สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน สำหรับวันนี้พวกเราได้รวบรวมข้อมูลของ สินเชื่อซื้อที่ดินเปล่า ของ ธนาคาร ธ.ก.ส. มาฝากท่านผู้อ่านที่กำลังมีความคิดที่จะต่อยอดธุรกิจ หรือ เริ่มลงทุนการทำเกษตรกรรมต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่ามีผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับ เพื่อนๆที่เริ่มต้นจะลงทุน รวมทั้งการต่อยอดในการทำเกษตรกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีด้วยกัน 3 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อโดยแต่ละสินเชื่อนั้นมีความน่าสนใจมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ที่ฝันอยากทำเกษตร หรือ การให้กู้เพื่อสนับสนุนการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้ สินเชื่อที่สนับสนุนเรื่องการปรับโครงสร้างต่างๆ เพื่อนำไปสู่เกษตรรูปแบบใหม่ด้วย ซึ่งแต่ละสินเชื่อ จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง เชิญติดตามกันต่อไปทีละผลิตภัณฑ์ได้เลยครับ
ข้อมูลสินเชื่อที่ดินเปล่าอื่นๆ ที่น่าสนใจ :
- สินเชื่อซื้อที่ดินเปล่า ธ.ก.ส. ต่อยอดลงทุนได้ กับ 3 สินเชื่อสร้างตัว สู่ความยั่งยืน
- สินเชื่อที่ดินเปล่า ออมสิน ด้วยเงื่อนไขการกู้ที่แสนง่าย วงเงินสูง ผ่อนสบาย ฝันของคนอยากมีบ้าน
- สินเชื่อซื้อที่ดินเปล่า กรุงไทย “สินเชื่อบ้าน” ให้วงเงินกู้ 100% ผ่อนนาน 30 ปี
- สินเชื่อที่ดินเปล่าธนาคารไทยพาณิชย์ อยากได้ที่ดิน SCB ช่วยได้
- สินเชื่อที่ดินเปล่า ธอส. ช่วยสร้างบ้านในฝันให้เป็นจริงสมใจ
- สินเชื่อที่ดินเปล่าธนาคารกรุงศรี ฝันของคนอยากมีบ้าน
- สินเชื่อที่ดินเปล่าธนาคารกรุงเทพ ช่วยให้บ้านกลายเป็นจริงได้
สินเชื่อสานฝันเกษตรกรรุ่นใหม่
สินเชื่อผลิตภัณฑ์แรกนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ กู้เงินเพือใช้จ่ายในการลงทุน ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม หรืออาจจะ มองหาการซื้อที่ดินเปล่าที่จะนำมาประกอบอาชีพ โดยคนรุ่นใหม่นั้นมีไอเดีย พร้อมทั้งแนวคิดใหม่ๆ ในการที่จะมาปรับเปลี่ยนรูปแบบเดิมๆของการทำเกษตรให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ซึ่งสามารถนำส่วนนี้ไปต่อยอดให้อาชีพเกษตรกรรมนั้น ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีวงเงินกู้อนุมัติสูงสุดถึง 1 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดของสินเชื่อดังต่อไปนี้
คุณสมบัติของผู้กู้
- เป็นทายาทเกษตรกรอยู่แล้ว หรือ บัณทิตที่จบการศึกษาใหม่ รวมทั้งเกษตรกรรุ่นใหม่ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว อายุไม่เกิน 45 ปี
- มีความตั้งใจที่มุ่งมั่น พร้อมที่จะต่อยอดอาชีพเกษตรกรรม
- ผ่านการอบรม ที่มีความรู้ทางด้านการเกษตร รวมทั้งธุรกิจการเกษตร
- ขึ้นทะเบียนเป็นลูกค้าของธนาคาร ตามข้อบังคับฉบับที่ 44
อัตราดอกเบี้ย และ ระยะเวลาชำระเงินกู้
สินเชื่อนี้จะมีอัตราดอกเบี้ยตาม MRR ของธนาคาร หรือ ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ 7 ต่อปี หรือ 0.59 ต่อเดือน ส่วนระยะการผอนชำระนั้นมี 2 กรณีครับ ซึ่งได้แก่ กู้เป็นเงินใช้จ่ายหมุนเวียน กับ การกู้เงินเพื่อนำไปลงทุน โดยมีรายละเอียดดังนี้
- กรณีกู้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ให้ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 12 เดือนนับตั้งแต่วันกู้ เว้นแต่ว่ามีเหตุพิเศษไม่เกิน 18 เดือน
- กรณีกู้เพื่อนำไปลงทุน ให้ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 10 ปี นับตั้งแต่วันขอกู้ เว้นแต่ว่ามีเหตุพิเศษไม่เกิน 15 ปี
หลักประกันเงินกู้
- เบื้องต้นให้ใช้หลักประกันหนี้เงินกู้ตามข้อบังคับ และ วิธีปฎิบัติของธนาคาร เป็นลำดับแรก
- กรณีใช้ที่ดิน หรือ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่อยู่อาศัยจำนองเป็นหลักประกัน เมื่อรมกับวงเงินกู้ทุกสัญญาที่ใช้เป็นหลักประกันประเภทเดียวกันแล้ว ให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 100 ของวงเงินจดทะเบียนจำนอง
- กรณีถ้าใช้บุคคล 2 คนขึ้นไป เมื่อรวมกับวงเงินกู้ทุกสัญญาที่ใช้หลักประกันประเภทเดียวกัน จะให้กู้ได้ไม่เกิน 3 แสนบาท
- กรณีใช้บุคคลรับรองรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกัน เมื่อรวมกับวงเงินกู้ทุกสัญญาใช้หลักประกันประเภทเดียวกัน ให้กู้ได้ไม่เกิน 3 แสนบาท
- หากไม่เพียงพอให้สามารถใช้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ (บสย.) ค้ำประกันเงินกู้ได้
โครงการสินเชื่อเพื่อปรับโครงสร้างการผลิตการเกษตรสู่ความยั่งยืน
สำหรับสินเชื่อตัวที่สองนี้ ฟังดูชื่อผลิตภัณฑ์แล้วจะดูยาวไปสักหน่อย แต่สินเชื่อโครงการนี้ จะเหมาะสำหรับการซื้อที่ดินเปล่าเพื่อลงทุนได้เช่นเดียวกัน โดยรวมแล้วนั้นมีวัตถุประสงค์ในการให้กู้ก็คือ เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย หรือ เงินทุนหมุนเวียนที่จะนำไปเป็นค่าลงทุนในการปรับปรุงโครงสร้างการผลิตต่างๆ โดยมีวงเงินกู้ขั้นสูงสุดจะไม่เกินค่าใช้จ่ายหรือค่าลงทุนที่เกิดขึ้นจริง รวมทั้งเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนดเอาไว้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อภาคเกษตรกรรม รวมทั้งจะนำไปสู่ความยั่งยืน ด้วยจุดเด่นที่พร้อมสนับสนุนและส่งเสริมปัจจัยดังต่อไปนี้ครับ
- สนับสนุน การปรับโครงสร้างการผลิต หรือ ปรับเปลี่ยนการผลิตจากเกษตรจากแบบเดิม ไปสู่แบบใหม่ เพื่อยกระดับการผลิต
- ส่งเสริม การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตร ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน และ สร้างความยั่งยืนให้กับภาคเกษตรไทย
เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุน ซื้อที่ดิน รวมทั้งการใช้เพื่อเป็นเงินหมุนเวียนเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินได้ โดยมีรายละเอียดการขอกู้สินเชื่อดังต่อไปนี้
คุณสมบัติของผู้กู้
- เป็นบุคคลทั่วไป บรรลุนิติภาวะ หรือ เกษตรกรทั่วไป
- เป็นผู้ประกอบการ ที่เป็นนิติบุคคล
- วิสาหกิจชุมชน หรือ องค์กร
- กลุ่มเกษตรกร หรือ สหกรณ์การเกษตร
อัตราดอกเบี้ย และ ระยะเวลาชำระหนี้
อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อนี้ มีการแบ่งเป็น 2 กรณีก็คือ เกษตรกร หรือ บุคคลทั่วไป และ ผู้ประกอบการ ซึ่งมีข้อแตกต่างดันต่อไปนี้
- สำหรับ เกษตรกร หรือ บุคคลทั่วไป ในช่วง 1-3 ปีแรก อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR – 1 ส่วนตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป MRR จะเท่ากับที่ธนาคารกำหนด
- สำหรับ ผู้ประกอบการ ที่เป็นนิติบุคคล ,วิสาหกิจชุมชน,องค์กร, กลุ่มเกษตรกร หรือ สหกรณ์การเกษตร ในช่วง 1-3 ปีแรก อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MLR – 0.5 ส่วนตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป MLR จะเท่ากับที่ธนาคารกำหนด
ส่วนระยะเวลาในการผ่อนชำระหนี้นั้นก็จะแบ่งเป็น 2 กรณีคือ การกู้เพื่อใช้จ่ายหมุนเวียน กับ การกู้เป็นค่าลงทุน โดยมีกำหนดชำระแต่ละแบบดังต่อไปนี้
- กรณีเป็นค่าใช้จ่ายแบบหมุนเวียน จะต้องชำระคืนเสร็จไม่เกิน 12 เดือน นับตั้งแต่วันกู้ เว้นแต่ว่ามีเหตุพิเศษชำระคืนไม่เกิน 18 เดือน
- กรณีเป็นค่าลงทุน จะกำหนดชำระเป็นรายเดือน หรือ รายไตรมาส,6 เดือน และ รายปี ตามความสามารถในการชำระหนี้ มีระยะเวลาการชำระสูงสุด 15 ปี
หลักประกันเงินกู้
- สามารถใช้ที่ดิน หรือ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนองเป็นหลักประกันหนี้ได้สูงสุดไม่เกินร้อยละ 100 ของวงเงินจดทะเบียนจำนอง
- บุคคลค้ำตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ค้ำประกันหนี้เงินกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 3 แสนบาท
- หลักประกันอื่นๆ สามารถใช้ได้ตามที่ธนาคารกำหนด
สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจสำหรับ โครงการสินเชื่อเพื่อปรับโครงสร้างการผลิตการเกษตรสู่ความยั่งยืน ก็คือจะมีระยะเวลายื่นกู้ที่จำกัด โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 เท่านั้น
โครงการส่งเสริมและสนับสนุนสินเชื่อสีเขียว
สินเชื่อตัวสุดท้าย ก็คือ โครงการสินเชื่อแคมเปญ “Green Credit” นั้น เรียกได้ว่าเป็นสินเชื่อที่เหมาะแก่การกู้ลงทุนซื้อที่ดินเปล่าได้ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งโครงการนี้ได้สนับสนุนในเรื่องของ การทำเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถ้าหากว่าคุณเองมีไอเดียเกี่ยวกับเรื่องดังต่อไปนี้
- การผลิตเกษตรอินทรีย์ที่ได้มาตรฐานอาหารปลอดภัย การใช้พลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน หรือ พลังงานสะอาด
- การอนุรักษ์ทรัพยากรธนรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อม รวมทั้ง ศิลปวัฒนธรรมหรือ เรื่องของวิถีชุมชน
โดยทั้ง 2 เรื่องนี้ทางโครงการ “ส่งเสริมและสนับสนุนสินเชื่อสีเขียว” จะให้การสนับสนุน และ ส่งเสริมอย่างเต็มที่ โดยมีวงเงินกู้ ที่เป็นไปตามข้อบังคับของธนาคาร ซึ่งจุดประสงค์ของการกู้เงินนี้ เพื่อให้ผู้กู้นำไปใช้จ่ายหมุนเวีนร เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน รวมทั้งลงทุนในการประกอบการเกษตร โดยเกี่ยวเนื่องกับการรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง การอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยรายละเอียดของสินเชื่อนี้มีดังต่อไปนี้
คุณสมบัติของผู้กู้
- เป็นบุคคลทั่วไป หรือ เกษตรกร
- เป็นผู้ประกอบกิจการ เป็นนิติบุคคล
- เป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน หรือ องค์กร
- เป็นกลุ่มเกษตร หรือ สหกรณ์การเกษตร
อัตราดอกเบี้ย และ ระยะเวลาผ่อน
สำหรับอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อโครงการนี้ จะมี “อัตราดอกเบี้ยพิเศษ” สำหรับผู้ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน หรือ แนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง จากหน่วยงานราชการ หรือ เอกชน ซึ่งจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
อัตราดอกเบี้ย ธรรมดา
- กรณีเป็นเกษตรกรทั่วไป หรือ บุคคลทั่วไป อัตราดอกเบี้ยจะเท่ากับ MRR ที่ธนาคารกำหนด โดยปัจจุบันอยู่ที่ ร้อยละ 7 ต่อปี
- กรณีเป็นผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคล,วิสาหกิจชุมชน,องค์กร,กลุ่มเกษตรกร,สหกรณ์การเกษตร อัตราดอกเบี้ยจะเท่ากับ MLR ที่ธนาคารกำหนด โดยปัจจุบันอยู่ที่ ร้อยละ 5 ต่อปี
อัตราดอกเบี้ยพิเศษ หรับผู้ได้รับรองมาตรฐาน
- กรณีเป็นเกษตรกรทั่วไป หรือ บุคคลทั่วไป อัตราดอกเบี้ยจะเท่ากับ MRR- 1
- กรณีเป็นผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคล,วิสาหกิจชุมชน,องค์กร,กลุ่มเกษตรกร,สหกรณ์การเกษตร อัตราดอกเบี้ยจะเท่ากับ MLR – 0.5
ส่วนทางด้านระยะเวลาในการผ่อนชำระนั้น ก็จะแบ่งออกเป็น 2 กรณีก็คือ การกู้เพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียน กับ การกู้เป็นค่าลงทุน ซึ่งมีรายละเอียดการกำหนดชำระคืนดังต่อไปนี้
- กรณีกู้เป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียน จะต้องชำระคืนไม่เกิน 12 เดือน นับตั้งแต่วันกู้ แต่ถ้ามีเหตุพิเศษจะชำระคืนไม่เกิน 18 เดือน
- กรณีกู้เป็นค่าลงทุน จะกำหนดชำระหนี้เป็นรายเดือน,ราย 3 เดือน, ราย 6 เดือน หรือ รายปี ตามที่ตกลงกับธนาคาร โดยมีระยะเวลาสูงสุด 15 ปี
หลักประกันเงินกู้
- สามารถใช้หลักประกันเงินกู้ทีเป็นไปตามเงื่อนไขข้อบังคับของธนาคาร เว้นแต่ว่ามีเหตุอันควรผ่อนผัน ให้ลดหย่อยหลักประกันได้
สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติมสำหรับ โครงการส่งเสริมและสนับสนุนสินเชื่อสีเขียว ก็คือจะมีระยะเวลายื่นกู้ที่จำกัด โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 เท่านั้น
ช่องทางการสมัครสินเชื่อ
สำหรับเพื่อนๆที่มีความสนใจ พร้อมทั้งมีคุณสมบัติที่ตรงตามที่โครงการสินเชื่อกำหนดแล้ว สามารถนำความมุ่งมั่นของคุณ เข้าไปติดต่อที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ใกล้บ้านคุณได้ทุกสาขา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พร้อมที่จะให้คำปรึกษา และ แนะนำอย่างแน่นอน ถ้าหากว่าคุณมีไอเดียที่ดีๆอยู่ล่ะก็ ลองเข้าไปปรึกษาดูได้ ว่าความฝันของคุณจะตรงตามกับสินเชื่อผลิตภัณฑ์ไหน ที่จะกู้ลงทุนได้คุ้มค่าที่สุด
เป็นยังไงกันบ้างครับเพื่อนๆ สำหรับรายละเอียดของ สินเชื่อทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ ที่พวกเรามาแนะนำในวันนี้ โดยแต่ละสินเชื่อนั้น ถึงแม้ว่าจะมีสิทธิพิเศษที่ดูแตกต่างกันไป แต่สิ่งที่คล้ายกันก็คือ สามารถกู้ได้ 2 กรณีก็คือ กู้เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียน เพิ่มสภาพคล่องทางการเงินกับธรุกิจการเกษตร อีกแบบคือ กู้แบบนำเงินไปลงทุน ซึ่งก็ได้แก่การซื้อที่ดินเปล่า รวมทั้งซื้ออุปกรณ์การเกษตรต่างๆ ที่ช่วยให้เหมาะสมกับความฝันของคุณ กับ การสร้างธุรกิจเกษตรนี้ขึ้นมา เพื่อตรงไปตามเป้าหมายของโครงการด้วยก็คือ การสร้างเกษตรแบบใหม่ ที่จะทำให้ยั่งยืน พร้อมพัฒนาต่อไปด้วยการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วย