รวมข้อมูลประกันสุขภาพไทยวิวัฒน์ อัพเดท 2563 ตอบโจทย์ทุกการวางแผนสำหรับคนที่รักสุขภาพ ไม่มีเคลมมีคืนเงินให้ และให้ความคุ้มครองสูงครบทุกความต้องการของคุณและคนที่คุณรัก
ประกันสุขภาพไทยวิวัฒน์ – หลายคนอาจจะเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่าควรจะเลือกทำประกันสุขภาพดีไหม??? ใจหนึ่งก็ไม่อยากจะเสียเงิน กลัวว่าเสียเงินไปแล้วถ้าเกิดไม่ได้สิทธิในการรักษาพยาบาลเงินต้องนั้นก็อาจจะสูญเปล่าหรือไม่ หรือไม่ก็คิดว่าตัวเองมีประกันสังคม หรือมีบัตรทองอยู่แล้วจะต้องทำประกันสุขภาพไปเพื่ออะไร แต่เราเชื่อค่ะว่ายังมีอีกหลายคนที่เลือกทำประกันสุขภาพ และใช้สิทธิในการรักษาพยาบาลของประกันสุขภาพมากกว่าการใช้สิทธิประกันสังคมทั้งๆที่ก็มีสิทธิที่จะใช้ประกันสังคมได้ เนื่องจากปัญหาหลักๆที่หลายคนมักจะต้องพบเจอเสมอนั่นก็คือในการไปรักษาจะต้องรอคิวที่นานมาก ในทางกลับกันหากคุณใช้สิทธิประกันสุขภาพก็จะได้รับการบริการอีกระดับนึงเลยค่ะ และยิ่งเดี๋ยวนี้การทำประกันสุขภาพก็มีหลายประเภท มีทั้งให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นการรักษาพยาบาลได้ทั้งกรณีผู้ป่วยนอก หรือผู้ป่วยใน นอกจากนี้แล้วยังมีแบบที่ไม่ได้ใช้ประกันสุขภาพเลย ก็จะได้รับเบี้ยประกันภัยคืนอีกด้วยค่ะ และหลายคนที่เลือกทำประกันสุขภาพก็เพื่อจะคุ้มครองโรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็งที่ทำให้คร่าชีวิตคนไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับค่ารักษาพยาบาลก็มีเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆเช่นกันค่ะ ฉะนั้น คุณก็ควรจะที่ต้องเตรียมความพร้อมในการรับมือเพื่อดูแลสุขภาพ หรือเตรียมรับกับเหตุการณ์ที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ในอนาคตค่ะ และวันนี้เช่นเคยเราก็มีประกันสุขภาพไทยวิวัฒน์มาฝากกันค่ะ เราลองดูสิว่ามีอะไรเด่นๆ ที่น่าสนใจกันบ้างค่ะ
รวมผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพไทยวิวัฒน์ อัพเดท 2563
ชื่อผลิตภัณฑ์ |
จุดเด่น | เงื่อนไขการสมัคร |
ประกันสุขภาพแอคทีฟเฮลล์ | รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันสูงสุดถึง 40% คุ้มครองในกรณีที่เจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุสูงถึง 1,000,000 บาท คุ้มครองทั่วโลก |
จะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 – 50 ปี และสามารถต่ออายุกรมธรรม์ได้จนถึงอายุ 55 ปี |
ประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์ |
สมัครง่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ สมัครพร้อมกัน 3 คน รับส่วนลดทันที 10% และมีประaวัติดีจะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยสูงสุด 15% |
จะต้องมีอายุตั้งแต่ 21 – 60 ปี |
Credit : https://pixabay.com
ประกันสุขภาพไทยวิวัฒน์ แอคทีฟเฮลล์
ประกันสุขภาพแอคทีฟเฮลล์ ประกันสุขภาพสำหรับคนที่รักสุขภาพยิ่งเดี๋ยวนี้หลายๆคนก็หันมาดูแลสุขภาพกินอาหารคลีน ออกกำลังกายกันมากขึ้น หากใครที่คิดกำลังจะเปลี่ยนตัวเอง อยากออกกำลังกายมากขึ้น หากเลือกทำประกันสุขภาพแอคทีฟเฮลล์นี้แล้วนอกจากจะได้รับความคุ้มครองทั้งในกรณีที่รักษาแบบไม่นอนโรงพยาบาลหรือนอนพักรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว ยังจะได้รับอุปกรณ์ Smart Watch เป็นนาฬิกาสำหรับการออกกำลังกาย ที่สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ จำนวนการเดินในแต่ละวันรวมไปถึงสามารถวัดการออกกำลังกายและเวลาในการนอนได้ ที่มีมูลค่าสูงถึง 8,500 บาทเลยค่ะ ไม่เพียงเท่านั้นนะคะ หากคุณออกกำลังกายได้ตามแผนที่กำหนดไว้จะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันทุกเดือนสูงสุดถึง 40% อีกด้วยค่ะ ฉะนั้นคนที่อยากมีสุขภาพ รักในการออกำลังกายไม่ควรพลาดนะคะ
จุดเด่น
- รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันสูงสุดถึง 40%
- คุ้มครองในกรณีที่เจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุสูงถึง 1,000,000 บาท
- รักษาได้ทุกโรงพยาบาลในเครือข่ายโดยไม่ต้องสำรองจ่ายเงิน
- คุ้มครองค่ารักษาโรงพยาบาลจากอุบัติเหตุทั่วโลก
- ผ่อนชำะเบี้ยประกันภัยเป็นรายเดือนได้
- คุ้มครองทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก
สำหรับประกันสุขภาพแอคทีฟเฮลล์นี้จะมีแผนความคุ้มครองให้เลือกกัน 2 แบบ ได้แก่ Gold ที่มีทุนประกันอยู่ที่ 500,000 บาท และ Platinum ที่มีทุนประกันอยู่ที่ 1,000,000 บาท โดยหลักๆแล้วจะให้ความคุ้มครองที่เหมือนกันเลยค่ะ แตกต่างกันในเรื่องของวงเงินในการคุ้มครอง และเบี้ยประกันที่จะต้องจ่ายในแต่ละปีค่ะ สำหรับใครที่พอมีกำลังหน่อยก็เลือกเป็นแผน Platinum ไปเลยค่ะ เพราะให้ความคุ้มครองที่สูงเลยค่ะ เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าแต่ละแผนนั้นจะน่าสนใจแค่ไหน และให้วงเงินเท่าไรกันบ้างค่ะ
แผน Gold ทุนประกัน 500,000 บาท
ความคุ้มครองในกรณีที่จะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล จะได้รับค่ารักษาพยาบาลต่อครั้งสูงสุด ดังนี้ค่ะ
- ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าในการรักษาพยาบาล จะแบ่งเป็นห้องผู้ป่วยปกติ และห้องผู้ป่วยหนัก
- สำหรับห้องปกติทั่วไปนั้น จะได้รับค่าอยู่ที่วันละ 5,000 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนวันเลยค่ะ
- สำหรับห้องผู้ป่วยหนัก ได้แก่ ห้อง ICU หรือ CCU จะได้รับค่าอยู่ที่วันละ 10,000 บาท แต่จะได้เพียงแค่ 15 วันเท่านั้นนะคะ
- สำหรับค่ารักษาพยาบาลรวมถึงค่าบริการทั่วไปนั้น ก็จะได้รับความคุ้มครอง โดยแบ่งแยกประเภทกันออกไปค่ะ
- สำหรับค่ารักษาพยาบาลทั่วไป เช่น ค่าทำแผล หรือค่าเอ็กซ์เรย์ หรือค่ากายภาพบำบัด เป็นต้น รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่มีความต่อเนื่องภายใน 30 วันหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ประกันจะจ่ายให้ตามจริงเลยค่ะ
- สำหรับในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน ก็จะได้รับความคุ้มครอง แต่จะต้องรักษาตัวภาย 24 ชั่วโมงหลังจากเกิดอุบัติเหตุนะคะ ประกันจะจ่ายให้ตามจริงเลยค่ะ แต่จะเบิกได้ไม่เกิน 15 วันซึ่งก็จะต้องรักษาตัวอย่างต่อเนื่องนะคะ
- กรณีที่การรักษาพยาบาลนั้นมีความจำเป็นจะต้องทำการผ่าตัด ก็ได้รับความคุ้มครองเช่นกันค่ะ โดยไม่ว่าจะเป็นค่าแพทย์ผ่าตัดหรือค่าหัตถการ ประกันจะจ่ายให้ตามจริงเลยค่ะ
- กรณีที่นอนที่โรงพยาบาลมีความจำเป็นที่แพทย์จะต้องมาคอยดูแลอาการนั้น ก็จะสามารถเบิกค่าดูแลโดยแพทย์เจ้าของไข้ได้เลยค่ะ ประกันจะจ่ายให้ตามจริงเลยค่ะ แต่ในการเบิกนั้นจะต้องไม่เกิน 1 ครั้งต่อวัน และไม่จำกัดจำนวนวันอีกด้วยค่ะ
ความคุ้มครองในกรณีที่จะต้องไม่นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล จะได้รับค่ารักษาพยาบาลต่อครั้งสูงสุด ดังนี้ค่ะ
- สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ครั้งละ 1,500 บาท ซึ่งจะเบิกได้แค่เพียง 1 ครั้งต่อวัน และจะต้องไม่เกิน 30 วันต่อปีค่ะ
ความคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
- กรณีที่เสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง สาเหตุมาจากอุบัติเหตุ จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 100,000 บาทค่ะ
- กรณีที่เสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง สาเหตุมาจากการถูกฆาตรกรรมหรือถูกทำร้ายร่างกาย จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 100,000 บาทค่ะ
- กรณีที่เสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง โดยมีสาเหตุมาจากการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 100,000 บาทค่ะ
แผน Platinum ทุนประกัน 1,000,000 บาท
ความคุ้มครองในกรณีที่จะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล จะได้รับค่ารักษาพยาบาลต่อครั้งสูงสุด ดังนี้ค่ะ
- ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าในการรักษาพยาบาล จะแบ่งเป็นห้องผู้ป่วยปกติ และห้องผู้ป่วยหนัก
- สำหรับห้องปกติทั่วไปนั้น จะได้รับค่าอยู่ที่วันละ 10,000 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนวันเลยค่ะ
- สำหรับห้องผู้ป่วยหนัก ได้แก่ ห้อง ICU หรือ CCU จะได้รับค่าอยู่ที่วันละ 20,000 บาท แต่จะได้เพียงแค่ 15 วันเท่านั้นนะคะ
- สำหรับค่ารักษาพยาบาลรวมถึงค่าบริการทั่วไปนั้น ก็จะได้รับความคุ้มครอง โดยแบ่งแยกประเภทกันออกไปค่ะ
- สำหรับค่ารักษาพยาบาลทั่วไป เช่น ค่าทำแผล หรือค่าเอ็กซ์เรย์ หรือค่ากายภาพบำบัด เป็นต้น รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่มีความต่อเนื่องภายใน 30 วันหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ประกันจะจ่ายให้ตามจริงเลยค่ะ
- สำหรับในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน ก็จะได้รับความคุ้มครอง แต่จะต้องรักษาตัวภาย 24 ชั่วโมงหลังจากเกิดอุบัติเหตุนะคะ ประกันจะจ่ายให้ตามจริงเลยค่ะ แต่จะเบิกได้ไม่เกิน 15 วันซึ่งก็จะต้องรักษาตัวอย่างต่อเนื่องนะคะ
- กรณีที่การรักษาพยาบาลนั้นมีความจำเป็นจะต้องทำการผ่าตัด ก็ได้รับความคุ้มครองเช่นกันค่ะ โดยไม่ว่าจะเป็นค่าแพทย์ผ่าตัดหรือค่าหัตถการ ประกันจะจ่ายให้ตามจริงเลยค่ะ
- กรณีที่นอนที่โรงพยาบาลมีความจำเป็นที่แพทย์จะต้องมาคอยดูแลอาการนั้น ก็จะสามารถเบิกค่าดูแลโดยแพทย์เจ้าของไข้ได้เลยค่ะ ประกันจะจ่ายให้ตามจริงเลยค่ะ แต่ในการเบิกนั้นจะต้องไม่เกิน 1 ครั้งต่อวัน และไม่จำกัดจำนวนวันอีกด้วยค่ะ
ความคุ้มครองในกรณีที่จะต้องไม่นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล จะได้รับค่ารักษาพยาบาลต่อครั้งสูงสุด ดังนี้ค่ะ
- สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ครั้งละ 3,000 บาท ซึ่งจะเบิกได้แค่เพียง 1 ครั้งต่อวัน และจะต้องไม่เกิน 30 วันต่อปีค่ะ
ความคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
- กรณีที่เสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง สาเหตุมาจากอุบัติเหตุ จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 200,000 บาทค่ะ
- กรณีที่เสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง สาเหตุมาจากการถูกฆาตรกรรมหรือถูกทำร้ายร่างกาย จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 200,000 บาทค่ะ
- กรณีที่เสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง โดยมีสาเหตุมาจากการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 200,000 บาทค่ะ
อัตราค่าเบี้ยประกันสุขภาพแอคทีฟเฮลล์
- แผน Gold จ่ายเบี้ยประกันอยู่ที่ 30,000 บาทต่อปี หรือคิดเป็น 2,500 บาทต่อเดือนค่ะ
- แผน Platinum จ่ายเบี้ยประกันอยู่ที่ 39,000 บาทต่อปี หรือคิดเป็น 3,250 บาทต่อเดือนค่ะ
พิเศษสุดสำหรับใครที่สมัครทำประกันสุขภาพในช่วงนี้จะได้รับส่วนลดไปเลยค่ะ แผน Gold จะเหลือเพียงเดือนละ 1,700 บาทเท่านั้น และ แผน Platinum จะเหลือเพียงเดือนละ 2,050 บาทค่ะ
หลายคนก็อาจจะเริ่มสงสัยกันแล้วว่าจะเมื่อสมัครทำประกันสุขภาพแอคทีฟเฮลล์ แล้วจะได้รับส่วนลดได้อย่างไรนั้น วันนี้ iMoney ก็ไปสรรหาคำตอบมาให้ค่ะ ก็เมื่อคุณสมัครทำประกันแล้วก็จะได้รับนาฬิกาที่เราเรียกว่าเป็นอุปกรณ์ของ Fitbit โดยการออกกำลังกายที่นำมานับเป็นนาทีออกกำลังคือ ช่วง peak และ ช่วง cardio ซึ่งจะคำนวณตามอายุของคุณเลยค่ะ ที่จะมาจากการคำนวณของ Fitbit โดยวัดจากอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งเจ้าเครื่องนี้ล่ะที่จะคอยทำหน้าที่นับจำนวนก้าวของคุณในแต่ละวัน รวมถึงการออกกำลังกายในแต่ละวันด้วยค่ะ เรามาดูการให้คะแนนกันบ้างดีกว่าค่ะว่าทำอย่างไรจะได้คะแนนเยอะๆ
- หากคุณเดินไป 10,000 ก้าวขึ้นไป และออกกำลังกาย 45 นาทีขึ้นไปต่อวัน จะได้รับ 2 คะแนน
- หากคุณเดินไป 7,500 ก้าวขึ้นไป และออกกำลังกาย 30 นาทีขึ้นไปต่อวัน จะได้รับ 1 คะแนน
- หากคุณเดินน้อยกว่า 7,500 ก้าว และออกกำลังกายน้อยกว่า 30 นาทีต่อวัน จะไม่ได้รับคะแนนเลยค่ะ
โดยคะแนนเหล่านี้ก็จะสะสมในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งจะต้องให้ได้ 4 คะแนนภายในหนึ่ง 1 สัปดาห์นะคะ โดยจะนำคะแนนในแต่ละสัปดาห์มารวมกันและนำมาเป็นส่วนลดเบี้ยประกันภัยในงวดถัดไปค่ะ
เงื่อนไขการสมัครทำประกันประกันสุขภาพไทยวิวัฒน์ แอคทีฟเฮลล์
- ผู้สมัครจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 – 50 ปี
- ความคุ้มครองจะมีระยะเวลาสั้นๆเพียง 2 ปี คุณสามารถต่อกรมธรรม์ได้เรื่อยๆ จนถึงอายุ 55 ปีเลยค่ะ
สนใจสมัครประกันสุขภาพแอคทีฟเฮลล์
- หากคุณสนใจสมัครก็สามารถคลิ๊กที่นี่ได้เลยค่ะ health.thaivivat.co.th จากนั้นก็กรอกรายละเอียดต่างๆให้ครบถ้วน และจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมาในภายหลังค่ะ
Credit : https://pixabay.com
ประกันสุขภาพไทยวิวัฒน์ ประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์
ประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์ ประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองทั้งเรื่องสุขภาพ หรืออุบัติเหตุ ดูแลทั้งกรณีผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ซึ่งครอบคลุมทุกการรักษาเริ่มตั้งแต่ ค่ารักษาพยาบาล , ค่าธรรมเนียมแพทย์, การตรวจสุขภาพประจำปี ครอบคลุมไปถึงค่าห้องผู้เฝ้าไข้ ด้วยวงเงินที่สูงถึง 8,000,000 บาทเลยค่ะ และที่สำคัญใครๆก็สามารถสมัครประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์ได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือชาวต่างชาติก็สมัครได้เลยค่ะ เพียงแค่ขอให้อยู่ในประเทศไทยเท่านั้นพอค่ะ และยังมีแผนความคุ้มครองให้เลือกแตกต่างกันถึง 6 ระดับเลยค่ะ
จุดเด่น
- หากมีประวัติดีจะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยสูงสุด 15%
- หากสมัครพร้อมกัน 3 คน รับส่วนลดทันที 10%
- ผ่อนชำะเบี้ยประกันภัยเป็นรายเดือนได้
ประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์ มีแผนคุ้มครองมีให้เลือกกันมากมายถึง 6 แผนเลยค่ะ เรามาเริ่มต้นกันตั้งแต่แผนที่ 1 ไปจนถึง แผนที่ 6 เลยค่ะว่าจะวงเงินในการคุ้มครองจะแตกต่างกันสักเท่าไรค่ะ
ประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์ แผน 1 STAR
- ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยในจะได้รับความคุ้มครองสูงสุด 150,000 บาทต่อปี
- ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าในการรักษาพยาบาล สำหรับห้องปกติทั่วไปนั้น จะได้รับค่าอยู่ที่วันละ 1,000 บาท และห้อง ICU จะได้รับค่าอยู่ที่วันละ 2,000 บาท
- สำหรับค่ารักษาพยาบาลทั่วไป เช่น ค่ายา ค่าทำแผล ค่าเอ็กซ์เรย์ ค่าตรวจโรค ในห้องแล็ป ค่ากายภาพบำบัด ค่าห้องผ่าตัด ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่มีความต่อเนื่องภายใน 30 วันหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว จะได้รับความคุ้มครองครั้งละ 12,000 บาท
- กรณีที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน ก็จะได้รับความคุ้มครอง แต่จะต้องรักษาตัวภาย 24 ชั่วโมงหลังจากเกิดอุบัติเหตุนะคะ จะได้รับความคุ้มครองครั้งละ 5,000 บาท แต่จะเบิกได้ไม่เกิน 15 วันซึ่งก็จะต้องรักษาตัวอย่างต่อเนื่องนะคะ
- ค่ารักษาพยาบาลและค่าบริการทั่วไป หรือการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือค่าฟอกไต จะได้รับความคุ้มครองปีละ 30,000 บาท
- ค่าธรรมเนียมแพทย์ในการผ่าตัด และรวมไปถึงค่าปรึกษาแพทย์ในการผ่าตัด จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 20,000 บาท
- กรณีที่นอนที่โรงพยาบาลมีความจำเป็นที่แพทย์จะต้องมาคอยดูแลอาการนั้น ก็จะสามารถเบิกค่าดูแลโดยแพทย์เจ้าของไข้ได้เลยค่ะ จะเบิกได้วันละไม่เกิน 500 บาท เบิกได้สูงสุดไม่เกิน 1 ครั้งต่อวันค่ะ
- กรณีที่จะต้องมีการปรึกษาแพทย์ในเรื่องต่างๆ ก็จะเบิกเงินค่าปรึกษาแพทย์ได้ไม่เกิน 2,000 บาทต่อครั้งค่ะ
- จะได้รับความคุ้มครองทั่วโลก สำหรับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นจากการบาดเจ็บซึ่งมีสาเหตุมาจากการเกิดอุบัติเหตุเท่านั้นค่ะ
- คุ้มครองในกรณีที่จะต้องมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นการย้ายโรงพยาบาล หรือจะย้ายกลับไปรักษาตัวที่บ้าน รวมไปถึงการเคลื่อนย้ายศพด้วยค่ะ จะได้รับความคุ้มครองสูงสุด 500,000 บาทต่อปีเลยค่ะ
- สามารถตรวจสุขภาพได้ 1 ครั้งต่อปี โดยจะต้องจ่ายล่วงหน้าไปก่อนค่ะ ซึ่งจะเบิกได้ 300 บาท
- คุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะในครั้งนั้นจะต้องเสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ และไม่ว่าจะเกิดจากการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ ก็จะได้รับความคุ้มครอง 100,000 บาท
- คุ้มครองในกรณีที่มีคนเฝ้าไข้ค่ะ โดยจะเบิกได้ 500 บาทค่ะ แต่คนที่นอนป่วยนั้นจะต้องเป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีค่ะ
- รับเงินชดเชยในกรณีที่คุณจะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่คุณไม่ได้ใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาล ก็จะได้รับเป็นเงินแทนไปค่ะ โดยจะได้รับเงินวันละ 500 บาท ซึ่งจะได้สูงสุดไม่เกิน 30 วันต่อปีค่ะ
- คุ้มครองในกรณีที่ไม่ได้นอนที่โรงพยาบาลนั้นก็จะได้รับความคุ้มครอง ถ้าเป็นแบบสแตนดาร์ต จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 400 บาทต่อครั้ง และถ้าเป็นแบบเดอลุกซ์ จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 600 บาทต่อครั้ง จะเบิกได้ไม่เกิน 30 ครั้งต่อปีค่ะ
ประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์ แผน 2 STAR
- ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยในจะได้รับความคุ้มครองสูงสุด 400,000 บาทต่อปี
- ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าในการรักษาพยาบาล สำหรับห้องปกติทั่วไปนั้น จะได้รับค่าอยู่ที่วันละ 3,000 บาท และห้อง ICU จะได้รับค่าอยู่ที่วันละ 5,000 บาท
- สำหรับค่ารักษาพยาบาลทั่วไป เช่น ค่ายา ค่าทำแผล ค่าเอ็กซ์เรย์ ค่าตรวจโรค ในห้องแล็ป ค่ากายภาพบำบัด ค่าห้องผ่าตัด ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่มีความต่อเนื่องภายใน 30 วันหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว จะได้รับความคุ้มครองครั้งละ 40,000 บาท
- กรณีที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน ก็จะได้รับความคุ้มครอง แต่จะต้องรักษาตัวภาย 24 ชั่วโมงหลังจากเกิดอุบัติเหตุนะคะ จะได้รับความคุ้มครองครั้งละ 7,000 บาท แต่จะเบิกได้ไม่เกิน 15 วันซึ่งก็จะต้องรักษาตัวอย่างต่อเนื่องนะคะ
- ค่ารักษาพยาบาลและค่าบริการทั่วไป หรือการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือค่าฟอกไต จะได้รับความคุ้มครองปีละ 80,000 บาท
- ค่าธรรมเนียมแพทย์ในการผ่าตัด และรวมไปถึงค่าปรึกษาแพทย์ในการผ่าตัด จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 50,000 บาท
- กรณีที่นอนที่โรงพยาบาลมีความจำเป็นที่แพทย์จะต้องมาคอยดูแลอาการนั้น ก็จะสามารถเบิกค่าดูแลโดยแพทย์เจ้าของไข้ได้เลยค่ะ จะเบิกได้วันละไม่เกิน 700 บาท เบิกได้สูงสุดไม่เกิน 1 ครั้งต่อวันค่ะ
- กรณีที่จะต้องมีการปรึกษาแพทย์ในเรื่องต่างๆ ก็จะเบิกเงินค่าปรึกษาแพทย์ได้ไม่เกิน 4,000 บาทต่อครั้งค่ะ
- จะได้รับความคุ้มครองทั่วโลกยกเว้นประเทศอเมริกา จะเบิกค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วย หรือได้รับบาดเจ็บที่เกิดขึ้นโดยกระทันหัน แต่ถ้าเป็นประเทศแคนนาดาจะคุ้มครองสาเหตุมาจากการเกิดอุบัติเหตุเท่านั้นค่ะ
- คุ้มครองในกรณีที่จะต้องมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นการย้ายโรงพยาบาล หรือจะย้ายกลับไปรักษาตัวที่บ้าน รวมไปถึงการเคลื่อนย้ายศพด้วยค่ะ จะได้รับความคุ้มครองสูงสุด 500,000 บาทต่อปีเลยค่ะ
- สามารถตรวจสุขภาพได้ 1 ครั้งต่อปี โดยจะต้องจ่ายล่วงหน้าไปก่อนค่ะ ซึ่งจะเบิกได้ 600 บาท
- คุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะในครั้งนั้นจะต้องเสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ และไม่ว่าจะเกิดจากการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ ก็จะได้รับความคุ้มครอง 200,000 บาท
- คุ้มครองในกรณีที่มีคนเฝ้าไข้ค่ะ โดยจะเบิกได้ 500 บาทค่ะ แต่คนที่นอนป่วยนั้นจะต้องเป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีค่ะ
- รับเงินชดเชยในกรณีที่คุณจะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่คุณไม่ได้ใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาล ก็จะได้รับเป็นเงินแทนไปค่ะ โดยจะได้รับเงินวันละ 1,000 บาท ซึ่งจะได้สูงสุดไม่เกิน 30 วันต่อปีค่ะ
- คุ้มครองในกรณีที่ไม่ได้นอนที่โรงพยาบาลนั้นก็จะได้รับความคุ้มครอง ถ้าเป็นแบบสแตนดาร์ต จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 600 บาทต่อครั้ง และถ้าเป็นแบบเดอลุกซ์ จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 1,000 บาทต่อครั้ง จะเบิกได้ไม่เกิน 30 ครั้งต่อปีค่ะ
ประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์ แผน 3 STAR
- ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยในจะได้รับความคุ้มครองสูงสุด 600,000 บาทต่อปี
- ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าในการรักษาพยาบาล สำหรับห้องปกติทั่วไปนั้น จะได้รับค่าอยู่ที่วันละ 5,000 บาท และห้อง ICU จะได้รับค่าอยู่ที่วันละ 10,000 บาท
- สำหรับค่ารักษาพยาบาลทั่วไป เช่น ค่ายา ค่าทำแผล ค่าเอ็กซ์เรย์ ค่าตรวจโรค ในห้องแล็ป ค่ากายภาพบำบัด ค่าห้องผ่าตัด ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่มีความต่อเนื่องภายใน 30 วันหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว จะได้รับความคุ้มครองครั้งละ 70,000 บาท
- กรณีที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน ก็จะได้รับความคุ้มครอง แต่จะต้องรักษาตัวภาย 24 ชั่วโมงหลังจากเกิดอุบัติเหตุนะคะ จะได้รับความคุ้มครองครั้งละ 10,000 บาท แต่จะเบิกได้ไม่เกิน 15 วันซึ่งก็จะต้องรักษาตัวอย่างต่อเนื่องนะคะ
- ค่ารักษาพยาบาลและค่าบริการทั่วไป หรือการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือค่าฟอกไต จะได้รับความคุ้มครองปีละ 120,000 บาท
- ค่าธรรมเนียมแพทย์ในการผ่าตัด และรวมไปถึงค่าปรึกษาแพทย์ในการผ่าตัด จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 80,000 บาท
- กรณีที่นอนที่โรงพยาบาลมีความจำเป็นที่แพทย์จะต้องมาคอยดูแลอาการนั้น ก็จะสามารถเบิกค่าดูแลโดยแพทย์เจ้าของไข้ได้เลยค่ะ จะเบิกได้วันละไม่เกิน 1,000 บาท เบิกได้สูงสุดไม่เกิน 1 ครั้งต่อวันค่ะ
- กรณีที่จะต้องมีการปรึกษาแพทย์ในเรื่องต่างๆ ก็จะเบิกเงินค่าปรึกษาแพทย์ได้ไม่เกิน 6,000 บาทต่อครั้งค่ะ
- จะได้รับความคุ้มครองทั่วโลกยกเว้นประเทศอเมริกา จะเบิกค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วย หรือได้รับบาดเจ็บที่เกิดขึ้นโดยกระทันหัน แต่ถ้าเป็นประเทศแคนนาดาจะคุ้มครองสาเหตุมาจากการเกิดอุบัติเหตุเท่านั้นค่ะ
- คุ้มครองในกรณีที่จะต้องมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นการย้ายโรงพยาบาล หรือจะย้ายกลับไปรักษาตัวที่บ้าน รวมไปถึงการเคลื่อนย้ายศพด้วยค่ะ จะได้รับความคุ้มครองสูงสุด 500,000 บาทต่อปีเลยค่ะ
- สามารถตรวจสุขภาพได้ 1 ครั้งต่อปี โดยจะต้องจ่ายล่วงหน้าไปก่อนค่ะ ซึ่งจะเบิกได้ 800 บาท
- คุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะในครั้งนั้นจะต้องเสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ และไม่ว่าจะเกิดจากการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ ก็จะได้รับความคุ้มครอง 200,000 บาท
- คุ้มครองในกรณีที่มีคนเฝ้าไข้ค่ะ โดยจะเบิกได้ 500 บาทค่ะ แต่คนที่นอนป่วยนั้นจะต้องเป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีค่ะ
- รับเงินชดเชยในกรณีที่คุณจะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่คุณไม่ได้ใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาล ก็จะได้รับเป็นเงินแทนไปค่ะ โดยจะได้รับเงินวันละ 1,000 บาท ซึ่งจะได้สูงสุดไม่เกิน 30 วันต่อปีค่ะ
- คุ้มครองในกรณีที่ไม่ได้นอนที่โรงพยาบาลนั้นก็จะได้รับความคุ้มครอง ถ้าเป็นแบบสแตนดาร์ต จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 1,000 บาทต่อครั้ง และถ้าเป็นแบบเดอลุกซ์ จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 1,500 บาทต่อครั้ง จะเบิกได้ไม่เกิน 30 ครั้งต่อปีค่ะ
Credit : https://pixabay.com
ประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์ แผน 4 STAR
- ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยในจะได้รับความคุ้มครองสูงสุด 1,000,000 บาทต่อปี
- ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าในการรักษาพยาบาล สำหรับห้องปกติทั่วไปนั้น จะได้รับค่าอยู่ที่วันละ 7,000 บาท และห้อง ICU จะเบิกได้เต็มจำนวนแบบ 100% เลยค่ะ
- สำหรับค่ารักษาพยาบาลทั่วไป เช่น ค่ายา ค่าทำแผล ค่าเอ็กซ์เรย์ ค่าตรวจโรค ในห้องแล็ป ค่ากายภาพบำบัด ค่าห้องผ่าตัด ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่มีความต่อเนื่องภายใน 30 วันหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว จะเบิกได้เต็มจำนวนแบบ 100%
- กรณีที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน ก็จะได้รับความคุ้มครอง แต่จะต้องรักษาตัวภาย 24 ชั่วโมงหลังจากเกิดอุบัติเหตุนะคะ จะเบิกได้เต็มจำนวนแบบ 100% แต่จะเบิกได้ไม่เกิน 15 วันซึ่งก็จะต้องรักษาตัวอย่างต่อเนื่องนะคะ
- ค่ารักษาพยาบาลและค่าบริการทั่วไป หรือการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือค่าฟอกไต จะได้รับความคุ้มครองปีละ 200,000 บาท
- ค่าธรรมเนียมแพทย์ในการผ่าตัด และรวมไปถึงค่าปรึกษาแพทย์ในการผ่าตัด จะเบิกได้เต็มจำนวนแบบ 100%
- กรณีที่นอนที่โรงพยาบาลมีความจำเป็นที่แพทย์จะต้องมาคอยดูแลอาการนั้น ก็จะสามารถเบิกค่าดูแลโดยแพทย์เจ้าของไข้ได้เลยค่ะ จะเบิกได้เต็มจำนวนแบบ 100% เบิกได้สูงสุดไม่เกิน 1 ครั้งต่อวันค่ะ
- กรณีที่จะต้องมีการปรึกษาแพทย์ในเรื่องต่างๆ ก็จะเบิกเงินค่าปรึกษาแพทย์ได้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อครั้งค่ะ
- จะได้รับความคุ้มครองทั่วโลกยกเว้นประเทศอเมริกา จะเบิกค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วย หรือได้รับบาดเจ็บที่เกิดขึ้นโดยกระทันหัน แต่ถ้าเป็นประเทศแคนนาดาจะคุ้มครองสาเหตุมาจากการเกิดอุบัติเหตุเท่านั้นค่ะ
- คุ้มครองในกรณีที่จะต้องมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นการย้ายโรงพยาบาล หรือจะย้ายกลับไปรักษาตัวที่บ้าน รวมไปถึงการเคลื่อนย้ายศพด้วยค่ะ จะได้รับความคุ้มครองสูงสุด 500,000 บาทต่อปีเลยค่ะ
- สามารถตรวจสุขภาพได้ 1 ครั้งต่อปี โดยจะต้องจ่ายล่วงหน้าไปก่อนค่ะ ซึ่งจะเบิกได้ 2,000 บาท
- คุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะในครั้งนั้นจะต้องเสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ และไม่ว่าจะเกิดจากการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ ก็จะได้รับความคุ้มครอง 200,000 บาท
- คุ้มครองในกรณีที่มีคนเฝ้าไข้ค่ะ โดยจะเบิกได้ 500 บาทค่ะ แต่คนที่นอนป่วยนั้นจะต้องเป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีค่ะ
- รับเงินชดเชยในกรณีที่คุณจะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่คุณไม่ได้ใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาล ก็จะได้รับเป็นเงินแทนไปค่ะ โดยจะได้รับเงินวันละ 1,000 บาท ซึ่งจะได้สูงสุดไม่เกิน 30 วันต่อปีค่ะ
- คุ้มครองในกรณีที่ไม่ได้นอนที่โรงพยาบาลนั้นก็จะได้รับความคุ้มครอง ถ้าเป็นแบบสแตนดาร์ต จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 1,500 บาทต่อครั้ง และถ้าเป็นแบบเดอลุกซ์ จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 2,000 บาทต่อครั้ง จะเบิกได้ไม่เกิน 30 ครั้งต่อปีค่ะ
ประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์ แผน 5 STAR
- ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยในจะได้รับความคุ้มครองสูงสุด 2,000,000 บาทต่อปี
- ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าในการรักษาพยาบาล สำหรับห้องปกติทั่วไปนั้น จะได้รับค่าอยู่ที่วันละ 11,000 บาท และห้อง ICU จะเบิกได้เต็มจำนวนแบบ 100% เลยค่ะ
- สำหรับค่ารักษาพยาบาลทั่วไป เช่น ค่ายา ค่าทำแผล ค่าเอ็กซ์เรย์ ค่าตรวจโรค ในห้องแล็ป ค่ากายภาพบำบัด ค่าห้องผ่าตัด ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่มีความต่อเนื่องภายใน 30 วันหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว จะเบิกได้เต็มจำนวนแบบ 100%
- กรณีที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน ก็จะได้รับความคุ้มครอง แต่จะต้องรักษาตัวภาย 24 ชั่วโมงหลังจากเกิดอุบัติเหตุนะคะ จะเบิกได้เต็มจำนวนแบบ 100% แต่จะเบิกได้ไม่เกิน 15 วันซึ่งก็จะต้องรักษาตัวอย่างต่อเนื่องนะคะ
- ค่ารักษาพยาบาลและค่าบริการทั่วไป หรือการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือค่าฟอกไต จะได้รับความคุ้มครองปีละ 400,000 บาท
- ค่าธรรมเนียมแพทย์ในการผ่าตัด และรวมไปถึงค่าปรึกษาแพทย์ในการผ่าตัด จะเบิกได้เต็มจำนวนแบบ 100%
- กรณีที่นอนที่โรงพยาบาลมีความจำเป็นที่แพทย์จะต้องมาคอยดูแลอาการนั้น ก็จะสามารถเบิกค่าดูแลโดยแพทย์เจ้าของไข้ได้เลยค่ะ จะเบิกได้เต็มจำนวนแบบ 100% เบิกได้สูงสุดไม่เกิน 1 ครั้งต่อวันค่ะ
- กรณีที่จะต้องมีการปรึกษาแพทย์ในเรื่องต่างๆ ก็จะเบิกเงินค่าปรึกษาแพทย์ได้ไม่เกิน 12,000 บาทต่อครั้งค่ะ
- จะได้รับความคุ้มครองทั่วโลกยกเว้นประเทศอเมริกา จะเบิกค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วย หรือได้รับบาดเจ็บที่เกิดขึ้นโดยกระทันหัน แต่ถ้าเป็นประเทศแคนนาดาจะคุ้มครองสาเหตุมาจากการเกิดอุบัติเหตุเท่านั้นค่ะ
- คุ้มครองในกรณีที่จะต้องมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นการย้ายโรงพยาบาล หรือจะย้ายกลับไปรักษาตัวที่บ้าน รวมไปถึงการเคลื่อนย้ายศพด้วยค่ะ จะเบิกได้เต็มจำนวนแบบ 100% และยังคุ้มครองในกรณีที่เคลื่อนย้ายในต่างประเทศอีกด้วยค่ะ
- สามารถตรวจสุขภาพได้ 1 ครั้งต่อปี โดยจะต้องจ่ายล่วงหน้าไปก่อนค่ะ ซึ่งจะเบิกได้ 4,000 บาท
- คุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะในครั้งนั้นจะต้องเสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ และไม่ว่าจะเกิดจากการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ ก็จะได้รับความคุ้มครอง 500,000 บาท
- คุ้มครองในกรณีที่มีคนเฝ้าไข้ค่ะ โดยจะเบิกได้ 800 บาทค่ะ แต่คนที่นอนป่วยนั้นจะต้องเป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีค่ะ
- รับเงินชดเชยในกรณีที่คุณจะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่คุณไม่ได้ใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาล ก็จะได้รับเป็นเงินแทนไปค่ะ โดยจะได้รับเงินวันละ 1,500 บาท ซึ่งจะได้สูงสุดไม่เกิน 30 วันต่อปีค่ะ
- คุ้มครองในกรณีที่ไม่ได้นอนที่โรงพยาบาลนั้นก็จะได้รับความคุ้มครอง ถ้าเป็นแบบสแตนดาร์ต จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 40,000 บาทต่อครั้ง และถ้าเป็นแบบเดอลุกซ์ จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 60,000 บาทต่อครั้ง โดยเบิกได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปีเลยค่ะ
ประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์ แผน 6 STAR
- ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยในจะได้รับความคุ้มครองสูงสุด 8,000,000 บาทต่อปี
- ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าในการรักษาพยาบาล สำหรับห้องปกติทั่วไปนั้น จะได้รับค่าอยู่ที่วันละ 12,000 บาท และห้อง ICU จะเบิกได้เต็มจำนวนแบบ 100% เลยค่ะ
- สำหรับค่ารักษาพยาบาลทั่วไป เช่น ค่ายา ค่าทำแผล ค่าเอ็กซ์เรย์ ค่าตรวจโรค ในห้องแล็ป ค่ากายภาพบำบัด ค่าห้องผ่าตัด ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่มีความต่อเนื่องภายใน 30 วันหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว จะเบิกได้เต็มจำนวนแบบ 100%
- กรณีที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน ก็จะได้รับความคุ้มครอง แต่จะต้องรักษาตัวภาย 24 ชั่วโมงหลังจากเกิดอุบัติเหตุนะคะ จะเบิกได้เต็มจำนวนแบบ 100% แต่จะเบิกได้ไม่เกิน 15 วันซึ่งก็จะต้องรักษาตัวอย่างต่อเนื่องนะคะ
- ค่ารักษาพยาบาลและค่าบริการทั่วไป หรือการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือค่าฟอกไต จะได้รับความคุ้มครองปีละ 1,000,000 บาท
- ค่าธรรมเนียมแพทย์ในการผ่าตัด และรวมไปถึงค่าปรึกษาแพทย์ในการผ่าตัด จะเบิกได้เต็มจำนวนแบบ 100%
- กรณีที่นอนที่โรงพยาบาลมีความจำเป็นที่แพทย์จะต้องมาคอยดูแลอาการนั้น ก็จะสามารถเบิกค่าดูแลโดยแพทย์เจ้าของไข้ได้เลยค่ะ จะเบิกได้เต็มจำนวนแบบ 100% เบิกได้สูงสุดไม่เกิน 1 ครั้งต่อวันค่ะ
- กรณีที่จะต้องมีการปรึกษาแพทย์ในเรื่องต่างๆ ก็จะเบิกได้เต็มจำนวนแบบ 100%
- จะได้รับความคุ้มครองทั่วโลกยกเว้นประเทศอเมริกา จะเบิกค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วย หรือได้รับบาดเจ็บที่เกิดขึ้นโดยกระทันหัน แต่ถ้าเป็นประเทศแคนนาดาจะคุ้มครองสาเหตุมาจากการเกิดอุบัติเหตุเท่านั้นค่ะ
- คุ้มครองในกรณีที่จะต้องมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นการย้ายโรงพยาบาล หรือจะย้ายกลับไปรักษาตัวที่บ้าน รวมไปถึงการเคลื่อนย้ายศพด้วยค่ะ จะเบิกได้เต็มจำนวนแบบ 100% และยังคุ้มครองในกรณีที่เคลื่อนย้ายในต่างประเทศอีกด้วยค่ะ
- สามารถตรวจสุขภาพได้ 1 ครั้งต่อปี โดยจะต้องจ่ายล่วงหน้าไปก่อนค่ะ ซึ่งจะเบิกได้ 8,000 บาท
- คุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะในครั้งนั้นจะต้องเสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ และไม่ว่าจะเกิดจากการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ ก็จะได้รับความคุ้มครอง 500,000 บาท
- คุ้มครองในกรณีที่มีคนเฝ้าไข้ค่ะ โดยจะเบิกได้ 1,000 บาทค่ะ แต่คนที่นอนป่วยนั้นจะต้องเป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีค่ะ
- รับเงินชดเชยในกรณีที่คุณจะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่คุณไม่ได้ใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาล ก็จะได้รับเป็นเงินแทนไปค่ะ โดยจะได้รับเงินวันละ 2,000 บาท ซึ่งจะได้สูงสุดไม่เกิน 30 วันต่อปีค่ะ
- คุ้มครองในกรณีที่ไม่ได้นอนที่โรงพยาบาลนั้นก็จะได้รับความคุ้มครอง ถ้าเป็นแบบสแตนดาร์ต จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 50,000 บาทต่อครั้ง และถ้าเป็นแบบเดอลุกซ์ จะได้รับความคุ้มครองอยู่ที่ 75,000 บาทต่อครั้ง โดยเบิกได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปีเลยค่ะ
เงื่อนไขการสมัครทำประกันสุขภาพไทยวิวัฒน์ สตาร์เฮลท์
- ผู้สมัครจะต้องมีอายุตั้งแต่ 21 – 60 ปี
- เลือกจ่ายเบี้ยประกันได้ทั้งรายเดือนและรายปี
- คุณไม่ต้องตรวจสุขภาพ แต่จะต้องตอบคำถามสุขภาพค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างค่ะสำหรับประกันสุขภาพของไทยวิวัฒน์ หากใครที่คิดว่ายังไม่โดนใจ หรือยังคิดว่าอยากจะดูประกันสุขภาพของที่อื่นๆเพื่อเปรียบเทียบก็สามารถเข้ามาอ่านได้ที่เว็บไซต์ imoney.in.th ได้เลยค่ะ เพราะทีมงานเราได้รวบรวมประกันสุขภาพที่น่าสนใจ มีหลากหลายบริษัท และหลายหลากประเภทเลยค่ะ ไม่เพียงแค่ประกันสุขภาพเท่านั้นนะคะ ในเว็บไซต์ยังมีบทความน่ารู้ที่เกี่ยวกับประกันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ ประกันภัยรถยนต์ก็มีค่ะ สนใจก็เข้าไปอ่านได้เลยค่ะที่นี่ที่เดียวที่ให้คุณหาคำตอบได้เลยค่ะ แต่เมื่อเพื่อนๆมีประกันสุขภาพกันแล้วก็อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอค่ะ โรคภัยจะไม่ได้มีค่ะ และในครั้งหน้าเราก็จะหาข้อมูลที่น่าสนใจอื่นๆมาฝากเพื่อนๆกันอีกนะคะ ฝากกด like กด Share กันเยอะๆด้วยนะคะ สำหรับวันนี้ลาไปหาข้อมูลมาให้เพื่อนๆก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวกับประกันสุขภาพไทยวิวัฒน์ www.thaivivat.co.th