รวมข้อมูลเมืองไทยประกันภัยรถยนต์อัพเดท 2563 ตอบทุกคำถามประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เมืองไทยประกันภัยมีแบบไหนบ้าง เมืองไทยประกันภัยรถยนต์ดีไหม ใครกำลังหาข้อมูลอยู่ห้ามพลาด
ประกันภัยรถยนต์เมืองไทย – ปัจจุบันนี้มองไปทางไหนก็มีแต่รถยนต์มากมายเต็มถนนไปหมดเลยค่ะ เราคงจะปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่าการมีรถยนต์นั้นจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมากเลยค่ะ ไม่ว่าจะไปเที่ยวไหนก็แสนจะสบาย อยากไปไหนก็ขับรถไปได้ตามที่ใจต้องการเลยค่ะ หรือจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขับรถไปทำงานได้อย่างสบาย เพราะไม่ต้องคอยพึ่งพารถสาธารณะอีกด้วยค่ะ แต่ความสะดวกสบายนั้นก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายค่ะ นอกจากจะเสียค่าน้ำมันแล้ว คุณยังจะต้องทำประกันภัยรถยนต์ด้วยนะคะ ซึ่งการทำประกันภัยรถยนต์นี้ หลายๆคนก็มักจะเรียกว่าประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ นั่นก็หมายความว่ากฎหมายได้บังคับให้รถยนต์ทุกคนจะต้องมีประกันภัยทุกคันไม่ว่ารถจะใหม่หรือรถเก่าก็ตามค่ะ แล้วเคยสงสัยกันไหมค่ะว่าจะบังคับให้ทำประกันภัยรถยนต์กันทำไม ที่ให้ทำก็เพื่อให้ความคุ้มครองแก่คุณและเพื่อนร่วมทางไงล่ะค่ะ และยังเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุค่ะ แต่ในขณะเดียวกันมีประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับแล้ว ก็ย่อมมีประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ที่ให้การคุ้มครองเช่นเดียวกันแต่จะให้วงเงินที่สูงกว่า และครอบคลุมมากกว่าค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรถชนกัน จนได้รับความเสียหายของรถ หรือคนได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงคุ้มครองหากรถหาย รถไฟไหม้อีกด้วยค่ะ และวันนี้ iMoney ก็ไม่พลาดที่มาแนะนำประกันภัยรถยนต์ของเมืองไทยมาฝากทุกคนเลยค่ะ สำหรับใครอยากเปลี่ยนประกันภัยรถยนต์ หรือใครที่ได้ทำไว้แล้วอยากจะลองเปลี่ยนเป็นประกันภัยในรูปแบบอื่นๆดูบ้างนั้น เชิญฟังทางนี้เลยจร้า รับรองได้ว่าจะได้รู้เรื่องประกันภัยรถยนต์แบบจัดหนัก จัดเต็มเลยค่ะ
รวมผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์เมืองไทย อัพเดท 2563
ประเภทประกันภัยรถยนต์ |
ชื่อผลิตภัณฑ์ | จุดเด่น | เบี้ยประกันภัย |
ประกันภัยภาคบังคับ | ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ พ.ร.บ. | จ่ายเบี้ยประกันน้อย ได้รับความคุ้มครองที่สูงทั้งผู้ขับขี่และผู้ร่วมทาง |
รถเก๋ง จะจ่าย 645.21 บาทต่อปี รถกระบะ จะจ่าย 967.28 บาทต่อปี และรถตู้ จะจ่าย 1,182.35 บาทต่อปี
|
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 |
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 | คุ้มครองจากอุบัติเหตุไม่ว่าจะเกิดกรณีใด จ่ายเบี้ยประกันที่คุ้มค่ากับความคุ้มครอง | ขึ้นอยู่กับประเภทของรถยนต์ |
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 | เมืองไทย 2+ คุ้มเว่อร์ | ความคุ้มครองแบบครอบคลุม ทั้งรถชน รถหาย รถไฟไหม้ น้ำท่วม หรือเสียหายทั้งคัน |
เบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 8,400 บาท |
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 |
เมืองไทย ขับดียกกำลัง 8 | ได้รับเงินชดเชยค่าเดินทางในกรณีที่รถยนต์เข้าซ่อม และความคุ้มครองแบบครอบคลุม ทั้งรถชน รถหาย รถไฟไหม้ น้ำท่วม หรือเสียหายทั้งคัน | เบี้ยประกันภัยเพียง 8,888 บาท |
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 | เมืองไทย 2+ พลัส | คุ้มครองแบบครอบคลุม ทั้งรถชน รถหาย รถไฟไหม้ และสามารถผ่อนเบี้ยประกันภัยด้วยดอกเบี้ยเพียง 0% นานสูงสุด 10 เดือน |
เบี้ยประกันภัยเริ่มต้น7,900 บาท |
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 |
เมืองไทย 2+ เซฟ | คุ้มครองแบบครอบคลุม ทั้งรถชน รถโดนขโมย รถไฟไหม้ และคุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก | เบี้ยประกันภัยเริ่มต้น7,400 บาท |
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 | เมืองไทย 3+ คุ้มเว่อร์ | คุ้มครองแบบครอบคลุม ทั้งรถชน น้ำท่วม หรือเสียหายทั้งคัน และได้รับเงินชดเชยค่าเดินทางในกรณีที่รถยนต์เข้าซ่อม |
เบี้ยประกันภัยเริ่มต้น7,100 บาท |
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 |
เมืองไทย 3+ เซฟ | คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และผ่อนเบี้ยประกัน 0% นาน 10 เดือน |
เบี้ยประกันภัยเริ่มต้น6,700 บาท |
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 |
เมืองไทย 3 เซฟ | ไม่จำกัดยี่ห้อ ไม่จำกัดรุ่นรถยนต์ และไม่จำกัดอายุการใช้งานของรถยนต์ |
เบี้ยประกันภัยเริ่มต้น 1,900 บาท |
Credit : https://pixabay.com
วันนี้เราจะมาแนะนำประกันภัยรถยนต์ในประเภทต่างๆ โดยจะมีประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่เรียกว่า พ.ร.บ. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ชั้น 2 และชั้น 3 ค่ะ แต่ก่อนที่เราจะเริ่มทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจนั้น เราก็ต้องมาเริ่มทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับกันเสียก่อนค่ะ โดยหลักๆสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับนั้นก็มักจะไม่ค่อยแตกต่างกันสักเท่าๆไรค่ะ งั้นมาเริ่มกันเลยค่ะ
เมืองไทยประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
สำหรับคนที่มีรถยนต์ย่อมต้องรู้อยู่แล้วว่าจะต้องทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับทุกปี หากรถยนต์ของคันไหนไม่ได้ทำ พ.ร.บ. หรือ พ.ร.บ.หมดอายุแล้วไม่ต่อนั้นถือว่ามีความผิดทางกฎหมายนะคะ ในการทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับในปัจจุบันสามารถเลือกทำได้หลากที่เช่นเดียวกับที่เมืองไทยประกันภัยที่ให้คุณสมัครได้ง่ายมากเลยค่ะ ด้วยการสมัครทางออนไลน์ สะดวก รวดเร็ว และรอรับกรมธรรม์ที่บ้านได้เลยค่ะ ราคาเบี้ยประกันภัยนั้นก็เป็นไปตามประเภทของรถยนต์ค่ะ และเชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าในการทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับจะได้รับความคุ้มครองอะไรบ้าง ในวันนี้เราก็ได้นำมาฝากด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอัตราเบี้ยประกันภัย หรือจะเป็นวงเงินในการคุ้มครอง มาดูรายละเอียดกันดีกว่าค่ะ
เบี้ยประกันภัยรถยนต์นั้นจะแบ่งออกไปตามประเภทของรถยนต์ค่ะ
- สำหรับรถเก๋งจะต้องเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล จ่ายเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ 645.21 บาทต่อปีค่ะ
- สำหรับรถปิกอัพจะต้องเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล จ่ายเบี้ยประกันภัยที่ 967.28 บาทต่อปีค่ะ
- สำหรับรถตู้โดยสารจะต้องเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล จ่ายเบี้ยประกันภัยที่ 1,182.35 บาทต่อปีค่ะ
สิทธิประโยชน์ในการคุ้มครองที่จะได้รับ
- กรณีที่ยังไม่สรุปความผิด หรือเมื่อเกิดเหตุจะได้รับความคุ้มครองทันที โดยที่ยังไม่ต้องพิสูจน์หาความผิดว่าเป็นของใคร ของรถยนต์คันไหนของใคร คุณจะได้รับเงินค่าเสียหายในเบื้องต้น ดังนี้ค่ะ
- หากได้รับบาดเจ็บ คุณจะได้รับเงินค่ารักษาพยาบาลตามจริงที่เกิดขึ้นค่ะ แต่จะต้องไม่เกิน 30,000 บาทต่อคนค่ะ
- หากคุณอุบัติเหตุในครั้งนั้น ทำให้คุณจะต้องเสียชีวิต หรือจะต้องสูญเสียอวัยวะ หรือทำให้จะต้องพิการไปตลอดชีวิต ก็จะได้รับค่าทำศพ ไม่เกิน 35,000 บาทต่อคนค่ะ
ทั้งนี้ หากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้คุณได้รับบาดเจ็บก็จะได้รับเงินในการรักษาพยาบาล แล้วต่อมาอาการบาดเจ็บนั้นคุณจะต้องพิการไปตลอดชีวิตกก็จะได้รับเงินช่วยเหลือรวมกันแล้วไม่เกิน 65,000 บาทค่ะ หรือต่อมาในภายหลังเสียชีวิตนั้นก็จะได้รับการรักษาพยาบาลรวมกันแล้วไม่เกิน 200,000 บาทค่ะ นอกจากนี้หลายอาจจะสงสัยว่าการสูญเสียอวัยวะจะต้องสูญเสียอะไรบ้างจึงจะเข้าข่ายที่ได้รับความคุ้มครอง เราก็ได้นำมาฝากกันค่ะ ซึ่งมีดังนี้ค่ะ ตาบอด หูหนวก เป็นใบ้หรือเสียความสามารถในการพูด หรือลิ้นขาด สูญเสียอวัยวะสืบพันธุ์ เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้ว เสียอวัยวะอื่นใด จิตพิการอย่างติดตัว และทุพพลภาพอย่างถาวร จึงจะได้รับความคุ้มครองตามที่กำหนดค่ะ
- กรณีที่สรุปแล้วอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความผิดของคุณ คุณจะต้องรับเงินค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมจากในกรณีแรกที่เราได้บอกนั้นอีกค่ะ มีรายละเอียดดังนี้ค่ะ
- หากได้รับบาดเจ็บ คุณจะได้รับเงินค่ารักษาพยาบาลตามจริงที่เกิดขึ้นค่ะ แต่จะต้องไม่เกิน 80,000 บาทต่อคนค่ะ และในกรณีที่จะต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนั้นจะได้รับค่าชดเชยอีกวันละ 200 บาทต่อวัน โดยจะได้รับสูงสุดไม่เกิน 20 วันอีกด้วยค่ะ
- หากคุณอุบัติเหตุในครั้งนั้น ทำให้คุณจะต้องเสียชีวิต หรือทำให้คุณจะต้องพิการไปตลอดชีวิตจะได้รับเงินเยียวยาไม่เกิน 300,000 บาทต่อคนค่ะ
- หากคุณจะต้องสูญเสียอวัยวะ จนทำให้พิการนั้นก็จะได้รับเงินช่วยเหลือเช่นกันค่ะ โดยการสูญเสียอวัยวะนั้นก็จะได้รับเงินที่แตกต่างกันไป เช่น หากเสียแขน ขา มือ เท้า ตาบอด 2 ข้าง หรือตั้งแต่ 2 กรณีขึ้นไป จะได้รับเงินอยู่ 300,000 บาท หากสูญเสียแขน ขา มือ เท้า ตาบอด (สูญเสีย1 ข้าง) หรืออุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้คุณต้องหูหนวก เป็นใบ้ หรือเสียความสามารถในการพูด หรือลิ้นขาด สูญเสียอวัยวะสืบพันธุ์หรือความสามารถสืบพันธุ์ จิตพิการอย่างติดตัว หรือเสียอวัยวะอื่นใด จะได้รับเงินอยู่ 250,000 บาท และสูญเสียนิ้วตั้งแต่ข้อนิ้วขึ้นไป นิ้วเดียวหรือหลายนิ้ว จะได้รับเงินอยู่ 200,000 บาท
โดยส่วนใหญ่แล้วเบี้ยประกันภัยของประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับนั้นจะเท่ากันค่ะ เนื่องจากเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดค่ะ แต่ที่ส่วนใหญ่คนจะเลือกทำประกันภัยนั้น จะเลือกเพราะจะต้องสมัครทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจเพิ่มเติมค่ะ เลยสมัครทำประกันภัยทีเดียวกันเลย เพื่อลดความยุ่งยากค่ะ
เมืองไทยประกันรถยนต์ชั้น 1
เมืองไทยประกันภัยรถยนต์ชั้น 1
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เป็นประกันภัยรถยนต์ที่มีเบี้ยประกันภัยที่สูงกว่าประกันภัยชั้นอื่น เพราะเป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองที่ครบถ้วน ครอบคลุม ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุอะไรก็ตามใครจะผิดจะถูก คุณก็ไม่ต้องกังวลใจเลยค่ะ แถมรถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ภัยธรรมชาติ หรือรถยนต์เสียหายทั้งคันจากอุุบัติเหตุ รวมไปถึงภัยที่เกิดจากการก่อการร้าย ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ก็คุ้มครองค่ะ นอกจากจะให้ความคุ้มครองรถยนต์แล้วนะคะ ยังให้ความคุ้มครองกับตัวคุณเอง หรือเพื่อนรวมทาง และยังรวมไปถึงคู่กรณีอีกด้วยนะคะ คราวนี้เรามาดูเรื่องความคุ้มครองกันบ้างค่ะ
จุดเด่น
- คุ้มครองจากอุบัติเหตุไม่ว่าจะเกิดกรณีใด
- จ่ายเบี้ยประกันที่คุ้มค่ากับความคุ้มครอง
- บริการอู่ออนไลน์ ที่ให้คุณได้สะดวก ประหยัดเวลา และมีคุณภาพ
สิทธิประโยชน์ในการคุ้มครองนั้น ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ก็ได้แบ่งประเภทรถยนต์ออกไป 2 กลุ่มค่ะ กลุ่มแรกได้แก่ รถเก๋ง หรือ กระบะ4 ประตู และกลุ่มที่สอง ได้แก่ รถกระบะ 2 ประตู โดยความคุ้มครองสำหรับบุคคลภายนอก ไม่ว่าจะเป็นคน หรือทรัพย์สินก็ตามค่ะ โดยจะมีวงเงินที่แตกต่างกันออกไป เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะ
สิทธิประโยชน์สำหรับรถเก๋ง/กระบะ4 ประตู
- สำหรับบุคคลภายนอกรถยนต์
- หากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ต้องมีคนเสียชีวิต จะได้รับความคุ้มครอง 1,000,000 บาทต่อคน
- หากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ต้องมีคนเสียชีวิต จะได้รับความคุ้มครอง 10,000,000 บาทต่อครั้ง
- หากทรัพย์สินเสียหายจากอุบัติเหตุนั้น จะได้รับความคุ้มครอง 5,000,000 บาท
- ความคุ้มครองหากเกิดความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณ
- กรณีเกิดอุบัติเหตุนั้นทำให้รถยนต์ของคุณได้รับความเสียหาย จะได้รับความคุ้มครองตามทุนประกันภัยที่ได้เลือกไว้ตั้งแต่ตอนที่สมัครทำประกันภัยชั้น 1 ค่ะ
- กรณีรถยนต์สูญหาย หรือรถยนต์ได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ จะได้รับเงินตามทุนประกันภัยที่ได้เลือกไว้ค่ะ
- ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย
- กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ส่วนบุคคล ของผู้ที่ขับขี่และผู้ที่โดยสารที่ร่วมเดินทางไปด้วย ไม่เกิน 7 คน จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
- จะได้รับค่ารักษาพยาบาล ทั้งของผู้ที่ขับขี่และผู้ที่โดยสารที่ร่วมเดินทางไปด้วย ไม่เกิน 7 คน จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
- ในกรณีที่จะต้องมีการประกันตัวคุณนั้น ก็จะได้รับเงินในการประกันตัวสำหรับผู้ขับขี่ จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 300,000 บาทต่อครั้ง
- ในกรณีที่รถยนต์ของคุณได้รับความเสียหายจากการก่อการร้ายนั้นได้รับความคุ้มครองตามทุนประกันภัยที่ได้เลือกไว้ตั้งแต่ตอนที่สมัครทำประกันภัยชั้น 1 ค่ะ
สิทธิประโยชน์สำหรับรถกระบะ 2 ประตู
- สำหรับบุคคลภายนอกรถยนต์
- หากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ต้องมีคนเสียชีวิต จะได้รับความคุ้มครอง 1,000,000 บาทต่อคน
- หากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ต้องมีคนเสียชีวิต จะได้รับความคุ้มครอง 10,000,000 บาทต่อครั้ง
- หากทรัพย์สินเสียหายจากอุบัติเหตุนั้น จะได้รับความคุ้มครอง 5,000,000 บาท
- ความคุ้มครองหากเกิดความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณ
- กรณีเกิดอุบัติเหตุนั้นทำให้รถยนต์ของคุณได้รับความเสียหาย จะได้รับความคุ้มครองตามทุนประกันภัยที่ได้เลือกไว้ตั้งแต่ตอนที่สมัครทำประกันภัยชั้น 1 ค่ะ
- กรณีรถยนต์สูญหาย หรือรถยนต์ได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ จะได้รับเงินตามทุนประกันภัยที่ได้เลือกไว้ค่ะ
- ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย
- กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ส่วนบุคคล ของผู้ที่ขับขี่และผู้ที่โดยสารที่ร่วมเดินทางไปด้วย ไม่เกิน 3คน จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
- จะได้รับค่ารักษาพยาบาล ทั้งของผู้ที่ขับขี่และผู้ที่โดยสารที่ร่วมเดินทางไปด้วย ไม่เกิน 3 คน จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
- ในกรณีที่จะต้องมีการประกันตัวคุณนั้น ก็จะได้รับเงินในการประกันตัวสำหรับผู้ขับขี่ จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 300,000 บาทต่อครั้ง
- ในกรณีที่รถยนต์ของคุณได้รับความเสียหายจากการก่อการร้ายนั้นได้รับความคุ้มครองตามทุนประกันภัยที่ได้เลือกไว้ตั้งแต่ตอนที่สมัครทำประกันภัยชั้น 1 ค่ะ
Credit : https://pixabay.com
เมืองไทยประกันรถยนต์ชั้น 2
ประกันรถยนต์เมืองไทยประกันภัย เมืองไทย 2+ คุ้มเว่อร์
เมืองไทย 2+ คุ้มเว่อร์ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 ที่ให้ความคุ้มครองที่จัดเต็มไม่น้อยหน้าไปกว่าประกันภัยชั้น 1 เลยค่ะ ไม่ว่าจะรถชน รถหาย รถไฟไหม้ หรือจะรถเสียหายจากน้ำท่วม ประกันก็คุ้มครองค่ะ แถมในขณะที่รถเข้าศูนย์ซ่อมก็ยังได้รับเงินชดเชยเป็นค่าเดินทางอีกด้วยค่ะ
จุดเด่น
- จ่ายเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 8,400 บาท
- ให้ความคุ้มครองแบบครอบคลุม ทั้งรถชน รถหาย รถไฟไหม้ น้ำท่วม หรือเสียหายทั้งคัน
- รถยนต์อายุการใช้งาน 20 ปี
- ได้รับเงินชดเชยค่าเดินทางในกรณีที่รถยนต์เข้าซ่อม
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง
สิทธิประโยชน์ความคุ้มครองที่จะได้รับ
- สำหรับบุคคลภายนอกรถยนต์
- หากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ต้องมีคนเสียชีวิต จะได้รับความคุ้มครอง 1,000,000 บาทต่อคน
- หากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ต้องมีคนเสียชีวิต จะได้รับความคุ้มครอง 10,000,000 บาทต่อครั้ง
- หากทรัพย์สินของคนอื่นได้รับความเสียหายนั้น จะได้รับความคุ้มครอง 1,000,000 บาท
- ความคุ้มครองหากเกิดความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณ
- กรณีเกิดอุบัติเหตุนั้นทำให้รถยนต์ของคุณได้รับความเสียหาย จะได้รับความคุ้มครองตามทุนประกันภัยที่เลือกไว้ค่ะ เช่น เลือกทุนประกัน 100,000 บาท หรือ 200,000 บาท หรือ 300,000 บาท
- กรณีที่รถชนกับยานพาหนะทางบก จะได้รับความคุ้มครองตามทุนประกันภัยที่เลือกไว้ค่ะ เช่น เลือกทุนประกัน 100,000 บาท หรือ 200,000 บาท หรือ 300,000 บาท
- ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย
- กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ส่วนบุคคล ของผู้ที่ขับขี่และผู้ที่โดยสารที่ร่วมเดินทางไปด้วย จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
- จะได้รับค่ารักษาพยาบาล ทั้งของผู้ที่ขับขี่และผู้ที่โดยสารที่ร่วมเดินทางไปด้วย จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
- ในกรณีที่จะต้องมีการประกันตัวคุณนั้น ก็จะได้รับเงินในการประกันตัวสำหรับผู้ขับขี่ จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 200,000 บาทต่อครั้ง
- ความคุ้มครองเพิ่มเติม
- หากรถยนต์ของคุณจะต้องส่งเข้าซ่อมทำให้ไม่สามารถใช้งานรถยนต์ได้นั้น จะได้รับเงินค่าชดเชยค่าเดินทางระหว่างที่รถยนต์กำลังซ่อม จะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อครั้ง แต่จะต้องไม่เกิน 3 ครั้งต่อปีค่ะ ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูกก็ตามค่ะ ก็จะได้รับเงินชดเชย
- ในกรณีที่รถยนต์ของคุณได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมนั้น จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อครั้ง
- ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้วทำให้รถยนต์เสียหายทั้งคันนั้น จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อครั้ง
ทุนประกันภัยในการเลือกทำประกันเมืองไทย 2+ คุ้มเว่อร์
- คุณสามารถเลือกทำทุนประกันภัยได้ขั้นต่ำ 100,000 บาท หรือ 200,000 บาท หรือ 300,000 บาท ได้เลยค่ะ เนื่องจากประกันเมืองไทย 2+ คุ้มเว่อร์ มีให้คุณได้เลือกกัน 3 แผนค่ะ
คราวนี้เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีรถยนต์ประเภทไหนบ้างที่สามารถทำประกันเมืองไทย 2+ คุ้มเว่อร์ นี้ได้บ้างค่ะ ก็จะได้แก่ รถนั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง หรือรถเก๋ง รถปิกอัพ หรือรถกระบะบรรทุก ที่เป็นรถส่วนบุคคล และจะต้องไม่ติดคอก หรือตู้นะคะ และรถประเภทไหนกันบ้างที่ไม่สามารถสมัครทำประกันเมืองไทย 2+ คุ้มเว่อร์ นี้ได้ก็คือ กลุ่มรถที่ใช้รับจ้าง หรือรถเช่าค่ะ นอกจากนี้แล้วยังรวมไปถึงรถที่นำเข้าจากต่างประเทศ รถ Super Car รถแต่งโหลดซิ่ง รถแข่ง รถดัดแปลง รถที่ไม่มีการผลิต หรือไม่สามารถหาอะไหล่ทดแทนได้แล้ว รถที่มีราคาต่ำกว่า 100,000 บาท รวมทั้งรถที่มีราคาตลาดปัจจุบันน้อยกว่าวงเงินที่เอาประกันภัยค่ะ
ประกันเมืองไทยรถยนต์ เมืองไทย ขับดียกกำลัง 8
เมืองไทย ขับดียกกำลัง 8 ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 สำหรับรถเก๋งกลุ่มเอเชีย หรือที่เรามักจะเรียกกันว่า รถตลาดค่ะ ได้แก่พวกรถของ Toyota Honda Nissan Chevrolet Zafira, Ford Mazda Mitsubishi ซึ่งยี่ห้อรถยนต์ที่เราได้บอกนั้นก็ล้วนแต่เป็นรถยนต์ที่เรามักจะพบเห็นกันทั่วไปเลยค่ะ แถมให้ความคุ้มครองในกรณีที่รถชน รวมไปถึง รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม แถมในขณะที่รถเข้าศูนย์ซ่อมก็ยังได้รับเงินชดเชยเป็นค่าเดินทางอีกด้วยค่ะ และที่สำคัญเลยค่ะ สมัครทำประกันเมืองไทย ขับดียกกำลัง 8 นั้นจะยังได้รับบัตรเงินสดเติมน้ำมันที่ ปตท. สูงสุดถึง 1,000 บาทเลยค่ะ แถมยังสามารถผ่อนเบี้ยประกันภัยได้ 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือนอีกด้วยค่ะ
จุดเด่น
- จ่ายเบี้ยประกันภัยเพียง 8,888 บาท
- ผ่อนเบี้ยประกันภัยได้ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 10 เดือน
- ให้ความคุ้มครองแบบครอบคลุม ทั้งรถชน รถหาย รถไฟไหม้ น้ำท่วม
- รถยนต์อายุการใช้งาน 20 ปี
- ได้รับเงินชดเชยค่าเดินทางในกรณีที่รถยนต์เข้าซ่อม
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง
สิทธิประโยชน์ความคุ้มครองที่จะได้รับ
- สำหรับบุคคลภายนอกรถยนต์
- หากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ต้องมีคนเสียชีวิต จะได้รับความคุ้มครอง 1,000,000 บาทต่อคน
- หากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ต้องมีคนเสียชีวิต จะได้รับความคุ้มครอง 10,000,000 บาทต่อครั้ง
- หากทรัพย์สินของคนอื่นได้รับความเสียหายนั้น จะได้รับความคุ้มครอง 1,000,000 บาท
- ความคุ้มครองหากเกิดความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณ
- กรณีที่รถชนกับยานพาหนะทางบก โดยที่อุบัติเหตุในครั้งนั้นจะต้องสามารถระบุคู่กรณีของคุณได้ จะได้รับความคุ้มครองตาม 200,000 บาทต่อครั้ง
- ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย
- กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ส่วนบุคคล ของผู้ที่ขับขี่และผู้ที่โดยสารที่ร่วมเดินทางไปด้วย จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
- จะได้รับค่ารักษาพยาบาล ทั้งของผู้ที่ขับขี่และผู้ที่โดยสารที่ร่วมเดินทางไปด้วย จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
- ในกรณีที่จะต้องมีการประกันตัวคุณนั้น ก็จะได้รับเงินในการประกันตัวสำหรับผู้ขับขี่ จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 200,000 บาทต่อครั้ง
- ความคุ้มครองเพิ่มเติม
- หากรถยนต์ของคุณจะต้องส่งเข้าซ่อมทำให้ไม่สามารถใช้งานรถยนต์ได้นั้น จะได้รับเงินค่าชดเชยค่าเดินทางระหว่างที่รถยนต์กำลังซ่อม จะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อครั้ง แต่จะต้องไม่เกิน 3 ครั้งต่อปีค่ะ ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูกก็ตามค่ะ ก็จะได้รับเงินชดเชย
- ในกรณีที่รถยนต์ของคุณได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมนั้น จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อครั้ง
- กรณีรถยนต์สูญหาย หรือรถยนต์ได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 200,000 บาทต่อครั้ง
รถยนต์ที่สามารถทำประกันภัยรถยนต์เมืองไทย ขับดียกกำลัง 8
- รถยนต์ที่เป็นกลุ่มเอเชีย เช่น Toyota Honda Nissan Chevrolet Zafira, Ford Mazda Mitsubishi ซึ่งจะต้องมีอายุการใช้งานไม่เกิน 20 ปี และมีราคาตามท้องตลาดไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทค่ะ
รถยนต์ที่ไม่สามารถทำประกันภัยรถยนต์เมืองไทย ขับดียกกำลัง 8
- รถยนต์ที่มีไว้สำหรับรับจ้าง ไว้สำหรับเช่า หรือรถยนต์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ รถสปอร์ต รถดัดแปลง รถแต่ง
Credit : https://pixabay.com
ไทยประกันภัยรถยนต์ เมืองไทย 2+ พลัส
เมืองไทย 2+ พลัส ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 ที่มาพร้อมกับเบี้ยประกันไม่สูงมาก จ่ายน้อยแต่ได้รับความคุ้มครองไม่ว่ารถยนต์จะชนกับรถยนต์ หรือรถยนต์ของคุณหาย แม้กระทั่งรถยนต์ไฟไหม้ ก็ยังจะได้รับความคุ้มครองค่ะ และสำหรับคนที่สมัครทำประกันนั้นก็ยังได้รับบัตรเงินสดเติมน้ำมันที่ ปตท. สูงสุดถึง 1,000 บาทเลยค่ะ แถมยังสามารถผ่อนเบี้ยประกันภัยได้ 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือนอีกด้วยค่ะ
จุดเด่น
- จ่ายเบี้ยประกันภัยเริ่มต้น7,900 บาท
- ให้ความคุ้มครองแบบครอบคลุม ทั้งรถชน รถหาย รถไฟไหม้
- สามารถผ่อนเบี้ยประกันภัยด้วยดอกเบี้ยเพียง 0% นานสูงสุด 10 เดือน
- รถยนต์อายุการใช้งาน 20 ปี
- ให้คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
สิทธิประโยชน์ความคุ้มครองที่จะได้รับ
- สำหรับบุคคลภายนอกรถยนต์
- หากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ต้องมีคนเสียชีวิต จะได้รับความคุ้มครอง 1,000,000 บาทต่อคน
- หากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ต้องมีคนเสียชีวิต จะได้รับความคุ้มครอง 10,000,000 บาทต่อครั้ง
- หากทรัพย์สินของคนอื่นได้รับความเสียหายนั้น จะได้รับความคุ้มครอง 1,000,000 บาท
- ความคุ้มครองหากเกิดความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณ
- กรณีเกิดอุบัติเหตุนั้นทำให้รถยนต์ของคุณได้รับความเสียหาย จะได้รับความคุ้มครองตามทุนประกันภัยที่เลือกไว้ค่ะ เช่น เลือกทุนประกันขั้นต่ำ 100,000 บาท หรือสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
- กรณีที่รถชนกับยานพาหนะทางบก จะได้รับความคุ้มครองตามทุนประกันภัยที่เลือกไว้ค่ะ เช่น เลือกทุนประกันขั้นต่ำ 100,000 บาท หรือสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
- ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย
- กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ส่วนบุคคล ของผู้ที่ขับขี่และผู้ที่โดยสารที่ร่วมเดินทางไปด้วย จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
- จะได้รับค่ารักษาพยาบาล ทั้งของผู้ที่ขับขี่และผู้ที่โดยสารที่ร่วมเดินทางไปด้วย จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
- ในกรณีที่จะต้องมีการประกันตัวคุณนั้น ก็จะได้รับเงินในการประกันตัวสำหรับผู้ขับขี่ จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 200,000 บาทต่อครั้ง
ทุนประกันภัยในการเลือกทำประกันเมืองไทย 2+ พลัส
- คุณสามารถเลือกทำทุนประกันภัยจะมีให้เลือก 9 แบบ โดยเริ่มที่ขั้นต่ำอยู่ที่ 100,000 บาท และค่อยๆเพิ่มไปแบบละ 50,000 บาท จนไปสูงสุดอยู่ที่ 500,000 บาทค่ะ
อัตราเบี้ยประกันภัยนั้นจะแบ่งไปตามประเภทของรถยนต์และทุนประกันภัยที่คุณได้เลือกค่ะ เราได้รวบรวมมาไว้คุณได้ดูกันค่ะ จะมีรายละเอียดอะไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลยค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 100,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง-เอเชีย จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 7,900 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถเก๋ง-ยุโรป จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 9,400 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 8,900 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 150,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง-เอเชีย จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 8,100 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถเก๋ง-ยุโรป จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 9,600 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 9,100 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 200,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง-เอเชีย จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 8,300 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถเก๋ง-ยุโรป จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 9,800 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 9,300 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 250,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง-เอเชีย จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 8,500 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถเก๋ง-ยุโรป จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 10,000 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 9,500 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 300,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง-เอเชีย จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 8,700 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถเก๋ง-ยุโรป จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 10,200 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 9,700 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 350,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง-เอเชีย จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 8,900 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถเก๋ง-ยุโรป จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 10,400 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 9,900 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 400,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง-เอเชีย จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 9,100 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถเก๋ง-ยุโรป จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 10,600 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 10,100 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 450,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง-เอเชีย จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 9,300 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถเก๋ง-ยุโรป จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 10,800 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 10,600 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 500,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง-เอเชีย จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 9,500 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถเก๋ง-ยุโรป จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 11,000 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 11,100 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
รถยนต์ที่สามารถทำประกันภัยรถยนต์เมืองไทย 2+ พลัส
- รถยนต์ที่เป็นกลุ่มเอเชีย หรือรถเก๋งที่เป็นกลุ่มยุโรป และรถกระบะ ซึ่งจะต้องมีอายุการใช้งานไม่เกิน 20 ปี
รถยนต์ที่ไม่สามารถทำประกันภัยรถยนต์เมืองไทย 2+ พลัส
- รถยนต์ที่มีไว้สำหรับรับจ้าง ไว้สำหรับเช่า หรือรถยนต์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ รถแต่งโหลดซิ่ง รถแข่ง รถดัดแปลง หรือรถที่ไม่มีการผลิต หรือไม่สามารถหาอะไหล่ทดแทนได้แล้ว และมีราคาต่ำกว่า 100,000 บาทค่ะ
เมืองไทยประกันภัยรถยนต์ เมืองไทย 2+ เซฟ
เมืองไทย 2+ เซฟ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 ที่มาพร้อมกับเบี้ยประกันไม่สูงมาก ที่ให้ความคุ้มครองนอกจากจะรถชนแล้ว ยังให้ความคุ้มครองหากรถยนต์ของคุณถูกขโมย หรือได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ โดยคุณสามารถเลือกความคุ้มครองได้สูงสุดถึง 500,000 เลยค่ะ และไม่เพียงเท่านั้นนะคะ ยังจะให้ความคุ้มครองชีวิตของคุณและบุคคลอื่นอีกด้วยค่ะ และเช่นเดียวกันค่ะ เมื่อคุณสมัครประกันภัยรถยนต์เมืองไทย 2+ เซฟ จะได้รับบัตรเงินสดเติมน้ำมันที่ ปตท. สูงสุดถึง 1,000 บาทเลยค่ะ แถมยังสามารถผ่อนเบี้ยประกันภัยได้ 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือนอีกด้วยค่ะ
จุดเด่น
- จ่ายเบี้ยประกันภัยเริ่มต้น7,400 บาท
- ให้ความคุ้มครองแบบครอบคลุม ทั้งรถชน รถโดนขโมย รถไฟไหม้
- สามารถผ่อนเบี้ยประกันภัยด้วยดอกเบี้ยเพียง 0% นานสูงสุด 10 เดือน
- รถยนต์อายุการใช้งาน 20 ปี
- ให้คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
สิทธิประโยชน์ความคุ้มครองที่จะได้รับ
- สำหรับบุคคลภายนอกรถยนต์
- หากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ต้องมีคนเสียชีวิต จะได้รับความคุ้มครอง 500,000 บาทต่อคน
- หากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ต้องมีคนเสียชีวิต จะได้รับความคุ้มครอง 10,000,000 บาทต่อครั้ง
- หากทรัพย์สินของคนอื่นได้รับความเสียหายนั้น จะได้รับความคุ้มครอง 1,000,000 บาท
- ความคุ้มครองหากเกิดความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณ
- กรณีเกิดอุบัติเหตุนั้นทำให้รถยนต์ของคุณได้รับความเสียหาย จะได้รับความคุ้มครองตามทุนประกันภัยที่เลือกไว้ค่ะ เช่น เลือกทุนประกันขั้นต่ำ 100,000 บาท หรือสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
- กรณีที่รถชนกับยานพาหนะทางบก จะได้รับความคุ้มครองตามทุนประกันภัยที่เลือกไว้ค่ะ เช่น เลือกทุนประกันขั้นต่ำ 100,000 บาท หรือสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
- ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย
- กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ส่วนบุคคล ของผู้ที่ขับขี่และผู้ที่โดยสารที่ร่วมเดินทางไปด้วย จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
- จะได้รับค่ารักษาพยาบาล ทั้งของผู้ที่ขับขี่และผู้ที่โดยสารที่ร่วมเดินทางไปด้วย จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
- ในกรณีที่จะต้องมีการประกันตัวคุณนั้น ก็จะได้รับเงินในการประกันตัวสำหรับผู้ขับขี่ จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 200,000 บาทต่อครั้ง
ทุนประกันภัยในการเลือกทำประกันภัยรถยนต์เมืองไทย 2+ เซฟ
- คุณสามารถเลือกทำทุนประกันภัยจะมีให้เลือก 9 แบบ โดยเริ่มที่ขั้นต่ำอยู่ที่ 100,000 บาท และค่อยๆเพิ่มไปแบบละ 50,000 บาท จนไปสูงสุดอยู่ที่ 500,000 บาทค่ะ
อัตราเบี้ยประกันภัยนั้นจะแบ่งไปตามประเภทของรถยนต์และทุนประกันภัยที่คุณได้เลือกค่ะ เราได้รวบรวมมาไว้คุณได้ดูกันค่ะ จะมีรายละเอียดอะไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลยค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 100,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง หรือรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 7,400 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถตู้ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 7,800 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 150,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง หรือรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 7,600 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถตู้ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 8,000 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 200,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง หรือรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 8,000 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถตู้ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 8,400 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 250,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง หรือรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 8,400 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถตู้ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 8,800 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 300,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง หรือรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 9,000 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถตู้ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 9,400 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 350,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง หรือรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 9,500 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถตู้ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 9,900 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 400,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง หรือรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 10,000 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถตู้ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 10,400 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 450,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง หรือรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 10,600 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถตู้ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 11,000 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 500,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง หรือรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 11,100 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถตู้ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 11,500 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
รถยนต์ที่สามารถทำประกันภัยรถยนต์เมืองไทย 2+ เซฟ
- รถเก๋ง รถตู้โดยสารส่วนบุคคล หรือรถกระบะที่ใช้ส่วนบุคคลเท่านั้นนะคะ โดยที่รถยนต์นั้นจะต้องไม่มีการติดตั้งหลังคา คอกสูงเกินหัวเก๋ง หรือติดตั้งตู้ทึบ ตู้แห้ง หรือตู้เย็น ซึ่งจะต้องมีอายุการใช้งานไม่เกิน 20 ปี
รถยนต์ที่ไม่สามารถทำประกันภัยรถยนต์เมืองไทย 2+ เซฟ
- รถยนต์ที่มีไว้สำหรับรับจ้าง ไว้สำหรับเช่า หรือรถยนต์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ รถแต่งโหลดซิ่ง รถแข่ง รถดัดแปลง หรือรถที่ไม่มีการผลิต หรือไม่สามารถหาอะไหล่ทดแทนได้แล้ว และมีราคาต่ำกว่า 100,000 บาทค่ะ
Credit : https://pixabay.com
เมืองไทยประกันรถยนต์ชั้น 3
ประกันรถยนต์เมืองไทยประกันภัย เมืองไทย 3+ คุ้มเว่อร์
เมืองไทย 3+ คุ้มเว่อร์ สำหรับคนที่ต้องการประหยัดเงินไม่อยากจะเสียเงินแพง เป็นประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 ที่ให้ความคุ้มครองเมื่อคุณเกิดอุบัติเหตุก็ยังซ่อมทั้งรถยนต์ของคุณและคู่กรณีอีกด้วยค่ะ ในขณะเดียวกันเมื่อรถคุณต้องเข้าอู่ซ่อม คุณก็ยังได้รับเงินชดเชยเป็นค่าเดินทาง พร้อมกับคุ้มครองหากรถยนต์ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมอีกด้วยค่ะ แต่ขอบอกก่อนนะคะว่าประกันภัยชั้น 3 นี้จะไม่คุ้มครองในกรณีที่รถหายหรือได้รับความเสียหายจากไฟไหม้นะคะ
จุดเด่น
- จ่ายเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 7,100 บาท
- ให้ความคุ้มครองแบบครอบคลุม ทั้งรถชน น้ำท่วม หรือเสียหายทั้งคัน
- รถยนต์อายุการใช้งาน 20 ปี
- ได้รับเงินชดเชยค่าเดินทางในกรณีที่รถยนต์เข้าซ่อม
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง
สิทธิประโยชน์ความคุ้มครองที่จะได้รับ
- สำหรับบุคคลภายนอกรถยนต์
- หากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ต้องมีคนเสียชีวิต จะได้รับความคุ้มครอง 500,000 บาทต่อคน
- หากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ต้องมีคนเสียชีวิต จะได้รับความคุ้มครอง 10,000,000 บาทต่อครั้ง
- หากทรัพย์สินของคนอื่นได้รับความเสียหายนั้น จะได้รับความคุ้มครอง 1,000,000 บาท
- ความคุ้มครองหากเกิดความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณ
- กรณีที่รถชนกับยานพาหนะทางบก จะได้รับความคุ้มครองตามทุนประกันภัยที่เลือกไว้ค่ะ เช่น เลือกทุนประกัน 100,000 บาท หรือ 200,000 บาท หรือ 300,000 บาท
- ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย
- กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ส่วนบุคคล ของผู้ที่ขับขี่และผู้ที่โดยสารที่ร่วมเดินทางไปด้วย จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
- จะได้รับค่ารักษาพยาบาล ทั้งของผู้ที่ขับขี่และผู้ที่โดยสารที่ร่วมเดินทางไปด้วย จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
- ในกรณีที่จะต้องมีการประกันตัวคุณนั้น ก็จะได้รับเงินในการประกันตัวสำหรับผู้ขับขี่ จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 200,000 บาทต่อครั้ง
- ความคุ้มครองเพิ่มเติม
- หากรถยนต์ของคุณจะต้องส่งเข้าซ่อมทำให้ไม่สามารถใช้งานรถยนต์ได้นั้น จะได้รับเงินค่าชดเชยค่าเดินทางระหว่างที่รถยนต์กำลังซ่อม จะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อครั้ง แต่จะต้องไม่เกิน 3 ครั้งต่อปีค่ะ ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูกก็ตามค่ะ ก็จะได้รับเงินชดเชย
- ในกรณีที่รถยนต์ของคุณได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมนั้น จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อครั้ง
- ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้วทำให้รถยนต์เสียหายทั้งคันนั้น จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อครั้ง
ทุนประกันภัยในการเลือกทำประกันเมืองไทย 3+ คุ้มเว่อร์
- คุณสามารถเลือกทำทุนประกันภัยได้ขั้นต่ำ 100,000 บาท หรือ 200,000 บาท หรือ 300,000 บาท ได้เลยค่ะ เนื่องจากประกันเมืองไทย 3+ คุ้มเว่อร์ มีให้คุณได้เลือกกัน 3 แผนค่ะ
อัตราเบี้ยประกันภัยนั้นจะแบ่งตามทุนประกันภัยที่คุณได้เลือกค่ะ ซึ่งมีให้คุณได้เลือกกัน 3 แบบ ค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 100,000 บาท คุณจะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ 7,100 บาทค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 200,000 บาท คุณจะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ 7,600 บาทค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 300,000 บาท คุณจะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ 8,100 บาทค่ะ
ทั้งนี้รถยนต์ประเภทไหนบ้างที่สามารถทำประกันเมืองไทย 3+ คุ้มเว่อร์ นี้ได้บ้างค่ะ ก็จะได้แก่ รถนั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง หรือรถเก๋ง รถปิกอัพ หรือรถกระบะบรรทุก ที่เป็นรถส่วนบุคคล และจะต้องไม่ติดคอก หรือตู้นะคะ และรถประเภทไหนกันบ้างที่ไม่สามารถสมัครทำประกันเมืองไทย 3+ คุ้มเว่อร์ นี้ได้ก็คือ กลุ่มรถที่ใช้รับจ้าง หรือรถเช่าค่ะ นอกจากนี้แล้วยังรวมไปถึงรถที่นำเข้าจากต่างประเทศ รถ Super Car รถแต่งโหลดซิ่ง รถแข่ง รถดัดแปลง รถที่ไม่มีการผลิต หรือไม่สามารถหาอะไหล่ทดแทนได้แล้ว รถที่มีราคาต่ำกว่า 100,000 บาท รวมทั้งรถที่มีราคาตลาดปัจจุบันน้อยกว่าวงเงินที่เอาประกันภัยค่ะ
ประกันเมืองไทยรถยนต์ เมืองไทย 3+ เซฟ
เมืองไทย 3+ เซฟ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 ซึ่งจะคล้ายๆกับประกันภัยรถยนต์ เมืองไทย 2+ เซฟ เลยค่ะ ซึ่งข้อแตกต่างก็จะเป็นในเรื่องของการคุ้มครองในกรณีที่รถหาย หรือหากรถเกิดไฟไหม้ค่ะ และจะไม่คุ้มครองในกรณีที่รถยนต์ของคุณกรณีอุบัติเหตุจากการพลิกคว่ำ ชนรั้วบ้าน ภัยธรรมชาติ และภัยอื่นๆค่ะ จะคุ้มครองต่อเมื่อรถชนกับรถเท่านั้นค่ะ โดยจะให้ความคุ้มครองชีวิตของคุณและทรัพย์สินของคู่กรณี ยังรวมไปถึงการซ่อมรถยนต์ให้กับคุณอีกด้วยค่ะ ประกันภัยชั้น 3 นี้จึงเหมาะกับคนที่ขับรถอย่างระมัดระวังและอาจจะไม่ค่อยขับรถบ่อยค่ะ และที่สำคัญคือสมัครแล้ว จะได้รับบัตรเงินสดเติมน้ำมันที่ ปตท. สูงสุดถึง 1,000 บาทเลยค่ะ แถมยังสามารถผ่อนเบี้ยประกันภัยได้ 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือนเหมือนกันเลยค่ะ
จุดเด่น
- จ่ายเบี้ยประกันภัยเริ่มต้น 6,700 บาท
- ให้คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- สามารถผ่อนเบี้ยประกันภัยด้วยดอกเบี้ยเพียง 0% นานสูงสุด 10 เดือน
- รถยนต์อายุการใช้งาน 20 ปี
สิทธิประโยชน์ความคุ้มครองที่จะได้รับ
- สำหรับบุคคลภายนอกรถยนต์
- หากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ต้องมีคนเสียชีวิต จะได้รับความคุ้มครอง 500,000 บาทต่อคน
- หากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ต้องมีคนเสียชีวิต จะได้รับความคุ้มครอง 10,000,000 บาทต่อครั้ง
- หากทรัพย์สินของคนอื่นได้รับความเสียหายนั้น จะได้รับความคุ้มครอง 1,000,000 บาท
- ความคุ้มครองหากเกิดความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณ
- กรณีที่รถชนกับยานพาหนะทางบก จะได้รับความคุ้มครองตามทุนประกันภัยที่เลือกไว้ค่ะ เช่น เลือกทุนประกันขั้นต่ำ 100,000 บาท หรือสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท แต่จะได้รับเงินก็เมื่อรถยนต์ของคุณชนกับรถยนต์ของบุคคลอื่นเท่านั้นนะคะ
- ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย
- กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ส่วนบุคคล ของผู้ที่ขับขี่และผู้ที่โดยสารที่ร่วมเดินทางไปด้วย จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
- จะได้รับค่ารักษาพยาบาล ทั้งของผู้ที่ขับขี่และผู้ที่โดยสารที่ร่วมเดินทางไปด้วย จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
- ในกรณีที่จะต้องมีการประกันตัวคุณนั้น ก็จะได้รับเงินในการประกันตัวสำหรับผู้ขับขี่ จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 200,000 บาทต่อครั้ง
ทุนประกันภัยในการเลือกทำประกันภัยรถยนต์เมืองไทย 3+ เซฟ
- คุณสามารถเลือกทำทุนประกันภัยจะมีให้เลือก 9 แบบ โดยเริ่มที่ขั้นต่ำอยู่ที่ 100,000 บาท และค่อยๆเพิ่มไปแบบละ 50,000 บาท จนไปสูงสุดอยู่ที่ 500,000 บาทค่ะ
อัตราเบี้ยประกันภัยนั้นจะแบ่งไปตามประเภทของรถยนต์และทุนประกันภัยที่คุณได้เลือกค่ะ เราได้รวบรวมมาไว้คุณได้ดูกันค่ะ จะมีรายละเอียดอะไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลยค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 100,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง หรือรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 6,700 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถตู้ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 7,000 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 150,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง หรือรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 6,900 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถตู้ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 7,200 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 200,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง หรือรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 7,100 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถตู้ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 7,600 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 250,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง หรือรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 7,300 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถตู้ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 8,000 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 300,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง หรือรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 7,500 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถตู้ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 8,600 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 350,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง หรือรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 7,700 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถตู้ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 9,100 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 400,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง หรือรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 7,900 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถตู้ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 9,600 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 450,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง หรือรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 8,200 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถตู้ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 10,200 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- หากคุณเลือกทำทุนประกันภัย 500,000 บาท
- สำหรับรถเก๋ง หรือรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 8,600 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
- สำหรับรถตู้ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียง 10,700 บาทต่อปีเท่านั้นค่ะ
รถยนต์ที่สามารถทำประกันภัยรถยนต์เมืองไทย 3+ เซฟ
- รถเก๋ง รถตู้โดยสารส่วนบุคคล หรือรถกระบะที่ใช้ส่วนบุคคลเท่านั้นนะคะ โดยที่รถยนต์นั้นจะต้องไม่มีการติดตั้งหลังคา คอกสูงเกินหัวเก๋ง หรือติดตั้งตู้ทึบ ตู้แห้ง หรือตู้เย็น ซึ่งจะต้องมีอายุการใช้งานไม่เกิน 20 ปี
รถยนต์ที่ไม่สามารถทำประกันภัยรถยนต์เมืองไทย 3+ เซฟ
- รถยนต์ที่มีไว้สำหรับรับจ้าง ไว้สำหรับเช่า หรือรถยนต์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ รถแต่งโหลดซิ่ง รถแข่ง รถดัดแปลง หรือรถที่ไม่มีการผลิต หรือไม่สามารถหาอะไหล่ทดแทนได้แล้ว และมีราคาต่ำกว่า 100,000 บาทค่ะ
ไทยประกันภัยรถยนต์ เมืองไทย 3 เซฟ
เมืองไทย 3 เซฟ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 ที่มีเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียงแค่ 1,900 บาทเท่านั้นเองค่ะ แถมไม่จำกัดยี่ห้อรถยนต์ ไม่จำกัดรุ่นรถยนต์ และอายุการใช้งานของรถยนต์อีกด้วยค่ะ ซึ่งอาจจะเหมาะสำหรับรถยนต์ที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือรถยนต์ที่อาจจะมีอายุการใช้งานมานานแล้วค่ะ และกับคนที่เลือกซื้อควบ พ.ร.บ.เมืองไทยแม้ว่าจ่ายเบี้ยประกันภัยที่ถูกก็ใช่ว่าจะไม่มีความคุ้มครองนะคะ เพราะประกันภัยรถยนต์เมืองไทย 3 เซฟ นี้ยังให้ความคุ้มครองชีวิต รวมไปถึงทรัพย์ของบุคคลอื่นอีกด้วยค่ะ และที่สำคัญเบี้ยประกันภัยก็แสนจะถูก แต่เมืองไทยก็ยังไม่คุณสามารถผ่อนเบี้ยประกันภัยได้ 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือนค่ะ และแถมด้วยบัตรเงินสดเติมน้ำมันที่ ปตท. สูงสุดถึง 1,000 บาทเลยค่ะ
จุดเด่น
- จ่ายเบี้ยประกันภัยเริ่มต้น 1,900 บาท
- ให้คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- ไม่จำกัดยี่ห้อ ไม่จำกัดรุ่นรถยนต์ และไม่จำกัดอายุการใช้งานของรถยนต์
- สามารถผ่อนเบี้ยประกันภัยด้วยดอกเบี้ยเพียง 0% นานสูงสุด 10 เดือน
สิทธิประโยชน์ความคุ้มครองที่จะได้รับ
- สำหรับบุคคลภายนอกรถยนต์
- หากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ต้องมีคนเสียชีวิต จะได้รับความคุ้มครอง 500,000 บาทต่อคน
- หากอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ต้องมีคนเสียชีวิต จะได้รับความคุ้มครอง 10,000,000 บาทต่อครั้ง
- หากทรัพย์สินของคนอื่นได้รับความเสียหายนั้น จะได้รับความคุ้มครอง 800,000 บาท
- ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย
- กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ส่วนบุคคล ของผู้ที่ขับขี่และผู้ที่โดยสารที่ร่วมเดินทางไปด้วย จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 50,000 บาทต่อคน
- จะได้รับค่ารักษาพยาบาล ทั้งของผู้ที่ขับขี่และผู้ที่โดยสารที่ร่วมเดินทางไปด้วย จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 50,000 บาทต่อคน
- ในกรณีที่จะต้องมีการประกันตัวคุณนั้น ก็จะได้รับเงินในการประกันตัวสำหรับผู้ขับขี่ จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อครั้ง
อัตราเบี้ยประกันภัย
- สำหรับรถเก๋ง จะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ 1,900 บาทต่อปีค่ะ
- สำหรับรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ 2,700 บาทต่อปีค่ะ
- สำหรับรถตู้ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ 2,700 บาทต่อปีค่ะ
ในกรณีที่คุณเลือกทำประกันภัยรถยนต์ เมืองไทย 3 เซฟ นี้พร้อมกับประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) นั้นก็จะมีเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มได้อีกนิดนึงค่ะ เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าต้องเสียเท่าไร
- สำหรับรถเก๋ง จะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ 2,546 บาทต่อปีค่ะ
- สำหรับรถกระบะ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ 3,668 บาทต่อปีค่ะ
- สำหรับรถตู้ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ 3,883 บาทต่อปีค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างค่ะสำหรับข้อมูลที่เกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ที่เราได้นำมาฝากกันได้วันนี้ หวังว่าเพื่อนๆทุกคนจะได้รับประโยชน์ไม่มากก็ไม่น้อยนะคะ สำหรับใครที่ยังไม่จุใจ อยากรู้เรื่องที่เกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ของบริษัทอื่นๆ ก็เข้ามาอ่านบทความได้ที่เว็บไซต์ imoney.in.th ได้เลยค่ะ นอกเหนือจากนั้นเรายังมีบทความที่มีสาระประโยชน์อื่นๆอีกมากมายที่เกี่ยวกับการเงิน รับรองได้เลยค่ะว่าเพื่อนๆสามารถหาคำตอบเรื่องการเงินได้ที่เว็บไซต์นี้ที่นี่จบทุกเรื่องการเงินเลยค่ะ ฝากเพื่อนๆทุกคนติดตามและเป็นกำลังใจให้กับพวกเราทุกคนด้วยนะคะ และในครั้งหน้าเราจะมีเรื่องราวดีๆอะไรมาบอกเล่านั้น ติดตามอ่านได้เลยค่ะ
ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลเมืองไทยประกันภัยรถยนต์ www.muangthaiinsurance.com