ประกันสุขภาพเดือนละ 500 – สุขภาพดีหาซื้อที่ไหนไม่ได้ แม้ว่าจะมีเงินมากมายแค่ไหนก็ไม่สามารถซื้อสุขภาพที่ดีได้ อยากมีสุขภาพที่ดีก็ต้องมั่นออกกำลังกายกินอาหารที่มีประโยชน์ แต่ปัจจุบันนี้ก็มีด้วยหลายปัจจัยทำให้เราเองก็ไม่เวลาเพราะมัวแต่ทำงานอย่างดี จนทำให้กินไม่เป็นเวลาบ้าง หรือเลือกกินอาหารอะไรก็ได้ที่ง่ายๆ แถมยังไม่มีเวลาออกกำลังกายอีกด้วย นอกจากเรื่องการดูแลตัวเองแล้วยังต้องมาเผชิญกับมลพิษในอากาศของบ้านเราอีก ที่มีฝุ่นละอองเต็มไปหมดทำให้สุขภาพของเราทรุดโทรม ด้วยเหตุผลต่างๆเหล่าทำให้ต้องเราเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น บางคนทำงานเก็บเงินมาทั้งชีวิต คิดว่าอยากมีเงินไว้ใช้ยามเมื่อเกษียณอายุ แต่ที่ไหนได้ต้องนำมาหมดไปกับค่ารักษาพยาบาลตอนที่อายุมากขึ้น ซึ่งต้องถามว่าคุ้มไหม ทำงานมาก็เหนื่อยหวังว่าจะสบาย และยิ่งค่ารักษาพยาบาลก็นับวันจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ไปโรงพยาบาลใครๆก็อยากได้บริการที่ดี รวดเร็ว ไม่อยากไปนั่งรอ ทำให้ใครที่พอมีกำลังจ่ายก็เลือกที่จะซื้อประกันสุขภาพ เพื่อมาคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ทำให้หมดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปได้ แต่บางคนก็อยากทำประกันสุขภาพแต่งบที่มีก็อยากไม่มาก วันนี้ iMoney อยากจะมาแนะนำประกันสุขภาพเดือนละ 500 บาทเท่านั้น แม้ว่าจะจ่ายเบี้ยถูก แต่รับรองได้เลยว่าความคุ้มครองที่ได้รับนั้นจัดหนักจัดเต็มอย่างแน่นอน ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีเงินน้อยได้แต่อยากได้ประกันคอยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล จะมีของบริษัทประกันไหนบ้างนั้นมาติดตามกันเลยค่ะ
รวบรวมสุดยอดประกันสุขภาพเดือนละ 500 บาทที่น่าสนใจ ประจำปี 2563
บริษัทประกันภัย |
ผลิตภัณฑ์ | จุดเด่น | เบี้ยประกันสุขภาพ |
ซิกน่า ประกันภัย | ประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง | คุ้มครอง 5 โรคร้ายแรง ด้วยวงเงินที่สูง 2 ล้านบาท และไม่มีเคลมรับเงินคืน |
จ่ายเบี้ยเริ่มต้นเพียงเดือนละ 250 บาทเท่านั้น |
ทิพยประกันภัย |
ประกันสุขภาพ ทิพยจัดเต็ม (Absolute Health Solution) | สมัครง่ายโดยที่ไม่ต้องตรวจสุขภาพ คุ้มครองค่ารักษาสูงถึง 750,000 บาท และคุ้มครองทุกที่ทั่วโลก | จ่ายเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียงวันละ 9 บาทเท่านั้น ทั้งนี้ เบี้ยประกันภัยจะขึ้นเรื่อยๆตามอายุ |
สินมั่นคง ประกันภัย | ประกันสุขภาพ SMK Health Care | หลากหลายแผนคุ้มครอง ด้วยวงเงินรักษาสูงถึง 3 แสนบาท และทำประกันสุขภาพนี้ได้ทั้งเด็กและผู้สูงอายุ |
จ่ายเบี้ยเริ่มต้นเพียงเดือนละ 234 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่วงอายุ และแผนที่เลือก |
สินมั่นคง ประกันภัย |
ประกันสุขภาพเหมาจ่าย | หมดห่วงค่ารักษาพยาบาลด้วยการเหมาจ่ายวงเงินสูงถึง 5 แสนบาท สามารถใช้ร่วมกับประกันสุขภาพอื่นที่มีอยู่แล้วได้ และถ้าไม่มีเคลมรับส่วนลดเบี้ยประกันทันทีในปีถัดไป | เบี้ยประกันเริ่มต้นอยู่ที่เดือนละ 444 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่วงอายุ และแผนที่เลือก |
เมืองไทยประกันชีวิต | ประกันสุขภาพ โครงการ เอ็กซ์ตร้าแคร์ พลัส | เบี้ยถูกมาก คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลต่อครั้งสูงถึง 4 แสนบาท และเบี้ยยังลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย |
เบี้ยประกันเริ่มต้นอยู่ที่เดือนละ 285 บาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับแผนความคุ้มครอง และอายุ ของผู้สมัคร |
Credit : https://pixabay.com
ประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง จากซิกน่า ประกันภัย
ยอมรับเลยว่าคนไทยส่วนใหญ่มักจะตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายแรง อย่างโรคมะเร็งกันมากเพิ่มขึ้น บางคนโชคดีที่ตรวจพบเจอตั้งแต่ในระยะที่ยังไม่ลุกลาม พอที่จะรักษาให้หายได้ แต่ใครที่ไม่ค่อยได้ตรวจสุขภาพ เจ็บป่วยในแต่ละครั้งก็ไม่อยากจะไปหาหมอ มักจะซื้อยามากินเอง อาจจะต้องไปหาหมอในแต่ละครั้งนั้นก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูง แถมโรคร้ายแรงนั้นนอกจากจะอันตรายต่อร่างกายแล้วยังมีเรื่องของค่ารักษาพยาบาลที่สูงอีกด้วย แต่ถ้าคุณมีประกันสุขภาพที่คุ้มครองโรคร้ายแรงอย่าง ประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง จากซิกน่า ประกันภัย หากตรวจพบภายหลังว่าเป็นโรคร้ายแรงตามที่กำหนด ก็จะได้รับเงินสูงสุดถึง 2 ล้านบาทไปเลย
จุดเด่นประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง
- ไม่มีเคลมจะได้รับเงินคืน 15% ทุกๆ 2 ปี
- เบี้ยประกันสุขภาพถูกเริ่มต้นเดือนละ 250 บาท
- คุ้มครองโรคร้ายแรงสูงถึง 5 โรค ด้วยวงเงิน 2 ล้านบาท
ความคุ้มครองโรคร้ายแรงของประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง
- โรคมะเร็งทั้งในระยะที่ลุกลาม
- โรคไตวาย
- โรคหัวใจวาย
- โรคหลอดเลือดสมอง
- โรคโคม่า
ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง
- กรณีที่ตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายแรงตามที่กำหนดนั้น จะได้รับเงินก้อนเพื่อไปรักษาตัวเริ่มต้นอยู่ที่ 400,000 – 2,000,000 บาท (ตามแผนความคุ้มครอง)
- กรณีที่ภายใน 2 ปี ไม่มีการเคลมกับประกันเลย คุณจะได้รับเงินคืน 15%
อัตราเบี้ยประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง
- การจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพนั้นจะขึ้นอยู่แผนความคุ้มครองที่เลือก สำหรับประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง นี้จะมีให้ด้วยกัน 4 แผน ได้แก่ แผน S M L XL โดยจะให้วงเงินคุ้มครองที่แตกต่างกัน และแน่นอนว่าเบี้ยประกันสุขภาพนั้นก็จะแตกต่างกันไปด้วย ดังนี้
- กรณีที่เลือกความคุ้มครองแผน S เบี้ยประกันสุขภาพจะอยู่ที่เดือนละ 250 บาท
- กรณีที่เลือกความคุ้มครองแผน M เบี้ยประกันสุขภาพจะอยู่ที่เดือนละ 640 บาท
- กรณีที่เลือกความคุ้มครองแผน L เบี้ยประกันสุขภาพจะอยู่ที่เดือนละ 1,020 บาท
- กรณีที่เลือกความคุ้มครองแผน XL เบี้ยประกันสุขภาพจะอยู่ที่เดือนละ 1,270 บาท
ช่องทางการสมัคร : สำหรับใครที่สนใจอยากสมัครทำประกันคุ้มครองในกรณีที่เป็นโรคร้ายแรงนั้น คลิกที่นี่ได้เลย
ประกันสุขภาพ ทิพยจัดเต็ม (Absolute Health Solution) จากทิพยประกันภัย
ประกันสุขภาพ ทิพยจัดเต็ม ที่ให้คุณจ่ายเบี้ยประกันภัยที่ถูกมากเริ่มต้นเพียงแค่วันละ 9 บาทเท่านั้น หรือหากคิดเป็นรายเดือนก็เริ่มต้นเพียงแค่ 270 บาทเท่านั้น ถือว่าเป็นประกันสุขภาพที่ให้คุณจ่ายเบี้ยถูกแถมวงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลก็สูงสุดถึงหลักแสนเลย ที่มาพร้อมกับหลากหลายแผนความคุ้มครองให้คุณได้เลือกกันอย่างมากมายถึง 7 แผนความคุ้มครอง ซึ่งจะมีวงเงินค่ารักษาพยาบาลเริ่มต้นอยู่ที่ 250,000 บาทขึ้นไปจนถึง 750,000 บาทกันเลย นอกจากจ่ายเบี้ยถูกแล้วยังคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง ทั่วโลกอีกด้วย
จุดเด่นของประกันสุขภาพ ทิพยจัดเต็ม (Absolute Health Solution)
- จ่ายเบี้ยประกันสุขภาพถูกๆเริ่มต้นเพียงแค่วันละ 9 บาท
- สมัครทำประกันสุขภาพง่ายๆโดยที่ไม่ต้องตรวจสุขภาพ
- คุ้มครองทั้งเรื่องสุขภาพและอุบัติเหตุให้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั่วโลก
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายด้วยวงเงินที่สูงในกรณีที่นอนโรงพยาบาล
- เข้ารักษาตัวได้ที่โรงพยาบาลได้ในเครือที่มีมากกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ โดยไม่ต้องสำรองจ่าย
แผนความคุ้มครองของประกันสุขภาพ ทิพยจัดเต็ม (Absolute Health Solution)
- ความคุ้มครองแผน 1
- เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ครั้งละไม่เกิน 30,000 บาท รวมแล้วเบิกได้ไม่เกิน 250,000 บาทต่อปี
- ความคุ้มครองแผน 2
- เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ครั้งละไม่เกิน 40,000 บาท รวมแล้วเบิกได้ไม่เกิน 350,000 บาทต่อปี
- ความคุ้มครองแผน 3
- เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ครั้งละไม่เกิน 50,000 บาท รวมแล้วเบิกได้ไม่เกิน 400,000 บาทต่อปี
- ความคุ้มครองแผน 4
- เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ครั้งละไม่เกิน 60,000 บาท รวมแล้วเบิกได้ไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี
- ความคุ้มครองแผน 5
- เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ครั้งละไม่เกิน 70,000 บาท รวมแล้วเบิกได้ไม่เกิน 600,000 บาทต่อปี
- ความคุ้มครองแผน 6
- เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ครั้งละไม่เกิน 80,000 บาท รวมแล้วเบิกได้ไม่เกิน 650,000 บาทต่อปี
- ความคุ้มครองแผน 7
- เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ครั้งละไม่เกิน 90,000 บาท รวมแล้วเบิกได้ไม่เกิน 750,000 บาทต่อปี
ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพ ทิพยจัดเต็ม (Absolute Health Solution)
- สำหรับความคุ้มครองนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ กรณีเจ็บป่วย ซึ่งจะคุ้มครองเฉพาะที่นอนโรงพยาบาลเท่านั้น และกรณีอุบัติเหตุ โดยมีรายละเอียดการคุ้มครอง ดังนี้
คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีที่นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล
- สามารถเบิกค่าห้องผู้ป่วยได้ รวมถึงค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาล ซึ่งจะแบ่งไว้ออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- กรณีที่ห้องผู้ป่วยปกติ จะเบิกได้ไม่เกินวันละ 3,000 – 8,000 บาท (ตามแผน)
- กรณีที่ห้องผู้ป่วยหนัก (C.U) จะเบิกได้ไม่เกินวันละ 6,000 – 16,000 บาท (ตามแผน)
- ค่ารักษาพยาบาลทั่วไปในระหว่างที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลนั้น สามารถเบิกได้ตามจริงเลย แต่จะต้องไม่เกินวงเงินที่กำหนดของแต่ละแผนความคุ้มครอง
- กรณีที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ แต่จะต้องเข้ารักษาภายใน 24 ชั่วโมง และยังสามารถรักษาได้ต่อเนื่องได้อีก 15 วัน ซึ่งจะเบิกค่ารักษาได้ 3,000 – 8,000 บาทต่อครั้ง
- กรณีที่จะต้องมีการผ่าตัด ประกันจะคุ้มครองค่าผ่าตัด ค่าแพทย์ผ่าตัดและหัตถการ ค่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการผ่าตัด รวมถึงค่าปรึกษาแพทย์เฉพาะทางการในการผ่าตัด ค่าใช้จ่ายเหล่านี้สามารถเบิกได้ตามจริงแต่จะต้องไม่เกินวงเงินที่กำหนดของแต่ละแผนความคุ้มครอง
- หากมีแพทย์มาตรวจเยี่ยมไข้ระหว่างที่นอนรักษาตัวนั้น จะสามารถเบิกค่าแพทย์ได้ตามจริง แต่จะเบิกได้ไมเกิน 365 วัน
คุ้มครองชีวิตกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
- หากเกิดอุบัติเหตุจนเป็นเหตุให้ต้องสูญเสียอวัยวะ สายตา การรับฟัง การพูดออกเสียง หรือกลายเป็นบุคคลทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงนั้น หรือร้ายแรงจนทำให้เสียชีวิต ประกันจะจ่ายจ่ายเงินชดเชยให้กับคุณหรือทายาทที่ได้รับผลประโยชน์ ตั้งแต่ 250,000 – 750,000 บาท (ตามแผน)
อัตราเบี้ยประกันสุขภาพ ทิพยจัดเต็ม (Absolute Health Solution)
- การจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพนั้นจะขึ้นอยู่กับเพศ อายุ และแผนความคุ้มครองที่เลือก โดยเบี้ยประกันภัยในแต่ละปีนั้นจะต้องเพิ่มตามอายุของคุณด้วย โดยมีรายละเอียดของเบี้ยประกันภัยดังนี้
- กรณีที่ทำประกันสุขภาพช่วงอายุ 20 – 30 ปี จ่ายเบี้ยอยู่ที่ 3,050 – 6,560 บาท
- กรณีที่ทำประกันสุขภาพช่วงอายุ 31 – 40 ปี จ่ายเบี้ยอยู่ที่ 3,840 – 8,140 บาท
- กรณีที่ทำประกันสุขภาพช่วงอายุ 41 – 50 ปี จ่ายเบี้ยอยู่ที่ 4,820 – 10,090 บาท
- กรณีที่ทำประกันสุขภาพช่วงอายุ 51 – 60 ปี จ่ายเบี้ยอยู่ที่ 6,400 – 13,260 บาท
- กรณีที่ทำประกันสุขภาพช่วงอายุ 61 – 65 ปี จ่ายเบี้ยอยู่ที่ 8,400 – 17,260 บาท
เงื่อนไขในการสมัครทำประกันสุขภาพ ทิพยจัดเต็ม (Absolute Health Solution)
- สามารถสมัครได้ตั้งแต่อายุ 20 – 60 ปี และต่ออายุความคุ้มครองได้เรื่อยๆจนถึงอายุ 65 ปี
ช่องทางการสมัคร : สามารถสมัครได้ที่ตัวแทนขายประกันภัยของทิพยประกันภัยทั่วประเทศ
Credit : https://pixabay.com
ประกันสุขภาพ SMK Health Care จากสินมั่นคงประกันภัย
ใครที่มองหาประกันสุขภาพราคาย่อมเยาว์ จ่ายน้อยเฉลี่ยแล้วรายเดือนไม่ถึง 500 บาท หรือมากกว่า 500 บาทนิดหน่อยเท่านั้น เราขอแนะนำนี้เลยประกันสุขภาพ SMK Health Care จากสินมั่นคงประกันภัย ที่ให้คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ที่จะช่วยลดภาระค่ารักษาพยาบาล ทำให้คุณหมดกังวลกับค่ารักษาพยาบาลไปได้เลย นอกจากนี้แล้วยังมีแผนความคุ้มครองให้เลือกด้วยกัน 4 แผน หลากหลายราคาของเบี้ยประกันสุขภาพ เรามาดูรายละเอียดของแค่ละแผนความคุ้มครองกันบ้าง
จุดเด่นประกันสุขภาพ SMK Health Care
- แผนความคุ้มครองมากถึง 4 แผน
- คุ้มครองด้วยวงเงินค่ารักษาพยาบาลสูงถึง 3 แสนบาท
- คุ้มครองทั้งค่ารักษาพยาบาลและคุ้มครองกรณีเสียชีวิต
แผนความคุ้มครองของประกันสุขภาพ SMK Health Care
- ความคุ้มครองแผน SMK IPD Care มีให้เลือกด้วยกัน 5 แผนย่อยซึ่งจะคุ้มครองเฉพาะกรณีที่นอนโรงพยาบาลเท่านั้น ตามวงเงินที่กำหนด หากเกินคุณจะต้องจ่ายเอง
- ความคุ้มครองแผน SMK IPD Premium มีแผนย่อย 5 แผน คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเฉพาะกรณีที่นอนโรงพยาบาลเท่านั้น โดยวงเงินค่ารักษาพยาบาลเหมือนกับคุ้มครองแผน SMK IPD Care ซึ่งที่แตกต่างกันก็คือ แผน SMK IPD Premium จะมีวงเงินค่ารักษาพยาบาลสูงสุดต่อปีกำหนดให้ด้วยวงเงินเริ่มต้น 100,000 – 300,000 บาท นั้นหมายความว่า หากเกินวงเงินที่กำหนดแต่ละรายการ คุณสามารถเบิกเพิ่มเติมได้จากค่ารักษาพยาบาลสูงต่อปี แต่จะต้องไม่เกิน 1 ครั้งต่อรักษาพยาบาล
- ความคุ้มครองแผน SMK IPD & OPD Care มีแผนย่อย 5 แผนเช่นเดียวกัน แต่แผนนี้จะให้ความคุ้มครองทั้งกรณีที่นอนหรือไม่นอนโรงพยาบาล โดยจะมีวงเงินกำหนดให้แต่ละรายการของค่ารักษาพยาบาล
- ความคุ้มครองแผน SMK Special Care เลือกได้จาก 5 แผนย่อย ซึ่งแผนนี้จะคุ้มครองแบบครอบคลุมทั้งกรณีที่นอนและไม่นอนโรงพยาบาล แถมยังมีวงเงินสูงสุดของค่ารักษาพยาบาลต่อปีให้อีกด้วย แม้ว่าจะมีบางรายการที่เกินวงเงินที่กำหนด ก็สามารถเบิกได้แต่จะต้องไม่เกินค่ารักษาพยาบาลต่อปีที่กำหนด
ซึ่งจริงๆแล้วต้องบอกเลยว่าทั้ง 4 แผนนี้ ไม่ว่าจะเป็น แผน SMK IPD Care , แผน SMK IPD Premium, แผน SMK IPD & OPD Care, แผน SMK Special Care ส่วนใหญ่แล้วจะให้ความคุ้มครองกรณีที่นอนโรงพยาบาลเหมือนกันทั้งหมด เพียงแค่ว่าใครที่อยากได้ความคุ้มครองในส่วนอื่นๆเพิ่มเติม เช่น ค่ารักษาพยาบาลกรณีที่ไม่ได้นอนโรงพยาบาล ก็เลือกแผนที่คุ้มครอง หรือใครกังวลว่าหากนอนโรงพยาบาลแล้ว บางโรงพยาบาลที่ต้องการไปรักษานั้นจะมีค่าสูงกว่าที่กำหนด หรือค่ารักษาพยาบาลต่างๆสูงกว่าที่กำหนด เราขอแนะนำให้เลือกแผนความคุ้มครองที่มีวงเงินค่ารักษาแบบครอบคลุมรายปีค่ะ อย่างไรก็ตามทุกแผนความคุ้มครองนั้น จะได้รับความคุ้มครองในกรณีที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเหมือนกันทุกแผนเลยค่ะ
ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพ SMK Health Care
สำหรับความคุ้มครองที่จะได้รับสำหรับใครที่เลือกทำประกันสุขภาพ SMK Health Care นั้น เราขอสรุปเป็นภาพกว้างๆ เพื่อที่จะได้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งในความเป็นจริงวงเงินคุ้มครองแต่รายการ เช่น ค่าห้อง ค่ารักษาพยาบาล ค่าผ่าตัด หรืออื่นๆนั้น ทุกแผนความคุ้มครอง รวมถึงแผนย่อยของแต่ละแผนความคุ้มครอง จะมีวงเงินค่ารักษาพยาบาลที่เท่ากันทั้งหมด สิ่งที่แตกต่างกันก็จะเป็นในส่วนของที่เราบอกไปแล้วว่าต้องการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีที่ไปรักษาแต่ไม่ได้นอนโรงพยาบาลด้วยหรือไม่ เรามาดูรายละเอียดความคุ้มครองกันเลยค่ะ
เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ในกรณีที่เป็นผู้ป่วยใน (นอนโรงพยาบาล) ซึ่งจะรายการที่คุ้มครองจะมีดังนี้
- ค่าห้องผู้ป่วยปกติ รวมค่าอาหารในแต่วัน จะเบิกได้ไม่เกิน 1,000 – 5,000 บาท (ตามแผน Plan A – Plan E)
- ค่าห้องผู้ป่วยหนัก หรือห้อง ไอ.ซี.ยู จะเบิกค่าห้องได้เพิ่มขึ้นจากห้องปกติ 2,000 – 10,000 บาท (ตามแผน Plan A – Plan E)
- ค่ารักษาพยาบาลทั่วไปต่างๆที่โรงพยาบาลเรียกเก็บนั้น จะเบิกได้ไม่เกิน 20,000 – 60,000 บาท (ตามแผน Plan A – Plan E)
- ค่าผ่าตัด รวมถึงค่าอุปกรณ์ในการผ่าตัด ค่าห้องผ่าตัด ค่ายาสลบ หรืออื่นๆที่เกี่ยวกับการผ่าตัดนั้น จะเบิกได้ไม่เกิน 30,000 – 70,000 บาท (ตามแผน Plan A – Plan E)
- ค่าแพทย์ตรวจเยี่ยมไข้ จะเบิกได้ไม่เกิน 800 – 2,000 บาท (ตามแผน Plan A – Plan E)
- กรณีเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ไม่เกิน 5,000 – 25,000 บาท (ตามแผน Plan A – Plan E)
ผลประโยชน์สูงสุดของค่ารักษาพยาบาลต่อปี (ซึ่งจะมีเฉพาะ แผน SMK IPD Premium และแผน SMK Special Care เท่านั้น) จะมีรายละเอียดดังนี้
- จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลต่อปี สำหรับในกรณีที่นอนโรงพยาบาล และค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าห้อง ค่ารักษาพยาบาล ค่าผ่าตัด ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ ค่ารักษาพยาบาลกรณีฉุกเฉิน หากเข้าไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลแล้วเกิดค่าใช้จ่ายสูงกว่าที่กำหนดของแต่ละรายการ คุณสามารถเบิกส่วนที่เกินนี้ได้ แต่จะต้องไม่เกินวงเงินที่กำหนดต่อปี และเบิกได้ไม่เกิน 1 ครั้งต่อการรักษา ด้วยวงเงินเริ่มต้นอยู่ที่ 100,000 – 300,000 บาท (ตามแผน Plan A – Plan E)
เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ในกรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก (ไม่นอนโรงพยาบาล) (ซึ่งจะมีเฉพาะ แผน SMK IPD & OPD Care, แผน SMK Special Care เท่านั้น) จะมีรายละเอียดดังนี้
- กรณีที่ไปรักษาพยาบาลแต่ไม่ได้นอนโรงพยาบาล ซึ่งจะคุ้มครองให้ไม่เกิน 1 ครั้งต่อวัน และไม่เกิน 7 ครั้งต่อโรค รวมๆแล้วจะเบิกค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 30 ครั้งปี โดยที่คุณสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลต่อครั้งได้ไม่เกิน 1,000 – 3,000 บาท (ตามแผน Plan A – Plan E)
คุ้มครองกรณีที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
- หากคุณเสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพ เนื่องจากอุบัติเหตุนั้น ประกันจะมอบเงินให้ 50,000 บาท ไม่ว่าคุณจะเลือกแผนความคุ้มครองไหนก็ตามก็ได้เท่ากันหมด
อัตราเบี้ยประกันสุขภาพ SMK Health Care
สำหรับเบี้ยประกันสุขภาพนี้ สินมั่นคงจะคิดตามอายุของคุณในขณะที่ประกันสุขภาพ นอกจากเรื่องของอายุแล้วยังมีในส่วนของแผนความคุ้มครองที่เลือกด้วย ที่จะมาเป็นตัวกำหนดอัตราเบี้ยประกันสุขภาพ เราจึงสรุปภาพรวมเลยแล้ว ซึ่งมีรายละเอียดตามนี้
- เลือกแผน SMK IPD Care
- อายุช่วงระหว่าง 11 – 15 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 3,720 – 9,688 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 16 – 20 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 3,032 – 7,896 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 21 – 25 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 2,808 – 7,326 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 26 – 30 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 2,961 – 7,539 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 31 – 35 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 2,982 – 7,560 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 36 – 40 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 3,465 – 8,987 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 41 – 45 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 3,938 – 10,322 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 46 – 50 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 4,463 – 11,603 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 51 – 55 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 5,291 – 13,717 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 56 – 60 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 6,521 – 17,078 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 61 – 65 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 9,345 – 24,405 บาทต่อปี
- เลือกแผน SMK IPD Premium
- อายุช่วงระหว่าง 11 – 15 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 7,040 – 14,928 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 16 – 20 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 5,652 – 12,026 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 21 – 25 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 5,008 – 10,786 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 26 – 30 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 4,971 – 10,709 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 31 – 35 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 5,022 – 10,780 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 36 – 40 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 5,705 – 12,517 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 41 – 45 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 6,508 – 14,372 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 46 – 50 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 7,463 – 16,333 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 51 – 55 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 8,791 – 19,227 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 56 – 60 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 10,541 – 23,418 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 61 – 65 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 13,885 – 31,555 บาทต่อปี
- เลือกแผน SMK IPD & OPD Care
- อายุช่วงระหว่าง 11 – 15 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 9,240 – 26,248 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 16 – 20 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 8,202 – 23,406 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 21 – 25 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 7,908 – 22,626 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 26 – 30 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 8,891 – 25,329 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 31 – 35 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 9,441 – 26,937 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 36 – 40 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 10,635 – 30,496 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 41 – 45 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 12,196 – 35,095 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 46 – 50 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 13,890– 39,883 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 51 – 55 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 15,824 – 45,315 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 56 – 60 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 18,064 – 51,397 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 61 – 65 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 21,054 – 59,222 บาทต่อปี
- เลือกแผน SMK Special Care
- อายุช่วงระหว่าง 11 – 15 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 12,560 – 31,488 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 16 – 20 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 10,822 – 27,536 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 21 – 25 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 10,108 – 26,086 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 26 – 30 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 10,901 – 28,499 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 31 – 35 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 11,481 – 30,157 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 36 – 40 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 12,875 – 34,026 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 41 – 45 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 14,766 – 39,145 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 46 – 50 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 16,890 – 44,613 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 51 – 55 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 19,324 – 50,825 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 56 – 60 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 22,084 – 57,737 บาทต่อปี
- อายุช่วงระหว่าง 61 – 65 ปี เบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ 25,594 – 66,372 บาทต่อปี
ช่องทางการสมัคร : หากสนใจก็เลือกสมัครได้ทั้งที่บริษัทสินมั่นคงหรือสมัครกับตัวแทนขายประกันหรือใครสะดวกจะสมัครผ่านทางออนไลน์ก็ได้เช่นกัน คลิกที่นี่ได้เลย
Credit : https://pixabay.com
ประกันสุขภาพเหมาจ่าย จากสินมั่นคงประกันภัย
อยากมีประกันสุขภาพที่ไม่ต้องคอยมานั่งกังวลด้วยการเลือกทำประกันสุขภาพเหมาจ่าย จากสินมั่นคงประกันภัย ซึ่งเป็นอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่าประกันสุขภาพ SMK Health Care ด้วยวงเงินค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายสูงสุดถึง 5 แสนบาท และให้ความคุ้มครองทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ซึ่งค่ารักษาพยาบาลนี้จะคุ้มครองทั้งในกรณีที่เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เบิกค่ารักษาได้หมด และเบี้ยประกันสุขภาพยังถูกกหากนำไปเทียบกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทประกันสุขภาพอื่นๆ ลองมาดูรายละเอียดความคุ้มครองกันต่อเลยค่ะ
จุดเด่นของประกันสุขภาพเหมาจ่าย
- ประกันแบบเหมาจ่ายค่ารักษาสูงถึง 5 แสนบาทต่อปี
- โรงพยาบาลในเครือข่ายมากมาย เข้ารักษาโดยไม่ต้องสำรองจ่าย
- รับส่วนลดเบี้ยประกันสูงถึง 10% หากไม่มีการเคลมค่ารักษาพยาบาล
แผนความคุ้มครองของประกันสุขภาพเหมาจ่าย
- ความคุ้มครองแผน Plan A วงเงินค่ารักษาพยาบาลต่อปี 300,000 บาท คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเฉพาะกรณีที่นอนโรงพยาบาลเท่านั้น
- ความคุ้มครองแผน Plan B วงเงินค่ารักษาพยาบาลต่อปี 300,000 บาท คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเฉพาะกรณีที่นอนโรงพยาบาลและกรณีที่ไม่นอนโรงพยาบาล แต่จะได้รับค่ารักษาเพียงครั้งละ 1,000 บาทเท่านั้น
- ความคุ้มครองแผน Plan C วงเงินค่ารักษาพยาบาลต่อปี 500,000 บาท คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดเฉพาะกรณีที่นอนโรงพยาบาลเท่านั้น
- ความคุ้มครองแผน Plan D วงเงินค่ารักษาพยาบาลต่อปี 500,000 บาท คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเฉพาะกรณีที่นอนโรงพยาบาลและกรณีที่ไม่นอนโรงพยาบาล แต่จะได้รับค่ารักษาเพียงครั้งละ 1,500 บาทเท่านั้น
ผลประโยชน์และความคุ้มครองที่ได้รับประกันสุขภาพเหมาจ่าย
- คุ้มครองกรณีที่ผู้ป่วยใน (โดยมีวงเงินค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 300,000 – 500,000 บาท)
- เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ทั้งในกรณีเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุ จะเบิกได้ครั้งละไม่เกิน 30,000 – 50,000 บาท
- ประกันสุขภาพจะเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล สำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆในการรักษาพยาบาล ได้แก่ ค่าห้องปกติ หรือค่าห้องไอ.ซี.ยู รวมค่าอาหารและค่าบริการการพยาบาล ค่ารักษาพยาบาลทั่วไป ค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัดและวิสัญญีแพทย์ หากมีค่าธรรมเนียมแพทย์เยี่ยมไข้และปรึกษาแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะโรค โดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้คุณสามารถเบิกได้ตามจริง
- คุ้มครองกรณีที่ผู้ป่วยนอก
- หากเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาลนั้น คุณสามารถเบิกค่ารักษาได้อยู่ที่ 1,000 – 1,500 บาทต่อครั้ง และสินมั่นคงจะให้เบิกได้ไม่เกิน 1 ครั้งต่อวัน และใน 1 โรคนั้นจะเบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 7 ครั้ง เมื่อรวมแล้วใน 1 ปีนั้นจะเบิกค่ารักษาพยาบาลในกรณีได้ไม่เกิน 30 ครั้ง (เฉพาะที่มีความคุ้มครองเท่านั้น)
- กรณีที่เสียชีวิตหรือสูญเสียอวัยวะหรือกลายเป็นบุคคลทุพพลภาพ ซึ่งมีสาเหตุมาจากอุบัติเหตนั้น คุณจะได้รับเงินชดเชยด้วยวงเงิน 300,000 – 500,000 บาท (ตามแผนความคุ้มครองที่เลือก)
เบี้ยประกันสุขภาพเหมาจ่าย
- แผน A เบี้ยประกันจะเริ่มต้นอยู่ที่ 5,323 – 14,315 บาท
- แผน B เบี้ยประกันจะเริ่มต้นอยู่ที่ 8,371 – 21,961 บาท
- แผน C เบี้ยประกันจะเริ่มต้นอยู่ที่ 7,028 – 20,350 บาท
- แผน D เบี้ยประกันจะเริ่มต้นอยู่ที่ 13,878 – 26,961 บาท
ทั้งนี้ อัตราเบี้ยประกันสุขภาพนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับช่วงอายุของผู้ที่ทำประกันสุขภาพ บวกกับแผนความคุ้มครองที่เลือกด้วย ถ้ามองเบี้ยประกันสุขภาพในอัตราที่ต่ำสุดก็จะเฉลี่ยตกอยู่ที่ประมาณเดือนละ 444 บาท
ช่องทางการสมัคร : หากสนใจเลือกสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลย ง่าย สะดวก รวดเร็ว คลิกที่นี่
ประกันสุขภาพ โครงการ เอ็กซ์ตร้าแคร์ พลัส จากเมืองไทยประกันชีวิต
ประกันสุขภาพที่จะมาช่วยเติมเต็มค่ารักษาพยาบาลเหมาะสำหรับคนที่มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลอยู่แล้ว ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไร เป็นพนักงานบริษัท หรือข้าราชการ ก็สามารถสมัครทำประกันสุขภาพ โครงการ เอ็กซ์ตร้าแคร์ พลัส นี้ได้เลย ที่จะเป็นมาตัวช่วยที่ดีค่ารักษาพยาบาลให้กับคุณ เพราะประกันสุขภาพนี้จะให้คุณสามารถใช้ได้กับสวัสดิการเดิมที่อยู่ เช่น หากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ค่ารักษาพยาบาลออกมาเท่าไร คุณก็ช่วยเงินค่ารักษาพยาบาลในส่วนแรกนี้ร่วมกับประกันสุขภาพ และค่ารักษาส่วนเกินนั้นประกันสุขภาพก็จะจ่ายค่ารักษาพยบาลให้กับคุณเอง
จุดเด่นของประกันสุขภาพ โครงการ เอ็กซ์ตร้าแคร์ พลัส
- จ่ายเบี้ยถูกเริ่มต้นแค่เดือนละ 285 บาท
- วงเงินคุ้มครองค่ารักษาสูงถึง 4 แสนบาทต่อครั้ง
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายกรณีนอนโรงพยาบาล
- เบี้ยประกันสุขภาพที่จ่ายนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้
แผนความคุ้มครองประกันสุขภาพ โครงการ เอ็กซ์ตร้าแคร์ พลัส
- คุณสามารถเลือกแผนความคุ้มครองได้หลากหลายเริ่มตั้งแต่แผนความคุ้มครอง 1 จนถึง แผน 6 เลย ซึ่งแต่ละแผนก็จะมีวงเงินค่ารักษาพยาบาลไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการวงเงินค่ารักษาพยาบาลเท่าไร มีรายละเอียดดังนี้
- แผน 1 และ แผน 2 จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาทต่อครั้ง
- แผน 3 และ แผน 4 จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาทต่อครั้ง
- แผน 5 และ แผน 6 จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสูงสุดไม่เกิน 400,000 บาทต่อครั้ง
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าแผน 1 จะเหมือนกับ แผน 2 หรือแผน 3 จะหมือนกับแผน 4 และแผน 5 จะเหมือนกับ แผน 6 นั้น ซึ่งข้อแตกต่างจริงๆจะอยู่กันในส่วนของค่าห้องผู้ป่วย ที่จะให้วงเงินในการเบิกได้ในแต่ละวันไม่เท่ากัน ส่วนรายละเอียดของวงเงินนั้นเดี๋ยวเราจะมาบอกรายละเอียดกัน
กรณีที่จะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกนั้น เมืองไทยประกันชีวิตจะกำหนดให้ว่าคุณจะต้องจ่ายเท่าไร โดยจะขึ้นอยู่แผนความคุ้มครองที่เลือก ยิ่งเลือกแผนที่มีวงเงินคุ้มครองสูง ค่ารักษาพยาบาลความเสียหายในส่วนแรกก็จะต้องสูงตามไปด้วย
ความรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลในส่วนแรกที่จะต้องจ่าย
- กรณีที่เลือกแผน 1 หรือ แผน 2 คุณจะต้องรับผิดชอบจ่ายค่ารักษาพยาบาลส่วนแรกอยู่ที่ 20,000 บาท
- กรณีที่เลือกแผน 3 หรือ แผน 4 คุณจะต้องรับผิดชอบจ่ายค่ารักษาพยาบาลส่วนแรกอยู่ที่ 30,000 บาท
- กรณีที่เลือกแผน 5 หรือ แผน 6 คุณจะต้องรับผิดชอบจ่ายค่ารักษาพยาบาลส่วนแรกอยู่ที่ 40,000 บาท
ผลประโยชน์และความคุ้มครองที่จะได้รับประกันสุขภาพ โครงการ เอ็กซ์ตร้าแคร์ พลัส
- เบิกค่าห้องผู้ป่วย ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาลแต่ละวัน จะเบิกได้เริ่มตั้งแต่ 2,000 บาท 4,000 บาท 6,000 บาท และ 8,000 บาท (ขึ้นอยู่แผนความคุ้มครอง)
- เบิกค่ารักษาพยาบาลต่างๆได้ตามจริง แต่จะต้องไมเกินวงเงินค่ารักษาต่อครั้งที่แต่ละแผนกำหนดไว้
เงื่อนไขในการสมัครทำประกันสุขภาพ
- สมัครได้ตั้งแต่อายุ 18 – 70 ปี โดยความคุ้มครองจะคุ้มครองเป็นรายปี ซึ่งคุณสามารถเลือกจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพได้ว่าจะจ่ายรายเดือน หรือรายปี แถมยังต่อความคุ้มครองได้เรื่อยๆจนถึงอายุ 80 ปี
ช่องทางการสมัคร : เลือกสมัครได้ทั้งกับตัวแทนขายประกันชีวิตหรือสมัครทางออนไลน์
สำหรับใครที่ยังลังเลว่าจะเลือกทำประกันสุขภาพดีไหม เราขอแนะนำแบบนี้ค่ะว่าหากคุณเป็นคนที่สวัสดิการค่ารักษาพยาบาลอยู่แล้ว เช่น ข้าราชการ หรือพนักงานเอกชน ที่มีประกันสังคม อาจจะเลือกที่จะไม่ทำประกันสุขภาพก็ได้ เพราะเวลาไปหาหมอเวลาเจ็บป่วยหรือโรคต่างๆนั้นอาจจะไม่ต้องเสียเงินค่ารักษาพยาบาล แต่ถ้าหากใครที่คิดว่าสวัสดิการที่มีอยู่ไม่เพียงพอ เช่น ค่าห้องกรณีที่เราต้องแอดมิดนั้น หากเป็นประกันสังคมอาจจะเพียงแค่ห้องธรรมดา แต่เราอยากจะต้องนอนพิเศษ ถ้ามีประกันสุขภาพก็อาจจะได้วงเงินเพิ่มขึ้น หรือได้รับการบริการในการรักษาพยาบาลรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการต่อคิว ฉะนั้นการเลือกซื้อประกันสุขภาพจึงเป็นเรื่องของความพอใจและเงินในกระเป๋าของคุณแล้ว ส่วนใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกประกันสุขภาพแบบไหนดี ลองเข้ามาอ่านได้ที่เว็บไซต์ iMoney.in.th ได้เลย เราได้รวบประกันสุขภาพไว้หลากหลายบริษัทประกัน และยังแบ่งออกไปเป็นประเภทต่างๆ เช่น ประกันสุขภาพลดหย่อนภาษี ประกันสุขภาพรายเดือน หรือประกันสุขภาพรายปี หรือใครที่อยากจะทำให้ประกันสุขภาพให้กับคุณพ่อคุณแม่ เราได้รวบรวมไว้เช่นกันค่ะ นอกจากเรื่องประกันแล้วยังมีเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเงินมากมาย