที่ 2 จนถึงอายุ 98 ปี
- หากอยู่จนครบสัญญาก็จะได้รับเงิน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- หากเสียชีวิตก่อนครบสัญญาก็จะได้รับเงิน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- ความคุ้มครองสำหรับการประกันสุขภาพโกลด์(สพ.โกลด์) (สัญญาเพิ่มเติม) โดยจะมีความคุ้มครองแบ่งออกไปเป็น 5 แผนความคุ้มครอง เริ่มจ่ายเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท
- กรณีที่เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากการเกิดอุบัติเหตุ จะให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย โดยแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ กรณีที่เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทั่วไปจะได้รับวงเงินคุ้มครองอยู่ที่ 500,000 – 1,250,000 บาทต่อครั้ง แต่ถ้าในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ความคุ้มครองก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,000,000 – 5,000,000 บาทต่อครั้ง
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยใน จะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
- ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการในการรักษาพยาบาลประจำวันต่อวัน วงเงินตั้งแต่ ตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท แต่ถ้าต้องนอนห้อง C.U จะได้รับความคุ้มครองเพิ่มเป็น 2 เท่า
- กรณีที่มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่ารถพยาบาลฉุกเฉิน, ค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยา และการตรวจทางห้องปฏิบัติการผู้ป่วยนอก, ค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ ในโรงพยาบาล, ค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัด จะจ่ายให้ตามจริงแต่จะต้องไม่เกินวงเงินที่กำหนด
- กรณีที่จะต้องมียากลับบ้าน ประกันจะจ่ายให้อยู่ที่วงเงินตั้งแต่ 1,500 – 3,500 บาท
- ค่าแพทย์ตรวจรักษาในโรงพยาบาลประจำวันต่อวัน ประกันจะจ่ายให้อยู่ที่วงเงินตั้งแต่ 1,200 – 6,000 บาท
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก จะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
- กรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่จะต้องรักษาแบบฉุกเฉินนั้นก็จะได้รับคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินเนื่องจากอุบัติเหตุต่อการบาดเจ็บแต่ละครั้ง ด้วยวงเงินตั้งแต่ 10,000 – 30,000 บาท
- ค่าล้างไต ค่าเคมีบำบัด ค่ารังสีบำบัด ด้วยวงเงินตั้งแต่ 60,000 – 180,000 บาท
- ในกรณีที่จะต้องมีการรักษาตัวอย่างต่อเนื่องนั้น จะได้รับคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ด้วยวงเงินตั้งแต่ 1,000 – 5,000 บาท
- กรณีที่เสียชีวิต จะได้รับเงินช่วยเหลืออยู่ที่ 10,000 บาท
เงื่อนไขการทำประกันประกันสุขภาพคุ้มธนกิจ99 คุ้มครองสุขภาพ : สำหรับประกันหลัก คือ คุ้มธนกิจ99 คุ้มครองสุขภาพ สามารถทำประกันได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือนจนถึงอายุ 70 ปี จะให้ความคุ้มครองไปจนถึงอายุ 99 ปี แต่ถ้าในกรณีที่ซื้อประกันสุขภาพโกลด์ [สพ.โกลด์] จะมีระยะเวลาในการคุ้มครองจนถึงอายุ 80 ปีเท่านั้น และจ่ายเบี้ยประกันภัยได้ตั้งแต่รายเดือน ราย 3 เดือน ราย 6 เดือน หรือจะรายปี
ช่องทางการสมัครประกันสุขภาพกับไทยประกันชีวิต : สมัครได้ที่ตัวแทนขายประกันได้ทั่วประเทศ หรือสมัครง่ายผ่านออนไลน์ คลิกที่นี่ได้เลย https://product.thailife.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%98%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%8899%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E
ประกันสุขภาพ iHealthy จากกรุงไทยแอกซ่า
ประกันสุขภาพที่เหมาจ่ายทุกการรักษาพยาบาลไม่ว่าจะเจ็บป่วยจะนอนโรงพยาบาลหรือไม่นอนโรงพยาบาลก็ไม่ต้องจ่ายเอง แม้เป็นโรคมะเร็ง และโรคไต ก็จะได้รับการรักษาอย่างดีไม่ว่าจะเป็นการล้างไตและการทําเคมีและรังสีบําบัดสําหรับผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในก็ตาม และสำหรับสาวๆก็หมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในกรณีที่ตั้งครรภ์หรือการคลอดบุตรได้เลย เพราะประกันยังให้ความคุ้มครอง และไม่เพียงแต่การรักษากับแพทย์แผนปัจจุบันนั้นเท่านั้น ยังสามารถเลือกที่จะรักษากับแพทย์ทางเลือกได้อีกด้วย และยังให้การรักษาที่ครอบคลุมทุกที่ทั่วโลกตามแผนความคุ้มครองที่เลือก
แผนความคุ้มครอง : มีให้เลือกด้วยกัน 5 แผน เริ่มต้นที่ทุนประกัน 3,000,000 – 100,000,000 บาท
สิทธิประโยชน์ความคุ้มครองจากประกันสุขภาพ iHealth : ในการเลือกทำประกันสุขภาพ iHealthy ควรที่จะซื้อประกัน PWLNP85 เป็นสัญญาหลักก่อน เพื่อเพิ่มความคุ้มครอง เพราะทั้ง 2 ประกันจะให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกันไป มีรายละเอียดดังนี้
- ความคุ้มครองสำหรับ PWLNP85 (สัญญาหลัก)
- กรณีเสียชีวิตก่อนครบสัญญาจะได้รับเงิน 50,000 บาท หรือเบี้ยประกันภัยหลักที่ชำระมา แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งที่มากกว่า
- กรณีที่ครบ 85 ปี ก็จะได้รับเงิน 50,000 บาท
- ความคุ้มครองสำหรับการประกันสุขภาพ iHealthy (สัญญาเพิ่มเติม) โดยจะมีความคุ้มครองแบ่งออกไปเป็น 5 แผนความคุ้มครอง
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยใน จะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
- ค่าห้องพักผู้ป่วยรวมค่าอาหาร จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 5,200 – 21,000 บาทต่อวัน
- ค่าธรรมเนียมโรงพยาบาล สามารถเบิกได้ตามจริงแต่จะต้องไม่เกินที่กำหนด
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก จะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
- ค่าล้างไต,ค่าเคมีบำบัด,ค่ารังสีบำบัด, ค่าศัลยกรรม,ค่าปรึกษาแพทย์และยา,ค่าวินิจฉัยโดยเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์,ค่าตรวจในห้องปฏิบัติการ เอ็กซ์เรย์ อัลตร้าซาวด์,ค่ากายภาพบำบัด สามารถเบิกได้ตามจริงแต่จะต้องไม่เกินที่กำหนด
- ค่ารักษพยาบาลในส่วนอื่นๆนั้น เช่น ค่ารถพยาบาล, ค่ารักษาทันตกรรมเนื่องจากอุบัติเหต, ค่าทำฟัน, ภาวะแทรกซ้อนก่อนและหลังการคลอดบุตร และ ค่าหออภิบาลทารกแรกเกิด สามารถเบิกได้ตามจริงแต่จะต้องไม่เกินที่กำหนด
- ค่ารักษาพยาบาลสำหรับการตั้งครรภ์และคลอดบุตร จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 40,000 บาทต่อปี ได้เฉพาะกับคนที่เลือกแผน Platinum เท่านั้น
- หากรักษากับแพทย์ทางเลือกก็จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 5,000 – 35,000 บาทต่อปี แต่ในกรณีนี้จะได้เฉพาะกับคนที่เลือกแผน Platinum หรือ Diamond เท่านั้น
- ค่ารักษาด้านจิตเวช จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 5,000 – 200,000 บาทต่อปี แต่ในกรณีนี้จะได้เฉพาะกับคนที่เลือกแผน Platinum หรือ Diamond เท่านั้น
- ค่าตรวจรักษาในการทำฟันนั้น จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 4,000 – 36,000 บาทต่อปี แต่ในกรณีนี้จะได้เฉพาะกับคนที่เลือกแผน Platinum หรือ Diamond หรือ Gold เท่านั้น
- ค่าดูแลรักษาสายตา จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 25,000 บาทต่อปี ได้เฉพาะกับคนที่เลือกแผน Platinum เท่านั้น
- ค่าตรวจสุขภาพประจำปี จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 30,000 บาทต่อปี ได้เฉพาะกับคนที่เลือกแผน Platinum เท่านั้น
- ค่าฉีดวัคซีนจะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 45,000 บาทต่อปี ได้เฉพาะกับคนที่เลือกแผน Platinum เท่านั้น
- ค่ารักษาพยาบาล และการดูแลแบบ ประคับประคองระยะสุดท้าย จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 1,000,000 บาทต่อปี ได้เฉพาะกับคนที่เลือกแผน Platinum เท่านั้น
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยใน จะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
เงื่อนไขการทำประกันประกันสุขภาพ iHealth : สามารถสมัครได้ตั้งแต่อายุ 16ปีจนถึงอายุ 80 ปี และจ่ายเบี้ยประกันภัยจนถึงอายุ 85 ปี ซึ่งได้รับความคุ้มครองจนถึงอายุ 85 ปี
ช่องทางการสมัคร ประกันสุขภาพกรุงไทยแอกซ่า: สมัครได้ที่ตัวแทนขายประกันได้ทั่วประเทศ หรือสมัครง่ายผ่านออนไลน์ คลิกที่นี่ได้เลย https://www.krungthai-axa.co.th/th/ihealthy
อีลิท เฮลท์ สำหรับผู้มีอายุ 18-80 ปี จากเมืองไทยประกันชีวิต
สำหรับคนที่มีประกันชีวิตหลักอยู่แล้วและต้องจะเพิ่มความคุ้มครองในเรื่องของสุขภาพนั้น ขอแนะนำเป็นสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ สำหรับผู้มีอายุ 18-80 ปี ประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก หรือจะในกรณีที่ฉุกเฉินก็หมดห่วงได้เลย และไม่ต้องกังวลว่าหากเจ็บป่วยในขณะที่อยู่ต่างประเทศ เพราะประกันสุขภาพนี้ให้ความคุ้มครองในการรักษาที่ครอบคลุมไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม นอกจากนี้แล้วยังสามารถนำเบี้ยประกันภัยนี้ไปลดหย่อนภาษีตอนปลายปีได้อีกด้วย
แผนความคุ้มครอง : มีให้เลือกด้วยกัน 4 แผน เริ่มต้นที่ทุนประกัน 20,000,000 – 100,000,000 บาท
สิทธิประโยชน์ความคุ้มครอง : โดยมีแผนความคุ้มครองจะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ กรณีที่ให้ความคุ้มครองในการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือกรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก หรือกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หรือการคลอดลูก ซึ่งมีความคุ้มครองต่างๆ ดังนี้
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยใน จะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
- ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการในการรักษาพยาบาลประจำวันต่อวัน วงเงินตั้งแต่ ตั้งแต่ 10,000 – 25,000 บาท แต่ถ้าต้องนอนห้อง C.U ประกันจะจ่ายให้ตามจริงแต่ไม่เกินวงเงินที่กำหนด
- กรณีที่มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าแพทย์ตรวจรักษาในโรงพยาบาลประจำวันและค่าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ, ค่าผ่าตัด, ค่าธรรมเนียมวิสัญญีแพทย์ และ/หรือวิสัญญีพยาบาล, ค่าห้องผ่าตัดและอุปกรณ์ในห้องผ่าตัด, ค่าใช้จ่ายสำหรับการปลูกถ่ายอวัยวะ จะจ่ายให้ตามจริงแต่จะต้องไม่เกินวงเงินที่กำหนด
- ค่าห้องพักในโรงพยาบาลสำหรับคุณพ่อหรือคุณแม่ ประกันจะจ่ายให้อยู่ที่วงเงินตั้งแต่ 5,000 บาท แต่จะได้เฉพาะคนที่เลือกทำประกันแผนที่ 2 – 4 เท่านั้น
- ค่าฟื้นฟูสภาพ ประกันจะจ่ายตามจริงแต่ไม่เกินวงเงินที่กำหนด แต่จะได้เฉพาะคนที่เลือกทำประกันแผนที่ 2 – 4 เท่านั้น
- ค่ารักษาทางจิตเวช ประกันจะจ่ายให้อยู่ที่วงเงินตั้งแต่ 75,000 – 400,000 บาท แต่จะได้เฉพาะคนที่เลือกทำประกันแผนที่ 3 – 4 เท่านั้น
- ค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่องหลังจากออกจากโรงพยาบาล ประกันจะจ่ายให้อยู่ที่วงเงินตั้งแต่ 3,000 – 5,000 บาท แต่จะได้เฉพาะคนที่เลือกทำประกันแผนที่ 2 – 4 เท่านั้น
- กรณีที่จำต้องรักษาแบบฉุกเฉิน จะได้รับความคุ้มครอง ค่าธรรมเนียมรถพยาบาล,ค่าทำฟันที่มาจากสาเหตุการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ,ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุภายใน 24 ชั่วโมง ขณะเป็นผู้ป่วยนอก และค่าบริการการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ ซึ่งประกันจะจ่ายให้ตามจริงแต่ไม่เกินวงเงินที่กำหนด
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก จะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
- จ่ายค่าธรรมเนียมปรึกษาแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปหรือแพทย์เฉพาะทางรวมไปถึงค่าวินิจฉัยและค่ายา ประกันจะจ่ายให้อยู่ที่วงเงินตั้งแต่ 2,500 – 5,000 บาท แต่จะได้เฉพาะคนที่เลือกทำประกันแผนที่ 2 – 4 เท่านั้น
- หากมีการรักษากับแพทย์ทางเลือกด้วยการฝังเข็ม ธรรมชาติบำบัดกระดูกและกล้ามเนื้อบำบัด และการจัดกระดูก ประกันจะจ่ายให้อยู่ที่วงเงินตั้งแต่ 10,000 – 40,000 บาท แต่จะได้เฉพาะคนที่เลือกทำประกันแผนที่ 3 – 4 เท่านั้น
- หากจะต้องมีการทำกายภาพบำบัด จะก็สามารถเบิกได้ แต่จะได้เฉพาะคนที่เลือกทำประกันแผนที่ 3 – 4 โดยจะจ่ายให้ตามจริงแต่จะไม่เกินวงเงินที่กำหนด
- ค่าภาพวินิจฉัยขั้นสูง เช่นการตรวจเอ็กซ์เรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือที่เรียกว่าการทำ MRI รวมไปถึงการรักษาโรคมะเร็ง การให้เคมีบำบัดการรักษาแบบออกฤทธิ์จำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง (Targeted Therapy) และรังสีบำบัด และค่าล้างไต ประกันจะจ่ายให้ตามจริงแต่จะไม่เกินวงเงินที่กำหนด
- กรณีคลอดบุตร จะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
- การคลอดลูกไม่ว่าจะคลอดด้วยวิธีธรรมชาติ หรือผ่าคลอด ก็สามารถขอเบิกได้ ซึ่งวงเงินจะอยู่ที่ 90,000 – 150,000 บาท แต่จะเบิกได้เฉพาะคนที่เลือกทำประกันแผนที่ 3 – 4 เท่านั้น
- กรณีที่มีค่าใช้จ่ายสำหรับการถ่างขยายปากมดลูกและการขูดมดลูกกรณีแท้งบุตร หรือ เกิดภาวะแทรกซ้อนในขณะที่ตั้งครรภ์และหลังคลอดบุตร จะเบิกได้เฉพาะคนที่เลือกทำประกันแผนที่ 3 – 4 โดยจะจ่ายให้ตามจริงแต่จะไม่เกินวงเงินที่กำหนด
- กรณีค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ สามารถเบิกได้เฉพาะคนที่เลือกทำประกันแผนที่ 3 – 4 เท่านั้น และจะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้ค่ะ
- การตรวจสุขภาพประจำปี วงเงินไม่เกิน 5,000 – 10,000 บาทต่อปี
- ค่าฉีดวัคซีน วงเงินไม่เกิน 4,000 – 6,000 บาทต่อปี
- ค่าทำฟัน วงเงินไม่เกิน 10,000 – 15,000 บาทต่อปี
- ค่ารักษาทางสายตา วงเงินไม่เกิน 5,000 – 7,500 บาทต่อปี
เงื่อนไขการทำประกันสุขภาพอีลิท เฮลท์ สำหรับผู้มีอายุ 18-80 ปี : สามารถทำประกันได้ตั้งแต่อายุ 18 ปี จนถึงอายุ 80 ปี โดยจะเป็นการจ่ายเบี้ยประกันแบบปีต่อปี และจ่ายเบี้ยประกันได้ทั้งแบบรายเดือน ราย 3 เดือน ราย 6 เดือน หรือรายปี
ช่องทางการสมัคร : สมัครได้ที่ตัวแทนขายประกันได้ทั่วประเทศ หรือสมัครง่ายผ่านออนไลน์ คลิกที่นี่ได้เลย https://www.muangthai.co.th/product/detail/elite-health
ประกันสุขภาพแผนเพอร์ซันนัลแคร์ จากเอ็ทน่า
อยากมีประกันสุขภาพแต่ไม่ต้องการที่ทำประกันชีวิต ต้องเลือกนี้เลยประกันสุขภาพแผนเพอร์ซันนัลแคร์ จากเอ็ทน่า ประกันสุขภาพที่พร้อมกับความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุควบคู่กัน ที่ช่วยทำให้หมดห่วงไม่ต้องกังวลใจ ไม่ว่าจะเจ็บป่วยกี่ครั้งเบิกได้หมด ด้วยวงเงินที่สูงถึง 500,000 บาทต่อครั้งเลย แถมยังช่วยทำให้ลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้อีกด้วย และยังมีแผนความคุ้มครองให้เลือกที่หลากหลาย เริ่มต้นความคุ้มครองอยู่ที่ 300,000 บาท หรือจะเลือกแผนคุ้มครองสูงสุด 600,000 บาท ไม่เพียงเท่านั้นยังครอบคลุมหากเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุเมื่อเกิดเหตุที่ต่างประเทศได้อีกด้วย
แผนความคุ้มครอง : มีให้เลือกด้วยกัน 4 แผน เริ่มต้นที่ทุนประกัน 300,000 – 600,000 บาท
สิทธิประโยชน์ความคุ้มครองจากประกันสุขภาพแผนเพอร์ซันนัลแคร์ จากเอ็ทน่า
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยใน จะได้รับความคุ้มครองในการรักษาพยาบาลต่อครั้งเริ่มตั้งแต่ 300,000 – 600,000 บาท
- ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการในการรักษาพยาบาลประจำวันต่อวัน วงเงินตั้งแต่ ตั้งแต่ 1,400 – 5,000 บาท แต่ถ้าต้องนอนห้อง C.U จะเพิ่มเงินคุ้มครองเป็น 2 เท่า
- ค่ารักษาพยาบาลสำหรับโรคทั่วไป วงเงินคุ้มครองตั้งแต่ 16,000 – 50,000 บาท
- ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน วงเงินคุ้มครองตั้งแต่ 2,200 – 7,000 บาท
- กรณีที่มีความจำเป็นจะต้องใช้รถพยาบาล ประกันก็ให้เบิกได้อยู่ที่ 1,000 บาท
- กรณีที่จะต้องมีการผ่าตัด จะเบิกค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัด รวมถึงค่าปรึกษาแพทย์ก่อนการผ่าตัด วงเงินคุ้มครองตั้งแต่ 22,000 – 70,000 บาท
- กรณีที่นอนโรงพยาบาลแพทย์จะต้องมาตรวจอาการ ก็จะมีค่าใช้จ่ายแพทย์เยี่ยมก็จะสามารถเบิกได้ตั้งแต่ 300 – 1,200 บาท
- ในกรณีที่ค่ารักษาพยาบาลสูงนั้น ก็จะได้รับเงินชดเชยเพิ่มเติมให้อีก ของค่าใช้จ่ายส่วนเกินผลประโยชน์ของค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยใน แต่อย่างไรก็จะต้องไม่เกินวงเงินความคุ้มครองของแต่ละแผน
- กรณีที่เกิดอุบัติเหตุ จะได้รับความคุ้มครองเริ่มตั้งแต่ 20,000 – 100,000 บาทต่อปี
เงื่อนไขการทำประกันสุขภาพแผนเพอร์ซันนัลแคร์ จากเอ็ทน่า : สามารถทำประกันได้ตั้งแต่อายุ 15 วันจนถึงอายุ 65 ปี
ช่องทางการสมัครประกันสุขภาพจากเอ็ทน่า : สมัครได้ที่ตัวแทนขายประกันได้ทั่วประเทศ หรือสมัครง่ายผ่านออนไลน์ คลิกที่นี่ได้เลย https://www.aetna.co.th/th/individuals/health-insurance/individual/detail.aspx?iid=2#.W6yMRnszaM8
ประกันสุขภาพ ทีเอ็มบี เบิกเต็มแม็กซ์
อยากหมดห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลต้องสมัครนี้เลย ประกันสุขภาพ ทีเอ็มบี เบิกเต็มแม็กซ์ ที่ให้เบิกค่ารักษาพยาบาลได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเจ็บป่วยกี่ครั้งก็จ่ายให้หมด แถมยังสมัครก็ง่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ แถมเงื่อนไขก็ไม่จุกจิกอีกด้วย และที่สำคัญความคุ้มครองในการรักษาพยาบาลก็มีวงเงินสูงถึง 300,000 บาท และยังสามารถนำเบี้ยประกันภัยไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
แผนความคุ้มครองประกันสุขภาพ ทีเอ็มบี เบิกเต็มแม็กซ์ : มีให้เลือกด้วยกัน 2 แผน ทุนประกัน 300,000 บาท แต่ความคุ้มครองของทั้งสองแผนจะแตกต่างกันก็คือ แผน 1 คุ้มครองผู้ป่วยใน (IPD) และแผน 2 คุ้มครองผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก (IPD+OPD)
สิทธิประโยชน์ความคุ้มครอง : โดยมีแผนความคุ้มครองจะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ กรณีที่ให้ความคุ้มครองในการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือกรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก หรือกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หรือการคลอดลูก ซึ่งมีความคุ้มครองต่างๆ ดังนี้
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยใน จะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
- ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการในการรักษาพยาบาลประจำวันต่อวัน จะให้ตามจริงสูงสุดอยู่ที่ 3,000 บาท แต่ถ้าต้องนอนห้อง C.U จะเพิ่มเงินคุ้มครองเป็น 2 เท่า
- ค่ารักษาพยาบาลสำหรับโรคทั่วไป จ่ายให้ตามจริงแต่ไม่เกินวงเงินที่กำหนด
- ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน จ่ายให้ตามจริงแต่ไม่เกินวงเงินที่กำหนด
- กรณีที่เกิดอุบัติเหตุจนทำให้กระดูกแตกหัก จะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินวงเงินที่กำหนด
- กรณีที่มีความจำเป็นจะต้องใช้รถพยาบาล ประกันก็ให้เบิกได้อยู่ที่ 1,000 บาท
- กรณีที่จะต้องมีการผ่าตัด จะเบิกค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัด รวมถึงค่าปรึกษาแพทย์ก่อนการผ่าตัด จ่ายให้ตามจริงแต่ไม่เกินวงเงินที่กำหนด
- กรณีที่นอนโรงพยาบาลแพทย์จะต้องมาตรวจอาการ ก็จะมีค่าใช้จ่ายแพทย์เยี่ยมก็จะจ่ายให้ตามจริงแต่ไม่เกินวงเงินที่กำหนด
- ในกรณีที่จะต้องมีการปลูกถ่ายไขกระดูก การเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ หรือฟอกไต ประกันจะจ่ายให้ตามจริงแต่ไม่เกินวงเงินที่กำหนด
- กรณีที่เกิดอุบัติเหตุ จะได้รับความคุ้มครองเริ่มตั้งแต่ 300,000 บาทต่อปี
- กรณีที่ไม่ได้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล จะเบิกได้ 1,000 บาทต่อครั้ง แต่จะต้องไม่เกิน 30 วันต่อปี และคุ้มครองเฉพาะคนที่เลือกแผน 2 เท่านั้น
เงื่อนไขการทำประกันสุขภาพ ทีเอ็มบี เบิกเต็มแม็กซ์ : สามารถทำประกันได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือนจนถึงอายุ 70 ปี
ช่องทางการสมัครประกันสุขภาพทีเอ็มบี : สมัครได้ที่ธนาคาร TMB ทุกสาขา ทั่วประเทศ หรือสมัครง่ายผ่านออนไลน์ คลิกที่นี่ได้เลย https://www.tmbbank.com/insurance/nonlife-insurance/health-care-max.html
ประกันสุขภาพ ไพร์ม โพรเทคชั่น จากธนาคารไทยพาณิชย์
ประกันสุขภาพที่ครอบคลุมเรื่องสุขภาพแบบครบวงจรไม่ว่าจะเป็นเรื่องเจ็บป่วยก็หมดกังวล ยามที่เกิดอุบัติเหตุก็คุ้มครอง แม้ว่าจะเป็นโรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็งก็จะได้รับการดูแลรักษาที่ดี ด้วยวงเงินการคุ้มครองที่สูง และยังพร้อมกับแผนประกันสุขภาพถึง 4 แผนด้วยกัน แต่ประกันสุขภาพนี้ก็จะมีข้อจำกัดในการสมัครเฉพาะลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์เท่านั้น
แผนความคุ้มครองประกันสุขภาพธนาคารไทยพาณิชย์ : มีให้เลือกด้วยกัน 4 แผน เริ่มต้นที่ทุนประกัน 2,000,000 – 5,000,000 บาท
สิทธิประโยชน์ความคุ้มครองจากประกันสุขภาพ ไพร์ม โพรเทคชั่น : โดยมีแผนความคุ้มครองจะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ กรณีที่ให้ความคุ้มครองในการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หรือป่วยเป็นโรคมะเร็ง ซึ่งมีความคุ้มครองต่างๆ ดังนี้
- กรณีที่เสียชีวิต หรือจะต้องสูญเสียอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย เช่น สายตา หรือจะต้องทุพพลภาพแบบถาวรสิ้นเชิง ไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากการเกิดอุบัติเหตุโดยทั่วไป จะได้ความคุ้มครองตั้งแต่ 2,000,000 – 5,000,000 บาท
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยใน จะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
- หากเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ จนทำให้ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล จะได้รับความคุ้มครองด้วยวงเงินตั้งแต่ 1,000,000 – 2,500,000 บาท
- กรณีที่นอนโรงพยาบาลจะต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าอาหาร ค่าผ่าตัด ค่าแพทย์ที่จะต้องมาดูแล ค่าบริการพยาบาล ค่าในการรักษาพยาบาล รวมไปถึงบริการต่างๆที่จะเกิดขึ้น ประกันจะจ่ายให้ตามจริงแต่จะต้องไม่เกินวงเงินที่กำหนด
- กรณีที่ตรวจพบเป็นโรคมะเร็งระยะลุกลาม จะได้เงินคุ้มครองตั้งแต่ 300,000 – 1,000,000 บาท
ทั้งนี้ ในการรักษาพยาบาลในแต่ละครั้งนั้น ผู้ที่ทำประกันสุขภาพจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้ในส่วนแรกของการรักษาในแต่ละครั้งเป็นเงิน 10,000 บาท และสำหรับค่าห้อง ค่าอาหาร นั้นจะต้องไม่เกินวันละ 3,000 – 10,000 บาท แต่ถ้านอนรักษาตัวที่ห้อง I.C.U นั้นก็จะได้รับค่าห้องอยู่ที่วันละ 6,000 บาท
เงื่อนไขการทำประกันประกันสุขภาพ ไพร์ม โพรเทคชั่น : สามารถทำประกันได้ตั้งแต่อายุ 20 ปีจนถึงอายุ 60 ปี และที่สำคัญจะต้องลูกค้า SCB Prime หรือ SCB first หรือ Private Banking เท่านั้น
ช่องทางการสมัครประกันสุขภาพ SCB : สมัครได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสมัครง่ายผ่านออนไลน์ คลิกที่นี่ได้เลย https://csc.scb.co.th/webclient1/email.jsp?language=th%20
ประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์ จากไทยวิวัฒน์
ประกันสุขภาพที่คุ้มครองทั้งเรื่องของการเจ็บป่วย จะหนัก จะเบา ก็คุ้มครองได้หมด ไม่เพียงเท่านี้ยังควบคู่ไปกับความคุ้มครองเรื่องของอุบัติเหตุ เพราะชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน โดยประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์ จะครอบคลุมทุกการรักษาเริ่มตั้งแต่ ค่ารักษาพยาบาล , ค่าธรรมเนียมแพทย์, การตรวจสุขภาพประจำปี ครอบคลุมไปถึงค่าห้องผู้เฝ้าไข้ ด้วยวงเงินที่สูง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในทุกค่ารักษาพยาบาล กับแผนประกันภัยสุขภาพหลายรูปแบบ และไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหนก็สมัครได้ทั้งนั้น
แผนความคุ้มครอง : มีให้เลือกด้วยกัน 6 แผน เริ่มต้นที่ทุนประกัน 150,000 – 8,000,000 บาท
สิทธิประโยชน์ความคุ้มครองจากประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยใน จะเบิกค่ารักษาพยาบาล จะได้รับความคุ้มครองด้วยวงเงินตั้งแต่ 150,000 – 8,000,000 บาท
- ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการในการรักษาพยาบาลประจำวันต่อวัน จะได้รับความคุ้มครองด้วยวงเงินตั้งแต่ 1,000 – 12,000 บาท แต่ถ้าต้องนอนห้อง C.U จะเพิ่มเงินขึ้นแล้วแต่ละแผนความคุ้มครอง
- สำหรับค่ารักษาพยาบาลทั่วไป เช่น ค่ายา ค่าทำแผล ค่าเอ็กซ์เรย์ ค่าตรวจโรค ในห้องแล็ป ค่ากายภาพบำบัด ค่าห้องผ่าตัด ค่ารักษาพยาบาล จะได้รับความคุ้มครองด้วยวงเงินตั้งแต่ 12,000 บาท หรือจ่ายเต็มจำนวนที่จ่ายไปจริง
- กรณีรักษาพยาบาลแบบฉุกเฉิน หรือเกิดอุบัติเหตุที่จะต้องรักษาตัวภายใน 24 ชั่วโมง จะได้รับความคุ้มครองด้วยวงเงินตั้งแต่ 5,000 บาท หรือจ่ายเต็มจำนวนที่จ่ายไปจริง
- การปลูกถ่ายอวัยวะ หรือการฟอกไต จะได้รับความคุ้มครองด้วยวงเงินตั้งแต่ 30,000 – 1,000,000 บาท
- ค่าธรรมเนียมแพทย์ในการผ่าตัด และรวมไปถึงค่าปรึกษาแพทย์ในการผ่าตัด จะได้รับความคุ้มครองด้วยวงเงินตั้งแต่ 20,000 บาท หรือจ่ายเต็มจำนวนที่จ่ายไปจริง
- กรณีที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลและมีแพทย์มาตรวจอาการ สามารถเบิกได้ตั้งแต่ 500 บาท หรือจ่ายเต็มจำนวนที่จ่ายไปจริง
- หากมีความจำเป็นที่ต้องปรึกษาแพทย์ สามารถเบิกได้ตั้งแต่ 2,000 บาท หรือจ่ายเต็มจำนวนที่จ่ายไปจริง
- คุ้มครองทุกการรักษาพยาบาลทั่วโลก ที่เกิดขึ้นจากการบาดเจ็บซึ่งมีสาเหตุมาจากการเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น
- กรณีที่เคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นการย้ายโรงพยาบาล หรือจะย้ายกลับไปรักษาตัวที่บ้าน รวมไปถึงการเคลื่อนย้ายศพด้วยค่ะ จะได้รับความคุ้มครองด้วยวงเงินตั้งแต่ 500,000 บาท หรือจ่ายเต็มจำนวนที่จ่ายไปจริง และถ้าเป็นการเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศนั้น จะได้เฉพาะคนที่ซื้อประกันสุขภาพแผน 5 – 6 เท่านั้น
- ตรวจสุขภาพได้ 1 ครั้งต่อปี สามารถเบิกได้ตั้งแต่ 300 – 8,000 บาท
- คุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ก็จะได้รับความคุ้มครองตั้งแต่ 100,000 – 500,000 บาท
- กรณีที่มีคนเฝ้าไข้ สามารถเบิกได้ตั้งแต่ 500 – 1,000 บาท
- รับเงินชดเชยในกรณีที่คุณจะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่คุณไม่ได้ใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาล ก็จะได้รับเป็นเงินแทน สามารถเบิกได้ตั้งแต่ 500 – 2,000 บาท
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก โดยจะแบ่งเป็น 2 แบบ แบบสแตนดาร์ต จะได้รับความคุ้มครองตั้งแต่ 400 – 50,000 บาท แต่ถ้าแบบเดอลุกซ์ จะได้รับความคุ้มครองตั้งแต่ 600 – 75,000 บาท
เงื่อนไขการทำประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์ : สามารถทำประกันได้ตั้งแต่อายุ 21 ปีจนถึงอายุ 60 ปี สามารถเลือกจ่ายเบี้ยประกันภัยได้ทั้งแบบรายเดือนหรือรายปี และที่สำคัญคือไม่ต้องตรวจสุขภาพ แต่จะต้องตอบคำถามสุขภาพ
ช่องทางการสมัคร : สมัครได้ที่ตัวแทนขายประกันได้ทั่วประเทศ หรือสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.thaivivat.co.th/th/products_health.php?utm_source=tvi&utm_medium=btn_home&utm_campaign=Health#nogo
ประกันสุขภาพ กรุงศรี กู๊ด เฮลธ์ จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ประกันสุขภาพที่ทำให้หมดห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายค่าหมอ ค่ายา ค่าผ่าตัด ด้วยการคุ้มครองที่เหมาจ่ายตามจริง ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ จะเป็นผู้ป่วยในหรือผู้ป่วยนอกก็คุ้มครองหมด แถมยังครอบคลุมทุกที่ทั่วโลก และยังมีแผนความคุ้มครองให้เลือกด้วยกันถึง 3 แผน จ่ายเบี้ยประกันเพียงแค่หลักหมื่นเท่านั้น แต่รับความคุ้มครองไปเต็มๆ สูงถึงล้านหลักเลย
แผนความคุ้มครองประกันสุขภาพ : มีให้เลือกด้วยกัน 3 แผน เริ่มต้นที่ทุนประกัน 1,000,000 – 3,000,000 บาท
สิทธิประโยชน์ความคุ้มครองจากประกันสุขภาพ กรุงศรี กู๊ดเฮลธ์
- กรณีเสียชีวิตทั้งมาจากสาเหตุการเจ็บป่วย หรือจากอุบัติเหตุ คุ้มครองสูงสุด 100,000 บาททุกแผนความคุ้มครอง
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยใน จะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
- ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาลประจำวัน ต่อวันต่อการเข้าพักรักษาต่อครั้ง จะได้รับความคุ้มครองด้วยวงเงินตั้งแต่ 1,000 – 3,000 บาท แต่ถ้าต้องนอนห้อง C.U จะเพิ่มเป็น 2 เท่า
- ค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ ในโรงพยาบาล เช่น ค่ายา หรือค่าสารอาหารทางเส้นเลือก ค่าบริการโลหิตและส่วนประกอบของโลหิต หรือจะเป็นค่าใช้จ่ายในการใช้หรือบริการอุปกรณ์ต่างๆทางการแพทย์ ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ที่จะต้องคอยดูแลในแต่ละวัน ค่ารถพยาบาล ค่าห้องผ่าตัด อุปกรณ์ต่างๆที่จะต้องใช้ในการผ่าตัด รวมไปถึงค่าแพทย์ผ่าตัดและหัตถการค่าธรรมเนียมวิสัญญีแพทย์ หรือวิสัญญีพยาบาล ค่ายากลับบ้าน และค่าบริการในการทำกายภาพบำบัด เป็นต้น ประกันจะจ่ายให้ตามจริง แต่วงเงินนั้นจะต้องไม่เกิน 100,000 – 300,000 บาท
- กรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก จะได้รับค่ารักษาพยาบาลไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด หรือค่ารักษาพยาบาลยามฉุกเฉิน ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจะต้องรักษาภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากเกิดอุบัติเหตุ รวมไปถึงค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยา ประกันจะจ่ายให้ตามจริง แต่วงเงินนั้นจะต้องไม่เกิน 100,000 – 300,000 บาท
อัตราเบี้ยประกันสุขภาพ กรุงศรี กู๊ดเฮลธ์: ประกันสุขภาพ กรุงศรี กู๊ด เฮลธ์ จะมีให้เลือกด้วยกัน 3 แผน และสามารถเลือกระยะเวลาในการคุ้มครองได้เอง เริ่มต้นที่ 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี โดยมีรายละเอียดดังนี้
- เลือกระยะเวลาความคุ้มครอง 10 ปี เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ 9,053 / 12,353 / 19,453 บาทต่อปี
- เลือกระยะเวลาความคุ้มครอง 20 ปี เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ 9,114 / 12,414 / 19,514 บาทต่อปี
- เลือกระยะเวลาความคุ้มครอง 30 ปี เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ 9,254 / 12,554 / 19,654 บาทต่อปี
เงื่อนไขการทำประกันสุขภาพ กรุงศรี กู๊ดเฮลธ์ : สามารถทำประกันได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน 1 วันจนถึงอายุ 70 ปี ทั้งนี้อายุในการรับทำประกันขึ้นอยู่กับระยะเวลาการเลือกทำประกันอีกด้วย และสามารถเลือกจ่ายทั้งรายเดือน ราย 3 เดือน ราย 6 เดือน หรือจะจ่ายรายปี
ช่องทางการสมัครประกันสุขภาพกรุงศรี : สมัครได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา ทั่วประเทศ หรือสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.krungsri.com/bank/th/PersonalBanking/BancassuranceProducts/KrungsriBancassuranceordinaryLife/good-health.html
สัญญาเพิ่มเติมกลุ่มโรคร้ายแรง (ECIR) จาก AIA
ประกันสุขภาพที่ทำให้อุ่นใจมากเพิ่มขึ้นด้วยความคุ้มครองโรคร้ายแรงสูงถึง 44 โรค และเมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายแรงไม่ว่าจะเป็นระยะไหน ขั้นที่เท่าไร ก็ได้รับเงินก้อนทันที เพื่อไปรักษาตัว รวมถึงทำให้เป็นการสร้างหลักประกันให้ครอบครัวได้อีกด้วย และยังให้ความคุ้มครองจนถึงอายุ 80 ปีเลย
สิทธิประโยชน์ความคุ้มครอง
- กลุ่มโรคมะเร็งและเนื้องอก ได้แก่ โรคมะเร็ง และโรคเนื้องอกในสมอง ชนิดที่ไม่ใช่มะเร็งค่ะ
- กลุ่มโรคระบบหัวใจ ระบบหายใจ และระบบการไหลเวียนโลหิต ได้แก่ โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายครั้งแรกจากการขาดเลือด, โรคกล้ามเนื้อหัวใจ, ผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ, ผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ, ผ่าตัดเส้นเลือดแดงใหญ่, โรคความดันหลอดเลือกแดงปอดสูง, โรคปอดระยะสุดท้าย และโรคโลหิตจางจากไขกระดูกไม้สร้างเม็ดโลหิต
- กลุ่มโรคหลอดเลือดสมอง ระบบประสาท/กล้ามเนื้อ และภาวะติดเชื้อ ได้แก่ ความบกพร่องทางระบบประสาทอันเนื่องมาจากความผิดปกติของหลอดเลือดสมอง, ผ่าตัดสมองเนื่องจากโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง, สลบหรือหมดความรู้สึก, โรคสมองเสื่อม, โรคเยื้อหุ้มสมองและไขสันหลังอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย, สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส, โรคระบบประสาทพาร์กินสัน, โรคระบบประสาทมัลติเพิลสะเคลอโรลิส, โรคเซลล์ประสาทยนต์, โรคภาระสมองใหญ่ไม่สามารถควบคุมการทำงานของร่ายการตามปกติอย่างถาวร, อัมพาต, โปลิโอ และโรคกล้ามเสื่อม
- กลุ่มโรคเกี่ยวกับอวัยวะและระบบการทำงานที่สำคัญ ได้แก่ การปลูกถ่ายอวัยวะ, ตับวาย, ไวรัสตับอักเสบชนิดรุนแรง, ภาวะตับอักเสบที่กลับเป็นซ้ำและเรื้อรัง, ไตวาย, โรคลำไส้อักเสบเป็นแผล,โรคแพ้ภูมิตัวเองชนิดซิสเต็มมิค ลูปุส อิริเธมาโตซูส, โรคเนื้อเยื่อพังผิดอักเสบติดเชื้อและเป็นเนื้อตาย,โรคเท้าช้าง และภาวะข้ออักเสบรูมาตอยชนิดรุนแรง
- กลุ่มภาวะติดเชื้อ การบาดเจ็บร้ายแรงและภาวะทุพพลภาพ ได้แก่ การได้รับบาดเจ็บที่ศรีษะแบบรุนแรง, แผลที่เกิดจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก, การฉีกขาดหลายรากของข่ายประสาท, การสูญเสียการดำรงชีพอย่างอิสระ, ทุพพลภาพอย่างถาวร, ตาบอด และเป็นใบ้ ไม่สามารถพูดได้
- กลุ่มโรคร้ายแรงสำหรับผู้เยาว์ คุ้มครองผู้เอาประกันภัยตั้งแต่อายุ 1 เดือน – 16 ปี ได้แก่ โรคคาวาซากิที่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนของหัวใจ, โรคไข้รูห์มาติกที่ทำให้หัวใจผิดปกติ, โรคเบาหวาน ชนิดที่จะต้องอินซูลิน และโรคน้ำไขสันหลังในสมองมาก ซึ่งเกิดภายหลังและจะต้องใส่ท่อระบาย
เงื่อนไขการทำประกันสุขภาพ : สามารถทำประกันได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน จนถึงอายุ 70 ปี และจะต้องจ่ายเบี้ยประกันเป็นรายปี
ช่องทางการสมัคร : สมัครได้ที่ตัวแทนขายประกันได้ทั่วประเทศ หรือสมัครง่ายผ่านออนไลน์ คลิกที่นี่ได้เลย https://www.aia.co.th/th/our-products/critical-illness-protection/ecir.html#leads-form
การเลือกทำประกันสุขภาพเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ที่นับวันจะยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ จะดีกว่าไหมถ้ามีประกันสุขภาพดีๆไว้สักกรมธรรม์ เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าคิดว่าสุขภาพแข็งแรงดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำประกันสุขภาพหรอ เดี๋ยวจะกลายเป็นคนที่ทำงานหนักหาเงินได้มากเท่าไรก็หมดไปกับการค่ารักษาพยาบาล มีหลายคนที่เก็บเงินก้อนไว้เพื่อที่จะได้ใช้ในยามเกษียณ แต่สุดท้ายก็ไปหมดกับค่ารักษาพยาบาล หากเพื่อนๆคนไหนที่พอจะมีกำลังจ่ายค่าเบี้ยประกันภัย เราขอแนะนำว่าควรไว้สัก 1 กรมธรรม์ เพื่อที่จะได้ลดภาระค่าใช้จ่าย แถมยังนำเบี้ยประกันภัยมาลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย และหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับประกันสุขภาพมากกว่านี้ เข้าไปอ่านได้ที่เว็บไซต์ iMoney.in.th ได้เลย เรารวบรวมข้อมูลสาระประโยชน์น่ารู้มากมายเกี่ยวกับประกันภัยทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ ประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ รวมไปถึงประกันรถยนต์ก็มีให้ได้เลือกอ่านกันด้วยค่ะ
รวบรวม 20 คำถาม คำตอบ ที่น่าสนใจที่เกี่ยวกับการทำประกันสุขภาพ
ประกันสุขภาพ คืออะไร
การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองในกรณีที่เจ็บป่วยจากโรคภัยหรือได้รับบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุ จนทำให้ผู้ที่ทำประกันภัยนั้นจะต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และไม่ว่าจะในกรณีที่นอนโรงพยาบาล หรือไม่นอนโรงพยาบาลก็ตาม ทางบริษัทประกันภัยจะเป็นรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นในการรักษาพยาบาล เช่น ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการในการรักษาพยาบาล ค่าแพทย์ เป็นต้น
ประกันสุขภาพ มีกี่ประเภท
ประกันสุขภาพนั้น จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักคือ ประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ แบบรายบุคคล และประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ แบบหมู่ โดยทั้งสองประเภทนี้จะให้ความคุ้มครองที่เหมือนๆกัน
ประกันสุขภาพจะให้ความคุ้มครองในเรื่องอะไรบ้าง
ประกันสุขภาพจะให้ความคุ้มครองก็ต่อเมื่อเจ็บป่วยจากโรคภัย หรือได้รับบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุ จนทำให้จะต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยประกันสุขภาพนั้นจะคุ้มครองทั้งหมด 7 อย่าง ดังนี้
1. ค่าห้องพักในโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นห้องธรรมดา หรือ I.C.U ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล ค่าบริการอื่นๆ รวมถึงค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินที่เกิดจากการอุบัติเหตุ
2. ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการผ่าตัด รวมถึงค่าที่ปรึกษาทางการแพทย์เฉพาะทางก่อนการผ่าตัด
3. ค่าใช้จ่ายในการดูแลโดยแพทย์ของโรงพยาบาลในแต่ละวัน
4. กรณีที่เจ็บป่วย หรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย ไม่ได้อยู่รักษาตัวในโรงพยาบาล หรือที่เรียกกันว่า ผู้ป่วยนอก นั้นจะให้รับความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
5. การคลอดบุตร ซึ่งให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
6. การรักษาฟัน อันเนื่องมาจากการเกิดอุบัติเหตุ
7. กรณีที่จะต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล จนทำให้ไม่สามารถไปทำงานได้ จะได้รับเงินค่าชดเชยการขาดรายได้
เบี้ยประกันภัยขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง
การคำนวณค่าเบี้ยประกันภัยนั้น หลักๆก็จะมีเพียงไม่กี่ปัจจัยหลักๆอยู่ 5 ประการ มีดังนี้
1. อายุของผู้ทำประกันภัย หากมีอายุที่มากขึ้นก็ย่อมมีความเสี่ยงของโรคภัยต่างๆ ได้มากกว่าคนที่อายุน้อยกว่า และยิ่งถ้าคนที่อายุมากกว่าได้รับอุบัติเหตุด้วยนั้นก็ยิ่งทำให้การรักษาร่างกายจะต้องใช้ระยะเวลาที่นานกว่า ฉะนั้นแน่นอนว่าอายุน้อยเท่าไรเบี้ยประกันภัยก็ยิ่งจะถูกลง
2. เพศ ความแข็งแรงของร่างกายระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายย่อมมีความแตกต่างกัน ก็อาจจะทำให้ผู้หญิงจะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยที่สูงกว่า
3. สุขภาพ แน่นอนทำประกันสุขภาพนั้น เรื่องของสุขภาพก็ย่อมเป็นหนึ่งในปัจจัยในการคำนวณเบี้ยประกันภัยด้วย โดยจะดูจากประวัติที่เกี่ยวกับสุขภาพและการรักษาพยาบาล ว่าที่ผ่านมาเคยมีประวัติการเจ็บป่วยที่รุนแรง หรือมีโอกาสที่จะได้รับการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยร้ายแรง หรือได้รับผลกระทบจนทุพพลภาพเป็นเวลานานในอนาคต รวมไปถึงโรคประจำตัวอีกด้วย
4. อาชีพ การทำงานในแต่ละอาชีพก็ย่อมมีความเสี่ยงที่แตกต่างกันไป อาชีพที่มีความเสี่ยงมากเท่าไรก็จะยิ่งทำให้เบี้ยประกันภัยสูง เช่น อาชีพมอเตอร์ไซด์รับจ้าง หรือช่างก่อสร้าง หรือช่างต่างๆ เป็นต้น
5. การดำเนินชีวิต การใช้ชีวิตประจำวันว่ามีพฤติกรรมอย่างไรที่อาจจะส่งผลต่อสุขภาพได้หรือไม่ เช่น เป็นคนที่ชอบดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ หรือเป็นคนที่รักสุขภาพชอบออกกำลังกาย เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล่ะที่จะมาเป็นตัวกำหนดค่าเบี้ยประกันภัย ฉะนั้นการทำประกันสุขภาพ ยิ่งอายุน้อยก็ยิ่งดีเพราะจะจ่ายเบี้ยประกันภัยที่ถูก
ข้อยกเว้นในการคุ้มครองของประกันสุขภาพ
การยกเว้นความคุ้มครองของประกันสุขภาพนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันภัย แต่โดยทั่วไปแล้ว ก็จะไม่คุ้มครองในกรณีที่ต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยสาเหตุไม่ได้มาจากการเจ็บป่วยด้วยโรคภัย หรือการเกิดอุบัติเหตุ แต่สาเหตุมาจาก การทำศัลยกรรม เช่น การเสริมหน้าอก ทำจมูก หรือทำหมัน หรือลดความอ้วน หรือการรักษาโรคประสาท หรือกามโรค หรือการติดยา และการตรวจสายตา เป็นต้น
ทำประกันสุขภาพจำเป็นจะต้องตรวจสุขภาพด้วยหรือไม่
ไม่จำเป็นเสมอไป โดยประกันสุขภาพส่วนใหญ่นั้นจะมีแรงจูงใจในการสมัครโดยที่ไม่ต้องตรวจสุขภาพ หรือไม่ต้องตอบปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ แต่ถ้าผู้ที่ประกันภัยนั้นรู้ตัวอยู่แล้วว่ามีโรคประจำตัวอะไรบ้าง หรือเคยผ่านการรักษาพยาบาลมาบ้างก็ควรจะแจ้งก่อนในการทำประกันสุขภาพ ไม่งั้นพอถึงเวลาแล้วอาจจะกลายเป็นช่องโหว่ที่ทำให้บริษัทประกันภัยไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทนได้
หากตอนที่ทำประกันสุขภาพนั้น ยังมีสุขภาพที่ยังดีและแข็งแรง และเมื่อสมัครทำประกันสุขภาพไปสักพักและพบว่าตัวเองเป็นโรคร้ายโดยที่ไม่เคยมีประวัติมาก่อน บริษัทประกันภัยจะให้การคุ้มครองหรือไม่ หรือจะบอกเลิกสัญญากรมธรรม์
หากการสมัครทำประกันสุขภาพนั้น ทางบริษัทประกันภัยมีเงื่อนไขที่ไม่มีการถามคำถามสุขภาพ ฉะนั้นบริษัทประกันภัยจึงไม่สามารถจะใช้สิทธิบอกเลิกหรือยกเลิกสัญญาในการทำประกันสุขภาพนั้นได้ ทั้งนี้ความคุ้มครองจะเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อยกเว้นที่ระบุในกรมธรรม์
ทำไมต้องตรวจสุขภาพหรือเปิดเผยข้อมูลสุขภาพในการทำประกันสุขภาพ
เนื่องจากเป็นการทำประกันที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับสุขภาพ แน่นอนสิ่งที่ต้องถามหรือจะต้องมีการตรวจสอบนั้นก็จะต้องเป็นเรื่องของปัญหาสุขภาพและประวัติการเจ็บป่วย ที่มีผลต่อการดำรงชีวิต เพราะถ้าหากคุณมีปัญหาสุขภาพที่มีความเสี่ยงสูงนั้น อาจจะทำให้บริษัทประกันภัยไม่รับทำประกันสุขภาพ ฉะนั้นสิ่งสำคัญในการทำประกันสุขภาพ แม้ว่าบริษัทประกันภัยจะไม่ถามคำถามเกี่ยวกับสุขภาพนั้น ผู้ที่ทำประกันก็ควรที่จะเปิดเผยข้อมูลด้านสุขภาพตามความเป็นจริง
เบี้ยประกันสุขภาพสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้หรือไม่
สามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพของตัวเองมาลดหย่อนภาษีได้ ตามเงินที่ได้จ่ายไปจริง แต่จะต้องไม่เกิน 15,000 บาท และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปและเงินฝากแบบมีประกันชีวิต จะต้องไม่เกิน 100,000 บาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป
หากซื้อประกันสุขภาพให้ คุณพ่อ คุณแม่ สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีของตัวเองได้หรือไม่
สามารถนำเบี้ยประกันภัยที่จ่ายให้กับพ่อ แม่ ไปมาลดหย่อนภาษีของตัวเองได้ตามที่กฎหมายกำหนด โดยพ่อแม่นั้นจะต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ซึ่งเบี้ยประกันภัยนั้นจะต้องไม่เกิน 15,000 บาท
กรณีที่มีลูกหลายคนที่ซื้อประกันสุขภาพให้กับคุณพ่อ คุณแม่ สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนได้ทุกคนหรือไม่
กรณีที่พี่น้องช่วยร่วมกันซื้อประกันสุขภาพให้กับคุณพ่อคุณแม่นั้น ลูกๆทุกคนสามารถนำเบี้ยประกันภัยที่จ่ายไปจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท มาลดหย่อนภาษีได้ทุกคน แต่จะต้องนำเบี้ยประกันภัยที่จ่ายมาหารเฉลี่ยเพื่อลดหย่อนภาษี เช่น มีลูก 4 คน ที่ร่วมกันซื้อประกันสุขภาพให้คุณพ่อคุณแม่ ปีละ 12,000 บาท ฉะนั้นเวลาลูกๆทั้ง 4 คน จะนำเบี้ยประกันภัยไปลดหย่อนภาษีนั้น จะสามารถลดหย่อนได้คนละ 3,000 บาท
หากทำประกันสุขภาพให้กับคุณพ่อคุณแม่ ประกันสุขภาพนั้นจะต้องมีลักษณะอย่างไรจึงจะสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
การทำประกันสุขภาพให้กับพ่อแม่นั้น จะต้องเลือกที่เป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลที่เกิดมาจากการเจ็บป่วย หรือการบาดเจ็บ การชดเชยการทุพพลภาพและการสูญเสียอวัยวะ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเจ็บป่วยด้วยโรคภัย หรือการเลือกทำประกันภัยอุบัติเหตุเฉพาะที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล การทุพพลภาพ การสูญเสียอวัยวะ และการแตกหักของกระดูก ที่สาเหตุมาจากการเกิดอุบัติเหตุ หรือทำประกันภัยโรคร้ายแรง และการทำประกันภัยที่การดูแลในระยะยาว
หากทำประกันสุขภาพให้กับลูกที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะและเป็นผู้จ่ายเงินค่าเบื้ยประกันด้วยตนเองจะนำเบี้ยประกันสุขภาพดังกล่าวมาหักลดหย่อนได้หรือไม่
สำหรับคุณแม่ที่ต้องการทำประกันสุขภาพให้กับลูกนั้นๆ เป็นเรื่องที่ดี แต่เบี้ยประกันสุขภาพของลูกที่จ่ายไปในแต่ละปีนั้น จะไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
หากต้องการทำประกันสุขภาพอย่างเดียวและไม่ต้องการที่จะทำประกันชีวิตได้หรือไม่
ไม่สามารถประกันสุขภาพอย่างเดียวได้ เนื่องจากตามกฎหมายแล้วประกันสุขภาพนั้นถือเป็นประกันวินาศภัย จึงทำให้บริษัทประกันภัยไม่สามารถขายประกันสุขภาพอย่างเดียวได้ จึงจำเป็นจะต้องนำไปเป็นประกันเสริมในกรณีที่ทำประกันชีวิตเป็นประกันหลักแล้ว และประกันสุขภาพนั้นจะเป็นการทำแบบปีต่อปี สามารถต่อประกันได้ หรือจะยกเลิกก็ได้ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจจะมีบริษัทประกันภัยบางแห่งที่สามารถทำประกันสุขภาพอย่างเดียวได้โดยที่ไม่ต้องทำประกันชีวิต แต่จะเป็นการทำประกันแบบปีต่อปี และจะต้องมีการตรวจสุขภาพ และถ้าตรวจพบว่ามีโรคใดก็ตาม จะยกเว้นการคุ้มครองโรคนั้นๆ ในปีถัดไป คล้ายๆเป็นประกันสุขภาพระยะสั้น
บริษัทประกันภัยไหนบ้างที่สามารถซื้อประกันสุขภาพได้โดยที่ไม่ต้องพ่วงประกันชีวิต
สำหรับใครไม่ต้องการจะซื้อประกันชีวิต แต่ต้องการเพียงแค่ประกันสุขภาพนั้น แนะนำเป็นประกันสุขภาพของเอ็ทน่า ที่มีประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ ให้ด้วยกันถึง 6 แผนความคุ้มครอง โดยแต่ละแผนความคุ้มครองก็แตกต่างกันไป แต่ที่แน่ๆคือ ไม่จำเป็นจะต้องซื้อประกันชีวิตเป็นประกันหลัก ก็สามารถทำประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุได้เลย
o แผนโอปอล ที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่จ่ายให้ตามจริงด้วยวงเงินสูงสุด 750,000 บาทต่อปี คุ้มครองทั้งกรณีที่นอนและไม่นอนโรงพยาบาล รวมไปถึงประกันอุบัติเหตุ
o แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ให้ความคุ้มครองด้วยวงเงินที่สูงถึง 5,000,000 บาท และยังการรักษาพยาบาลแบบไม่จำกัดจำนวนครั้งการรักษาต่อปี สูงสุดถึง 200,000 บาท และคุ้มครองทั้งการเจ็บป่วย และอุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมงทั่วโลก
o แผนแพลทินั่ม ให้ความคุ้มครองด้วยวงเงินที่สูงถึง 5,000,000 บาท และยังการรักษาพยาบาลแบบไม่จำกัดจำนวนครั้งการรักษาต่อปี และสามารถซื้อความคุ้มครองในกรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก สูติกรรม หรือประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลเพิ่มเติมได้
o แผนเพอร์ซันนัลแคร์ ให้ความคุ้มครองด้วยวงเงินที่สูงถึง 600,000 บาท และยังการรักษาพยาบาลแบบไม่จำกัดจำนวนครั้งการรักษาต่อปี สูงสุดถึง 50,000 บาท และคุ้มครองทั้งการเจ็บป่วย และอุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมงทั่วโลก
o แผนซันชายน์ สำหรับชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยจะให้ความคุ้มครองในระยะสั้นๆ คุ้มครองในกรณีผู้ป่วยใน ซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายของการเจ็บป่วยรวมถึงอุบัติเหตุ สูงสุดถึง 1,000,000 บาท
o แผนเอ็กซ์ตร้าแคร์ เหมาะสำหรับคนที่มีประกันสุขภาพที่เป็นสวัสดิการของบริษัท หรือประกันสังคม หรือประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล เพื่อเติมเต็มวงเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และได้รับเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินอีก 80%
หากซื้อประกันสุขภาพหลายบริษัทแล้วถ้าจะต้องเบิกค่าใช้จ่ายสามารถเบิกเงินพร้อมกันได้หรือไม่
เบิกพร้อมกันได้ แต่โดยส่วนมากในการทำประกันสุขภาพนั้น ในสัญญากรมธรรม์จะต้องมีการระบุว่าจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลเบิกได้ตามจริง ดังนั้นส่วนแรกจะเบิกได้เฉพาะที่จ่ายไป ส่วนที่สองคือค่าชดเชยรายวันกรณีรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนใหญ่สามารถเบิกซ้อนทับกันได้หลายๆ บริษัท ดังนั้นตอนที่เข้ารับการรักษาพยาบาล ก็จะต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่พยาบาลด้วยว่ามีประกันสุขภาพกับบริษัทที่ไหนบ้าง เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้ทำใบเสร็จให้จะได้เบิกได้กับทุกบริษัท
หากมีประกันสังคมอยู่แล้วจำเป็นไหมที่จะต้องทำประกันสุขภาพ
การทำประกันสุขภาพนั้นเป็นความสมัครใจของผู้ที่ทำประกันภัย โดยส่วนมากคนที่ทำงานก็จะต้องมีประกันสังคมอยู่แล้ว ได้รับสิทธิค่ารักษาพยาบาลต่างๆ แต่การใช้ประกันสังคมจะสามารถใช้ได้เฉพาะกับโรงพยาบาลตามสิทธิเท่านั้น ยกเว้นในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน แต่ถ้าเป็นประกันสุขภาพสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ทุกโรงพยาบาลที่อยู่ในเครือของบริษัทประกันภัย
กรณีที่ทำประกันสุขภาพไว้หลายกรมธรรม์กับหลายบริษัท หากเกิดเสียชีวิตผู้ที่รับผลประโยชน์จะได้รับค่าสินไหมทุกกรมธรรม์หรือไม่
ในกรณีที่ผู้ทำประกันสุขภาพไว้กับหลายบริษัท แล้วเกิดเสียชีวิตตามเงื่อนไขของบริษัทประกันภัย จะสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้กับบริษัทที่ทำประกันภัยไว้ทุกบริษัท หรือเรียกง่ายๆว่า จะได้รับค่าสินไหมทุกกรมธรรม์ที่ได้ทำประกันภัยไว้
ระยะเวลาการประกันภัยของประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันสุขภาพ และประกันโรคมะเร็ง
เป็นการประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองแบบปีต่อปี
ทำประกันสุขภาพจะคุ้มหรือไม่
ในการเลือกทำประกันสุขภาพนั้น อาจจะไม่สามารถวัดความคุ้มค่ากับชีวิตได้ ซึ่งอาจจะขึ้นอยู่กับมุมมอง แต่ถ้าถามเรา ก็คงจะต้องตอบว่าคุ้ม เพราะเรื่องสุขภาพของอนาคตไม่สามารถมีใครคาดเดาได้ แต่ถ้าเมื่อไรที่เจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุนั้น คนที่มีประกันสุขภาพก็มองเห็นว่ามันคุ้มค่า เพราะได้ใช้ประโยชน์ แต่สำหรับที่ทำประกันสุขภาพและไม่เคยได้ใช้เลย จ่ายเบี้ยประกันภัยไปอย่างเดียวนั้นก็อาจจะมองว่าเสียเปล่า ไม่คุ้มค่ากับเงินที่จะต้องเสียเลย เราเลยอยากให้มองว่า การซื้อประกันสุขภาพนั้นเป็นการซื้อความเสี่ยงที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ฉะนั้นในการเลือกซื้อประกันสุขภาพนั้นก็ควรจะเลือกซื้อในแบบที่ตัวเองสามารถจ่ายเบี้ยประกันได้
การทำประกันสุขภาพก็จะช่วยเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้ หากตอนที่ยังไม่เจ็บป่วยก็อาจจะคิดว่าไม่จำเป็น เรามีเงินเก็บอยู่แล้ว แต่ถ้าเมื่อไรที่เจ็บป่วยจะต้องมีการผ่าตัด ก็จะต้องมีเงินที่ไว้ใช้จ่ายสำหรับการรักษา เงินเก็บมีก็จะต้องนำมารักษาตัวจนหมด จะดีกว่าไหมถ้าเลือกทำประกันสุขภาพเสริม เพื่อช่วยในการวางแผนการเงินของเราได้เพิ่มมากขึ้น และไม่ต้องกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายเมื่อเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ และยิ่งถ้ามีประกันสังคมด้วยแล้วนั้นก็สามารถใช้ควบคู่ได้อีก และหลายๆคนอยากใช้ประกันสุขภาพมากกว่าประกันสังคมก็เพราะจะได้รับการบริการที่ดี ได้รับการรักษาที่รวดเร็ว ไม่ต้องคอยนอน หากเพื่อนๆคนไหนสนใจรายละเอียดเกี่ยวกับประกันสุขภาพก็เข้ามาอ่านบทความดีๆได้ที่เว็บไซต์ iMoney.in.th ได้เลย เราได้รวบรวมประกันสุขภาพที่น่าสนใจมาไว้ที่นี่ที่เดียว ที่มีครบทุกเรื่องเกี่ยวกับประกันสุขภาพ
