รวมรายละเอียดข้อมูลสินเชื่อบ้านธนชาต อัพเดท 2563 กู้บ้านธนชาตอนุมัติยากไหม ดอกเบี้ยเท่าไหร่ ค่าประเมินบ้านธนชาตดีไหม ดู iMoney ที่เดียวจบ
สินเชื่อบ้านธนาคารธนชาต – สวัสดีค่ะเพื่อนๆ กลับมาพบกับทีมงาน iMoney เช่นเคยค่ะ ที่จะมาพร้อมกับเรื่องราวน่ารู้ที่เกี่ยวกับการเงิน และวันนี้เราก็มีสินเชื่อบ้านดีๆที่น่าสนใจมาฝากกันค่ะ แต่ก่อนอื่นเลย ขอถามเพื่อนๆก่อนค่ะว่ามีใครกำลังมองหาบ้าน หรือมีบ้านในฝันอยู่กับบ้างไหมค่ะ! ปัจจุบันนี้การซื้อบ้านนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้วนะคะ เพราะว่าธนาคารพาณิชย์หลายแห่งก็โครงการต่างๆ ที่จะช่วยเหลือในการปล่อยกู้ซื้อบ้านสำหรับคนที่อยากมีบ้าน แต่รายได้น้อยแล้วค่ะ ทำให้ความฝันที่จะมีบ้านเป็นของตัวเองก็จะไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วค่ะ และอีกเช่นเคยวันนี้ iMoney มีโปรโมชั่นสินเชื่อบ้านธนาคารธนชาตมาฝากกันค่ะ สำหรับคนที่อยากมีบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านใหม่ หรือบ้านมือสอง หรือเพื่อนๆมีที่ดินแต่ยังไม่มีเงินสร้างบ้าน ธนาคารธนชาตก็มีสินเชื่อสร้างบ้านให้อีกค่ะ เห็มไหมคะว่าไม่ว่าความต้องการของเพื่อนๆจะเป็นยังไง ธนาคารสามารถตอบโจทย์ได้ตรงกับทุกความต้องการเลยค่ะ งั้นอย่ารอช้าเลยค่ะ เรามาดูรายละเอียดของสินเชื่อธนาคารธนชาตกันดีกว่าค่ะ ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้างค่ะ
สินเชื่อบ้านธนชาตอัพเดท 2563
ประเภทสินเชื่อ |
ชื่อสินเชื่อ | จุดเด่น | เงื่อนไขการกู้ | ประเภทของสินเชื่อ |
ดอกเบี้ย |
สินเชื่อที่อยู่อาศัย |
สินเชื่อบ้านใหม่ และสินเชื่อบ้านมือสอง | ให้วงเงินกู้ 100% ผ่อนนาน 30 ปี และมีหลายทางเลือกของดอกเบี้ย | จะต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป และเมื่อรวมอายุกับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้จะต้องไม่เกิน 65 ปี และไม่เกิน 70 ปี สำหรับผู้คนที่มีธุรกิจส่วนตัว มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป | บ้านพร้อมที่ดินทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิต อาคารพาณิชย์และคอนโดมิเนียม ไม่ว่าจะเป็นบ้านใหม่ หรือบ้านมือสอง
|
ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 3.490 ต่อปี – ร้อยละ MLR – 0.400 ต่อปี |
สินเชื่อที่อยู่อาศัย |
สินเชื่อปลูกบ้าน | ให้วงเงินกู้ 100% ผ่อนนาน 30 ปี และมีหลายทางเลือกของดอกเบี้ย | อายุตั้งแต่ 20 – 70 ปี ขึ้นอยู่อาชีพของผู้สมัคร โดยที่จะต้องมีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไปไม่ว่าจะมีรายได้ประจำหรือทำธุรกิจส่วนตัว | บ้านพร้อมที่ดินทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิต อาคารพาณิชย์และคอนโดมิเนียม |
ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 2.990 ต่อปี – ร้อยละ MLR – 0.400 ต่อปี |
Credit : https://pixabay.com
สินเชื่อบ้านธนชาต สินเชื่อบ้านใหม่และสินเชื่อบ้านมือสอง
ฝันของคนอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง มาที่ธนาคารธนชาตสิค่ะ ที่จะช่วยสานทุกความฝันของทุกคนที่อยากมีบ้านอยู่กับครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นบ้านใหม่เลย หรือจะซื้อคอนโดมิเนียม เพื่อความสะดวกสบายสำหรับการอยู่คนเดียว หรือใครที่คิดว่าบ้านใหม่อาจจะมีราคาสูงไปเลือกที่จะซื้อบ้านมือสอง ก็ขอสินเชื่อบ้านได้เช่นกันกับสินเชื่อบ้านใหม่และสินเชื่อบ้านมือสอง ธนาคารให้วงเงินที่สูงเต็มพิกัดถึง 100% จากราคาประเมินหลักทรัพย์กันเลย และที่ดีไม่แพ้กันเลยก็คืออัตราดอกเบี้ยที่แสนจะถูก และยังให้ผ่อนจ่ายค่างวดบ้านได้แบบสบายๆกระเป๋าได้นานอีกด้วย นอกจากนี้แล้วยังมีบริการให้ทำประกันชีวิตคุ้มครองภาระเงินกู้อีกด้วยค่ะ ใครที่อยากจะซื้อบ้านไม่ควรพลาดสินเชื่อนี้นะคะ ส่วนรายละเอียดต่างๆจะมีอะไรบ้างนั้น เรามาติดตามกันเลยค่ะ
เงื่อนไขการสมัครสินเชื่อบ้านใหม่และสินเชื่อบ้านมือสอง
- ผู้สมัครสินเชื่อจะต้องมีสัญชาติไทย ในกรณีที่ผู้สมัครไม่มีสัญชาติไทยจะต้องมีเอกสารที่แสดงว่าอาศัยอยู่ในประเทศไทย เช่น ใบต่างด้าว หรือมีชื่อในทะเบียนบ้าน
- ผู้สมัครจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ในกรณีที่ทำงานประจำ จะต้องมีอายุรวมกับระยะเวลาการผ่อนไม่เกิน 65 ปี แต่ถ้าประกอบธุรกิจส่วนตัว จะต้องมีอายุรวมกับระยะเวลาการผ่อนไม่เกิน 70 ปี
- ผู้สมัครไม่ว่าจะอาชีพไหนก็ตามจะต้องมีรายได้ไม่น้อยกว่าเดือนละ 10,000 บาทขึ้นไป
- ผู้สมัครจะต้องมีอายุการทำงานหรือดำเนินธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปีขึ้นไป
วงเงินในอนุมัติสินเชื่อบ้านใหม่และสินเชื่อบ้านมือสอง
- ธนาคารให้วงเงินอนุมัติสูงสุด 100% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขายค่ะ ซึ่งแล้วแต่ว่าราคาใดจะต่ำกว่ากันค่ะ ธนาคารอาจจะให้วงเงินนั้นนะคะ ทั้งนี้ ถ้าเป็นโครงการบ้านที่เข้าร่วมโครงการกับธนาคาร เงื่อนไขเป็นไปตามรายละเอียดของแต่ละโครงการ
- ในกรณีที่เป็นบ้านมือสอง หากบ้านหรือคอนโดมิเนียมของคุณมีราคาตั้งแต่ 10,000,000 บาทขึ้นไปนั้น ธนาคารจะให้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 80% ของราคาซื้อขายที่ตกลงกันจริงตามระเบียบของธนาคารค่ะ
อัตราดอกเบี้ยบ้านธนชาตสินเชื่อบ้านใหม่และสินเชื่อบ้านมือสอง
การคิดดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านใหม่และสินเชื่อบ้านมือสอง ธนาคารจะมีทางเลือกของดอกเบี้ยให้คุณสามารถเลือกได้เองทั้งหมด 3 ทางเลือก ซึ่งแต่ละทางเลือกก็จะแตกต่างกันออกไปค่ะ ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยทางเลือกที่ 1 คือ อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1 ปี และในปีถัดไปดอกเบี้ยจะลอยตัว
- ในปีที่ 1 ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยจะคงที่อยู่ที่ร้อยละ 3.490 ต่อปี
- ในปีที่ 2 – 3 ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MLR – 0.400 ต่อปี
- ในปีที่ 4 ขึ้นไป ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MLR – 0.400 ต่อปี
- EIR หรือ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาอยู่ที่ร้อยละ 5.955 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยทางเลือกที่ 2 คือ อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปี และในปีถัดไปดอกเบี้ยจะลอยตัว
- ดอกเบี้ยในช่วง 2 ปีแรกของสัญญานั้น ดอกเบี้ยจะคงที่อยู่ที่ร้อยละ 5.250 ต่อปี
- ดอกเบี้ยในช่วงปีที่ 3 ของสัญญานั้น ดอกเบี้ยจะลอยตัวคงที่อยู่ที่ร้อยละ MLR – 0.950 ต่อปี
- ดอกเบี้ยในช่วงตั้งแต่ปีที่ 4 ขึ้นไปของสัญญานั้น ดอกเบี้ยจะลอยตัวคงที่อยู่ที่ร้อยละ MLR – 0.400 ต่อปี
- EIR หรือ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาอยู่ที่ร้อยละ 5.996 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยทางเลือกที่ 3 คือ อัตราดอกลอยตัว ช่วยทำให้ผ่อนได้สบายๆ 3 ปี
- ดอกเบี้ย 3 ปีแรกของสัญญาบ้าน ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MLR – 1.250 ต่อปี
- ดอกเบี้ยหลังจากปีที่ 3 ไปแล้ว ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MLR – 0.400 ต่อปี
- EIR หรือ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาอยู่ที่ร้อยละ 6.000 ต่อปี
จากข้อมูลของอัตราดอกเบี้ยที่เราได้บอกไว้ในบทความนี้ จะเป็นการคำนวณกรณีที่วงเงินกู้ที่ได้รับอนุมัติตั้งแต่ 3,000,000 บาท และมีการผ่อนจ่ายเป็นรายเดือน ในแต่ละเดือนจะผ่อนในอัตราที่เท่าๆกันจนกว่าจะครบสัญญาเงินกู้ 20 ปี และที่เห็นว่าในแต่ละทางเลือกจะมีดอกเบี้ยลอยตัว โดยธนาคารจะอ้างอิงจากอัตราดอกเบี้ยของ MLR ซึ่งปัจจุบันดอกเบี้ย MLR เท่ากับ 6.650 ต่อปี แต่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะดอกเบี้ยจะขยับขึ้นหรือขยับลงก็ตาม ก็จะผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของสินเชื่อบ้านนี้ด้วยค่ะ
ไม่เพียงเท่านี้ นอกจากจะได้ส่วนลดของดอกเบี้ยที่พิเศษแล้ว ธนาคารธนชาตยังมีสิทธิพิเศษส่วนลดดอกเบี้ยสำหรับคนที่ขอสินเชื่อบ้านใหม่และสินเชื่อบ้านมือสอง ที่เลือกทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อนั้นจะได้รับส่วนลดดอกเบี้ยเพิ่มอีกร้อยละ 0.15 ต่อปี จากดอกเบี้ยปกติ และถ้าเลือกซื้อประกันชีวิต MRTA Plus จะได้รับส่วนลดดอกเบี้ยเพิ่มอีกร้อยละ 0.25 ต่อปี จากดอกเบี้ยปกติ ทั้งนี้ ในการทำประกันชีวิตที่คุ้มครองจะมีอยู่ 2 ประเภท คือ ประกันชีวิตที่คุ้มครองวงเงินกู้ไม่ต่ำว่าร้อยละ 70 โดยอายุกรมธรรม์ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของอายุสัญญากู้เงิน และไม่ต่ำกว่า 10 ปี หรือทำประกันชีวิตที่คุ้มครองวงเงินกู้ทั้งจำนวน โดยอายุกรมธรรม์ไม่ต่ำกว่าอายุสัญญากู้เงินหรือไม่ต่ำกว่า 10 ปี นอกจากนี้แล้วธนาคารยังให้คุณขอเพิ่มวงเงินในการกู้ เพื่อจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบคุ้มครองวงเงินกู้ (MRTA) ได้อีกด้วยค่ะ
Credit : https://pixabay.com
ค่าเนียมในการขอสินเชื่อบ้านธนชาต สินเชื่อบ้านใหม่และสินเชื่อบ้านมือสอง
- ค่าธรรมเนียมในการประเมินราคาหลักทรัพย์ที่ต้องการจะซื้อ ซึ่งจะต้องเสียขั้นต่ำอยู่ที่ 3,000 บาท ราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ค่ะ
- กรณีที่ปิดบัญชีหนี้ก่อนกำหนด หรือรีไฟแนนซ์บ้านไปธนาคารอื่น ก่อน 3 ปีแรกของสัญญา จะต้องเสียค่าธรรมเนียม 3% จากยอดหนี้คงเหลือที่อยู่กับธนาคารธนชาต
ระยะเวลาในการผ่อนชำระสินเชื่อบ้านใหม่และสินเชื่อบ้านมือสอง
- ผ่อนจ่ายค่างวดบ้านได้สบายนานสูงสุดถึง 30 ปี แต่ระยะเวลาการผ่อนนั้นก็จะต้องประกอบกับอายุในตอนที่สมัครด้วย เพราะถ้าเป็นพนักงานประจำก็จะต้องมีอายุรวมกับระยะเวลาการผ่อนแล้วไม่เกิน 65 ปี ส่วนคนที่ทำธุรกิจส่วนตัวนั้น จะต้องมีอายุรวมกับระยะเวลาการผ่อนแล้วไม่เกิน 70 ปี
มูลค่าหลักประกันขั้นต่ำ
- หลักทรัพย์ที่ต้องการขอสินเชื่อนั้น ถ้าอยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล มูลค่าของหลักทรัพย์จะต้องไม่ต่ำกว่า 700,000 บาท แต่ถ้าหลักทรัพย์อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด มูลค่าของหลักทรัพย์จะต้องไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท
เอกสารหลักประกันในการขอสินเชื่อบ้านใหม่และสินเชื่อบ้านมือสอง
- สำเนาโฉนดที่ดินทุกหน้า หรือสำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนีมที่เป็นหลักประกัน ต้องเป็นสำเนาเท่ากับตัวจริงและทุกหน้า
- รูปถ่ายบ้าน หรือคอนโดมิเนียมที่นำมาเป็นหลักประกันค่ะ
- สำเนาสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง หรือสำเนาใบจอง หรือสำเนาใบเสนอราคา และหากมีสัญญาต่อท้ายก็จะต้องแนบมาด้วยนะคะ
เอกสารประกอบการสมัครสินเชื่อบ้านธนชาต สินเชื่อบ้านใหม่และสินเชื่อบ้านมือสอง
- กรณีที่มีรายได้ประจำ เช่น พนักงานบริษัท ข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานสัญญาจ้างของหน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรข้าราชการ หรือสำเนาบัตรพนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือบัตรพนักงาน จำนวน 1 แผ่น
- สำเนาทะเบียนบ้าน จะต้องถ่ายเอกสารมาให้ครบทุกหน้าตามเล่มทะเบียนบ้าน จำนวน 1 แผ่น
- กรณีที่คุณมีคู่สมรส จะต้องแนบเอกสารต่างๆ ดังนี้
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรส จำนวน 1 แผ่น
- สำเนาทะเบียนบ้านของคู่สมรส จำนวน 1 แผ่น
- สำเนาทะเบียนสมรส แต่ถ้าในกรณีที่หย่าก็จะต้องแนบเป็นใบหย่า จำนวน 1 แผ่น
- สำเนาใบมรณบัตรของคู่สมรส ในกรณีที่คู่สมรสเสียชีวิตจำนวน 1 แผ่น
- สำเนาการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลง จำนวน 1 แผ่น
- สลิปเงินเดือน จะต้องย้อนหลัง 6 เดือน (ถ้าสมัครเดือน กรกฎาคม ก็จะต้องเตรียมสลิปย้อนหลังตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนมิถุนายน) หรือจะใช้เป็นหนังสือรับรองเงินเดือน โดยในจดหมายจะต้องระบุเงินเดือนที่ได้รับ อายุการทำงานทั้งหมด จะต้องเป็นเดือนปัจจุบันที่สมัครสินเชื่อ จำนวน 1 แผ่น
- สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคาร หรือ Statement ซึ่งให้จะต้องย้อนหลัง 6 เดือน จำนวน 1 แผ่น
- กรณีที่มีรายได้อื่นๆ เช่น OT ค่าคอมมิชชั่น จำนวน 1 แผ่น
- กรณีที่ไม่มีรายได้ประจำ เช่น นักแสดง นายหน้าขายประกัน ฟรีแลนซ์ เป็นต้น
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน ซึ่งจะต้องถ่ายเอกสารมาให้ครบทั้งเล่มจริง
- สำเนาบัตรประจำตัววิชาชีพ หรือสำเนาหลักฐานที่แสดงถึงอาชีพคุณ เช่น สัญญาว่าจ้าง
- เอกสารเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง
- เอกสารคู่สมรสของผู้สมัครสินเชื่อบ้าน กรณีที่ถ้ามีคู่สมรส
- สำเนาบัตรประชาชนพร้อมกับสำเนาทะเบียนคู่สมรสของผู้ขอสินเชื่อบ้าน โดยจะต้องเซ็นสำเนาถูกต้องในเอกสารสำเนาด้วย
- สำเนาใบทะเบียนสมรส หรือสำเนาใบหย่า หรือสำเนาใบมรณบัตร กรณีที่คู่สมรสเกิดเสียชีวิตหรือมีการหย่ากัน
- เอกสารเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลคู่สมรสของผู้ขอสินเชื่อบ้านกรณีที่มีการเปลี่ยน
- สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน ซึ่งจะใช้ของธนาคารไหนก็ได้ไม่จำเป็นจะต้องเป็นของธนาคารธนชาต และจะต้องแนบมาพร้อมกับหน้า Book Bank ที่มีเลขที่บัญชีและชื่อของคุณมาด้วย
- สำเนาการเสียภาษี เช่น สำเนาใบ ภงด. 90 หรือ ภงด. 91 พร้อมใบเสร็จ จะต้องย้อนหลัง 6 เดือน หรือ หนังสือรับรองการหักภาษี 50 ทวิ หรือ หลักฐานแสดงเสียภาษีเงินได้ พร้อมใบเสร็จ
- กรณีที่ทำธุรกิจส่วนตัว หรือเป็นเจ้าของกิจการ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของกิจการหรือของกรรมการผู้มีอำนาจ จำนวน 1 แผ่น
- สำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของกิจการหรือของกรรมการผู้มีอำนาจ จำนวน 1 แผ่น ซึ่งจะต้องถ่ายเอกสารสำเนาทะเบียนมาให้ครบทุกหน้าที่มีของเล่มทะเบียนบ้านจริง
- สำเนาการเปลี่ยนแปลงในกรณีเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล โดยจะต้องถ่ายสำเนามา 1 แผ่น
- สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคาร หรือ Statement ที่มีเงินเข้า-ออก ซึ่งให้จะต้องย้อนหลัง 6 เดือน จำนวน 1 แผ่น
- สำเนาหนังสือจดทะเบียนการค้า กระทรวงพาณิชย์ หรือ สำเนาทะเบียนนิติบุคคล จำนวน 1 แผ่น
- กรณีที่บริษัทจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนพร้อมวัตถุประสงค์ คัดไม่เกิน 3 เดือน
- สำเนาหนังสือรับรองห้างหุ้นส่วนจำกัด คัดไม่เกิน 3 เดือน
- สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัท (บอจ.5) ไม่เกิน 3 เดือน
- สำเนาใบ ภ.พ. 30 พร้อมใบเสร็จที่จ่ายให้กรมสรรพากรจะต้องย้อนหลัง 6 เดือน และกรณีที่มีงบการเงินย้อนหลังให้แนบมาพร้อมกับตอนที่สมัครสินเชื่อด้วย ให้ย้อนหลัง 2 ปีล่าสุด
- กรณีที่บริษัทไม่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
- สำเนาใบทะเบียนพาณิชย์ กรณีที่มีสัญญาเช่าที่ตั้งกิจการ หรือรูปภาพกิจการให้ถ่ายแล้วมาพร้อมกับตอนที่สมัครสินเชื่อด้วย
- บัญชีรายรับ รายจ่าย หรือใบเสร็จซื้อ ขาย ย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน
สนใจสามารถสมัครสินเชื่อบ้านธนชาตได้ที่นี่
- หากคุณสนใจสมัครสินเชื่อบ้านใหม่ธนาคารธนชาต สมัครได้ที่ธนาคารธนชาต ทุกสาขาทั่วประเทศ
Credit : https://pixabay.com
สินเชื่อบ้านธนชาต สินเชื่อปลูกบ้าน
หากคุณกำลังมองหาที่ดินเพื่อที่จะปลูกสร้างบ้านนั้นแต่ไม่มีเงินทำไงดี??? หรือคุณมีแต่ที่ดินที่ยังไม่ได้สร้างบ้าน เพราะติดปัญหาเรื่องการเงิน ทำไงดี? iMoney แนะนำเป็นสินเชื่อปลูกบ้าน ของธนาคารธนชาต ที่จะช่วยทำให้การสร้างบ้านของคุณเป็นจริง ธนาคารยังให้วงเงินสูงถึง 100% ของราคาก่อสร้างอีกด้วยค่ะ เท่านั้นยังไม่พอ ดอกเบี้ยก็ในอัตราที่ต่ำ ทำให้คุณสามารถผ่อนจ่ายได้อย่างสบายๆ แถมระยะเวลาการจ่ายก็นานถึง 30 ปีอีกด้วยค่ะ
สินเชื่อบ้านธนชาต สินเชื่อปลูกบ้าน มีเงื่อนไขการสมัครอย่างไร
- ผู้สมัครจะต้องมีสัญชาติไทยในการสมัครสินเชื่อปลูกบ้าน
- กรณีที่ผู้สมัครไม่ได้มีสัญชาตินั้น จะต้องแนบเอกสาร เช่น ใบต่างด้าว หรือ มีชื่อผู้สมัครอยู่ในทะเบียน เพื่อแสดงตัวตนว่าอยู่ในประเทศไทย
- ผู้สมัครสินเชื่อนี้จะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 10,000 บาทขึ้นไป
- กรณีที่ผู้สมัครทำงานประจำ จะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปี โดยจะผ่อนได้ไม่เกินอายุ 65 ปี
- กรณีที่ผู้สมัครประกอบธุรกิจส่วนตัว จะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปี โดยจะผ่อนได้ไม่เกินอายุ 70 ปี
- ไม่ว่าจะทำงานประจำหรือประกอบธุรกิจส่วนตัวนั้นจะต้องมีการทำงานหรือเปิดกิจการมาแล้วอย่างน้อย 1 ปีขึ้นไป
สินเชื่อบ้านธนชาต สินเชื่อปลูกบ้าน อนุมัติวงเงินในการกู้เท่าไหร่
ธนาคารจะแบ่งวงเงินในการอนุมัติให้ตามมูลค่าหลักทรัพย์ของคุณค่ะ โดยมีรายละเอียดดังนี้ค่ะ
- ในกรณีที่ราคาที่อยู่อาศัยของคุณไม่เกิน 10,000,000 บาท
- กรณีที่คุณซื้อที่ดินเปล่าเพื่อสร้างที่อยู่อาศัย ธนาคารจะให้วงเงินสูงสุดไม่เกินร้อยละ 50 จากราคาประเมินที่ดินเปล่า และวงเงินปลูกสร้าง ธนาคารจะให้วงเงินสูงสุดไม่เกินร้อยละ 100 จากราคาประเมินสิ่งปลูกสร้าง ทั้งนี้ เมื่อรวมวงเงินกันแล้วจะต้องไม่เกินร้อยละ 85 จากราคาประเมินหลักประกันใหม่รวมกันค่ะ
- กรณีที่คุณเป็นเจ้าของที่ดินเปล่า และต้องการกู้เงินเพื่อปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ธนาคารจะให้วงเงินสูงสุดไม่เกินร้อยละ 100 จากประเมินสิ่งปลูกสร้างและไม่เกินร้อยละ 85 จากราคาประเมินหลักประกันใหม่รวมกัน
- ในกรณีที่ราคาที่อยู่อาศัยของคุณเกิน 10,000,000 บาท
- กรณีที่คุณซื้อที่ดินเปล่าเพื่อสร้างที่อยู่อาศัย จะได้วงเงินอนุมัติจากธนาคารไม่เกินร้อยละ 80 ของราคาซื้อขาย ซึ่งเมื่อรวมกับวงเงินที่ดินเปล่าและสิ่งปลูกสร้างแล้ว ไม่เกินร้อยละ 85 จากราคาประเมิน
อัตราดอกเบี้ยบ้านธนชาต สินเชื่อปลูกบ้าน
การคิดดอกเบี้ยของสินเชื่อปลูกบ้าน ธนาคารจะแบ่งไปตามกลุ่มลูกค่าที่คุณเลือกปลูกสร้างนะคะ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ค่ะ
สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ปลูกสร้างบ้านกับผู้รับเหมาก่อสร้างที่เป็นสมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญประเภท ก. ของ ทำเนียบสมาคมธุรกิจรับสร้าง ธนาคารจะมีอัตราดอกเบี้ยให้คุณเลือก 4 ทางเลือก ดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยทางเลือกที่ 1 คือ อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1 ปี
- ในปีที่ 1 ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 2.990 ต่อปีค่ะ
- ในปีที่ 2 – 3 ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MLR – 0.795 ต่อปีค่ะ
- ในปีที่ 4 ขึ้นไป ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MLR – 0.650 ต่อปีค่ะ
- EIR หรือ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาอยู่ที่ร้อยละ 5.657 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยทางเลือกที่ 2 คือ อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปี
- ในปีที่ 1 – 2 ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 4.250 ต่อปีค่ะ
- ในปีที่ 3 ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MLR – 0.900 ต่อปีค่ะ
- ตั้งแต่ปีที่ 4 ขึ้นไปจนกว่าจะครบสัญญาเงินกู้ ดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MLR – 650 ต่อปีค่ะ
- EIR หรือ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาอยู่ที่ร้อยละ 5.623 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยทางเลือกที่ 3 คือ อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี
- ในปีที่ 1 ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 3.750 ต่อปีค่ะ
- ในปีที่ 2 ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 4.750 ต่อปีค่ะ
- ในปีที่ 3 ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 5.750 ต่อปีค่ะ
- หลังจาก 3 ปีแรกของสัญญาเงินกู้แล้ว ดอกเบี้ยจะลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MLR – 0.650 ต่อปีค่ะ
- EIR หรือ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาอยู่ที่ร้อยละ 5.619 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยทางเลือกที่ 4 คือ อัตราดอกผ่อนสบายๆ 3 ปี
- ในปีที่ 1 – 3 ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MLR – 2.000 ต่อปีค่ะ
- ในปีที่ 4 เป็นต้นไปนั้น ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยในอัตราเดียวกันตลอดทั้งสัญญาที่เหลืออยู่ โดยดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MLR – 0.650 ต่อปีค่ะ
- EIR หรือ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาอยู่ที่ร้อยละ 5.605 ต่อปี
สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ปลูกสร้างบ้านกับผู้รับเหมาก่อสร้างที่เป็นสมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญประเภท ข. ของ ทำเนียบสมาคมธุรกิจรับสร้าง ธนาคารจะมีอัตราดอกเบี้ยให้คุณเลือก 3 ทางเลือก ดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยทางเลือกที่ 1 คือ อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1 ปี
- ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านในช่วงปีแรกนั้น ดอกเบี้ยจะคงที่ตลอดทั้งปี ซึ่งจะอยู่ที่ร้อยละ 3.490 ต่อปี
- ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นไปจนครบสัญญาเงินกู้ที่เหลือ ดอกเบี้ยจะลอยตัวไปตามดอกเบี้ย MLR ซึ่งดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MLR – 0.400 ต่อปี
- EIR หรือ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาอยู่ที่ร้อยละ 5.955 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยทางเลือกที่ 2 คือ อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปี
- อกเบี้ยในช่วง 2 ปีแรก ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยคงที่โดยดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 5.250 ต่อปี
- ดอกเบี้ยในช่วงปีที่ 3 ดอกเบี้ยจะปรับสูงขึ้นมาอีกนิด และเป็นการคิดดอกเบี้ยแบบลอยตัวโดยดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MLR – 0.950 ต่อปี
- ดอกเบี้ยหลังจาก 3 ปีแรกไปแล้ว ดอกเบี้ยจะคิดในอัตราเดียวกัน โดยดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MLR – 0.400 ต่อปี
- EIR หรือ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาอยู่ที่ร้อยละ 5.996 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยทางเลือกที่ 3 คือ อัตราดอกผ่อนสบายๆ 3 ปี
- ดอกเบี้ยในช่วง 3 ปีแรกของสัญญานั้น ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MLR – 1.250 ต่อปี
- ดอกเบี้ยตั้งแต่ปีที่ 4 ขึ้นไปนั้น ดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ MLR – 0.400 ต่อปี ซึ่งจะเป็นอัตราดอกเบี้ยเท่ากับดอกเบี้ยในทางเลือกที่ 2 เลย
- EIR หรือ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาอยู่ที่ร้อยละ 6.000 ต่อปี
ทั้งนี้ ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำประเภทเงินกู้ที่มีระยะเวลาMLR (MINIMUM LENDING RATE) เท่ากับ 6.650 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่เราได้บอกไปนั้น เป็นการคำนวณในกรณีที่กู้วงเงิน 3,000,000 บาท โดยมีการเลือกชำระแบบรายเดือนที่เท่ากันทุกเดือน เป็นระยะเวลาในการผ่อนชำระอยู่ที่ 20 ปีค่ะ ซึ่งหากในอนาคตมีอัตราดอกเบี้ยมีการเปลี่ยนแปลงนั้น ดอกเบี้ยของคุณก็จะเปลี่ยนแปลงไปตาม MLR ที่ประกาศค่ะ
นอกจากนี้แล้วธนาคารธนชาตยังมีโปรโมชั่น เหมือนกับสินเชื่อบ้านใหม่ และสินเชื่อบ้านมือสองเลยค่ะ ที่จะให้ส่วนลดดอกเบี้ยใน 12 เดือนแรก สำหรับคนที่เลือกทำประกันชีวิตที่คุ้มครองอีกด้วยค่ะ หากคุณเลือกซื้อประกันชีวิต MRTA จะได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยร้อยะละ 0.15 ต่อปีค่ะ และหากเลือกซื้อประกันชีวิต MRTA Plus จะได้รับส่วนลดลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ต่อปีค่ะ
ค่าธรรมเนียมในการขอกู้บ้านธนชาต
- คุณจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการตรวจงวดงาน ในกรณีที่กู้สินเชื่อปลูกบ้านค่ะ โดยจะมีขั้นต่ำอยู่ที่ 1,000 บาทค่ะ ซึ่งเป็นราคาที่ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มนะคะ
- หากคุณมีการปิดยอดหนี้โดยเป็นการรีไฟแนนซ์จากธนาคารธนชาต ไปยังธนาคารพาณิชย์อื่นๆ ภายใน 3 ปี นับตั้งแต่วันที่คุณทำสัญญากับธนาคาร คุณจะต้องเสียค่าธรรมเนียมร้อยละ 3 จากยอดหนี้ที่เหลือค่ะ
Credit : https://pixabay.com
ระยะเวลาในการผ่อนชำระสินเชื่อบ้านธนชาต สินเชื่อปลูกบ้าน
- คุณสามารถเลือกผ่อนได้นานสูงสุดถึง 30 ปีค่ะ แต่เมื่อรวมระยะเวลาในการผ่อนบวกกับอายุของคุณแล้วต้องไม่เกิน 65 ปีค่ะ และไม่เกิน 70 ปี สำหรับคนที่ทำธุรกิจส่วนตัวค่ะ
มูลค่าหลักประกันขั้นต่ำ
- ถ้าหลักทรัพย์ของคุณอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑลจะต้องไม่ต่ำกว่า 700,000 บาท และถ้าหลักทรัพย์ของคุณอยู่ต่างจังหวัดจะต้องไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท
การขอสินเชื่อบ้านธนชาต สินเชื่อปลูกบ้าน ใช้เอกสารหลักประกัน ดังนี้
- แบบแปลนบ้าน หรือ แบบแปลนการปรับปรุง หรือ ต่อเติมตกแต่งค่ะ
- สำเนาสัญญาว่าจ้างปลูกสร้าง หรือต่อเติมตกแต่งค่ะ
- สำเนาบใบอนุญาตปลูกสร้าง หรือใบตอบรับใบอนุญาตปลูกสร้างค่ะ
- รูปถ่ายบ้านที่จะปลูกสร้างบ้าน หรือหลักประกันก่อนการปรับปรุง หรือต่อเติมที่นำมาเป็นหลักประกันค่ะ
เอกสารประกอบการสมัครกู้บ้านธนชาต สินเชื่อปลูกบ้าน
- สำหรับคนที่มีรายได้ประจำ
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้สมัคร (กรณีที่มีคู่สมรสจะต้องแนบมาด้วย)
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้สมัคร (กรณีที่มีคู่สมรสจะต้องแนบมาด้วย)
- สำเนาเอกสารการเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล (กรณีที่เปลี่ยนชื่อและถ้าคู่สมรสเปลี่ยนชื่อก็จะต้องแนบมาด้วย)
- สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
- สำเนาใบหย่า (ถ้ามี)
- สำเนาใบมรณบัตร (ถ้ามี)
- สลิปเงินเดือน ย้อนหลัง 6 เดือน หรือ หนังสือรับรองเงินเดือน เดือนล่าสุด
- สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคาร หรือ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
- สำหรับผู้ที่ทำธุรกิจส่วนตัว หรือเป็นเจ้าของกิจการ
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- กรณีที่ผู้สมัครและคู่สมรสได้เปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล จะต้องแนบสำเนาเอกสารเปลี่ยนมาด้วย
- สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคาร หรือ Statement ที่มีเงินหมุนเวียนในบัญชี ย้อนหลัง 6 เดือน
- สำหรับบริษัทที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
- สำเนาหนังสือจดทะเบียนการค้า หรือจะใช้เป็นสำเนาทะเบียนนิติบุคคล
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน คัดมาแล้วไม่เกิน 3 เดือน
- สำเนาทะเบียนผู้ถือหุ้น (บอจ.5) มีอายุไม่เกิน 3 เดือน
- สำเนาใบ ภ.พ. 30 พร้อมใบเสร็จให้ย้อนหลัง 6 เดือน ในกรณีที่มีงบการเงินย้อนหลังให้แนบมาด้วยค่ะ ซึ่งจะต้องย้อนหลัง 2 ปีล่าสุด
- สำหรับบริษัทไม่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
- สำเนาหนังสือจดทะเบียนการค้า หรือจะใช้เป็นสำเนาทะเบียนนิติบุคคล
- สำเนาหนังสือจดทะเบียนการค้ากระทรวงกพาณิชย์ หรือสำเนาทะเบียนนิติบุคคล
- สำเนาใบทะเบียนพาณิชย์
- บัญชีรายรับ รายจ่าย หรือใบเสร็จซื้อ ขาย ย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน
- สำหรับคนที่มีอาชีพอิสระ
- สำเนาบัตรประชาชนพร้อมด้วยสำเนาทะเบียนบ้านของผู้สมัครสินเชื่อบ้าน แต่ถ้ามีคู่สมรสก็จะต้องแนบสำเนาบัตรประชาชนพร้อมด้วยสำเนาทะเบียนบ้านของคู่สมรสมาด้วย (ถ้ามี)
- สำเนาใบเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล ถ้าผู้สมัครหรือคู่สมรสคนใดคนหนึ่งมีการเปลี่ยนก็จะต้องแนบสำเนามาด้วย แต่ถ้าเปลี่ยนทั้งสองคน ก็ให้แนบสำเนาการเปลี่ยนแปลงมาของทั้งสองคนเลย
- เอกสารแสดงความสัมพันธ์ของคู่สมรส เช่น สำเนาใบทะเบียนสมรส หรือสำเนาใบหย่า หรือสำเนาใบมรณบัตรของคู่สมรส
- เอกสารแสดงถึงที่มาของรายได้ของผู้สมัคร สำเนาใบ ภงด. 90 หรือ ภงด. 91 และจะต้องแนบมาพร้อมกับใบเสร็จรับเงิน ซึ่งจะต้องย้อนหลัง 6 เดือน หรือหนังสือรับรองการหักภาษี 50 ทวิ หรือ หลักฐานแสดงเสียภาษีเงินได้ คุณมีเอกสารอะไรก็ให้แนบมาให้ครบเพื่อประกอบการพิจารณาของสินเชื่อบ้าน
- สำเนาบัญชีเงินฝากที่มีเงินเข้าออกเป็นประจำโดยที่ย้อนหลัง 6 เดือน ซึ่งจะสามารถใช้บัญชีเงินฝากของธนาคารใดก็ได้
สนใจสามารถสมัครกู้บ้านธนชาติได้ที่นี่
- หากคุณสนใจสมัครสินเชื่อบ้านใหม่ธนาคารธนชาต สมัครได้ที่ธนาคารธนชาต ทุกสาขาทั่วประเทศ
Credit : https://pixabay.com
คำถามที่พบบ่อยที่เกี่ยวกับสินเชื่อบ้านธนาคารธนชาต
ธนาคารใช้เวลากี่วันในการพิจารณาสินเชื่อบ้านธนชาต
- หากธนาคารได้รับเอกสารครบถ้วนแล้ว ในกรณีที่คุณเป็นบุคคลทั่วไปที่มีรายได้ประจำ ธนาคารจะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 3 วันทำการค่ะ และสำหรับคนที่มีธุรกิจส่วนตัวนั้น ธนาคารจะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 5 วันทำการค่ะ
ในการขอกู้สินเชื่อบ้านธนชาต ธนาคารจะมีการตรวจสอบประวัติย้อนหลังหรือไม่ และจะย้อนหลังกี่ปี
- ธนาคารจะทำการตรวจสอบประวัตย้อนหลังค่ะ สำหรับลูกค้าที่มีบัตรเครดิตจะตรวจสอบย้อนหลังภายใน 5 ปีค่ะ ทั้งนี้ หากคุณเป็นคนที่ฟ้องล้มละลาย จะไม่สามารถขอกู้สินเชื่อบ้านได้นะคะ และสำหรับคนที่มีบัญชีกระแสรายวัน โดยที่เงินในบัญชีไม่พอจ่าย คุณจะต้องติดต่อไปยังสถาบันการเงินนั้นๆเพื่อถอนประวัติ BLACK LIST ดังกล่าวค่ะ
หากต้องการชำระคืนเงินต้นมากกว่าค่างวดที่กำหนดไว้ ได้หรือไม่
- คุณสามารถจ่ายเงินต้นได้มากกว่าที่กำหนดค่ะ โดยที่ธนาคารจะไม่มีการคิดค่าธรรมการชำระคืนก่อนกำหนดค่ะ
หากต้องการปิดยอดหนี้ก่อนได้หรือไม่ และต้องเสียค่าธรรมเนียมไหม
- คุณสามารถปิดยอดหนี้ได้ตลอดเวลาค่ะ แต่ถ้าคุณมีการปิดยอดหนี้ก่อนกำหนด หรือในกรณีที่คุณรีไฟแนนซ์บ้านไปยังธนาคารอื่นๆ ภายใน 3 ปีแรกนั้น คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละ 3 จากยอดหนี้ที่เหลือทั้งหมดให้กับธนาคารค่ะ
ในกรณีที่ยังมีหนี้ค้างชำระกับบัตรเครดิตอยู่นั้น จะสามารถขอกู้สินเชื่อบ้านธนชาตได้หรือไม่
- ธนาคารขอแนะนำว่าให้คุณไปจ่ายหนี้บัตรเครดิตที่ค้างไว้ให้หมดก่อนค่ะ เพื่อที่ธนาคารไปเช็คในฐานข้อมูลหนี้ค้างชำระ ประวัติจะไม่ถูกแสดงในบัญชีลูกหนี้บัตรเครดิต แต่ถ้าคุณยังไม่ชำระหนี้บัตรเครดิตที่ค้างอยู่นั้น เราก็ไม่แนะนำให้กู้ซื้อบ้านค่ะ เพราะคุณอาจจะไม่ได้รับการอนุมัติค่ะ
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ไหน
- คุณสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารธนชาตทุกสาขา ทั่วประเทศเลยค่ะ หรือโทรสอบถามได้ที่ Call Center 1770 ได้เลยค่ะ
เป็นยังไงบ้างคะกับสินเชื่อบ้านธนาคารธนชาตที่เรานำมาเสนอวันนี้ คงจะทำให้ความฝันของเพื่อนๆที่จะมีบ้านเป็นของตัวเองก็จะไม่ไกลเกินเอื้อมนะคะ นอกจากนี้แล้วก่อนตัดสินใจกู้สินเชื่อบ้านนั้น เพื่อนๆควรจะหาสินเชื่อบ้านของธนาคารอื่นๆด้วยค่ะ เพื่อที่จะได้ดูข้อแตกต่างกันค่ะ อย่าเพิ่งรีบร้อนตัดสินใจนะคะ เพราะการซื้อบ้านนั้น ถึงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเช่นกันค่ะ เพราะการซื้อบ้านนั้นราคาก็สูง ผ่อนก็นาน ยังไงควรจะเช็คหลายๆธนาคารก่อนตัดสินใจค่ะ และถ้าเพื่อนๆยังไม่มีข้อมูลสินเชื่อบ้านของธนาคารอื่นๆนั้น สามารถเข้าไปดูได้จากเว็บไซต์ imoney.in.th ได้เลยค่ะ ทีมงานเราได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับสินเชื่อบ้านไม่ว่าจะเป็นซื้อบ้านใหม่ บ้านมือสอง หรือต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน เราก็มีข้อให้เพื่อนๆได้เข้าไปอ่านกันค่ะ ยังไงฝากติดตามเว็บไซต์ด้วยนะคะ ชื่นชอบกด Like เลยค่ะ บอกต่อก็กด Share ได้เลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลสำคัญจากธนาคารธนชาต http://www.thanachartbank.co.th