ประกันสุขภาพต่างประเทศ – การเจ็บไข้เป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนไม่ว่าจะเพศไหนก็อายุเท่าไรก็อาจจะเผชิญกันได้ทั้งนั้น บางครั้งแม้ว่าเราพยายามป้องกันหลีกเลี่ยงแล้วก็ยังอาจจะต้องเจ็บป่วย และยิ่งอากาศบ้านเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ช่วงนี้ก็จะต้องพบเจอกับอากาศร้อนๆ อาจจะทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน หรือใครที่อยากจะหนีร้อนไปอากาศหนาวเย็นสบายๆอย่างต่างประเทศ แต่เมื่อไปเจออากาศเย็นมากๆที่เราไม่คุ้นเคยก็อาจจะทำให้เป็นหวัดได้ง่าย และยิ่งถ้าเกิดไม่สบายในขณะที่อยู่ต่างประเทศนั้นต้องบอกว่าเลยค่ารักษาพยาบาลที่โน้นค่อนข้างแพงกว่าบ้านเราอย่างมาก แต่ถ้าใครที่ได้ทำประกันเดินทางไว้ก็อาจจะไม่ต้องกังวลค่ารักษาพยาบาลในส่วนนี้เลยเพราะประกันจะให้ความคุ้มครองอยู่ แต่ถ้าหากใครที่คิดอยากจะทำประกันสุขภาพอยู่แล้ว แนะนำให้เลือกทำประกันสุขภาพที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะบางครั้งเราเองก็ไม่สามารถกำหนดอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วยได้ และใครที่กำลังมองหาประกันสุขภาพต่างประเทศนั้น วันนี้ไม่ควรพลาดบทความนี้เลย เพราะ iMoney เราได้รวบรวมประกันสุขภาพต่างประเทศ จากบริษัทประกันชั้นนำของประเทศมาฝากกันด้วย จะน่าสนใจแค่ไหน และโดนใจคุณหรือไม่นั้น มาดูกันเลย
รวมประกันสุขภาพต่างประเทศที่น่าสนใจ ประจำปี 2563
บริษัทประกันสุขภาพ |
ผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ | จุดเด่น | เงื่อนไขในการสมัคร |
กรุงไทย – แอกซ่า ประกันชีวิต | ประกันสุขภาพ iHealthy | คุ้มครองที่ทุกที่ทั่วโลก ด้วยวงเงินคุ้มครองที่สูงถึง 100 ล้านบาท และเบี้ยยังนำมาลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย |
สมัครได้ตั้งแต่อายุ 16 – 55 ปี และต่อความคุ้มครองได้จนถึงอายุ 59 ปี |
เมืองไทยประกันชีวิต |
ประกันภันสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ | คุ้มครองทั่วโลก เข้ารักษาโดยไม่ต้องสำรองจ่าย มีบริการคอยให้ความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน | สมัครได้ตั้งแต่อายุ 18 – 80 ปี และต่อความคุ้มครองได้จนถึงอายุ 84 ปี |
เมืองไทยประกันชีวิต | ประกันสุขภาพ โครงการ มนุษย์เงินเดือน คุ้มชัวร์ | เจ็บป่วยเบิกค่ารักษาได้ทั้งโรงพยาบาลในประเทศและต่างประเทศโดยที่ไม่ต้องสำรองจ่าย ด้วยค่ารักษาพยาบาลที่เหมาจ่ายให้สูงสุด 375,000 บาทต่อปี |
สมัครได้ตั้งแต่อายุ 15 – 55 ปี และต่อความคุ้มครองได้จนถึงอายุ 64 ปี |
แอลเอ็มจี ประกันภัย |
ประกันสุขภาพ แผนอีลิท ซีรีย์ | จ่ายค่ารักษาต่อครั้งให้สูงสุดถึง 20 ล้านบาท คุ้มครองทั่วโลก ไม่ว่าจะนอนหรือไม่นอนโรงพยาบาล และยังมีส่วนลดสูงสุดถึง 30% ของเบี้ยประกันภัย |
การสมัครทำประกันสุขภาพจะเป็นไปตามเงื่อนไข โดยสามารถต่ออายุความคุ้มครองได้จนถึงอายุ 90 ปี |
Credit : https://pixabay.com
ประกันสุขภาพ iHealthy จาก กรุงไทย – แอกซ่า ประกันชีวิต
ประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย ดูแลแบบครอบคลุมทุกความต้องการ ทุกที่ทั่วโลก ไม่ว่าคุณจะเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุฉุกเฉินในขณะที่อยู่ในประเทศหรือต่างประเทศ ประกันสุขภาพ iHealthy นี้จะให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลต่างๆที่เกิดขึ้น ในกรณีที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลด้วยวงเงินสูงสุดถึง 100 ล้านบาทต่อปี ไม่เพียงเท่านั้นกรณีที่รักษาพยาบาลโดยที่ไม่นอนโรงพยาบาลประกันก็จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้อีกเช่นกัน นอกจากนี้แล้วสำหรับผู้หญิงที่ทำประกันสุขภาพนี้ก็จะยังจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์อีกด้วย ทำให้คุณอุ่นใจไร้ความกังวลเรื่องเงินในการรักษาพยาบาล
จุดเด่นของประกันสุขภาพ iHealthy
- อุ่นใจด้วยความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั่วโลก
- ค่ารักษาพยาบาลกรณีที่ผู้ป่วยในสูงถึง 100 ล้านบาท
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีที่ตั้งครรภ์ตลอดจนถึงการคลอดลูก
- สามารถเลือกการรักษาพยาบาลได้ทั้งแบบแพทย์ปัจจุบันหรือแพทย์ทางเลือก
- คุ้มครองค่ารักษากรณีที่ค่ารักษาพยาบาลสูงในการล้างไต หรือทำเคมีบำบัดหรือรังสีบำบัด
สำหรับคนที่อยากจะซื้อประกันสุขภาพต่างประเทศ เพื่อต้องการความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่อยู่ต่างประเทศ หรือระหว่างที่เดินทางไปเที่ยวแล้วเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา ซึ่งจริงๆแล้วแผนความคุ้มครองของประกันสุขภาพ iHealthy นี้จะมีให้เลือกด้วยกัน 5 แผนความคุ้มครอง แต่ละแผนความคุ้มครองจะให้ความคุ้มครองที่ไม่เหมือนกัน บางแผนก็คุ้มครองเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น หรือบางแผนก็คุ้มครองเฉพาะไทยและประเทศทางเอเซีย ซึ่งเราก็ได้นำรายละเอียดมาฝากกันดังนี้
- แผนความคุ้มครอง Silver และแผน Smart จะคุ้มครองเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น ฉะนั้นหากคุณต้องการความคุ้มครองต่างประเทศ ก็ไม่แนะนำให้เลือกแผนนี้
- แผนความคุ้มครอง Gold คุณสามารถเลือกได้ว่าอยากจะให้คุ้มครองเฉพาะประเทศไทย หรือคุ้มครองประเทศในแถบเอเซีย เช่น ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลี ประเทศจีน เป็นต้น
- แผนความคุ้มครอง Diamond และแผน Platinum จะเลือกความคุ้มครองได้ 4 ทางเลือก คือ ต้องการคุ้มครองทั่วโลก หรือคุ้มครองทั่วโลก แต่ยกเว้นสหรัฐอเมริกา หรือคุ้มครองเฉพาะเอเซีย หรือคุ้มครองเฉพาะประเทศไทย
ฉะนั้นสำหรับคนที่จะเลือกซื้อประกันสุขภาพต่างประเทศนั้นแผนที่น่าสนใจมากที่สุดก็น่าจะเป็นแผนความคุ้มครอง Diamond และแผน Platinum เพราะคุณสามารถเลือกความคุ้มครองแบบทั่วโลกได้เลย ทำให้อุ่นใจมากขึ้น เพราะใน 1 ปีนั้นคุณอาจจะยังไม่รู้ว่าจะเดินทางไปทำให้ไม่ต้องคอยกังวลค่ารักษาพยบาลอีกต่อไป และในส่วนของรายละเอียดความคุ้มครองนั้นว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงเฉพาะแผนที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลต่างประเทศ
ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพ iHealthy
- แผนความคุ้มครอง Gold ผลประโยชน์สูงสุดของค่ารักษาพยาบาลต่อปีจะอยู่ที่ 10 ล้านบาท
- แผนความคุ้มครอง Diamond ผลประโยชน์สูงสุดของค่ารักษาพยาบาลต่อปีจะอยู่ที่ 70 ล้านบาท
- แผนความคุ้มครอง Platinum ผลประโยชน์สูงสุดของค่ารักษาพยาบาลต่อปีจะอยู่ที่ 100 ล้านบาท
คุ้มครองค่ารักษากรณีที่นอนโรงพยาบาล จะเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ดังนี้
- ห้องพักผู้ป่วยรวมค่าอาหาร จะเบิกได้วันละไม่เกิน 9,000 บาท , 15,000 บาท และ 21,000 บาท (เรียงตามแผนความคุ้มครอง)
- ค่าธรรมเนียมต่างๆในการรักษาพยาบาลนั้นจะเบิกได้ตามจริง โดยจะเบิกไม่เกินผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงต่อปีของแต่ละแผนความคุ้มครอง
คุ้มครองค่ารักษากรณีที่ไม่นอนโรงพยาบาล จะเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ดังนี้
- เบิกค่ารักษาในการทำเคมีบำบัดและรังสีบำบัด โดยจะเบิกไม่เกินผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงต่อปีของแต่ละแผนความคุ้มครอง
- เบิกค่ารักษาในการล้างไต โดยจะเบิกไม่เกินผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงต่อปีของแต่ละแผนความคุ้มครอง
- เบิกค่าศัลยกรรมผู้ป่วยนอกได้ เบิกค่ารักษาได้ตามจริงแต่จะต้องไม่เกินผลประโยชน์สูงสุดต่อปีของแต่ละแผนความคุ้มครอง
- สามารถเบิกค่าปรึกษาแพทย์และยา รวมถึงใบสั่งยาสำหรับผู้ป่วยนอกได้ หรือค่าวินิจฉัยโดยเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือค่าตรวจในห้องปฏิบัติการ เอ็กซ์เรย์ อัลตร้าซาวด์ หรือค่ารักษาในการทำกายภาพบำบัด คุณก็สามารถเบิกค่ารักษาเหล่านี้ได้ แต่การวงเงินการเบิกนั้นจะได้ไม่เท่ากัน
- เลือกเป็นแผนความคุ้มครอง Platinum จะเบิกได้ไม่เกินผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงต่อปีของแต่ละแผนความคุ้มครอง
- เลือกแผนคุ้มครอง Diamond จะเบิกได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
- เลือกแผนคุ้มครอง Gold จะเบิกได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อปี
คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลอื่นๆที่เกิดขึ้น ซึ่งจะเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ดังนี้
- กรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินและจะต้องใช้รถพยาบาลเพื่อการรักษานั้นคุณสามารถเบิกค่ารถพยาบาลได้ตามจริง
- คุ้มครองค่ารักษาในการทำฟัน แต่จะสามารถเบิกได้เฉพาะกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจนเป็นเหตุให้ฟันได้รับบาดเจ็บเสียหาย ประกันจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ตามจริงแต่ไม่เกินวงเงินค่ารักษาต่อปี
- เบิกค่ารักษาศัลยกรรมในช่องปาก ประกันจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ตามจริงแต่ไม่เกินวงเงินค่ารักษาต่อปี
- คุ้มครองค่ารักษาในกรณีที่เกิดภาวะแทรกซ้อนก่อนและหลังการคลอดลูก จะเบิกค่ารักษาได้ตามจริงแต่ไมเกินผลประโยชน์สูงสุดของค่ารักษาพยาบาลต่อปี
- เบิกค่าหออภิบาลทารกแรกเกิด หรือห้องผู้ป่วยสำหรับทารกแรกเกิดที่อยู่ในภาวะวิกฤตจะต้องเข้ารับการรักษา จะเบิกค่ารักษาได้เฉพาะแผน Diamond และ แผน Gold เท่านั้น ซึ่งจะเบิกได้ไม่เกินผลประโยชน์สูงสุดต่อปี
- เบิกค่ารักษาพยาบาลในระหว่างการตั้งท้องและรวมถึงถึงค่าคลอดลูกจะคลอดด้วยวิธีใดก็ตาม แต่ความคุ้มครองนี้จะเบิกได้เฉพาะแผน Diamond และเบิกได้ไม่เกิน 400,000 บาทต่อปี
- กรณีที่จะมีการรักษาด้วยแพทย์ทางเลือก สามารถเบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 35,000 บาทต่อปี สำหรับแผน Diamond และไม่เกิน 5,000 บาทต่อปี สำหรับแผน Gold
- กรณีที่มีภาวะทางจิตจะต้องเข้ารักษากับจิตแพทย์นั้น สามารถเบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี สำหรับแผน Diamond และไม่เกิน 5,000 บาทต่อปี สำหรับแผน Gold
- คุ้มครองค่าตรวจรักษาทางทันตกรรม จะเบิกได้ไม่เกิน 36,000 บาท , 7,500 บาท และ 4,000 บาท (เรียงตามแผนความคุ้มครอง)
- คุ้มครองค่ารักษาสายตา จะเบิกได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี ซึ่งจะเบิกได้เฉพาะแผน Diamond เท่านั้น
- คุ้มครองค่าตรวจสุขภาพประจำปี จะเบิกได้สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ซึ่งจะเบิกได้เฉพาะแผน Diamond เท่านั้น
- คุ้มครองค่าฉีดวัคซีน จะเบิกได้สูงสุดไม่เกิน 45,000 บาทต่อปี ซึ่งจะเบิกได้เฉพาะแผน Diamond เท่านั้น
- กรณีที่เจ็บป่วยในระยะสุดท้าย จะเบิกค่ารักษาพยาบาลรวมถึงการดูแลแบบประคับประคอง ด้วยวงเงินสูงสุด 1,000,000 บาทต่อปี
เงื่อนไขในการสมัครทำประกันสุขภาพ iHealthy
- สำหรับการทำประกันสุขภาพนี้ คุณจะต้องทำประกันชีวิตหลักควบคู่ไปด้วย โดยประกันชีวิตหลักนั้นจะให้ความคุ้มครองในกรณีที่เสียชีวิต หรืออยู่จนครบสัญญาก็รับเงินไปใช้ได้เลย แต่ระยะเวลาในการคุ้มครองนั้นระหว่างประกันชีวิตหลักกับประกันสุขภาพจะให้ระยะเวลาคุ้มครองที่ไม่เท่านั้น มีรายละเอียดดังนี้
กรณีที่เป็นประกันชีวิตหลัก (แบบประกันคุ้มครองชีวิตและทุพพลภาพ 85)
- เริ่มทำสมัครได้ตั้งแต่อายุ 16 – 80 ปี และต่ออายุความคุ้มครองได้จนถึงอายุ 84 โดยที่ความคุ้มครองจะให้จนถึงอายุ 85 ปี
กรณีที่เป็นประกันสุขภาพเสริม (แบบประกันคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ 60)
- เริ่มทำสมัครได้ตั้งแต่อายุ 16 – 55 ปี และต่ออายุความคุ้มครองได้จนถึงอายุ 59 โดยที่ความคุ้มครองจะให้จนถึงอายุ 60 ปี
ช่องทางการสมัครประกันสุขภาพ iHealthy
- สำหรับใครที่สนใจสมัครนั้นสามารถสมัครผ่านทางออนไลน์ได้เลย เพียงคลิกที่นี่และกรอกรายละเอียดตามที่กำหนดเท่านั้น
Credit : https://pixabay.com
ประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ จากเมืองไทยประกันชีวิต
ประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์จากเมืองไทยประกันชีวิต ที่ให้ความคุ้มครองในกรณีเจ็บป่วยไม่ว่าจะนอนหรือไม่นอนโรงพยาบาล และที่สำคัญไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม เกิดเจ็บป่วยขึ้นมาสามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในเครือข่ายได้เลย โดยที่ไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล หมดกังวลได้เลยว่าหากเจ็บป่วยในขณะที่อยู่ต่างประเทศคุณก็สามารถเข้ารักษากับโรงพยาบาลในต่างประเทศได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้แล้วหากไม่รู้ว่าโรงพยาบาลในต่างประเทศนั้นมีโรงพยาบาลอะไรบ้างในเครือข่ายของเมืองไทยประกันชีวิตก็ยังสามารถโทรสอบถามได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยค่ะ
จุดเด่นของประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์
- คุ้มครองค่ารักษาแบบครอบคลุมหลากหลาย
- วงเงินค่ารักษาพยาบาลสูงสุดถึง 100 ล้านบาท
- คุ้มครองทั้งในกรณีที่นอนรักษาตัวหรือไม่นอนโรงพยาบาล
- คุ้มครองทุกที่ ทุกเวลา ทั่วโลก สามารถเลือกพื้นที่ความคุ้มครองได้เอง
- กำหนดได้เองในการเลือกจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพจะจ่ายรายเดือนหรือรายปี
สำหรับประกันสุขภาพนี้จะให้ความคุ้มครองทุกที่ทั่วโลก โดยที่คุณสามารถเลือกพื้นที่ในการคุ้มครองได้เอง ซึ่งเมืองไทยประกันชีวิตนั้นจะมีทางเลือกให้เลือกด้วยกัน 4 พื้นที่ โดยมีรายละเอียดดังนี้
- เลือกคุ้มครองเฉพาะประเทศไทย
- เลือกคุ้มครองเฉพาะทวีปเอเชีย เช่น ประเทศ จีน ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ เป็นต้น
- เลือกคุ้มครองทั่วโลก แต่ยกเว้นสหรัฐอเมริกาและเกาะเล็กรอบนอกของสหรัฐอเมริกา
- เลือกคุ้มครองทุกประเทศทั่วโลก
แผนความคุ้มครองประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์
- สำหรับแผความคุ้มครองนี้จะมีให้เลือกอยู่ 4 แผนความคุ้มครอง ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่แผน 1 ที่คุ้มครองจะคุ้มครองเฉพาะในส่วนหลักๆของค่ารักษาพยาบาล ส่วนแผน 2 , แผน 3 และ แผน 4 นั้น ความคุ้มครองก็จะค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และวงเงินคุ้มครองแต่ละรายการก็จะเพิ่มตามไปด้วย ซึ่งแต่ละแผนจะมีผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลต่อปีไม่เท่ากัน ดังนี้
- เลือกความคุ้มครองแผน 1 ผลประโยชน์สูงสุดต่อปีกรมธรรม์ 20,000,000 บาท
- เลือกความคุ้มครองแผน 2 ผลประโยชน์สูงสุดต่อปีกรมธรรม์ 40,000,000 บาท
- เลือกความคุ้มครองแผน 3 ผลประโยชน์สูงสุดต่อปีกรมธรรม์ 75,000,000 บาท
- เลือกความคุ้มครองแผน 4 ผลประโยชน์สูงสุดต่อปีกรมธรรม์ 100,000,000 บาท
ทั้งนี้ ค่ารักษาพยาบาลโดยส่วนใหญ่แล้วจะคิดแบบเหมาจ่าย หรือที่เรียกว่าโรงพยาบาลเรียกเก็บเท่าไร ประกันก็จ่ายให้ตามนั้น แต่เมื่อรวมๆกับผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลแล้วจะต้องไม่เกินตามที่กำหนดต่อปี เราลองมาดูรายละเอียดความคุ้มครองกันต่อเลย ซึ่งความคุ้มครองนั้นจะแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มหลักๆ
ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์
คุ้มครองในกรณีที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล จะเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ดังนี้
- เบิกค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาล ได้วันละ 10,000 – 25,000 บาท
- เหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลต่างๆให้ในกรณีที่ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยจะมีรายการดังต่อไปนี้จะเมืองไทยจะเหมาจ่ายให้
- ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน (ห้อง ไอ.ซี.ยู)
- ค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาล
- ค่าบริการของคุณหมอกรณีที่จะต้องมาตรวจเยี่ยมรักษาในแต่ละวัน
- ค่าบริการในการขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
- กรณีที่มีการผ่าตัด ซึ่งจะต้องประกอบด้วย ค่าผ่าตัด ค่าหัตถการ ค่าธรรมเนียมวิสัญญีแพทย์ หรือวิสัญญีพยาบาล หรือค่าห้องผ่าตัดและอุปกรณ์ในห้องผ่าตัด เป็นต้น
- ค่าใช้จ่ายสำหรับการปลูกถ่ายอวัยวะ ซึ่งจะเบิกได้เพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น
- กรณีที่ผู้ทำประกันสุขภาพนั้นมียังเป็นเด็กจำเป็นจะต้องมีผู้ปกครองมาเฝ้าในระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนั้น จะสามารถเบิกค่าห้องเตียงเสริมได้วันละไม่เกิน 5,000 บาท (คุ้มครองเฉพาะแผน 2,3,4)
- ค่าฟื้นฟูสภาพในฐานะผู้ป่วยใน ซึ่งจะเบิกได้ไม่เกิน 28 วันต่อโรค โดยที่ประกันจะจ่ายค่ารักษาได้ตามจริง (คุ้มครองเฉพาะแผน 2,3,4)
- กรณีที่จะต้องรักษาทางจิตเวชในฐานะผู้ป่วยในนั้น คุณจะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ครั้งละไม่เกิน 75,000 – 100,000 บาท หรือต่อปีไม่เกิน 300,000 – 400,000 บาท (คุ้มครองเฉพาะแผน 3,4)
- สามารถเบิกค่าพยาบาลส่วนตัวได้ในกรณีที่ออกจากโรงพยาบาลไปแล้วมีความจำเป็นจะต้องมีพยาบาลส่วนตัวคอยช่วยดูแลตามคำสั่งแพทย์นั้น คุณสามารถมาเบิกกับประกันได้ไม่เกินวันละ 3,000 – 5,000 บาท (คุ้มครองเฉพาะแผน 2,3,4) และจะเลิกได้ไม่เกิน 40 วันต่อปี
คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในกรณีฉุกเฉิน เช่น อุบัติเหตุ จะเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ดังนี้
- ค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินนั้น ประกันจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ตามจริง โดยเหมาจ่าย แต่วงเงินก็จะต้องไม่เกินผลประโยชน์สูงสุดต่อปีที่กำหนดของแต่ละแผนความคุ้มครอง ซึ่งคุณจะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ในรายการดังนี้
- ค่าบริการของรถพยาบาลฉุกเฉิน
- ค่ารักษาในการทำฟัน
- ค่าบริการในการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์
- ค่ารักษาพยาบาลกรณีอุบัติเหตุฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง
คุ้มครองในกรณีที่ไม่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล จะเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ดังนี้
- กรณีที่ไปขอคำปรึกษาจากแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปหรือแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งจะคิดรวมค่าตรวจและค่ายาที่แพทย์สั่งจ่ายให้นั้น สามารถเบิกค่ารักษาได้ 2,500 – 5,000 บาทต่อครั้ง ซึ่งจะเบิกได้ไม่เกิน 15 – 20 ครั้งต่อปี แต่ถ้าเลือกซื้อแผน 4 จะสามารถเบิกค่ารักษาได้ตามจริงและเบิกได้ไม่เกิน 360 วันต่อปี ทั้งนี้ แผน 1 จะไม่คุ้มครองค่ารักษาในส่วนนี้
- ค่ารักษาพยาบาลสำหรับแพทย์ทางเลือก หากมีการฝังเข็ม ธรรมชาติบำบัดกระดูกและกล้ามเนื้อบำบัด และการจัดกระดูก สามารถเบิกค่ารักษาได้ต่อปีไม่เกิน 10,000 – 40,000 บาท (เฉพาะแผน 3 และ แผน 4)
- กรณีที่จะต้องมาทำกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาล จะเบิกค่ารักษาได้ตามจริง (เฉพาะแผน 3 และ แผน 4)
- กรณีที่จะต้องมีการตรวจเอ็กซ์เรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ MRI สามารถเบิกค่ารักษาได้ตามจริง
- หากจะต้องมารักษาสำหรับโรคมะเร็ง ที่จะต้องมารักษาด้วยการทำเคมีบำบัดการรักษาแบบออกฤทธิ์จำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็งและรังสีบำบัด สามารถเบิกค่ารักษาได้ตามจริง
- หากจะต้องมารักษาสำหรับโรคไต สามารถเบิกค่ารักษาได้ตามจริง
คุ้มครองในกรณีคลอดลูก (เฉพาะแผน 3 และ แผน 4) จะเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ดังนี้
- เบิกค่าคลอดลูกได้ไม่ว่าจะคลอดโดยธรรมชาติหรือผ่าคลอด ซึ่งจะสามารถเบิกค่าคลอดได้ หากคลอดด้วยโดยธรรมชาติ เบิกได้ไม่เกิน 90,000 – 150,000 บาทต่อครั้ง แต่ถ้าผ่าคลอดนั้น จะเบิกได้ไม่เกิน 150,000 – 200,000 บาทต่อครั้ง
- กรณีที่แท้งลูก จะสามารถเบิกค่ารักษาได้ในการถ่างขยายปากมดลูกและการขูดมดลูก โดยที่จะเบิกได้ตามจริง
- กรณีที่เกิดภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์และหลังคลอดลูกนั้น คุณสามารถเบิกค่ารักษาได้ตามจริง
คุ้มครองผลประโยชน์อื่นๆในการรักษาพยาบาล (เฉพาะแผน 3 และ แผน 4) จะเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ดังนี้
- เบิกค่าตรวจสุขภาพประจำปีได้ไม่เกิน 5,000 – 10,000 บาท
- เบิกค่าฉีควัคซีนได้ไม่เกิน 4,000 – 6,000 บาท
- เบิกค่าทำฟันได้ไม่เกิน 10,000 – 15,000 บาท
- เบิกค่รักษาสายตาได้ไม่เกิน 5,000 – 7,000 บาท
เงื่อนไขในการสมัครประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์
- สมัครได้ตั้งแต่อายุ 18 – 80 ปี โดยความคุ้มครองนั้นจะเป็นแบบปีต่อปี ซึ่งจะคุณสามารถเลือกจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพได้ว่าจะจ่ายรายเดือน หรือราย 3 เดือน หรือราย 6 เดือน หรือรายปี ใครสะดวกแบบไหนก็เลือกจ่ายแบบนั้นได้เลย แถมยังสามารถต่ออายุความคุ้มครองได้จนถึงอายุ 84 ปี
ช่องทางการสมัครประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์
- หากสนใจก็สมัครได้ทั้งกับตัวแทนขายประกันชีวิตของเมืองไทยประกันชีวิต หรือจะเลือกสมัครด้วยตัวเองผ่านทางออนไลน์ก็ได้เช่นกัน
Credit : https://pixabay.com
ประกันสุขภาพ โครงการ มนุษย์เงินเดือน คุ้มชัวร์ จากเมืองไทยประกันชีวิต
โครงการ มนุษย์เงินเดือน คุ้มชัวร์ เป็นอีกหนึ่งผลิตของประกันสุขภาพจากเมืองไทยประกันชีวิตที่น่าสนใจไม่แพ้ไปกว่าประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ และตอบโจทย์ได้ดีสำหรับคนที่ทำงานเป็นมนุษย์เงิน แถมยังคุ้มครองค่ารักษาแบบครอบคลุมทั่วโลก ไม่ว่าจะเจ็บป่วยที่ไหนก็ตามสามารถเข้ารักษาโรงพยาบาลได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยไม่ต้องสำรองจ่ายเงินอีกด้วย ที่เราบอกว่าเหมาะสำหรับมนุษย์เงินเดือน ก็เพราะว่าคนที่ทำงานกินเงินเดือนส่วนมากจะต้องมีสวัสดิการประกันสังคมคุ้มครองสิทธิค่ารักษาพยาบาลต่างๆ แต่ในบางครั้งวงเงินเดิมของสวัสดิการที่มีอยู่อาจจะไม่เพียงพอ เพียงแค่คุณซื้อประกันสุขภาพ โครงการ มนุษย์เงินเดือน คุ้มชัวร์ เพิ่มเพื่อช่วยเติมเต็มค่ารักษาพยาบาลในส่วนเกินด้วยวงเงินค่ารักษาพยาบาลที่ให้สูงสุดถึง 375,000 บาทต่อปี
จุดเด่นของประกันสุขภาพ โครงการ มนุษย์เงินเดือน คุ้มชัวร์
- จ่ายเบี้ยน้อยแค่หลักร้อยต่อเดือน
- เจ็บป่วยที่ไหนก็ตามคุ้มครองทั่วโลก
- เข้ารักษาได้โดยไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษา
- พร้อมวงเงินค่ารักษาแบบเหมาจ่ายด้วยวงเงินสูงสุด 375,000 บาทต่อปี
- ไม่เสียเปล่าเบี้ยประกันสุขภาพนำมาลดหย่อนภาษีในช่วงปลายปีได้อีกด้วย
ในการทำประกันสุขภาพ โครงการ มนุษย์เงินเดือน คุ้มชัวร์ คุณจะต้องเลือกทำประกันชีวิตหลักเสียก่อน โดยจะให้ความคุ้มครองทั้งชีวิตกรณีเสียชีวิต คุ้มครองค่ารักษากรณีที่เจ็บป่วย โดยผลประโยชน์ในการคุ้มครองนั้นก็จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนตามกรมธรรม์ที่คุ้มครอง ซึ่งจะมีแผนความคุ้มครองให้เลือก ดังนี้
แผนความคุ้มครองการทำประกันสุขภาพ โครงการ มนุษย์เงินเดือน คุ้มชัวร์
- ความคุ้มครองแผน 1 มีวงเงินประกันชีวิตอยู่ที่ 100,000 บาท และคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลวงเงิน 50,000 บาทต่อปี
- ความคุ้มครองแผน 2 มีวงเงินประกันชีวิตอยู่ที่ 100,000 บาท และคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลวงเงิน 75,000 บาทต่อปี
ประกันชีวิตหลัก (แบบประกันภัยคุ้มครองภายในระยะเวลา 10/10)
- คุ้มครองกรณีที่เสียชีวิต ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงิน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
ประกันสุขภาพพ่วง (สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ แบบเหมาจ่าย)
- เบิกค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาล ซึ่งจะเบิกได้ไม่เกิน 120 วันต่อครั้ง โดยจะเบิกได้ต่อวันไม่เกิน 2,000 – 3,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลต่างๆต่อการเข้ารับการรักษาตัว สามารถเบิกค่ารักษาได้ตามจริง แต่จะต้องไม่เกินวงเงิน 50,000 – 75,000 บาทต่อครั้ง
- ผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลที่สามารถเบิกได้ไม่เกิน 250,000 – 375,000 บาทต่อปี
ทั้งนี้ ค่ารักษาพยาบาลต่างๆที่สามารถเบิกตามจริงได้นั้นก็จะเป็นพวก ค่าแพทย์ตรวจรักษาประจำวันต่อวัน ค่าผ่าตัดรวมถึงค่าแพทย์และหัตถการ ค่าแพทย์วิสัญญี รวมถึงค่าอุปกรณ์ต่างๆ และยังรวมถึงค่ายากลับบ้าน ค่าบริการในการทำกายภาพบำบัด หรือค่ารักษาพยาบาลอื่นๆที่โรงพยาบาลเรียกเก็บอีกด้วย
เงื่อนไขในการสมัครประกันสุขภาพ โครงการ มนุษย์เงินเดือน คุ้มชัวร์
- สมัครได้ตั้งแต่อายุ 15 – 55 ปี ซึ่งจะต้องทำควบคู่กันกับประกันชีวิตและพ่วงประกันสุขภาพ โดยประกันชีวิตหลักนั้น จะจ่ายเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ 10 ปี และคุ้มครอง 10 ปี แต่ถ้าประกันสุขภาพจะให้คุณจ่ายแบบปีต่อปี โดยที่จะสามารถอายุการคุ้มครองได้จนถึงอายุ 64 ปี และประกันสุขภาพยังคงให้ความคุ้มครองไปจนถึงอายุ 65 ปี ทั้งนี้ การจ่ายเบี้ยประกันภัยนั้น คุณสามารถกำหนดได้เองว่าต้องการจ่ายแบบไหน ระหว่าง รายเดือน กับรายปี
ช่องทางการสมัครประกันสุขภาพ โครงการ มนุษย์เงินเดือน คุ้มชัวร์
Credit : https://pixabay.com
ประกันสุขภาพ แผนอีลิท ซีรีย์ จากแอลเอ็มจี ประกันภัย
อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่อยากซื้อประกันสุขภาพลองดูนี้เลยกับ ประกันสุขภาพ แผนอีลิท ซีรีย์ จากแอลเอ็มจี ประกันภัย ที่ไม่ว่าคุณจะเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อยหรือเจ็บป่วยหนักจนต้องนอนโรงพยาบาล ก็พร้อมให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบครอบคลุมด้วยวงเงินค่ารักษาสูงถึง 20 ล้านบาทต่อครั้ง และไม่เกิน 80 ล้านบาทต่อปี นับว่าเป็นวงเงินค่ารักษาพยาบาลที่สูงมากเลย ทำให้คุณอุ่นใจได้เลยว่าไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มในการรักษาพยาบาล และนอกจากจะให้ความคุ้มครองในประเทศแล้ว กรณีที่ไปเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินในขณะที่อยู่ต่างประเทศนั้น ก็สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้อีกเช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้นประกันสุขภาพนี้น่าจะถูกใจผู้หญิงหลายคนที่มีครอบครัวแล้ว ที่มีแผนจะมีลูกน้อยด้วยนั้น บอกเลยว่าประกันสุขภาพนี้ยังให้ความคุ้มครองค่าคลอดลูกอีกด้วย ซึ่งต้องบอกว่าค่าคลอดลูกเดี๋ยวนี้ไม่ใช่ราคาถูกๆนะ ลองมาดูรายละเอียดความคุ้มครองนี้กันต่อเลยดีกว่า
จุดเด่นของประกันสุขภาพ แผนอีลิท ซีรีย์
- คุ้มครองวงเงินค่ารักษาพยาบาลต่อครั้งสูงถึง 20 ล้านบาท
- เจ็บป่วยเล็กน้อยคุ้มครองค่ารักษาทั้งหมดไม่ว่าจะนอนหรือไม่นอนโรงพยาบาล
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง
- พร้อมให้ค่าบริการในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ให้ความคุ้มครองทั่วโลกด้วยวงเงินสูงถึง 30 ล้านบาท
แผนความคุ้มครองของประกันสุขภาพ แผนอีลิท ซีรีย์
- สำหรับประกันสุขภาพนี้จะมีแผนความคุ้มครองอยู่ 2 แผน ได้แก่
- แผนซิลเวอร์ จะมีวงเงินคุ้มครองค่ารักษาให้ต่อครั้งและต่อโรคไม่เกิน 5,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลต่อปีไม่เกิน 20,000,000 บาท
- แผนโกลด์ จะมีวงเงินคุ้มครองค่ารักษาให้ต่อครั้งและต่อโรคไม่เกิน 20,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลต่อปีไม่เกิน 80,000,000 บาท
ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพ แผนอีลิท ซีรีย์
- กรณีที่ความคุ้มครองนั้น ประกันสุขภาพนี้จะมีวงเงินคุ้มครองอยู่ 2 ประเภท คือ กำหนดวงเงินที่แน่นอนในแต่ละรายการ และวงเงินเหมาจ่ายหรือจ่ายให้ไม่เกินผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลสูงสุดต่อครั้ง นั่นก็คือ ไม่เกิน 5,000,000 บาท หรือไม่เกิน 20,000,000 บาท ตามแผนความคุ้มครองเลือกนั่นเอง
คุ้มครองในฐานะผู้ป่วยใน
- ค่ารักษาพยาบาลที่กำหนดวงเงินในแต่ละรายการ จะมีรายละเอียดดังนี้
- เบิกค่าห้องผู้ป่วยธรรมดา ค่าอาหารและค่าบริการพยาบาล ได้ไม่เกินวันละ 8,000 – 16,000 บาท
- กรณีที่มีการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือเปลี่ยนอวัยวะ หรือฟอกไต จะเบิกค่ารักษาได้ปีละไม่เกิน 1,000,000 – 2,000,000 บาท
- กรณีที่มีปัญหาทางจิตซึ่งจะต้องเข้ารับการรักษากับแพทย์ด้านทางจิตเวช สามารถเบิกค่ารักษาได้ไม่เกินปีละ 100,000 – 200,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลที่เหมาจ่ายให้ตามจริงไม่เกินวงเงินค่ารักษาพยาบาลต่อครั้ง จะมีรายละเอียดดังนี้
- ห้องผู้ป่วยหนัก หรือห้องไอ.ซี.ยู ค่าอาหารและค่าบริการพยาบาล
- ค่าบริการทางการแพทย์ในการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคในการรักษา
- ค่าผ่าตัด รวมถึงค่าแพทย์ในการผ่าตัดและค่าหัตถการ
- ค่ารักษาพยาบาลและค่าบริการทั่วไปที่โรงพยาบาลเรียกเก็บ
- ค่าจ้างพยาบาลพิเศษหากมีความจำเป็นจะต้องมีพยาบาลคอยดูแลหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว ซึ่งจะเบิกได้ไม่เกิน 30 วัน
- ค่ารักษาแบบประคับประครองอาการ ในกรณีที่มีอาการแย่หรืออยู่ในระยะสุดท้ายของการรักษา
คุ้มครองในฐานะผู้ป่วยนอก
- หากเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาล ได้โดยประกันจะจ่ายให้ตามจริงที่เรียกเก็บ ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะรวม ค่ายา ค่าหมอ ค่าบริการของโรงพยาบาล หรืออื่นๆ
- กรณีที่จะต้องรักษาด้วยแพทย์ทางเลือกโคโรแพรคติก การฝังเข็ม ก็จะเบิกค่ารักษาได้ตามจริง
คุ้มครองค่าคลอดลูก
- คุ้มครองค่าคลอดลูกตามปกติ จะเบิกได้ไม่เกิน 100,000 – 150,000 บาท
- คุ้มครองในกรณีแท้งลูก จะเบิกได้ไม่เกิน 50,000 – 75,000 บาท
- คุ้มครองในกรณีผ่าคลอดเนื่องจากตั้งครรภ์นอกมดลูกหรือคลอดลูกโดยการผ่าตัดฉุกเฉิน จะเบิกได้ไม่เกิน 200,000 – 300,000 บาท
คุ้มครองชีวิตกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
- หากสูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต เนื่องจากอุบัติเหตุ การถูกฆาตกรรม หรือการถูกทำร้ายร่างกาย รวมถึงอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จะได้รับเงินชดเชย 200,000 บาท
คุ้มครองชีวิตอื่นๆ
- กรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ จะได้รับเงินช่วยเหลือค่าจัดงานศพ 10,000 – 15,000 บาท
- ค่าทำฟัน ประกันจะช่วยจ่ายให้ไม่เกิน 80% ของค่ารักษา ซึ่งจะต้องไม่เกิน 80,000 บาท
- ค่าตรวจรักษาสายตา ประกันจะช่วยจ่ายให้ไม่เกิน 80% ของค่ารักษา ซึ่งจะต้องไม่เกิน 10,000 บาท
ทั้งนี้ ยังมีส่วนลดค่าเบี้ยประกันสุขภาพให้อีกด้วยโดยส่วนลดนั้นจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่บริษัทประกันภัยกำหนด ซึ่งเราก็ได้นำรายละเอียดมาฝากกัน ดังนี้
- กรณีที่ไม่รวมค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก จะได้รับส่วนลดอยู่ที่ 20% ของเบี้ยประกันภัย
- กรณีที่ทำประกันสุขภาพทั้งครอบครัว 3 คนขึ้นไป จะได้รับส่วนลดอยู่ที่ 5% ของเบี้ยประกันภัย
- กรณีที่ร่วมจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก 50,000 บาทต่อคนต่อปีนั้น จะได้รับส่วนลดอยู่ที่ 20% ของเบี้ยประกันภัย
- กรณีที่ร่วมจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก 100,000 บาทต่อคนต่อปีนั้น จะได้รับส่วนลดอยู่ที่ 30% ของเบี้ยประกันภัย
เงื่อนไขในการสมัครประกันสุขภาพ แผนอีลิท ซีรีย์
- สามารถสมัครได้ทุกเพศทุกวัย รวมถึงใครที่อยากสมัครกันทั้งครอบครัวก็สามารถทำได้ และยังต่ออายุความคุ้มครองได้จนถึงอายุ 90 ปี
ช่องทางการสมัครประกันสุขภาพ แผนอีลิท ซีรีย์
เป็นยังไงกันบ้างค่ะกับข้อมูลประกันสุขภาพต่างประเทศที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าจะถูกใจเพื่อนๆกันนะคะ สำหรับใครที่ยังมองว่าการทำประกันสุขภาพนั้นอาจจะยังไม่ใช่เรื่องจำเป็น เนื่องจากมีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลอยู่แล้ว ไม่อยากเสียเงินค่าเบี้ยประกันสุขภาพที่จ่ายในแต่ละเดือน แม้ว่าจะจ่ายเพียงเดือนละแค่หลักร้อย แต่เมื่อรวมกับเงินประกันสังคมที่ถูกหักไปแล้วกับเงินเดือนนั้นก็เกือบพันอยู่นั้น ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะการเลือกทำประกันสุขภาพนั้นจะขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแต่ละคน เพราะในบางครั้งเวลาเราไปหาหมอเพื่อรักษา หากใช้สิทธิประกันสังคมก็ไม่ต้องเสียเงินอยู่แล้ว แต่ถ้าจะต้องนอนโรงพยาบาล ก็ไม่ต้องเสียเงินเช่นกัน แต่วงเงินที่คุ้มครองแต่ละรายการ เช่น ค่าห้อง ที่จะต้องจ่ายในแต่ละวันอาจจะมีวงเงินที่น้อย ทำให้ในบางครั้งก็จะต้องจ่ายเงินเพิ่มเติม แต่ในทางกลับกัน หากมีประกันสุขภาพ เวลาไปหารักษาก็จะได้รับการบริการอีกแบบ รวดเร็วขึ้น และวงเงินคุ้มครองค่ารักษาก็มากพอที่จะสามารถเลือกเป็นห้องผู้ป่วยพิเศษได้เลย หรือบางครั้งประกันสุขภาพยังมีเงินชดเชยขาดรายได้ในกรณีที่จะต้องนอนโรงพยาบาลอีกด้วย ฉะนั้นการทำประกันสุขภาพนั้น iMoney แนะนำว่าหากใครที่พอมีงบประมาณและคุณเองก็อยากทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองอยู่แล้วก็เลือกซื้อประกันสุขภาพพ่วงไว้สักกรมธรรม์ก็น่าจะดี และใครสนใจเรื่องที่เกี่ยวกับประกันภัยด้านต่างๆ เช่น ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันการเดินทาง เพื่อนๆสามารถเข้ามาหาอ่านบทความต่างๆได้ที่เว็บไซต์ iMoney.in.th ได้เลยค่ะ