รวมรายละเอียดข้อมูลสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านกรุงศรี 2563 ขอลดดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารกรุงศรีทำยังไง ดอกเบี้ยเท่าไหร่ อนุมัติกี่วัน ไปดูกันที่ iMoney
รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารกรุงศรีอยุธยา – รีไฟแนนซ์บ้านดีอย่างไร? วันนี้เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันนะคะ คนส่วนมากที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้านก็เพราะว่า ในช่วง 1 ถึง 3 ปีแรก ธนาคารส่วนใหญ่มักจะคิดดอกเบี้ยที่ถูก เพื่อจะดูดดึงใจของคุณให้ไปสมัคร แต่พอหลังจาก 3 ปี ไปแล้วดอกเบี้ยมักจะลอยตัว ที่เรามักจะเคยได้ยินเสมอว่าดอกเบี้ยขึ้นกับ MLR ย่อมาจาก Minimum Loan Rate เป็น “อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว” ที่ธนาคารจะเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ซึ่งจะใช้กับคนที่กู้เงินในระยะยาว เพราะการซื้อบ้านนั้นจะต้องผ่อนกันแบบยาวๆ อย่างน้อยๆก็ไม่ต่ำกว่า 10 ปีขึ้นไป ธนาคารก็จะใช้เป็นดอกเบี้ยแบบลอยตัว จึงทำให้ดอกเบี้ยมักจะสูงขึ้นหลังจาก 3 ปีแรกนั่นเอง สำหรับใครที่ต้องการจะรีไฟแนนซ์บ้านนั้นก็จะต้องมองอย่างรอบด้าน เปรียบเทียบให้ครบทุกมุม อย่างดูเพียงแค่ผิวเผินคิดดอกเบี้ยธนาคารให้จะถูกแล้วตัดสินใจทันที ซึ่งในบางครั้งดอกเบี้ยถูกจริงแต่ถูกกว่าของเดิมไม่กี่บาท และในการรีไฟแนนซ์บ้านก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก เช่น ค่าประเมินหลักทรัพย์ ค่าธรรมเนียม ค่าจดจำนอง สิ่งเหล่านี้ก็หมายถึงเงินที่จะต้องเสีย ฉะนั้นก่อนจะตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้าน ควรจะต้องเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย โปรโมชั่น ของแต่ละธนาคารเสียก่อน โดยการนำข้อมูลประมาณสัก 3 – 4 ธนาคารมาดู เพราะบางธนาคารฟรีค่าจดจำนอง ค่าธรรมเนียม และยังก็อย่าลืมดูเงื่อนไขของธนาคารเดิมกันด้วยว่าต้องผ่อนกี่ปีขึ้นไปจึงสามารถรีไฟแนนซ์ได้ นอกจากนี้แล้วคุณยังสามารถขอรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารเดิมได้อีกด้วย ยังไงก็อย่าลืมไปลองสอบถามกับธนาคารเดิมดูนะคะว่ามีส่วนลดของดอกเบี้ยหรือไม่ และวันนี้ iMoney จะมาแนะนำสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ที่มีทั้งโปรโมชั่นส่วนลดของดอกเบี้ย ฟรีค่าจดจำนอง มาฝากกันด้วย จะน่าสนใจและรายละเอียดเป็นยังมาติดตามอ่านกันเลยค่ะ
สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านกรุงศรี อัพเดท 2563
ชื่อสินเชื่อ |
จุดเด่น | เงื่อนไขการกู้ | ประเภทของสินเชื่อ |
ดอกเบี้ย |
สินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์ |
ให้วงเงินสูงสุด 95% ฟรีค่าจดทะเบียนจำนอง และค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ | อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป มีอายุการทำงานอย่างน้อย 2 ปี หรือทำธุรกิจส่วนตัวมาแล้วอย่างน้อย 2 ปี | บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ และคอนโดมิเนียม |
ดอกเบี้ยเริ่มต้นร้อยละ 0.50 ต่อปี หรือสูงสุดร้อยละ MRR – 2.45 ต่อปี (ขึ้นกับทางเลือกของคุณ) |
Credit : https://pixabay.com
สินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์
สินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์ จัดโปรโมชั่นพิเศษ ลดดอกเบี้ยในปีแรกของสัญญา ดอกเบี้ยเหลือเพียงร้อยละ 0.5 ต่อปีเท่านั้นนะคะ ให้วงเงินต่ำสุด 1,000,000 บาทสำหรับคนที่มีบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม หรือสูงสุดร้อยละ 95 จากราคาประเมิน และสำหรับคนที่มีพวกอาคารพาณิชย์ ก็จะได้วงเงินสูงสุดอยู่ที่ร้อยละ 90 จากราคาประเมิน และยังผ่อนได้นานสูงถึง 30 ปีเลยค่ะ เรียกได้ว่าคุ้มสุดๆไปเลยค่ะ คุณจะกู้คนเดียวหรือจะกู้ร่วมกันพี่น้องสามีภรรยาก็ยังสามารถทำได้อีกด้วยนะคะ นอกจากนี้แล้วหากคุณสนใจสมัครได้เลยค่ะ จะจ่ายดอกเบี้ยแพงกันไปทำไมค่ะ เรามารีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารกรุงศรีกันดีกว่าค่ะ ลองมาดูเงื่อนไขต่างๆกันค่ะ
เงื่อนไขการขอกู้สินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์
- จะต้องมีสัญชาติไทย
- ผู้สมัครจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปถึงจะสมัครสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านได้ แต่เมื่อรวมอายุกับระยะเวลาการผ่อนค่างวดบ้านนั้นจะต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี
- พนักงานบริษัท ข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ และมีอายุการทำงานอย่างน้อย 2 ปี
- ธรุกิจส่วนตัว ต้องทำธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
วงเงินอนุมัติในการรีไฟแนนซ์บ้านกรุงศรี
การให้วงเงินธนาคารจะแบ่งวงเงินตามลักษณะของหลักทรัพย์ ดังนี้
- ประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม จะได้วงเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท ขึ้นไป หรือสูงสุดร้อยละ 95 จากราคาประเมิน
- ประเภทอาคารพาณิชย์ จะได้วงเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท ขึ้นไป หรือสูงสุดร้อยละ 90 จากราคาประเมิน
ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านกรุงศรี
การคิดดอกเบี้ยนั้นธนาคารจะแบ่งประเภทของหลักทรัพย์ เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มประเภทบ้าน และกลุ่มประเภทอาคารพาณิชย์ ซึ่งแต่ละกลุ่มก็มีอัตราดอกเบี้ยให้เลือกกันหลากหลายทางเลือก และอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารคิดนั้นจะอ้างอิงจากอัตราดอกเบี้ย “ดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) MINIMUM RETAIL RATE ซึ่งปัจจุบันดอกเบี้ย MRR จะอยู่ที่ 7.20 ต่อปี มีรายละเอียดต่างๆดังนี้
สำหรับคนที่รีไฟแนนซ์บ้านประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม วงเงินตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไป มีให้คุณเลือกดอกเบี้ยกันถึง 6 ทางเลือกเลยค่ะ เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าทางเลือกไหนคุ้มกว่ากัน
- ทางเลือกที่ 1
- ธนาคารคิดดอกเบี้ยในอัตราเดียวตลอดทั้งสัญญาไม่ว่าจะกู้กี่ปี ซึ่งจะอยู่ร้อยละ MRR – 2.95 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 4.25 ต่อปี
- สำหรับทางเลือกที่ 1 นั้น ดอกเบี้ยเฉลี่ยในช่วง 3 ปีแรกนั้นจะเท่ากับร้อยละ 25 ต่อปี หรือถ้าคิดดอกเบี้ยที่แท้จริงก็จะอยู่ที่ร้อยละ 4.25 ต่อปี
- ทางเลือกที่ 2
- สำหรับ 2 ปีแรก ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยแบบลอยตัวร้อยละ MRR – 4.95 ต่อปี
- สำหรับปีที่ 3 เป็นต้น ดอกเบี้ยเงินกู้ก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.90 ต่อปี
- สำหรับทางเลือกที่ 2 นั้น ดอกเบี้ยเฉลี่ยในช่วง 3 ปีแรกนั้นจะเท่ากับร้อยละ 27 ต่อปี หรือถ้าคิดดอกเบี้ยที่แท้จริงก็จะอยู่ที่ร้อยละ 4.11 ต่อปี
- ทางเลือกที่ 3
- ปีที่ 1 ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 5.85 ต่อปี
- ปีที่ 2 ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 3.15 ต่อปี
- ปีที่ 2 ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.90 ต่อปี
- ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไปจนครบสัญญาเงินกู้ ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.90 ต่อปี
- สำหรับทางเลือกที่ 3 นั้น ดอกเบี้ยเฉลี่ยในช่วง 3 ปีแรกนั้นจะเท่ากับร้อยละ 3.23 ต่อปี หรือถ้าคิดดอกเบี้ยที่แท้จริงก็จะอยู่ที่ร้อยละ 4.09 ต่อปี
- ทางเลือกที่ 4
- ปีที่ 1 – 3 ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 4.05 ต่อปี
- สำหรับทางเลือกที่ 4 นั้น ดอกเบี้ยเฉลี่ยในช่วง 3 ปีแรกนั้นจะเท่ากับร้อยละ 3.15 ต่อปี หรือถ้าคิดดอกเบี้ยที่แท้จริงก็จะอยู่ที่ร้อยละ 4.12 ต่อปี
- ทางเลือกที่ 5
- ปีที่ 1 ดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 0.75 ต่อปี
- ปีที่ 2 – 3 ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.625 ต่อปี
- ปีที่ 4 ขึ้นไป ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.90 ต่อปี
- สำหรับทางเลือกที่ 5 นั้น ดอกเบี้ยเฉลี่ยในช่วง 3 ปีแรกนั้นจะเท่ากับร้อยละ 3.30 ต่อปี หรือถ้าคิดดอกเบี้ยที่แท้จริงก็จะอยู่ที่ร้อยละ 4.11 ต่อปี
- ทางเลือกที่ 6
- ปีที่ 1 ดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 0.50 ต่อปี
- ปีที่ 2 ขึ้นไป ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.90 ต่อปี
- สำหรับทางเลือกที่ 6 นั้น ดอกเบี้ยเฉลี่ยในช่วง 3 ปีแรกนั้นจะเท่ากับร้อยละ 3.70 ต่อปี หรือถ้าคิดดอกเบี้ยที่แท้จริงก็จะอยู่ที่ร้อยละ 4.32 ต่อปี
สำหรับทางเลือกที่ 6 นี้ หากคุณเลือกจะได้รับสิทธิประโยชน์ ฟรีค่าจดจำนอง โดยธนาคารจะเป็นผู้จ่ายค่าจดจำนองในอัตราร้อยละ 1 ของวงเงินที่คุณได้รับอนุมัติ แต่ต้องไม่เกิน 200,000 บาทค่ะ
สำหรับคนที่รีไฟแนนซ์อาคารพาณิชย์ โดยอัตราดอกเบี้ยจะแบ่งออกตามวงเงินที่คุณได้รับอนุมัติค่ะ ซึ่งเราได้นำมาให้คุณพิจารณากันด้วยค่ะ
กรณีที่ได้รับวงเงินอนุมัติ ตั้งแต่ 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท มี 2 เลือก ดังต่อไปนี้
- กรณีทางเลือกที่ 1 ของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้
- ดอกเบี้ยในช่วงปีที่ 1 – 2 ธนาคารจะคิดแบบลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.10 ต่อปี
- ดอกเบี้ยตั้งแต่ปีที่ 3 ขึ้นไป ร้อยละ MRR – 0.85 ต่อปี
- ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก จะอยู่ร้อยละ 5.52 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ที่ร้อยละ 5.89 ต่อปี
- กรณีทางเลือกที่ 2 ของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้
- ดอกเบี้ยในช่วงปีที่ 1 ธนาคารจะคิดแบบคงที่อยู่ที่ร้อยละ 4.75 ต่อปี
- ดอกเบี้ยตั้งแต่ปีที่ 2 ขึ้นไปจนกว่าจะครบตามสัญญาเงินกู้ ร้อยละ MRR – 0.85ต่อปี
- ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก จะอยู่ร้อยละ 5.82 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ที่ร้อยละ 6.05 ต่อปี
กรณีที่ได้รับวงเงินอนุมัติ ตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป มี 2 เลือก ดังต่อไปนี้
- สำหรับทางเลือกที่ 1
- ปีที่ 1 – 3 ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.60 ต่อปี
- หลังจากปีที่ 3 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยสินเชื่อเงินกู้จะปรับตัวสูงขึ้นอยู่ร้อยละ MRR – 0.85 ต่อปี
- ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก จะอยู่ร้อยละ 4.60 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ที่ร้อยละ 5.41 ต่อปี
- สำหรับทางเลือกที่ 2
- ดอกเบี้ยคงที่ตลอดในช่วงปีที่ 1 ของสัญญานั้น ดอกเบี้ยร้อยละ 4.25 ต่อปี
- ดอกเบี้ยลอยตัวตั้งแต่ปีที่ 2 ขึ้นไป จนครบสัญญา ดอกเบี้ยร้อยละ MRR – 0.85 ต่อปี
- ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก จะอยู่ร้อยละ 5.65 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ที่ร้อยละ 5.95 ต่อปี
หากเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยระหว่างการที่เรารีไฟแนนซ์บ้านกับรีไฟแนนซ์อาคารพาณิชย์แล้ว หลักทรัพย์ประเภทบ้านนั้นอัตราดอกเบี้ยจะต่ำกว่า และยังมีโปรโมชั่นฟรีค่าจดจำนองอีกด้วย และสำหรับใครที่มีหลักทรัพย์ประเภทบ้านนั้น เห็นว่ามีทางเลือกดอกเบี้ยมากมายเลือกไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะทางเลือกไหนดี ให้คิดง่ายๆ ดูจากดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก ทางเลือกไหนถูกที่สุด ก็เลือกทางนั้นเป็นที่ 1 ไว้ก่อน หลังจากนั้นก็ลองไปเปรียบเทียบดอกเบี้ยหลังจากปีที่ 4 ไป เพราะทางเลือกดอกเบี้ยในช่วงปีที่ 4 ก็มีอัตราเท่ากันเลย ถ้ามองแล้วว่าทางเลือกไหนคุ้มสุด iMoney ขอแนะนำเป็นทางเลือกที่ 4 เลยค่ะ แม้ว่าจะไม่ฟรีค่าจดจำนองแต่ถ้าลองคำนวณแล้ว ระหว่างเงินที่เสียค่าจดจำนองกับดอกเบี้ยนั้นทางเลือกที่ 4 คุ้มกว่าเลยค่ะ
วันนี้ iMoney จะมายกตัวอย่างกันค่ะ ในกรณีจะสมมุติว่ากู้มา 3,000,000 บาท โดยเลือกทางเลือกที่ 1 ที่มีอัตรา ดอกเบี้ยร้อยละ MRR – 2.95 ต่อปี ตลอดทั้งสัญญา เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ถ้าคุณกู้ระยะเวลา 10ปี,15ปี,20ปี และ 25ปี จะต้องจ่ายเดือนละประมาณเท่าไรกันค่ะ
- หากคุณเลือกที่จะผ่อนชำระโดยมีระยะเวลา 10 ปี คุณจะต้องจ่ายเดือนละ 32,220 บาท
- หากคุณเลือกที่จะผ่อนชำระโดยมีระยะเวลา 15 ปี คุณจะต้องจ่ายเดือนละ 24,200 บาท
- หากคุณเลือกที่จะผ่อนชำระโดยมีระยะเวลา 20 ปี คุณจะต้องจ่ายเดือนละ 20,300 บาท
- หากคุณเลือกที่จะผ่อนชำระโดยมีระยะเวลา 25 ปี คุณจะต้องจ่ายเดือนละ 18,000 บาท
Credit : https://pixabay.com
สิทธิประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการขอรีไฟแนนซ์บ้านกรุงศรี
ธนาคารจะมอบสิทธิประโยชน์ให้กับคุณเมื่อคุณสมัครรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารกรุงศรี โดยสิทธิประโยชน์ดังนี้ค่ะ
- ฟรี ค่าจดทะเบียนจำนอง ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 1 ของวงเงินกู้ของคุณค่ะ หรือสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท แต่ได้เฉพาะคนที่รีไฟแนนซ์บ้านประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม และเลือกทางเลือกที่ 3 และทางเลือกที่ 5 เท่านั้นค่ะ
- ฟรี ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ค่ะ
ระยะเวลาในการผ่อนชำระสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารกรุงศรี
คุณสามารถเลือกผ่อนได้นานสูงสุดถึง 30 ปีค่ะ แต่เมื่อรวมระยะเวลาในการผ่อนบวกกับอายุของคุณแล้วต้องไม่เกิน 65 ปีนะคะ
ค่าธรรมเนียม/ค่าใช้จ่าย
- ค่าธรรมเนียมสำรวจและประเมินหลักประกัน จำนวน 3,000 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- ค่าอากรแสตมป์ คิดเป็นร้อยละ 0.05 ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติในการกู้
- เบี้ยประกันอัคคีภัย เป็นไปตามอัตราของบริษัทประกันภัย
- หากปิดหนี้ก่อนหมดสัญญา ภายใน 3 ปีแรก คุณจะต้องเสียค่าธรรมเนียมร้อยละ 3 จากยอดหนี้ที่เหลือในสัญญาค่ะ
- ในกรณีที่คุณเลือกทางเลือกที่ 3 และ 5 นั้นหากปิดหนี้ก่อนหมดสัญญา ภายใน 5 ปีแรก คุณจะต้องเสียค่าธรรมเนียมร้อยละ 3 จากยอดหนี้ที่เหลือในสัญญาค่ะ
เอกสารหลักประกันในการทำรีไฟแนนซ์บ้าน กรุงศรี
- คุณจะต้องเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน และสัญญาเงินกู้จากธนาคารเดิม ซึ่งจะเอกสารหลักๆที่จะต้องใช้ ได้แก่ สำเนาสัญญาเงินกู้จากธนาคารเดิมที่มีสินเชื่อบ้านค้างอยู่ พร้อมกับใบเสร็จที่จ่ายค่าบ้านไปโดยให้ใช้เป็นใบเสร็จเดือนล่าสุด หรือถ้าเป็นการจำนองที่ดินไว้ก็ให้ใช้เป็นสำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน
เอกสารประกอบการสมัครสินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์
- สำหรับคนที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้านมีอาชีพเป็น พนักงานบริษัท ข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ
- สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาบัตรข้าราชการหรือสำเนาบัตรพนักงานรัฐวิสาหกิจก็ได้ แต่บัตรนั้นจะต้องมีเลขที่บัตรประจำตัวประชาชนทั้ง 13 หลัก และสำเนาเซ็นชื่อสำเนาถูกต้องมาให้เรียบร้อย
- สำเนาทะเบียนบ้านของคนที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- ต้นฉบับสลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือนของคนที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน กรณีที่มีรายได้อื่นๆที่ไม่ได้มาจากเงินเดือนให้แนบสำเนาหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
- ในกรณีที่ผู้ขอรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีคู่สมรสแล้วไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด ให้แนบเอกสาร เช่น สำเนาบัตรประชาชนคู่สมรส สำเนาทะเบียนบ้านคู่สมรส ใบทะเบียนสมรสหรือใบหย่าร้าง หรือใบมรณบัตร หรือใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล (ถ้ามี)
- สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารใช้บัญชีเงินฝากที่เงินเดือนเข้า ให้ย้อนหลัง 6 เดือน
- สำหรับคนที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้านมีอาชีพเป็น ทำธุรกิจส่วนตัว หรือเป็นเจ้าของกิจการ
- สำเนาบัตรประชาชนของกรรมการหรือเจ้าของกิจการที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนและสำเนาใบกรมทะเบียนการค้า
- สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีชื่อของคุณ หากมีการกู้ร่วมก็ต้องใช้สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีชื่อของผู้ที่กู้ร่วมด้วยค่ะ
- สำเนา ภ.พ.30 หากใครมีก็ให้แนบมาด้วยค่ะ ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ
- สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคาร หรือ Statement ที่มีเงินหมุนเวียนในบัญชี ย้อนหลัง 6 เดือน
ช่องทางในการชำระเงินสินเชื่อรีไฟแนนกับกรุงศรี
- สามารถจ่ายได้ทุกช่องทางผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือเลือกจ่ายผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสต่างๆได้เลย แต่จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการจ่ายบิล
สนใจสามารถสมัครสินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์ได้ที่นี่
- สมัครได้ง่ายกับเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสมัครทางออนไลน์ สนใจคลิกเลย www.krungsri.com
iMoney เราได้รวบรวมคำถาม-คำตอบที่คุณควรรู้ก่อนการรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารกรุงศรีมาฝากกันค่ะ
วงเงินในการรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้เท่าไร?
- วงเงินในการอนุมัตินั้นธนาคารจะแบ่งตามประเภทของหลักทรัพย์ค่ะ โดยวงเงินขั้นต่ำนั้นจะอยู่ที่ 1,000,000 บาทขึ้นไปค่ะ
- ในกรณีที่หลักทรัพย์เป็นประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม วงเงินสูงสุดจะอยู่ 95% จากราคาประเมิน
- ในกรณีที่หลักทรัพย์เป็นประเภทอาคารพาณิชย์ วงเงินสูงสุดจะอยู่ 90% จากราคาประเมินค่ะ
ในกรณีที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้านต่ำกว่า 1,000,000 บาทได้ไหม?
- ถ้ากู้ต่ำกว่า 1,000,000 บาท ไม่ได้ค่ะ คุณจะต้องกู้ขั้นต่ำอยู่ที่ 1,000,000 บาท ขอยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายๆนะคะ ถ้าบ้านของคุณติดจำนองอยู่กับธนาคารเดิม ซึ่งมียอดหนี้อยู่ประมาณ 850,000 บาท นั้น คุณก็ทำกู้รีไฟแนนซ์กับธนาคารกรุงศรี และเป็นกู้เพิ่มสินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคชค่ะ โดยธนาคารกรุงศรีจะโอนเงินยอดหนี้ 850,000 บาทเข้าธนาคารเดิมที่คุณหนี้อยู่ส่วนเหลืออีก 150,000 บาท ธนาคารจะโอนเข้าบัญชีของคุณค่ะ
หากคุณต้องการรีไฟแนนซ์บ้านจากธนาคารอื่นๆ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือไม่ และจำนวนเท่าใด?
- คุณจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในสำรวจและประเมินหลักประกัน ประมาณ 3,000 บาท ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มนะคะ ค่าอากรแสตมป์จะต้องจ่ายร้อยละ 0.5 ตามวงเงินที่ได้ทำการรีไฟแนนซ์ และเบี้ยประกันอัคคีภัย ซึ่งจะเป็นตามไปที่ธนาคารกำหนดค่ะ
ธนาคารกรุงศรีอยุธยามีหลายทางเลือกถ้าจะรีไฟแนนซ์บ้านนั้นควรเลือกทางเลือกไหนที่ดีที่สุด?
- ถ้าคุณไม่ได้ซีเรียลเรื่องค่าจดจำนอง ควรทางเลือกที่ 4 เพราะดอกเบี้ยเฉลี่ยแล้วใน 3 ปีแรกจะถูกที่สุดในบรรดาทางเลือกที่ธนาคารมีให้เลือกค่ะ ซึ่งดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 4.15 ต่อปีค่ะ
รีไฟแนนซ์บ้านแล้วทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA/MLTA) จะได้รับสิทธิประโยชน์ไหม?
- หากคุณทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA/MLTA) คุณจะได้รับส่วนลดดอกเบี้ยเพิ่มอีกร้อยละ 0.25 ต่อปี เฉพาะปีแรกเท่านั้นนะคะ ซึ่งเดิมคุณเสียดอกเบี้ยเท่าไรจะทางเลือกที่คุณเลือก ก็จะนำไปลบด้วย 0.25 ค่ะ ในกรณีไม่สามารถใช้ได้กับทางเลือกที่ 3 และทางเลือกที่ 5 นะคะ เพราะทางเลือกที่ 3 และทางเลือกที่ 5 นั้นจะทำประกันไว้อยู่แล้วค่ะ ดังนั้นจึงจะไม่ได้รับส่วนลดตรงนี้ค่ะ
การทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA/MLTA) จะต้องจ่ายยังไง?
- ทำประกันเพียงครั้งเดียวจะคุ้มครองตลอดระยะสัญญากู้ค่ะ ซึ่งเบี้ยประกันจะรวมไปค่างวดในการผ่อนชำระหนี้ค่าบ้านค่ะ
ต้องการจะกู้ร่วมได้ไหม และกู้ร่วมได้กี่คน?
- ธนาคารจะให้กู้ร่วมได้ไม่เกิน 3 คน โดยผู้ที่กู้ร่วมนั้นจะต้องมีความสัมพันธ์กับผู้หลัก ไม่ว่าจะ พ่อแม่พี่น้องหรือสามีภรรยากัน
ระยะเวลาในการพิจารณาขอรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารกรุงศรีนานไหม?
- หากคุณส่งเอกสารครบถ้วน ธนาคารจะพิจารณาอยู่ที่ประมาณ 3 – 5 วันทำการค่ะ
ปัจจุบันมีสินเชื่อบ้านธนาคารกรุงศรีอยุธยา จะขอกู้สินเชื่อบ้านได้เพิ่มอีกหรือไม่?
- คุณสามารถขอกู้ได้ค่ะ
รีไฟแนนซ์บ้านนั้น อาจจะทำให้คุณต้องเสียเวลาในการยื่นเอกสารนั้น หากเราลองมองว่าถ้ารีไฟแนนซ์บ้านแล้ว เราได้ดอกเบี้ยที่ถูกลงจริงๆ เฉลี่ยปีหนึ่งก็หลายบาท และยังช่วยยืดระยะเวลาในการผ่อนชำระให้กับเราอีกด้วย เพราะหากคุณกำลังประสบปัญหาทางการเงินอยู่แล้ว จ่ายหนี้ค่าบ้านในแต่ละเดือนก็แทบจะไม่เหลือนั้น ลองใช้วิธีรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารใหม่ดูนะคะ เผื่อว่าจะช่วยให้คุณมีสภาพการเงินคล่องตัวมากขึ้น มีเงินเหลือใช้ เหลือเก็บมากขึ้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะคะ พวกเราชาว iMoney ทุกคนขอเป็นกำลังให้กับทุกคนค่ะ เพราะเชื่อว่าไม่มีปัญหาไหนที่จะแก้มันไม่ได้ค่ะ หากใครมีปัญหาทางการเงิน ลองอ่านบทความจาก iMoney สิค่ะ เรามีเรื่องราวมากมายที่เกี่ยวกับการเงินค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการทำบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อ การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต รีไฟแนนซ์รถ หรือการรีไฟแนนซ์บ้าน และยังมีอื่นๆอีกมากมายค่ะ คนที่เป็นหนี้ควรที่รู้เรื่องเหล่านี้เพื่อประโยชน์ของคุณเองนะคะ และอย่าลืมติดตามเพจดีๆอย่าง https://imoney.in.th/ กันเยอะๆนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลสำคัญจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา https://www.krungsri.com