รวมสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านภาระหนี้เกิน 2563 รีไฟแนนซ์บ้านไม่เช็คภาระหนี้ สมัครยังไง ธนาคารไหนดี ดอกเบี้ยเท่าไหร่ ใครกำลังมีหนี้บ้าน ดูที่ iMoney
รีไฟแนนซ์บ้าน ภาระหนี้เกิน – สวัสดีค่ะทุกคนมาพบกันเป็นประจำเช่นเคย และทุกครั้งที่พบกันเราก็ไม่พลาดที่จะมีบทความดีๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับทุกคนมาฝากกันอย่างแน่นอน และในวันนี้เราจะมาบอกเล่าถึงเรื่องการรีไฟแนนซ์บ้าน ที่เป็นสิ่งที่หลายๆคนนิยมเลือกทำกันมากขึ้นหลังจากที่ผ่อนมาได้สักประมาณ 3 ปีขึ้นไป เพราะหลัง 3 ปีไปแล้ว ดอกเบี้ยก็จะเริ่มปรับตัวสูงขึ้น ค่าผ่อนบ้านรายงวดก็จะต้องเพิ่มสูงขึ้น จากที่ผ่อนรายเดือนน้อยๆก็จะต้องผ่อนเพิ่มมากขึ้น ก็อาจจะทำให้หลายคนอาจจะต้องแบกรับภาระหนี้สินมากมาย รายจ่ายในแต่ละเดือนก็สูงเหลือเกิน เงินเดือนออกมาก็แทบจะไม่เหลือใช้ ทำให้เงินหมุนไม่ทัน นอกจากมีหนี้บ้านแล้วบางคนอาจจะมีหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลอีกด้วย ด้วยเหตุผลต่างๆนี้ก็ทำให้หลายคนเริ่มจะคิดที่ต้องการจะรีไฟแนนซ์บ้าน จะได้ลดภาระดอกเบี้ยที่สูงของสินเชื่อบ้านแถมด้วยกับเงินอีกสักก้อนในการปิดบัญชีหนี้สินอื่นๆที่เป็นอยู่ เนื่องจากการรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารใหม่นั้นบางที่ก็ได้วงเงินที่สูง และยังสามารถขอกู้เพิ่มได้อีก เพื่อที่จะได้นำเงินมาใช้ได้ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการเลยล่ะค่ะ และวันนี้ iMoney ก็ได้รวบรวมสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ที่จะช่วยทำให้ภาระหนี้เกินของคุณลดน้อยลง จะมีอะไรบ้างนั้น ติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ
รวมสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ภาระหนี้เกินจากธนาคารต่างๆ ที่น่าสนใจ อัพเดท 2563
ธนาคาร | ชื่อสินเชื่อ | จุดเด่น | เงื่อนไข | ดอกเบี้ย |
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา | สินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์ | วงเงินกู้สูง ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนได้นานสูงถึง 30 ปี ขอกู้เงินเพิ่มเติมได้อีก และฟรีค่าประเมินหลักประกัน | อายุตั้งแต่ 20 – 65 ปี สมัครได้ทั้งพนักงานประจำและทำธุรกิจส่วนตัว | ดอกเบี้ยเริ่มต้นร้อยละ 0.50 ต่อปี หรือสูงสุดร้อยละ MRR – 0.85 ต่อปี |
ธนาคารกสิกรไทย | สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์บ้าน | สมัครง่าย อนุมัติเร็วภายใน 3 วัน แถมผ่อนสบายนาน 30 ปี ดอกเบี้ยต่ำพร้อมรับวงเงินเพิ่ม | อายุตั้งแต่ 22 ปีขึ้นไป และต้องมีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาท | ดอกเบี้ยสูงสุดอยู่ที่ MRR – 2.00 ต่อปี |
ธนาคารออมสิน | สินเชื่อเคหะ | กู้ได้ทุกอาชีพ ให้วงเงินสูง ขอกู้เงินเพิ่มเติมได้ และหลากหลายทางเลือกดอกเบี้ย | ขอสินเชื่อบ้านได้ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป และคุณจะต้องมีบัญชีเงินฝากกับธนาคารออมสิน | ดอกเบี้ยเริ่มต้นร้อยละ 1.00 หรือสูงสุดร้อยละ 6.25 |
ธนาคารยูโอบี | สินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์ ยูโอบี โฮมโลน | จ่ายดอกเบี้ยถูก อนุมัติเร็วภายใน 3 วันเท่านั้นรู้ผลทันที ผ่อนจ่ายได้สบายๆนาน 30 ปี และยังฟรีค่าจดจำนอง | คุณจะต้องมีอายุ 21 ปีขึ้น และมีรายได้ต่อเดือนไม่น้อยกว่า 20,000 บาท | ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยโดยจะเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 3 – MRR – 2.00 ต่อปี |
Credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์บ้านภาระหนี้เกินกับสินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์ จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ต้องการใช้เงินก้อน อยากลดภาระหนี้รายจ่ายงวดนี้บ้านในแต่ละเดือน เลือกมารีไฟแนนซ์บ้านกับ สินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ที่จะช่วยให้มีรายจ่ายในแต่ละเดือนน้อยลง มีเงินเหลือใช้มากขึ้น แถมยังยืดระยะเวลาการผ่อนได้มากขึ้นอีกด้วย และที่สำคัญสินเชื่อนี้ยังสามารถให้คุณขอกู้สินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคชเพิ่มได้อีกด้วย ในกรณีที่จะต้องการใช้เงินก้อนไปปิดหนี้สินต่างๆที่เกิดขึ้นก็ตาม มาดูรายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆในการสมัครกันดีกว่าค่ะ
หมวดหมู่ : รีไฟแนนซ์บ้านกรุงศรี
จุดเด่นของสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ภาระหนี้เกิน กับสินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์
- ฟรีค่าประเมินหลักประกัน
- สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก อนุมัติเร็ว
- ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนจ่ายได้นานขึ้น
- อนุมัติวงเงินกู้ได้สูงสุดถึง 95%
- สามารถขอกู้เงินเพิ่มเติมได้อีกด้วย
วงเงินในการอนุมัติสินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์ : ธนาคารจะให้วงเงินขั้นต่ำอยู่ที่ 1,000,000 บาท และสูงสุดอยู่ที่ 95% ของราคาประเมิน โดยหลักประกันที่สามารถนำมาขอสินเชื่อได้นั้นก็จะมีประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม และอาคารพาณิชย์
ระยะเวลาการผ่อนสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ภาระหนี้เกิน : ในการรีไฟแนนซ์บ้านนั้นธนาคารจะให้ผ่อนได้นาน 30 ปี ซึ่งจะระยะเวลาในการผ่อนก็จะเท่ากับในการขอสินเชื่อบ้านใหม่เลย
คราวนี้มาดูกันในส่วนของอัตราดอกเบี้ยกันบ้าง ซึ่งอัตราดอกเบี้ยก็จะแตกต่างกันไปแล้วแต่ประเภทของหลักทรัพย์ที่นำมาขอสินเชื่อ และยังขึ้นอยู่กับทางเลือกที่เลือกอีกด้วย รายละเอียดมีดังนี้
หากหลักประกันเป็นประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม โดยจะมีให้เลือกด้วยกัน 6 ทางเลือก มีรายละเอียดดังนี้
- ดอกเบี้ยทางเลือก 1
- ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยในอัตราเดียวตลอดทั้งสัญญาซึ่งจะอยู่ที่ MRR – 2.95% ต่อปี
- เฉลี่ยดอกเบี้ย 3 ปีแรก และดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญานั้นจะอยู่ที่ 4.25% ต่อปี
- ดอกเบี้ยทางเลือก 2
- ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน 2 ปีแรกของสัญญานั้น ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยอยู่ที่ MRR – 1.95% ต่อปี
- ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านตั้งแต่ปีที่ 3 ธ ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยอยู่ที่ MRR – 1.90% ต่อปี
- เฉลี่ยดอกเบี้ย 3 ปีแรก จะอยู่ที่ 3.27% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาของดอกเบี้ยทางเลือกที่ 2 จะอยู่ที่ 4.11% ต่อปี
- ดอกเบี้ยทางเลือก 3 ดอกเบี้ยจะเป็นแบบขั้นบันไดค่อยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
- ผ่อนในช่วงปีที่ 1 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR – 5.85% ต่อปี
- ผ่อนในช่วงปีที่ 2 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR – 3.15% ต่อปี
- ผ่อนในช่วงปีที่ 3 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR – 2.90% ต่อปี
- ผ่อนตั้งแต่ปีที่ 4 ขึ้นไป จนถึงปีที่ครบสัญญาในการรีไฟแนนซ์บ้าน ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR – 1.90% ต่อปี
- เฉลี่ยดอกเบี้ย 3 ปีแรก จะอยู่ที่ 3.23% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาของดอกเบี้ยทางเลือกที่ 3 จะอยู่ที่ 4.09% ต่อปี
- ดอกเบี้ยทางเลือก 4 ดอกเบี้ยจะเท่ากันในช่วง 3 ปีแรกของสัญญา
- ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน 3 ปีแรก จะอยู่ที่ MRR – 4.05% ต่อปี
- ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านตั้งแต่ปีที่ 4 ขึ้นไป จะอยู่ที่ MRR – 1.90% ต่อปี
- เฉลี่ยดอกเบี้ย 3 ปีแรก จะอยู่ที่ 3.15% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาของดอกเบี้ยทางเลือกที่ 4 จะอยู่ที่ 4.12% ต่อปี
- ดอกเบี้ยทางเลือก 5
- ในปีที่ 1 ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยคงที่อัตราเดียวทั้งปี ซึ่งดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 0.75% ต่อปี
- ในปีที่ 2 และปีที่ 3 ธนาคารจะปรับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นและคิดแบบลอยตัว ซึ่งดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR – 2.625% ต่อปี
- ในปีที่ 4 ขึ้นไปนั้น ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยแบบลอยตัว ซึ่งจะอยู่ที่ MRR – 1.90% ต่อปี
- เฉลี่ยดอกเบี้ย 3 ปีแรก จะอยู่ที่ 3.30% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาของดอกเบี้ยทางเลือกที่ 5 จะอยู่ที่ 4.11% ต่อปี
- ดอกเบี้ยทางเลือก 6 ทางเลือกนี้จะฟรีค่าจดจำนองในการขอสินเชื่อบ้าน
- ดอกเบี้ยปีที่ 1 ธนาคารคิดดอกเบี้ยคงที่จะอยู่ที่ 0.50% ต่อปี
- ตั้งแต่ปีที่ 2 ขึ้นไปนั้น ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยแบบลอยตัวในอัตราเดียวกัน ซึ่งจะอยู่ที่ MRR – 1.90% ต่อปี
- เฉลี่ยดอกเบี้ย 3 ปีแรก จะอยู่ที่ 3.70% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาของดอกเบี้ยทางเลือกที่ 6 จะอยู่ที่ 4.32% ต่อปี
ส่วนหลักประกันเป็นประเภทอาคารพาณิชย์ โดยแบ่งเป็น 2 วงเงิน ได้แก่ วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท กับ วงเงินตั้งแต่ 5 ล้านบาท ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
วงเงินอนุมัติตั้งแต่ 1,000,000 – 5,000,000 บาท มีให้เลือกด้วยกัน 2 ทางเลือก
- ดอกเบี้ยทางเลือก 1
- ดอกเบี้ย 2 ปีแรกของสัญญา ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยอยู่ที่ MRR – 2.10% ต่อปี
- ดอกเบี้ยที่ 3 ขึ้นไป ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยอยู่ที่ MRR – 0.85% ต่อปี
- เฉลี่ยดอกเบี้ย 3 ปีแรกของทางเลือกที่ 1 นั้นจะอยู่ที่ 5.52% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา จะอยู่ที่ 5.89% ต่อปี
- ดอกเบี้ยทางเลือก 2
- ดอกเบี้ยปีแรกของสัญญา ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ 4.75% ต่อปี
- ดอกเบี้ยตั้งแต่ปีที่ 2 ขึ้นไป ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยอยู่ที่ MRR – 0.85% ต่อปี
- เฉลี่ยดอกเบี้ย 3 ปีแรกของทางเลือกที่ 2 นั้นจะอยู่ที่ 5.82% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา จะอยู่ที่ 6.05% ต่อปี
วงเงินอนุมัติตั้งแต่ 5,000,000 บาทขึ้นไป มีให้เลือกด้วยกัน 2 ทางเลือก
- ดอกเบี้ยทางเลือกที่ 1
- ดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน 3 ปีแรก ธนาคารจะคิดอยู่ที่ MRR – 2.60% ต่อปี
- หลังจาก 3 ปีไปแล้ว ธนาคารจะเริ่มปรับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ซึ่งจะอยู่ที่ MRR – 0.85% ต่อปี
- เฉลี่ยดอกเบี้ย 3 ปีแรกของทางเลือกที่ 1 นั้นจะอยู่ที่ 4.60% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา จะอยู่ที่ 5.41% ต่อปี
- ดอกเบี้ยทางเลือกที่ 2
- ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยคงที่ในปีที่ 1 โดยที่ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 4.25% ต่อปี
- ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยลอยตัวเริ่มตั้งแต่ปีที่ 2 ขึ้นไป โดยที่ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR – 0.85% ต่อปี
- เฉลี่ยดอกเบี้ย 3 ปีแรกของทางเลือกที่ 2 นั้นจะอยุ่ที่ 5.65% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา จะอยู่ที่ 5.95% ต่อปี
คุณสมบัติการสมัครรีไฟแนนซ์บ้านภาระหนี้เกินกับสินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์ จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- ขอรีไฟแนนซ์บ้านได้ทุกอาชีพ ซึ่งจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป และจะต้องไม่เกินอายุ 65 ปี
- กรณีที่คุณมีรายได้ประจำ เป็นพนักงานบริษัท หรือรับราชการ หรือเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ จะต้องมีอายุในการทำงานกับที่ปัจจุบันไม่น้อยกว่า 2 ปีขึ้นไป
- กรณีที่คุณทำธุรกิจส่วนตัวเป็นเจ้าของธุรกิจนั้น จะต้องเปิดธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี และที่สำคัญปัจจุบันธุรกิจจะต้องดำเนินกิจการอยู่
เอกสารที่จะต้องเตรียมในการสมัครรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเอกสารนั้นจะมีด้วยกันหลักๆเพียงแค่ 3 ส่วนเท่านั้น คือ
- เอกสารข้อมูลส่วนบุคคล
- สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน รวมไปถึงใบจดทะเบียนสมรส หรือใบหย่า หรือใบเปลี่ยนชื่อ
- เอกสารที่แสดงถึงรายได้
- สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองการทำงาน หรือสำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
- เอกสารที่แสดงถึงหลักประกัน
- สำเนาโฉนดที่ดิน หนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย
ช่องทางการสมัคร : หากสนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการสมัครก็ติดต่อได้กับเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ทุกสาขาทั่วประเทศ
Credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์บ้านภาระหนี้เกินด้วยสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์บ้าน จากธนาคารกสิกรไทย
สำหรับใครที่มีภาระหนี้เกินตัวอยู่นั้น ขอแนะนำให้นำสินเชื่อบ้านมาสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารกสิกรไทย ที่จะทำให้ผ่อนจ่ายๆได้สบายๆ ที่มาพร้อมกับดอกเบี้ยค่ำ แถมด้วยการขอรับวงเงินเพิ่มได้อีกด้วย คุณก็สามารถนำเงินส่วนต่างมาจ่ายหนี้ได้ แล้วผ่อนแค่หนี้บ้านอย่างเดียวเท่านั้น สมัครก็ง่าย อนุมัติก็รวดเร็วทันใจ ผ่อนจ่ายได้นาน มาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ
จุดเด่นของสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านภาระหนี้เกิน ด้วยสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์บ้าน
- สมัครง่าย อนุมัติเร็วเพียง 3 วัน
- ดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี
- วงเงินกู้ในการรีไฟแนนซ์บ้านให้สูงถึง 100%
วงเงินในการอนุมัติ : ธนาคารจะให้วงเงินสูงสุดอยู่ที่ 100% คิดจากวงเงินสินเชื่อบ้านกสิกรไทย
ระยะเวลาการผ่อนรีไฟแนนซ์บ้านกสิกร : ผ่อนจ่ายรายเดือนได้อย่างสบายๆ นานสูงสุดถึง 30 ปี
อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารกสิกรไทย
- ในช่วงปีที่ 1 – 3 ดอกเบี้ยจะลอยตัว และได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 1.50% ต่อปี
- ตั้งแต่ปีที่ 4 ขึ้นไปนั้น ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR –2.00%
ทั้งนี้ หากคุณเลือกทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อบ้านในการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านนั้น ก็จะได้รับส่วนลดของดอกเบี้ยในช่วงปีแรกอยู่ที่ 0.25%
คุณสมบัติการสมัครรีไฟแนนซ์บ้านภาระหนี้เกินด้วยสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์บ้าน จากธนาคารกสิกรไทย
- ขอรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารกสิกรไทยได้ตั้งแต่อายุ 22 – 70 ปี
- สมัครได้ทุกอาชีพ ดังนี้
- กรณีที่ทำงานประจำ จะต้องมีอายุในการทำงานไม่ต่ำกว่า 1 ปีขึ้นไป
- กรณีที่ประกอบธุรกิจส่วนตัวหรือเป็นเจ้าของกิจการ ธุรกิจที่เปิดนั้นจะต้องดำเนินมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี
- ไม่ว่าจะทำงานประจำ เป็นพนักงาน หรือจะทำอาชีพอิสระ หรือจะประกอบธุรกิจส่วนตัว
- ทุกอาชีพจะต้องมีรายได้ต่อเดือนไม่น้อยกว่า 15,000 บาทขึ้นไป
- กรณีในการขอรีไฟแนนซ์บ้านกู้ร่วมกับผู้อื่นนั้น คนที่กู้ร่วมจะต้องมีรายได้ต่อเดือนไม่น้อยกว่า 12,000 บาท
เอกสารที่จะต้องเตรียมในการสมัครรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารกสิกรไทย
- บัตรประชาชนโดยจะต้องถ่ายเอกสารพร้อมเซ็นสำเนาถูกต้องมาให้พร้อม
- ทะเบียนบ้านซึ่งจะต้องถ่ายเอกสารพร้อมเซ็นสำเนาถูกต้องมาให้พร้อม
- กรณีที่มีคู่สมรสแล้วนั้น จะต้องนำสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียน และสำเนาใบจดทะเบียนสมรสมาด้วย
- กรณีที่ได้มีการเลิกรากับคู่สมรสแล้ว จะต้องแนบสำเนาใบหย่ามาประกอบการรีไฟแนนซ์บ้านด้วย
- เอกสารรายได้สามารถเลือกใช้ได้ทั้งสลิปเงินเดือนล่าสุดหรือหนังสือเงินเดือนของคุณเพื่อแสดงให้ธนาคารถึงรายได้ต่อเดือนของคุณ
- ใบเสร็จที่ได้มีการผ่อนจ่ายค่าสินเชื่อบ้านกับสถาบันการเงินเดิมที่เป็นหนี้อยู่ โดยจะต้องใช้เป็นใบเสร็จเดือนล่าสุด
ช่องทางการสมัคร : หากสนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการสมัครก็ติดต่อได้กับเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทยได้ทุกสาขาทั่วประเทศ
Credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์บ้านภาระหนี้เกินกับสินเชื่อเคหะ จากธนาคารออมสิน
หนี้เยอะเกิน มองหาสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อต้องการเงินมาปิดหนี้อื่นๆ หรือต้องการเงินเพิ่มเติมมาตกแต่งบ้านต่างๆ เลือกสมัครกับสินเชื่อเคหะกับธนาคารออมสิน ช่วยปลดภาระหนี้ สานฝันให้เป็นจริงกับคนที่อยากมีบ้าน ด้วยเงื่อนไขในการสมัครง่ายๆ สบายๆ ไม่ยุ่งยากอะไรเลย แถมยังให้วงเงินกู้สูงอีกด้วย พร้อมกับดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำ ตามมาด้วยระยะเวลาการผ่อนที่ยืดให้นานขึ้นไปอีก ทำให้มีเงินเหลือใช้มากเพิ่มขึ้นในแต่ละเดือน
หมวดหมู่ : รีไฟแนนซ์บ้านออมสิน
จุดเด่นของสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านภาระหนี้เกิน กับสินเชื่อเคหะ
- รีไฟแนนซ์บ้านได้ทุกอาชีพ
- ไม่ยุ่งยากในการขอสินเชื่อบ้าน
- ผ่อนจ่ายค่างวดได้นานถึง 30 ปี
วงเงินกู้ในการอนุมัติสินเชื่อเคหะนั้น ธนาคารจะแบ่งไปตามประเภทของบ้านและขึ้นอยู่กับคุณเลือกทำประกันชีวิตด้วยหรือไม่ เรามาดูรายละเอียดต่างๆกันเลย
- กรณีรีไฟแนนซ์บ้านพร้อมกับเลือกทำประกันชีวิตควบคู่ไปด้วยนั้น ธนาคารจะให้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกินร้อยละ 90 ของราคาประเมินหลักทรัพย์ แต่บ้านมีราคาซื้อขายตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป จะให้วงเงินกู้ไม่เกินร้อยละ 80 ของราคาประเมินหลักทรัพย์
- กรณีรีไฟแนนซ์บ้านแต่ไม่ได้ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน ธนาคารจะให้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกินร้อยละ 85 ของราคาประเมินหลักทรัพย์ แต่บ้านมีราคาซื้อขายตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป จะให้วงเงินกู้ไม่เกินร้อยละ 80 ของราคาประเมินหลักทรัพย์
นอกจากนี้แล้วธนาคารยังให้วงเงินกู้ได้เพิ่มเติม ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน และก็จะขึ้นอยู่กับว่าการเลือกทำประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อบ้านหรือไม่ด้วย มีรายละเอียดดังนี้
- กรณีรีไฟแนนซ์บ้านพร้อมกับเลือกทำประกันชีวิต
- หากต้องการกู้เงินเพิ่มเติมเพื่อการอุปโภคบริโภค ตกแต่ง หรือซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย ธนาคารจะให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 5 ของราคาประเมินหลักทรัพย์
- หากต้องการกู้เงินเพื่อไปจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อ ธนาคารจะให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาประเมินหลักทรัพย์
- กรณีรีไฟแนนซ์บ้านแต่ไม่ทำประกันชีวิต
- หากต้องการกู้เงินเพิ่มเติมเพื่อการอุปโภคบริโภค ตกแต่ง หรือซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย ธนาคารจะให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 5 ของราคาประเมินหลักทรัพย์
- หากต้องการกู้เงินเพื่อไปจ่ายค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ธนาคารจะให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 2 ของราคาประเมินหลักทรัพย์
ระยะเวลาในการผ่อนจ่าย สินเชื่อเคหะธนาคารออมสินให้ผ่อนได้นาน 30 ปี ขึ้นอยู่กับอายุของคุณในขณะที่ขอรีไฟแนนซ์บ้าน
อัตราดอกเบี้ย โดยจะแบ่งออกเป็น 2 กรณีคือ กรณีที่ทำประกันชีวิตพร้อมกับการขอสินเชื่อ และกรณีที่ไม่ได้ทำประกันชีวิต มีรายละเอียดดังนี้
กรณีที่ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ โดยจะมีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ ดังนี้
- แบบที่ 1
- รีไฟแนนซ์บ้านปีที่ 1 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 1.00 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านปีที่ 2 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.00 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านปีที่ 3 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.00 ต่อปี
- ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไปจนครบตามระยะเวลาของสัญญา ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยเท่ากับทุกปีที่เหลืออยู่ ซึ่งจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.00 ต่อปี
- ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ดอกเบี้ยแบบที่ 1 จะอยู่ที่ร้อยละ 4.00 ต่อปี
- แบบที่ 2
- รีไฟแนนซ์บ้านปีที่ 1 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 4.00 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านปีที่ 2 และปีที่ 3 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 4.50 ต่อปี
- ตั้งแต่ปีที่ 4 ขึ้นไปจนครบสัญญา ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.00 ต่อปี
- ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ดอกเบี้ยแบบที่ 2 จะอยู่ที่ร้อยละ 4.33 ต่อปี
กรณีที่ไม่ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ โดยจะมีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ ดังนี้
- แบบที่ 1
- ดอกเบี้ยในปีที่ 1 จะอยู่ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี
- ดอกเบี้ยในปีที่ 2 จะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.75 ต่อปี
- ดอกเบี้ยตั้งแต่ปีที่ 3 ขึ้นไป จะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 0.75 ต่อปี
- สำหรับดอกเบี้ยแบบที่ 1 นั้นดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี จะอยู่ที่ร้อยละ 4.33 ต่อปี
- แบบที่ 2
- ดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก จะอยู่ที่ร้อยละ 5.00 ต่อปี
- ดอกเบี้ยลอยตัวตั้งแต่ปีที่ 4 ขึ้นไป ซึ่งดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 0.75 ต่อปี
- สำหรับดอกเบี้ยแบบที่ 2 นั้นดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี จะอยู่ที่ร้อยละ 5.00 ต่อปี
เงื่อนไขในการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านภาระหนี้เกินจากธนาคารออมสิน
- สำหรับคนที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารออมสินนั้นจะต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป และจะต้องมีบัญชีเงินฝากกับธนาคารออมสินจึงจะสามารถขอสินเชื่อนี้ได้
เอกสารที่จะต้องใช้ประกอบการสมัครรีไฟแนนซ์บ้านภาระหนี้เกินกับสินเชื่อเคหะ จากธนาคารออมสิน
- สำเนาบัตรประชาชนของคุณ หากมีคู่สมรสก็จะต้องแนบมาด้วย
- แนบสำเนาใบทะเบียนสมรส แต่ถ้ามีการหย่าก็จะต้องแนบสำเนาใบหย่ามาด้วยเช่นกัน
- สำเนาทะเบียนของคุณ หากมีคู่สมรสก็จะต้องแนบมาด้วย
ช่องทางการสมัคร : ต้องการสมัครหรือจะสอบถามรายละเอียดต่างๆ ก็ติดต่อได้กับเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินได้ทุกสาขาทั่วประเทศ
Credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์บ้านภาระหนี้เกิน สินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์ ยูโอบี โฮมโลน จากธนาคารยูโอบี
จะยอมจ่ายหนี้บ้านแพงอยู่ทำไม ลองมองหาสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านที่จะมาช่วยแบ่งเบาภาระ ช่วยทำให้จ่ายรายเดือนได้น้อยลง มีเงินเหลือมากขึ้น กับสินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์ ยูโอบี โฮมโลน มาพร้อมกับโปรโมชั่นดีๆ ที่ฟรีค่าจดจำนอง รีไฟแนนซ์โดยที่ไม่ต้องเสียค่าจดจำนอง แถมยังได้วงเงินที่สูง จะขอกู้เพิ่มเติมมาใช้จ่ายหนี้ส่วนอื่นๆก็ได้อีกด้วย และยืดระยะเวลาการผ่อนได้นานถึงถึง 30 ปีกันเลย วงเงินก็สูง ดอกเบี้ยก็ต่ำ โปรโมชั่นดีๆแบบนี้หาที่ไหนไม่ได้แล้วสนใจมาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ
จุดเด่นของสินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์ ยูโอบี โฮมโลน
- สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก
- อนุมัติรวดเร็วทันใจภายใน 3 วัน
- ผ่อนจ่ายได้สบายๆ นานสูงสุดถึง 30 ปี
- ให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 100% ของราคาประเมิน
วงเงินในการอนุมัติสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารยูโอบี : แต่จะขึ้นอยู่กับหลักทรัพย์ ดังนี้
- หลักทรัพย์ประเภท บ้าน (วงเงินสูงสุดไม่เกิน 50,000,000 บาท)
- กรณีที่หลักทรัพย์อยู่ในพื้นที่กรุงเทพหรือปริมณฑล ธนาคารจะให้วงเงินอนุมัติไม่เกิน 100% ของราคาประเมิน
- กรณีที่หลักทรัพย์อยู่ในต่างจังหวัด ธนาคารจะให้วงเงินไม่เกิน 85-90% ในกรณีที่มีหลักทรัพย์อยู่ที่ต่างจังหวัด
- หลักทรัพย์ประเภท คอนโด (วงเงินสูงสุดไม่เกิน 30,000,000 บาท)
- กรณีที่หลักทรัพย์อยู่ในพื้นที่กรุงเทพหรือปริมณฑล ธนาคารจะให้วงเงินอนุมัติไม่เกิน 100% ของราคาประเมิน
- กรณีที่หลักทรัพย์อยู่ในต่างจังหวัด ธนาคารจะให้วงเงินไม่เกิน 80-90% ในกรณีที่มีหลักทรัพย์อยู่ที่ต่างจังหวัด
ระยะเวลาในการผ่อนชำระกู้รีไฟแนนซ์บ้าน : สามารถผ่อนได้นาน 30 ปี ซึ่งเทียบเท่ากับสินเชื่อบ้านของธนาคารยูโอบีเลย
การคิดอัตราดอกเบี้ย : สามารถเลือกดอกเบี้ยได้ 2 ประเภท นั่นก็คือ ดอกเบี้ยแบบลอยตัว หรือจะเลือก ดอกเบี้ยแบบคงที่ ซึ่งแต่ละประเภทนั้นก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป มาดูรายละเอียดกันดีกว่าค่ะ
อัตราดอกเบี้ยลอยตัว โดยให้เลือกว่าต้องการจะทำประกันคุ้มครองสินเชื่อหรือไม่ เพราอัตราดอกเบี้ยก็จะไม่เท่ากัน ซึ่งแน่นอนว่าดอกเบี้ยแบบที่ไม่ทำประกันชีวิตนั้นก็ย่อมจะสูงกว่าการที่เลือกทำประกันชีวิต (ปัจจุบันดอกเบี้ย MRR ของธนาคารจะอยู่ที่ 7.75%)
- กรณีที่รีไฟแนนซ์บ้านและทำประกันคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) และให้ธนาคารยูโอบีหักเงินค่างวดผ่านบัญชีเงินฝากแบบอัตโนมัติ
- ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านปีที่ 1 ธนาคารจะคิดอยู่ที่ร้อยละ MRR – 4.75 ต่อปี
- ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านปีที่ 2 ธนาคารจะคิดอยู่ที่ร้อยละ MRR – 4.50 ต่อปี
- ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านปีที่ 3 ธนาคารจะคิดอยู่ที่ร้อยละ MRR – 4.25 ต่อปี
- ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านปีที่ 4 ขึ้นไปจนถึงครบสัญญาเงินกู้ ธนาคารจะคิดอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.00 ต่อปี
- ดอกเบี้ยใน 3 ปีแรกนั้นดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 3.25 ต่อปี แต่ถ้าคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงของสัญญาเงินกู้นั้นดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 4.74 ต่อปี
สำหรับคนที่รีไฟแนนซ์บ้านและเลือกทำประกันชีวิตในการคุ้มครองสินเชื่อบ้านนั้นธนาคารจะยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆในการรีไฟแนนซ์บ้าน
- กรณีที่รีไฟแนนซ์บ้านแต่ไม่ได้ทำประกันคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA)
- ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านปีที่ 1 ธนาคารจะคิดอยู่ที่ร้อยละ MRR – 4.65 ต่อปี
- ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านปีที่ 2 ธนาคารจะคิดอยู่ที่ร้อยละ MRR – 4.40 ต่อปี
- ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านปีที่ 3 ธนาคารจะคิดอยู่ที่ร้อยละ MRR – 4.15 ต่อปี
- ตั้งแต่ปีที่ 4 ขึ้นไปจนครบระยะเวลาในการผ่อนนั้น ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.00 ต่อปี
- ดอกเบี้ยใน 3 ปีแรกนั้นดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 3.35 ต่อปี แต่ถ้าคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงของสัญญาเงินกู้นั้นดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 4.78 ต่อปี
อัตราดอกเบี้ยคงที่ เช่นเดียวกันก็คือ มีให้เลือกระหว่างทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ กับไม่ทำประกันคุ้มครองสินเชื่อ มาดูกันเลย (ปัจจุบันดอกเบี้ย MRR ของธนาคารจะอยู่ที่ 7.75%)
- กรณีที่รีไฟแนนซ์บ้านและทำประกันคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) และให้ธนาคารยูโอบีหักเงินค่างวดผ่านบัญชีเงินฝากแบบอัตโนมัติ
- ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยคงที่ในปีแรกของสัญญาซึ่งจะอยู่ที่ร้อยละ 3.30 ต่อปี
- ในส่วนของสินเชื่อบ้านปีที่ 2 นั้น ธนาคารก็ยังคงคิดดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 3.50 ต่อปี
- ปีที่ 3 ของสินเชื่อบ้าน ธนาคารเปลี่ยนมาคิดดอกเบี้ยแบบลอยตัวซึ่งจะอยู่ที่ร้อยละ MRR -4.05 ต่อปี
- ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไปจนถึงระยะเวลาที่ผ่อนจ่าย ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยในอัตราที่เท่ากันเลย ซึ่งดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.00 ต่อปี
- ดอกเบี้ยใน 3 ปีแรกนั้นดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 3.50 ต่อปี แต่ถ้าคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงของสัญญาเงินกู้นั้นดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 4.85 ต่อปี
- กรณีที่รีไฟแนนซ์บ้านแต่ไม่ได้ทำประกันคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA)
- ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านปีที่ 1 ธนาคารจะคิดอยู่ที่ร้อยละ 3.40 ต่อปี
- ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านปีที่ 2 ธนาคารจะคิดอยู่ที่ร้อยละ 3.60 ต่อปี
- ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านปีที่ 3 ธนาคารจะคิดอยู่ที่ร้อยละ MRR – 3.80 ต่อปี
- ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านตั้งแต่ปีที่ 4 จนถึงปีสุดท้ายของสัญญา ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.00 ต่อปี
- ดอกเบี้ยใน 3 ปีแรกนั้นดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 3.65 ต่อปี แต่ถ้าคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงของสัญญาเงินกู้นั้นดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 4.90 ต่อปี
และเรามาลองดูอัตราดอกเบี้ยในกรณีที่คุณขอกู้เงินเพิ่มเติมจากสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านกันบ้าง ซึ่งแน่นอนอัตราดอกเบี้ยในส่วนนี้ก็จะสอดคล้องกับสินเชื่อรีไฟแนนซ์นั้นก็คือ ในส่วนของการเลือกทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ กับการไม่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อนั่นเอง มีรายละเอียดดังนี้
- สำหรับคนที่เลือกทำประกันคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA)
- ปีที่ 1 – 2 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR – 2.48% หรือเท่ากับ 5.27% ต่อปี
- ตั้งแต่ปีที่ 3 ขึ้นไป ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR – 1.75% หรือเท่ากับ 6.00 ต่อปี
- เฉลี่ยดอกเบี้ย 3 ปีแรก เท่ากับ 5.51% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง ตลอดอายุสัญญา จะอยู่ที่ 5.79% ต่อปี
- สำหรับคนที่ไม่ทำประกันคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA)
- ปีที่ 1 – 2 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR –2.23% หรือเท่ากับ 5.52% ต่อปี
- ตั้งแต่ปีที่ 3 ขึ้นไป ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR –1.75% หรือเท่ากับ 6.00 ต่อปี
- เฉลี่ยดอกเบี้ย 3 ปีแรก เท่ากับ 5.68% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง ตลอดอายุสัญญา จะอยู่ที่ 5.86% ต่อปี
เงื่อนไขในการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านภาระหนี้เกิน กับสินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์ ยูโอบี โฮมโลน จากธนาคารยูโอบี
- กรณีที่ผู้สมัครทำงานประจำ จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- สมัครได้ตั้งแต่อายุ 21 ปีขึ้นไป โดยที่ผ่อนจ่ายได้ไม่เกินอายุ 70 ปี
- คุณจะต้องมีเงินเดือนต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทขึ้นไป
- คุณจะต้องมีอายุในการทำงานมาแล้ว 2 ปี ซึ่งสามารถนำอายุการทำงานที่เก่ากับที่ใหม่มารวมกันได้
- กรณีที่ผู้สมัครทำธุรกิจส่วนตัว จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- สมัครได้ตั้งแต่อายุ 21 ปีขึ้นไป โดยที่ผ่อนจ่ายได้ไม่เกินอายุ 75 ปี
- คุณจะต้องมีเงินหมุนเวียนในธุรกิจอย่างน้อย 20,000 บาทขึ้นไป
- ธุรกิจส่วนตัวที่ดำเนินกิจการอยู่นั้นจะต้องเปิดมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปีขึ้นไป และในปัจจุบันกิจการยังสถานะเปิดอยู่
เอกสารที่จะต้องเตรียมในการสมัครสินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์ ยูโอบี โฮมโลน
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้สมัครที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้สมัครที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน
- กรณีที่มีคู่สมรสให้แนบเอกสารของคู่สมรสมาด้วย ดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชนของคู่สมรสพร้อมเซ็นชื่อสำเนาถูกต้อง
- สำเนาใบจดทะเบียนสมรสหรือสำเนาใบหย่า
- กรณีที่ผู้สมัครหรือคู่สมรสมีการเปลี่ยนแปลงชื่อหรือนามสกุลให้แนบเอกสารมาด้วย
- สลิปเงินเดือนของผู้สมัครหรือจะเลือกใช้เป็นหนังสือรับรองเงินเดือนโดยจะต้องเป็นเดือนล่าสุด
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารโดยจะต้องใช้บัญชีที่มีเงินเดือนเข้าให้ย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน
- กรณีที่รีไฟแนนซ์บ้านนั้นจะต้องมีสำเนาใบเสร็จในการจ่ายค่างวดของสินเชื่อบ้านกับธนาคารเดิม
- สำเนาสัญญาเงินกู้ของสินเชื่อบ้านกับธนาคารเดิม
- โฉนดที่ดินของคุณโดยให้ถ่ายเอกสารมาให้ครบทุกหน้า
ช่องทางการสมัคร : สนใจสมัคร หรืออยากรู้รายละเอียดที่เกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์บ้านนั้นก็ติดต่อได้กับธนาคารยูโอบีทุกสาขาทั่วประเทศ
Credit : https://pixabay.com
ก่อนอื่นที่จะรีไฟแนนซ์บ้านนั้น ก็ควรจะต้องรู้เสียก่อนว่า แม้ว่าการรีไฟแนนซ์บ้านนั้นจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยที่ลดลงจากเดิม แต่ก็ยังมีข้อเสียอยู่บ้างนั่นก็คือ อย่างแรกเลยคือ จะต้องเสียเวลาไปกับติดต่อธนาคารต่างๆ เพื่อขอสินเชื่อ และต่อมาก็คือเสียเงินกับค่าใช้จ่ายต่างๆที่จะต้องเกิดขึ้น คือ ค่าธรรมเนียม ค่าจดจำนอง ค่าประเมินหลักทรัพย์ แต่ธนาคารบางแห่งก็มีโปรโมชั่นฟรีค่าจดจำนอง นอกจากนี้แล้วในการรีไฟแนนซ์นั้น สิ่งที่ควรจะต้องทำเลยก็คือ หากข้อมูลกับธนาคารต่างๆอย่างน้อยๆก็สักประมาณ 3 แห่ง เพื่อที่จะเปรียบเทียบว่าดอกเบี้ยของธนาคารให้ถูกที่สุด และให้วงเงินกู้ได้สูงสุด ที่เราต้องการให้เพื่อนๆเปรียบเทียบก็เพื่อจะได้ดอกเบี้ยที่ถูกจริงๆ ไม่ใช่รีไฟแนนซ์ไปแล้ว คิดไปคิดมาแล้วไม่คุ้มเลย ซึ่งข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับรีไฟแนนซ์บ้าน iMoney ก็เคยได้รวบรวมสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านฟรีค่าจดจำนองไว้ในเว็บไซต์ด้วยค่ะ หากเพื่อนๆสนใจก็ลองเข้ามาอ่านได้เลยที่ iMoney.in.th เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ หรือจะเป็นตัวเลือกเพื่อประกอบการตัดสินใจในการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านได้เป็นอย่างดี สุดท้ายนี้ฝากเพื่อนๆช่วยกันกดไลค์ กดแชร์ บทความเราด้วยนะคะ และในครั้งหน้าเราก็มีเรื่องราวดีๆที่มาฝาก จะเป็นเรื่องอะไรนั้น อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ