รวมข้อมูลการรีไฟแนนซ์รถยนต์ รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ไหนดี การรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดทำได้หรือไม่ ทำอย่างไรถึงจะคุ้มค่าที่สุด มาดูกัน
ในชีวิตคนเรานอกจากความฝันที่อยากจะมีบ้านแล้ว ความฝันต่อมาก็การมีรถยนต์ขับนี่แหล่ะ จริงไหมคะ เพราะไม่เช่นนั้นรถราก็คงไม่เต็มท้องถนนมากมายขนาดนี้ ด้วยความที่รถยนต์ไม่ได้ออกยากเกินไปแค่มีเงินเดือนที่ดูดี มีคนค้ำที่โอเค ก็สามารถออกรถได้แล้วแถมยังดาวน์ไม่กี่หมื่นอีกต่างหาก แต่สิ่งที่ตามมาก็คือ ปัญหาการส่งที่ดูเหมือนจะมีเงินพอในช่วงแรก แต่ช่วงหลังชักไม่ไหวค่านั่นนี่มาประดังเต็มไปหมด สุดท้ายจะปล่อยให้ยึดรถหรือ? ไม่นะคะอายเขาตาย เอาเป็นว่ามาทำการรีไฟแนนซ์รถกันดีกว่า ขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยากนะ แถมได้ส่งรถถูกลง มีเวลาหายใจได้โล่งอกอีกต่างหาก มาค่ะมาทำความรู้จักการรีไฟแนนซ์รถกันดีกว่า
การรีไฟแนนซ์รถ คืออะไร
รีไฟแนนซ์รถยนต์ คือ การนำรถยนต์ที่มีอยู่ไปยื่นขอกู้เงินก้อนใหม่ เพื่อนำเงินมาโปะหนี้ก้อนเดิมกับธนาคารที่มีสินเชื่อรถยนต์อยู่ ซึ่งในการรีไฟแนนซ์นั้นสามารถทำได้ทั้งกับธนาคารเดิมหรือธนาคารใหม่ก็ได้ โดยธนาคารจะประเมินราคารถยนต์และอนุมัติเงินกู้ให้ ซึ่งบางครั้งวงเงินที่ได้รับก็สูงกว่ายอดหนี้เดิม มีเงินส่วนต่างเหลือมาใช้จ่ายหมุนเวียนได้ ในการรีไฟแนนซ์ยังได้รับดอกเบี้ยที่ถูกกว่าเดิม ยืดระยะเวลาในการผ่อนได้นานขึ้น เพราะการรีไฟแนนซ์ก็เหมือนกับว่าเริ่มต้นในการผ่อนสินเชื่อใหม่นั่นเอง แม้ว่ารีไฟแนนซ์แล้วจะได้รับเงินส่วนต่างมาใช้ก็จริง แต่ก็จะต้องพิจารณารายจ่ายที่จะตามมาด้วย เพราะถ้าเลือกรีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิมก็ไม่ต้องเสียค่าโอนเล่มทะเบียน แต่ถ้าขอรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ ก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการประเมิน ค่าโอนทะเบียน ค่าธรรมเนียมต่างๆ เป็นต้น ฉะนั้น ก่อนที่จะรีไฟแนนซ์ก็ควรจะศึกษารายละเอียดต่างๆให้ดีเสียก่อน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุดกับการรีไฟแนนซ์รถยนต์
ทำไมเราต้องรีไฟแนนซ์รถยนต์
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมจะต้องรีไฟแนนซ์รถยนต์ ถ้าสำหรับคนที่ต้องการใช้เงินและมีรถยนต์อยู่แล้ว การรีไฟแนนซ์จึงเป็นทางออกที่ดีอีกทางหนึ่งเลยก็ว่าได้สำหรับคนที่ต้องการเงินก้อน เพราะในการรีไฟแนนซ์ดอกเบี้ยถูกกว่าที่คุณไปกู้เงินนอกระบบ หรือกดเงินสดจากบัตรเครดิตอย่างแน่นอน แต่นอกเหนือจากเหตุผลของคนที่มีปัญหาทางการเงินแล้ว ยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้เลือกรีไฟแนนซ์จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูรายละเอียดกันค่ะ
ต้องการใช้เงินก้อนมาหมุนเวียน
รีไฟแนนซ์รถยนต์เหมาะสำหรับคนที่กำลังมีปัญหาเรื่องเงิน หมุนเงินไม่ทัน ชักหน้าไม่ถึงหลัง มีภาระค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายรายเดือนมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็จะค่างวดรถยนต์ ทำให้จำเป็นจะต้องเลือกรีไฟแนนซ์รถยนต์ เพื่อหวังว่าจะได้นำเงินมาใช้หนี้เก่า และมีเงินเหลือจากการรีไฟแนนซ์ มาใช้จ่ายหมุนเวียน แถมรีไฟแนนซ์แล้วดอกเบี้ยยังลดลงจากเดิมอีกด้วย ช่วยยืดระยะเวลาการผ่อนได้นานขึ้น ทำให้ได้หายใจหายคอกันสะดวกมากขึ้น แต่ก่อนที่จะรีไฟแนนซ์ก็อย่าลืมเช็คยอดหนี้ที่เหลืออยู่เพื่อที่จะได้ประเมินดูสิว่า ถ้ารีไฟแนนซ์แล้วจะคุ้มไหม เงินส่วนต่างที่ได้รับมากน้อยแค่ไหน และยอดเงินที่จะต้องผ่อนคุณสามารถผ่อนได้หรือไม่ ซึ่งข้อนี้ก็ถือว่าสำคัญมากๆเลยค่ะ ไม่งั้นหนี้เก่าก็ไม่หมด แถมยังจะพ่วงหนี้ใหม่มาอีก
ต้องการลดภาระหนี้รายจ่ายรายเดือน
รีไฟแนนซ์แล้วจะช่วยลดค่างวดที่จะต้องผ่อนรายเดือนให้น้อยลง มีเงินเหลือใช้มากขึ้น คุณก็จะมีความคล่องตัวมากขึ้น และอีกอย่างเงินที่เหลืออยู่ก็ยังสามารถนำมาต่อยอดอื่นๆได้อีกด้วย แต่ยังไงก่อนที่จะรีไฟแนนซ์ก็ควรที่จะเช็คกับธนาคารใหม่ด้วยว่าอัตราการผ่อนต่อเดือนอยู่ที่เท่าไร เพื่อที่จะได้นำข้อมูลเหล่านั้นมาประกอบการตัดสินใจในการรีไฟแนนซ์รถยนต์
รีไฟแนนซ์รถยนต์เพื่อจ่ายดอกเบี้ยถูกลง
รีไฟแนนซ์รถยนต์จ่ายดอกเบี้ยถูกจริงไหม ตอบเลยว่าจริงค่ะ เพราะปัจจุบันมีการแข่งขันของสถาบันการเงินมากขึ้น จัดโปรโมชั่นทั้งส่วนลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปีแรก หรือบางแห่งก็ให้ดอกเบี้ยต่ำ 3 ปีแรก สร้างแรงจูงใจในการรีไฟแนนซ์กันมากขึ้น บางคนที่รีไฟแนนซ์ก็ไม่ได้หวังว่าต้องการใช้เงิน แต่อยากได้ดอกเบี้ยที่ถูกกว่าฉะนั้นถ้าคิดอยากจะหาดอกเบี้ยถูก รีไฟแนนซ์รถยนต์ ก็เป็นคำตอบที่ดีในการช่วยเซฟเงินในส่วนนี้ได้ค่ะ
รีไฟแนนซ์รถยนต์ช่วยยืดระยะเวลาการผ่อนให้นานขึ้น
แน่นอนการรีไฟแนนซ์รถยนต์ก็คงจะไม่ต่างกับการรีไฟแนนซ์บ้านหรือรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต เพราะเป็นการขอกู้สินเชื่อใหม่ ฉะนั้นระยะเวลาในการผ่อนก็จะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น สินเชื่อรถยนต์เดิมมีระยะเวลาการผ่อน 7 ปี ผ่อนมาแล้ว 3 ปี ก็จะเหลือระยะเวลาการผ่อนอยู่ที่ 4 ปี แต่ถ้ารีไฟแนนซ์ใหม่ก็จะมีระยะเวลาให้เลือกตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร
อยากเปลี่ยนธนาคารหรือลิสซิ่งเจ้าใหม่
หลายคนตอนที่ซื้อรถยนต์ อยากจะขอสินเชื่อกับธนาคารหรือลิสซิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่กลับได้สินเชื่อจากธนาคารอื่นแทน และธนาคารได้รับการอนุมัติเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นแล้ว ดอกเบี้ยค่อนข้างสูง แต่ตอนนั้นไม่มีทางเลือกเลยจำใจ พอผ่อนมาสักระยะถึงโอกาสที่สามารถรีไฟแนนซ์ได้ ก็จัดการทำเรื่องขอรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ที่อยากได้เลยทันที
การเตรียมตัวรีไฟแนนซ์รถ
สำหรับใครอยากรีไฟแนนซ์รถยนต์ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหนก่อน ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง แล้วใช้เอกสารอะไรบ้างในการยื่นเรื่องของรีไฟแนนซ์ เรามาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ
ตรวจสอบยอดหนี้สินเชื่อรถยนต์เดิม
สิ่งที่แรกที่ควรทำเลยก็คือ ตรวจสอบเช็คภาระหนี้สินของตัวเองเสียก่อน โดยจะคำนวณว่าสินเชื่อรถยนต์นั้นผ่อนไปแล้วกี่งวด และเหลืออีกกี่งวด บางคนอาจจะงงว่าจะคิดยังไง เรามีวิธีการคำนวณยอดหนี้แบบง่ายๆมาบอกกันค่ะ
ยกตัวอย่าง กรณีที่คุณซื้อรถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง ราคา 800,000 บาท อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารคิด ณ ตอนนั้นอยู่ที่ 3% ต่อปี มีระยะเวลาการผ่อน 60 งวด หรือ 5 ปี ฉะนั้นดอกเบี้ยที่และอัตราการผ่อนรายเดือนก็จะเฉลี่ยดังนี้
วิธีการคำนวณดอกเบี้ยจะมีดังนี้
คำนวณจากเงินต้น × เปอร์เซ็นต์ดอกเบี้ย × ระยะเวลาการผ่อนชำระ
800,000 × 3% × 5 ปี
ดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายก็จะเท่ากับ 120,000 บาท
ฉะนั้นเมื่อนำเงินต้นที่ขอสินเชื่อ มารวมกับดอกเบี้ยที่ธนาคารคิดก็จะเท่ากับ 800,000 + 120,000 บาท = 920,000 บาท เมื่อหารเฉลี่ยออกเป็นรายงวด 60 งวด ก็จะตกอยู่ที่งวดละ 15,334 บาท และปัจจุบันผ่อนไปแล้ว 36 งวด ก็เหลือเพียง 24 งวดเท่านั้น หากคิดเป็นเงินคงค้างอยู่ที่ 367,976 บาท แต่เพื่อความชัวร์แนะนำให้ติดต่อสอบถามกับธนาคารเดิม เพื่อจะได้ทราบหนี้ที่ชัดเจน ลองสอบถามว่าหากต้องการโปะหนี้ทั้งหมดจะได้รับส่วนลดอะไรบ้าง เพราะส่วนใหญ่แล้วปิดหนี้ก่อนกำหนดก็จะได้รับส่วนลดของดอกเบี้ยที่เหลืออีก 50% อีกด้วยค่ะ
หาข้อมูลในการรีไฟแนนซ์ระหว่างธนาคารเดิม หรือธนาคารใหม่ดีกว่ากัน
สำหรับการรีไฟแนนซ์นั้นสามารถทำได้ทั้งกับธนาคารเดิมที่มีสินเชื่อรถยนต์อยู่ หรือจะขอรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ก็ได้เช่นกัน แต่ไม่ว่าจะรีไฟแนนซ์ธนาคารเดิมหรือธนาคารใหม่ก็ย่อมจะมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าที่ไหนสามารถตอบโจทย์ให้กับคุณได้ เราเลยสรุปข้อดี ข้อเสีย แบบสั้นๆ เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ดังนี้
กรณีที่รีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารเดิม
- ข้อดี
- โอกาสในการอนุมัติสินเชื่อมีสูง แต่จะต้องมีประวัติการชำระที่ดีด้วย
- ไม่ต้องเสียเงินค่าโอนย้ายกรรมสิทธิ์
- ข้อเสีย
- โปรโมชั่นต่างๆของการรีไฟแนนซ์อาจจะมีให้เลือกน้อยกว่าธนาคารใหม่
กรณีที่รีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารใหม่
- ข้อดี
- มีโปรโมชั่นมากมาย ทั้งส่วนลด วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ เมื่อเทียบกับรีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิม
- ข้อเสีย
- เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหลังจากรีไฟแนนซ์ เช่น ค่าโอนเล่ม ค่าตรวจสภาพรถยนต์ ค่าอากรแสตมป์
เปรียบเทียบข้อมูลสินเชื่อรีไฟแนนซ์ธนาคารต่างๆ
หากคิดที่จะรีไฟแนนซ์นั้นก็ควรที่ศึกษาหาข้อมูลว่ามีธนาคารไหนบ้างที่มีสินเชื่อในการรีไฟแนนซ์รถยนต์ เพราะบางธนาคารจะรับรีไฟแนนซ์เฉพาะที่เป็นลูกค้าเดิมเท่านั้น นอกจากธนาคารแล้วก็มีลิสซิ่งอีกมากมายที่ให้คุณสามารถขอรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้ ฉะนั้นก่อนที่จะรีไฟแนนซ์ก็ควรจะหาข้อมูลมาเปรียบเทียบอย่างน้อยๆสัก 3 – 5 แห่ง ตรวจสอบเงื่อนไขการสมัคร วงเงินที่จะได้รับ และที่สำคัญจะต้องดูอัตราดอกเบี้ยด้วยค่ะ
เอกสารที่ต้องใช้ในการรีไฟแนนซ์รถยนต์
เอกสารที่จะต้องใช้ในการรีไฟแนนซ์รถยนต์ก็จะคล้ายๆกับเอกสารตอนที่คุณของสินเชื่อรถยนต์ใหม่เลย เพียงแต่ว่าอาจจะมีส่วนที่เพิ่มเติมเล็กน้อย จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันค่ะ
- กรณีที่มีรายได้ประจำ (พนักงานบริษัทเอกชน / ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสากิจ)
- บัตรประชาชนตัวจริง และสำเนาบัตรประชาชน
- ทะเบียนบ้านตัวจริง และสำเนาทะเบียนบ้าน
- เอกสารแสดงถึงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
- สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคาร หรือ Statement ย้อนหลังประมาณ 3 – 6 เดือน (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแต่ละสถานบันการเงิน)
- เล่มทะเบียนรถยนต์ตัวจริง กรณีที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ หรือสำเนาทะเบียนรถยนต์ สำหรับคนที่ยังผ่อนค่างวดรถยนต์กับสถาบันการเงินอื่นๆ
- สมุดบัญชีธนาคารที่ต้องโอนเงินเข้า
- กรณีที่มีประกอบธุรกิจส่วนตัว
- สำเนาบัตรประชาชน และทะเบียนบ้านของกรรมการทุกคนที่มีอำนาจลงนามของบริษัทจำกัด (มหาชน)
- เอกสารบริษัท เช่น หนังสือรับรอง, ภพ. 20
- สำเนาเงินฝากออมทรัพย์/ประจำ/กระแสรายวัน ที่มีเงินหมุนเวียน ย้อนหลังไม่เกิน 6 เดือน
ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถ
คราวนี้เรามาดูกันในส่วนของขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถยนต์กันบ้าง จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลยค่ะ
ดูความคุ้มค่าการรีไฟแนนซ์รถยนต์
จากที่บอกไปแล้วว่าถ้าคุณต้องการรีไฟแนนซ์ ควรที่จะต้องดูความคุ้มค่าในการรีไฟแนนซ์ด้วยว่าคุ้มจริงไหม ไม่ใช่ว่าต้องการใช้เงินอย่างเดียว จนไม่ทันได้ดูอะไรเลบ ทำให้เมื่อรีไฟแนนซ์แล้วแทนที่จะมาช่วยแบ่งเบาภาระกลับต้องมาจ่ายเงินเพิ่มอีก อย่างเช่น มีหนี้กับธนาคารเดิมอยู่ที่ 920,000 บาท ผ่อนมาหลายปีจนเหลือหนี้อยู่แค่ 370,000 บาท แต่ถ้าต้องการใช้เงินจึงรีไฟแนนซ์รถยนต์ ทำให้ได้เงินจากการรีไฟแนนซ์อยู่ที่ 400,000 บาท หักเงินค่าโอนโน้นนี้นั่นเหลือเงินไว้ใช้เพียงแค่หมื่นกว่าบาทเท่านั้น ทำให้การรีไฟแนนซ์ครั้งนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้มค่าสักเท่าไร แต่ถ้ามีเงินที่เหลือมากกว่านี้ แถมยังผ่อนจ่ายรายเดือนที่น้อยลง อัตราดอกเบี้ยก็ถูกลง อย่างนี้ก็นับว่าเป็นการรีไฟแนนซ์ที่คุ้มมาก
ตรวจสอบรายรับ-รายจ่าย ของตัวเอง
การรีไฟแนนซ์เป็นการขอสินเชื่อใหม่ แม้ว่าคุณจะหาข้อมูลมาแล้วว่ารีไฟแนนซ์นั้นคุ้มค่าอย่างแน่นอน แต่ก็อย่าลืมที่จะกลับมามองตัวเองด้วยว่า ถ้ารีไฟแนนซ์แล้วจะมีเงินผ่อนไหวไหม เพราะที่ถามแบบนี้ก็เพื่อให้คุณแน่ใจกับตัวเองว่าสามารถผ่อนได้จริงๆ แต่ถ้าพิจารณาดูแล้วสามารถผ่อนได้ ก็เดินหน้ารีไฟแนนซ์รถยนต์ได้เลยค่ะ
จัดเตรียมเอกสารในการรีไฟแนนซ์รถยนต์
ข้อนี้ก็สำคัญมากๆ คุณจะต้องจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อที่เวลาไปสมัครขอรีไฟแนนซ์นั้นจะได้ไม่เสียเวลา หากเอกสารไม่ครบ คุณก็จะต้องเสียเวลาในการส่งเอกสารเพิ่มเติม ผลการอนุมัติก็จะล่าช้าตามไปด้วย
ยื่นสมัครขอรีไฟแนนซ์รถยนต์
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วทั้งหาข้อมูล เตรียมเอกสารครบถ้วน คุณก็เดินหน้าไปยื่นขอรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้เลย ซึ่งอาจจะขอได้ทั้งกับธนาคารเดิมที่เป็นหนี้อยู่แล้ว หรือจะไปรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ก็ได้ หรือใครอยากจะสมัครไว้หลายๆธนาคารก็สามารถทำได้เช่นกัน
รอผลการอนุมัติ
เมื่อยื่นเอกสารเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็นั่งรอฟังผลได้เลย ซึ่งบางครั้งอาจจะมีเจ้าหน้าที่ธนาคารโทรมาเช็ค หรือสอบถามข้อมูลส่วนตัวเพิ่มเติม โดยส่วนใหญ่แล้วการอนุมัติจะใช้เวลาไม่เกิน 7 วันทำการ หรืออาจเร็วกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละธนาคาร
หลังจากการอนุมัติสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์
หากคุณได้รับอนุมัติในการรีไฟแนนซ์รถยนต์แล้ว ก็ให้คุณดำเนินการไปติดต่อกับธนาคารเดิม เพื่อทำการปิดบัญชี จากนั้นธนาคารเดิมก็จะให้เล่มทะเบียนรถยนต์มา คุณก็จะต้องนำเล่มทะเบียนนี้ไปให้กับธนาคารใหม่ พร้อมกับรับเงินส่วนต่างที่เหลือจากการรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้เลยค่ะ
ถ้าจะรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดทำได้ไหม ทำยังไง
รีไฟแนนซ์รถยนต์สามารถทำได้แม้ว่ารถยนต์จะอยู่ระหว่างการผ่อนก็ตาม เพราะหลายคนอาจคิดว่า รีไฟแนนซ์ได้เฉพาะรถยนต์ที่ผ่อนหมดแล้วเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันมีหลายธนาคารที่สามารถนำรถยนต์ที่อยู่ระหว่างการผ่อนมาขอรีไฟแนนซ์ได้ แถมยังสามารถเลือกได้อีกว่าจะรีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิมหรือจะย้ายไปธนาคารใหม่ แต่ก็อย่างที่เราบอกไปแล้วว่าคุณจะต้องคำนวณยอดหนี้ที่เหลือ กับวงเงินรีไฟแนนซ์ใหม่ที่จะได้รับ รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารใหม่ด้วย เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและประโยชน์ที่จะได้รับมากที่สุด ส่วนใครที่ยังมีข้อสงสัยอยู่ว่าถ้าจะรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ต้องทำอย่างไรบ้าง เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ
กรณีที่ยังผ่อนรถยนต์ไม่หมดแล้วรีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิม
สำหรับใครที่เลือกจะรีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารเดิมนั้น บอกได้คำเดียวเลยว่าสบายสุดๆ เพราะคุณแทบจะไม่ต้องทำอะไรให้วุ่นวายยุ่งยากเลย เพียงเข้าไปติดต่อกับธนาคารเดิม แจ้งความประสงค์ว่าต้องการรีไฟแนนซ์เท่านั้น เพราะธนาคารมีข้อมูลส่วนตัวต่างๆของคุณอยู่แล้ว พร้อมกับประวัติการชำระที่ผ่านมาของคุณ ทำให้มีโอกาสสูงที่จะได้รับการอนุมัติรีไฟแนนซ์ และข้อดีอีกอย่างหนึ่งที่ควรรู้เลยก็คือ คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลยที่เกี่ยวกับรีไฟแนนซ์รถยนต์
กรณีที่ยังผ่อนรถยนต์ไม่หมดแล้วรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่
ส่วนใครที่เลือกรีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารใหม่นั้น แม้ว่าจะต้องเตรียมเอกสารต่างๆในการขอรีไฟแนนซ์แต่นั้นก็คงจะไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะการที่เลือกรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ มีข้อได้เปรียบที่เหนือกว่ารีไฟแนนซ์ธนาคารเดิม ตรงที่ว่า มีโปรโมชั่นให้เลือกที่หลากหลาย อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า มีโอกาสได้วงเงินสูงกว่า ได้รับเงินส่วนต่างที่มากกว่า ทำให้หลายคนที่คิดจะรีไฟแนนซ์นิยมเลือกรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่มากกว่า แต่มีข้อดีแล้วก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเลย เพราะถ้ารีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ ก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าตรวจสภาพรถยนต์, ค่าโอนเล่ม, ค่าอากรแสตมป์ และค่าดำเนินการต่างๆ เป็นต้น
รีไฟแนนซ์รถยนต์ให้คุ้มค่า ควรรู้อะไรอีกบ้าง
ก่อนที่จะรีไฟแนนซ์รถยนต์นั้นก็ควรที่จะรู้ข้อจำกัดด้วยว่ามีอะไรบ้างที่เป็นเงื่อนไขในการรีไฟแนนซ์ ฉะนั้นวันนี้เราเลยนำข้อควรรู้มาฝากสำหรับใครที่คิดจะรีไฟแนนซ์
ควรรู้ปัจจัยที่เกี่ยวกับรถยนต์
อย่างที่รู้ๆกันว่าราคารถยนต์นั้นจะตกลงเรื่อยๆ แค่เราซื้อมาเพียงไม่กี่วัน หรือไม่กี่เดือน เวลาขายรถยนต์ราคาก็จะตกทันที ส่วนใหญ่การรีไฟแนนซ์รถยนต์ก็จะได้วงเงินไม่เท่ากับราคาที่ซื้อรถยนต์มาใหม่ ยิ่งรถที่มีอายุการใช้งานนาน ก็ยิ่งทำให้ได้วงเงินน้อย เพราะเงื่อนไขของการรีไฟแนนซ์ส่วนใหญ่จะอยู่อายุของการใช้งาน และก็จะรับไม่เกิน 16 ปี แต่ถ้าจะให้ได้ราคาดีนั้นควรจะเป็นรถตลาด ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมอย่าง Honda, Toyota, BMW, Benz เป็นต้น
คุณสมบัติของผู้ที่ขอสินเชื่อ
อีกหนึ่งปัจจัยสำหรับการขอสินเชื่อไม่ใช่เพียงแค่อยู่ที่ตัวรถยนต์เท่านั้น ธนาคารยังจะต้องพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่ขอรีไฟแนนซ์ด้วย ซึ่งก็จะคล้ายๆกับตอนที่ขอสินเชื่อใหม่ๆ ที่จะต้องพิจารณาจาก รายได้ต่อเดือน อาชีพ อายุการทำงาน และประวัติการชำระซึ่งจะดูจากเครดิตบูโร เป็นต้น
เงินส่วนต่างที่ได้รับจากการรีไฟแนนซ์
สำหรับใครที่รีไฟแนนซ์แล้วมีเงินส่วนต่างมากนั้น แนะนำให้นำเงินที่ได้รับนั้นมาต่อยอด เพื่องอกเงย เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับตัวเอง มีโอกาสในการปลดหนี้ได้เร็วขึ้น
การรีไฟแนนซ์รถยนต์แตกต่างกับรีไฟแนนซ์บ้าน
แม้ว่าจะเป็นการรีไฟแนนซ์เหมือนกันก็ตาม แต่บอกอย่างนี้ว่า รถยนต์ยิ่งใช้ไปนานวัน อายุการใช้งานก็มากขึ้น รถยนต์ก็เสื่อมลงเรื่อยๆ ทำให้วงเงินในการอนุมัติก็จะน้อยลงไปตามสภาพและอายุการใช้งานของรถยนต์แต่ถ้าเมื่อเทียบกับรีไฟแนนซ์บ้านแล้วนั้น ต้องบอกว่าแม้ว่าบ้านเราจะมีทุกวันก็ตาม อยู่มานานหลายปีแล้วก็ตาม แต่ที่ดินมีแต่ราคาจะสูงขึ้นหรือไม่ก็ราคาเท่าเดิม แต่ราคาจะไม่ตกเหมือนรถยนต์อย่างแน่นอน ฉะนั้นก่อนที่จะรีไฟแนนซ์ก็ควรที่รู้ข้อจำกัดนี้ด้วย
จากข้อมูลทั้งหมดที่เรานำบอกเล่านี้ก็น่าจะช่วยให้คุณพิจารณาได้แล้วว่าควรที่จะรีไฟแนนซ์รถยนต์หรือไม่ เพราะการรีไฟแนนซ์รถยนต์นั้นขึ้นอยู่ความต้องการของแต่ละคน แม้ว่าการรีไฟแนนซ์จะเป็นทางออกที่ดีอีกทางหนึ่งก็ตาม แต่แน่นอนว่ามีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสียเช่นเดียวกัน ฉะนั้นสิ่งที่ควรจะต้องทำก่อนรีไฟแนนซ์นั้นก็คือ ศึกษาหาข้อมูลต่างๆให้มากที่สุด และเลือกรีไฟแนนซ์กับธนาคารที่สามารถตอบโจทย์ให้กับคุณได้ และก็ควรชั่งน้ำหนักด้วยว่ารีไฟแนนซ์คุ้มหรือไม่ ถ้าคำตอบคือ คุ้ม ก็เดินหน้ารีไฟแนนซ์ได้เลยค่ะ
สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ธนาคารต่างๆ – รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ไหนดี
9 สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่น่าสนใจอัพเดท 2563
มีรถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด รถผ่อนไม่หมดรีไฟแนนซ์ได้ไหม แต่มีความจำเป็นต้องการใช้ไงทำไงดี ใครที่ผ่อนรถยนต์ไม่ไหวต้องการยืดระยะเวลาในการผ่อน อยากได้เงินสักก้อนไว้ใช้ทำไงดี งั้นอ่านบทความนี้เลยค่ะ วันนี้ iMoney จะมาช่วยทำให้ปัญหาเหล่านี้ของเพื่อนๆหมดไป ด้วยการนำรถยนต์มารีไฟแนนซ์นั้นเอง ซึ่งการรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดนั้นก็เหมือนกับเราไปขอสินเชื่อกู้ใหม่จากสถาบันการเงินอื่นมาปิดหนี้กับสถาบันการเงินรายเดิม เพื่อเป็นการยืดระยะเวลาการผ่อนให้นานขึ้น จ่ายน้อยลง และมีเงินเหลือไว้ใช้จากเงินที่ไปกู้มานั้นแล้ว ส่วนใหญ่แล้วคนที่จะรีไฟแนนซ์รถยนต์ก็ด้วยสาเหตุที่ต้องการใช้เงินนั้นเอง ลำพังจะไปกู้สินเชื่ออื่นก็ยาก แต่ถ้าใช้รถยนต์ในการค้ำประกันก็จะทำให้การขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น และวันนี้เราก็ได้รวบรวม9 สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่น่าสนใจประจำปี 2561 มาฝากเพื่อนๆกัน เรามาดูไปพร้อมๆกันดีกว่ารีไฟแนนซ์รถที่ไหนดีตาม iMoney ไปดูกันและเหมาะกับตัวเพื่อนๆมากที่สุดกันค่ะ
ธนาคาร | ผลิตภัณฑ์ | จุดเด่น | เงื่อนไข | ประเภทรถยนต์ | ดอกเบี้ย |
ธนาคารธนชาต | สินเชื่อธนชาตรถแลกเงิน | โอนกรรมสิทธิ์ให้เป็นของธนาคาร ให้วงเงินสูงสุด 100% และผ่อนก็สบายๆเดือนละ 59 บาท ต่อ 100,000 บาท | เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในเล่มทะเบียนรถยนต์ และรถยนต์จะต้องมีอายุการใช้งานไม่เกิน 16 ปี | รถเก๋ง และรถกระบะ ที่ไม่ใช่เป็นรถรับจ้าง | ร้อยละ 3.18 – 20.03 ต่อปี |
ธนาคารโตโยต้า ลีสซิ่ง | สินเชื่อรถใช้แล้ว สบายแคช | ให้วงเงินสูงสุด 100% และไม่ต้องรอให้โอนเล่มทะเบียน | อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป และต้องไม่มีประวัติเสียหายทางการเงิน | ร้อยละ 3.85 ต่อปี | |
ธนาคารเกียรตินาคิน | สินเชื่อรถกู้เงินด่วน CarQuickCash | ให้วงเงินสูงสุด 100% และเปิดกว้างให้ทุกอาชีพสามารถกู้ได้ | เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในเล่มทะเบียนรถยนต์ ไม่น้อยกว่า 3 เดือน และอายุรถยนต์เมื่อรวมกับระยะเวลาผ่อนแล้วต้องไม่เกิน 20 ปี | รถเก๋ง และรถกระบะ และรถตู้ | ร้อยละ 3.88 – 16.80 ต่อปี |
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา | สินเชื่อรถยนต์ และกระบะ กับ ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ | ไม่ว่าจะรถยนต์จะที่โอนกรรมสิทธิ์แล้ว หรือยังไม่โอนกรรมสิทธิ์ก็สามารถรีไฟแนนซ์ได้ | อายุตั้งแต่ 21- 65 ปี และสมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์โดยจะต้องเป็นชื่อของคุณ | รถเก๋ง และรถกระบะ และรถยนต์จะต้องมีอายุใช้งานไม่เกิน 20 ปี | ร้อยละ 6 – 30 ต่อปี |
ธนาคารกสิกรไทย | สินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทย | ให้วงเงินสูงสุด 100% มีทางเลือกดอกเบี้ยแบบคงที่ หรือดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกให้คุณเลือก | ต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในเล่มทะเบียนรถยนต์ ไม่น้อยกว่า 3 เดือน | รถเก๋ง และรถกระบะ | ดอกเบี้ยแบบคงที่สูงสุดร้อยละ 13 ต่อปี หรือดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก MOR+8 |
ธนาคารธนชาต | สินเชื่อธนชาตเล่มแลกเงิน | ใช้เล่มทะเบียนรถยนต์เป็นหลักประกันในการกู้ โดยที่ไม่ต้องโอนกรรมสิทธิ์ และให้วงเงินสูงสุด 100% | เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในเล่มทะเบียนรถยนต์ และรถยนต์จะต้องมีอายุการใช้งานไม่เกิน 12 ปี | รถเก๋ง และรถกระบะ ที่ไม่ใช่เป็นรถรับจ้าง | ร้อยละ 18 ต่อปี |
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา | กรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช สินเชื่อเพื่อคนมีรถ | ให้วงเงินสูงสุด 120% และผ่อนนานถึง 6 ปี | อายุตั้งแต่ 20- 65 ปี และสมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์โดยจะต้องเป็นชื่อของคุณ | รถเก๋ง และรถกระบะ ที่ไม่ใช่เป็นรถรับจ้าง | ร้อยละ 27 ต่อปี |
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา | กรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช “โปะ” | ไม่ต้องโอนเล่มทะเบียน ให้วงเงินสูงสุด 120% และสามารถจ่ายงวดรถมากกว่าที่กำหนดได้ | อายุตั้งแต่ 20- 65 ปี และต้องเป็นกรรมสิทธิ์รถยนต์อย่างน้อย 6 เดือน | รถเก๋ง กระบะ รถตู้ SUV ทุกยี่ห้อ ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นไป | ร้อยละ 27 ต่อปี |
สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ธนชาตรถแลกเงิน
ต้องการใช้เงินก้อนแบบด่วนๆสมัครเลยกับสินเชื่อธนชาตรถแลกเงินที่จะทำให้ได้เงินเร็วทันใจ เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน ที่จะช่วยทำให้ชีวิตดีขึ้น หรือใครที่ต้องการเงินเพื่อปลดหนี้ไม่ว่าจะเป็นหนี้ในระบบหรือหนี้ระบบก็ตาม หรือใครที่คิดจะกำลังขยายธุรกิจ เพื่อทำฝันให้เป็นจริงนั้น ไม่ว่าใครจะมีวัตถุประสงค์ในการใช้เงินอะไรก็ตามแต่ธนาคารก็ไม่กำหนดวัตถุประสงค์ในการสินเชื่อเลย ขอเพียงแค่นำรถยนต์มาแลกเงินกับธนาคารธนชาต ที่ให้วงเงินสูงถึง 100% จากราคาที่ธนาคารได้ประเมิน ด้วยดอกเบี้ยสุดพิเศษ ถ้าคำนวณแล้วก็จะเฉลี่ยอยู่ที่แสนละ 59 บาทต่อเดือนเท่านั้นเอง แถมยังผ่อนจ่ายรายเดือนได้แบบสบายๆนานถึง 6 ปี เรียกว่าผ่อนกันไปแบบยาวๆเลย สินเชื่อนี้จะเหมาะสำหรับคนที่เจ้าของรถยนต์เท่านั้น รถยนต์ที่จะนำมารีไฟแนนซ์ได้นั้นจะต้องเป็นรถเก๋ง รถกระบะ หรือรถตู้ และต้องไม่เป็นรถรับจ้าง และรถจะต้องมีอายุการใช้งานไม่เกิน 16 ปีนะคะ
จุดเด่น
- สมัครง่าย อนุมัติไว รับเงินทันใจ
- ผ่อนจ่ายได้แบบสบายๆนาน 6 ปี
- อนุมัติวงเงินสูงสุด 100% จากราคาที่ธนาคารได้ประเมิน
- ดอกเบี้ยต่ำพิเศษคิดแบบคงที่เริ่มต้นที่ 0.27% ต่อเดือน
ประเภทของรถยนต์ : รถเก๋ง หรือรถกระบะ ซึ่งจะต้องไม่ใช่เป็นรถรับจ้างค่ะ
วงเงินในการอนุมัติ : ขั้นต่ำอยู่ที่ 50,000 บาท และสูงสุดถึง 100% จากราคาที่ธนาคารได้ประเมิน ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพรถยนต์ด้วย
อัตราดอกเบี้ย : ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยแบบคงที่ โดยจะแบ่งไปตามประเภทของรถยนต์และปีจดทะเบียนของรถยนต์ ซึ่งจะแบ่งเป็นรถเก๋ง กับรถกระบะ รถตู้ มีรายละเอียดตามนี้เลย
- สำหรับรถยนต์ประเภทรถเก๋ง แบ่งไปตามปีการจดทะเบียนรถยนต์
- ตั้งแต่ปี 2003 – 2007 ร้อยละ 4.85 – 11.35 ต่อปี
- ตั้งแต่ปี 2008 – 2012 ร้อยละ 4.10 – 9.60 ต่อปี
- ตั้งแต่ปี 2013 – 2018 ร้อยละ 3.18 – 8.60 ต่อปี
- สำหรับรถยนต์ประเภทกระบะ หรือรถตู้ แบ่งไปตามปีการจดทะเบียนรถยนต์
- ตั้งแต่ปี 2003 – 2007 ร้อยละ 5.60 – 12.10 ต่อปี
- ตั้งแต่ปี 2008 – 2012 ร้อยละ 4.60 – 10.60 ต่อปี
- ตั้งแต่ปี 2013 – 2018 ร้อยละ 3.18 – 9.10 ต่อปี
คุณสมบัติในการสมัคร : อายุตั้งแต่ 20 – 60 ปี โดยรถยนต์นั้นจะต้องไม่มีหนี้ภาระในการผ่อนใดกับสถาบันการเงินหรือไฟแนนซ์อื่นๆ
ช่องทางการสมัคร : สมัครได้ที่ธนาคารธนชาตทุกสาขา ทั่วประเทศ หรือสมัครง่ายๆผ่านทางออนไลน์เพียงคลิกที่นี่ได้เลย
สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด สบายแคช โตโยต้า ลีสซิ่ง
สินเชื่อเงินสด สำหรับใครที่ต้องการใช้เงินด่วน มีเรื่องจำเป็นที่ต้องใช้เงิน สมัครเลยกับสินเชื่อรถใช้แล้ว สบายแคช โตโยต้า ลีสซิ่ง ที่ช่วยคุณได้เงินก้อนใหญ่ สมัครง่ายๆ ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน ไม่ต้องรอให้โอนเล่มทะเบียน ให้วงเงินสูงถึง 90% โดยมีเงื่อนไขง่ายๆแค่ไม่ติดภาระในการผ่อนจ่ายค่างวดรถยนต์ และไม่ต้องกังวลว่าถ้าไม่ใช้รถยนต์โตโยต้าก็สามารถขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์โตโยต้าลีสซิ่งได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังให้ผ่อนจ่ายได้นานถึง 6 ปี ไม่ว่าเดือดร้อนเรื่องเงินแค่ไหนก็ให้ โตโยต้า ลีสซิ่ง ช่วยเรื่องเงิน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในเรื่องเงินของคุณ ให้ชีวิตง่ายขึ้น
จุดเด่น
- อนุมัติวงเงินสูงสุด 90%
- สมัครง่าย ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน
- ผ่อนจ่ายได้แบบสบายๆนาน 6 ปี
- ไม่ต้องรอโอนเล่มทะเบียนก็ขอสินเชื่อได้
วงเงินในการอนุมัติ : ขั้นต่ำ 100,000 บาท หรือสูงสุดถึง 90% จากราคาที่ธนาคารได้ประเมิน ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพรถยนต์ด้วย
อัตราดอกเบี้ย : ดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) ตลอดอายุสัญญา ซึ่งอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดอยู่ที่ร้อยละ 3.85 ซึ่งในการคิดดอกเบี้ยนั้น ต้องดูหลายองค์ประกอบ ทั้งรถของสภาพรถยนต์ และปีที่จดทะเบียน เป็นต้น
คุณสมบัติในการสมัคร : อายุตั้งแต่ 20 – 60 ปี โดยรถยนต์นั้นจะต้องไม่มีหนี้ภาระในการผ่อนใดกับสถาบันการเงินหรือไฟแนนซ์อื่นๆ และจะรับเฉพาะรถ โตโยต้า, ฮอนด้า และอีซูซุ เท่านั้น
ช่องทางการสมัคร : สมัครได้ที่โชว์รูมจัดจำหน่ายรถยนต์ โตโยต้าทุกสาขาทั่วประเทศ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถ กู้เงินด่วน CarQuickCash จากธนาคารเกียรตินาคิน
สินเชื่อเงินสด เงินด่วน สินเชื่อรถกู้เงินด่วน CarQuickCash คือคำตอบสำหรับคนที่มีรถยนต์ที่ต้องการใช้เงิน หรืออยากมีเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เป็นเงินทุนเพื่อหมุนเวียนในธุรกิจ สมัครได้เลยไม่ว่าจะมีอาชีพที่มีรายได้ประจำ อาชีพอิสระ เป็นเจ้าของธุรกิจ หรือเป็นเกษตรกรก็สมัครสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์เกียรตินาคินได้ค่ะ เพียงมีรายได้ 15,000 บาทขึ้นไปต่อเดือนเท่านั้น ไม่ต้องวุ่นวายในการหาคนมาค้ำประกัน ใช้แค่รถยนต์ในการค้ำประกันเท่านั้นก็จะได้ แต่รถยนต์จะต้องเป็นรถเก๋ง รถกระบะ หรือรถตู้ ก็ได้รับวงเงินสูงสุด มาพร้อมกับดอกเบี้ยต่ำ และให้ผ่อนได้แบบสบายกระเป๋ากันไปเลย
จุดเด่น
- สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก อนุมัติเร็วเพียงแค่ 2 ชั่วโมง
- อนุมัติวงเงินสูงสุด 120% ของราคาประเมิน
- จ่ายน้อย ผ่อนนานได้แบบสบายๆนาน 6 ปี
ประเภทของรถยนต์ : รถเก๋ง รถกระบะ หรือรถตู้ จะต้องมีอายุไม่เกิน 14 ปี โดยจะนับจากปีที่ผลิตค่ะ
วงเงินในการอนุมัติ : วงเงินสินเชื่อขั้นต่ำอยู่ที่ 100,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 5,000,000 บาท หรือสูงสุด 100% จากราคาที่ธนาคาร ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพรถยนต์ด้วย
อัตราดอกเบี้ย : ดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) ตลอดอายุสัญญา ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนั้นจะขึ้นอยู่ระยะเวลาในการผ่อนจ่าย รวมไปถึงประเภทของรถยนต์ ยี่ห้อ รุ่นรถ ซึ่งแบ่งได้ดังนี้
- ผ่อนจ่ายตั้งแต่ 12 – 48 งวด ดอกเบี้ยร้อยละ 3.88 – 9.00 ต่อปี โดยเฉลี่ยแล้วอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงจะอยู่ที่ร้อยละ 7.26 – 15.99 ต่อปี
- ผ่อนจ่าย 60 งวด ดอกเบี้ยร้อยละ 4.25 – 9.50 ต่อปี โดยเฉลี่ยแล้วอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงจะอยู่ที่ร้อยละ 7.92 – 15.99 ต่อปี
- ผ่อนจ่าย 72 งวด ดอกเบี้ยร้อยละ 6.70 – 9.50 ต่อปี โดยเฉลี่ยแล้วอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงจะอยู่ที่ร้อยละ 12.17 – 16.80 ต่อปี
คุณสมบัติในการสมัคร : อายุตั้งแต่ 20 – 65 ปี มีรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 15,000 บาท โดยรถยนต์นั้นจะต้องไม่มีหนี้ภาระในการผ่อนใดกับสถาบันการเงินหรือไฟแนนซ์อื่นๆ และจะรับรถยนต์ทุกประเภท ยกเว้นเพียงแค่รถบรรทุก กับรถจักรยานยนต์เท่านั้น
ช่องทางการสมัคร : สมัครได้ที่ธนาคารเกียรตินาคิน ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสมัครง่ายๆทางออนไลน์เพียงแค่คลิกที่นี่
สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถทะเบียนรถเก๋ง-กระบะ กับ เงินติดล้อ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
สินเชื่อเงินสดเปลี่ยนรถให้เป็นเงินของธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำหรับใครที่ต้องการเงิน เพื่อไปใช้ในการหมุนเวียนทั้งเรื่องของธุรกิจส่วนตัว หรือจะใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอมลูก ค่าอุปโภคบริโภค เรื่องเงินไหนๆสินเชื่อนี้ก็ช่วยได้ สมัครง่ายๆ ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน ไม่ต้องโอนเล่มให้เสียเวลา อนุมัติปุ๊บ รับเงินก้อนทันที ด้วยวงเงินที่สูง เลือกผ่อนได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาวเลือกได้ตามใจที่ต้องการได้เลย
จุดเด่น
- สมัครง่าย อนุมัติเร็ว วงเงินสูง
- ไม่ต้องโอนเล่มในการขอสินเชื่อ
- ไม่ต้องมีคนค้ำประกันในการขอสินเชื่อ
- จ่ายน้อย ผ่อนนานได้แบบสบายๆนาน 5 ปี
ประเภทของรถยนต์ : รถเก๋ง หรือรถกระบะ
วงเงินในการอนุมัติ : ให้วงเงินสูงสุด แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศรีสวัสดิ์
อัตราดอกเบี้ย : ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 – 2.5 ต่อเดือน หรือร้อยละ 6 – 30 ต่อปี
คุณสมบัติในการสมัคร : อายุตั้งแต่ 21 – 65 ปี รถยนต์ทุกประเภทที่ขอสินเชื่อได้ แต่จะต้องมีอายุการใช้งานไม่เกิน 20 ปี และไม่ว่าจะที่โอนกรรมสิทธิ์แล้ว หรือยังไม่โอนกรรมสิทธิ์ ก็ขอสินเชื่อได้เช่นเดียวกัน
ช่องทางการสมัคร : สมัครได้ที่เงินติดล้อ ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสมัครง่ายๆทางออนไลน์เพียงแค่คลิกที่นี่
สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถ รถช่วยได้กสิกรไทย
ทุกความจะเป็นเรื่องเงิน ถ้ามีรถยนต์หมดปัญหาเรื่องนี้ไปได้เลย เพราะรถยนต์ช่วยคุณได้ด้วยการสมัครสินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทย ขอเพียงแค่คุณเป็นเจ้าของรถยนต์ โดยจะเป็นสินเชื่อที่จะต้องโอนเล่มทะเบียนรถยนต์ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของธนาคาร สมัครง่ายก็ง่าย รู้ผลก็เร็วเพียงแค่ 1 วัน พร้อมรับเงินทันทีภายใน 24 ชั่วโมง ด้วยวงเงินการอนุมัติที่ให้ธนาคารให้ก็สูงถึง 100% ของราคาประเมิน พร้อมมอบอิสระในการเลือกดอกเบี้ยได้เองว่าจะเลือกแบบคงที่ตลอดอายุสัญญา หรือเลือกแบบลดต้นลดดอก และยังให้ผ่อนได้นานเริ่มต้นที่ 1 ปี หรือเลือกผ่อนยาวๆได้นานถึง 6 ปีเลย
จุดเด่น
- สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก
- อนุมัติเร็วทันใจ รับเงินภายใน 1 วัน
- วงเงินอนุมัติสูงสุด 100% จากราคาประเมิน
- จ่ายน้อย ผ่อนนานได้แบบสบายๆนาน 6 ปี
ประเภทของรถยนต์ : รถเก๋ง รถกระบะ และรถตู้ ซึ่งจะต้องมีอายุการใช้งานไม่เกิน 17 ปี
วงเงินในการอนุมัติ : วงเงินสูงสุด 100% จากราคาประเมิน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพของรถยนต์
อัตราดอกเบี้ย : ดอกเบี้ยมีให้เลือกทั้งแบบดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) ตลอดอายุสัญญา ก็จะอยู่ร้อยละ13 ต่อปี โดย EIR หรือ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ที่ไม่เกินร้อยละ 26 ต่อปี หรือถ้าเลือกดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MOR+8 หรือเท่ากับ 15.12 ต่อปี ซึ่งปัจจุบัน MOR = 7.12% ต่อปี
คุณสมบัติในการสมัคร : อายุตั้งแต่ 22 – 70 ปี ขึ้นอยู่กับอาชีพของผู้สมัคร หากผู้สมัครอยู่ในต่างจังหวัดจะต้องมีรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท แต่ถ้าอยู่ในกรุงเทพฯ จะต้องมีรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท และ จะต้องไม่มีภาระการผ่อนงวดรถยนต์กับไฟแนนซ์อื่นๆ เว้นแต่ว่าผ่อนกับธนาคารไทยพาณิชย์
ช่องทางการสมัคร : สมัครได้ที่ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสมัครง่ายๆทางออนไลน์เพียงแค่คลิกที่นี่
สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ธนชาตเล่มแลกเงิน
แค่อ่านชื่อสินเชื่อแล้วเพื่อนๆก็คงจะเดากันได้แล้วว่าสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ธนชาตเล่มแลกเงินนั้นเป็นสินเชื่อที่ให้นำเล่มทะเบียนรถยนต์ไปให้กับธนาคารโดยที่ไม่ต้องทำการโอนกรรมสิทธิ์ให้เป็นของธนาคารแต่อย่างใดเลย ใครที่ต้องการเงินสด เงินก้อน เพื่อไปใช้หนี้ ลงทุน หรือใช้จ่ายในเรื่องต่างๆ จากสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ ดอกเบี้ยถูกแบบนี้ ก็สมัครเลยได้ แถมการสมัครนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพียงแค่นำเล่มทะเบียนรถยนต์ไปให้เท่านั้น ด้วยวงเงินอนุมัติที่สูงถึง 100% จากที่ธนาคารได้ประเมินรถยนต์ ที่มาพร้อมกับดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ให้เพื่อนๆสามารถจ่ายได้มากเท่าที่ต้องการ ยิ่งจ่ายมากดอกเบี้ยก็ยิ่งลดมากเท่าไร โดยให้ผ่อนกันแบบสบายๆ 5 ปีไปเลย ไม่เพียงเท่านี้หากมีเงินก้อนในอนาคตต้องการจะปิดหนี้ก็ทำได้เลยโดยที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆเลย และรถยนต์ที่นำมาขอสินเชื่อนั้นจะต้องมีอายุการใช้งานไม่เกิน 12 ปีนะคะ
จุดเด่น
- สมัครง่าย อนุมัติไว รับเงินทันใจ
- ผ่อนจ่ายได้แบบสบายๆนาน 5 ปี
- ยิ่งโปะมาก เงินต้นลด ดอกเบี้ยลด หมดหนี้เร็ว
- อนุมัติวงเงินสูงสุด 100% จากราคาที่ธนาคารได้ประเมิน
- ไม่ต้องโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ ไม่ต้องโอนเล่มทะเบียนรถยนต์
- ปิดบัญชีก่อนกำหนดได้ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมทุกกรณี
วงเงินในการอนุมัติ : สูงสุดถึง 100% จากราคาที่ธนาคารได้ประเมิน ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพรถยนต์ด้วย
อัตราดอกเบี้ย : คิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก อยู่ที่ร้อยละ 18 ต่อปี แต่ถ้าผิดนัดชำระดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 23 ต่อปี
คุณสมบัติในการสมัคร : อายุตั้งแต่ 20 – 60 ปี เป็นพนักงานบริษัท ข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่มีรายได้ประจำ โดยรถยนต์นั้นจะต้องไม่มีหนี้ภาระในการผ่อนใดกับสถาบันการเงินหรือไฟแนนซ์อื่นๆ
ช่องทางการสมัคร : สมัครได้ที่ธนาคารธนชาตทุกสาขา ทั่วประเทศ หรือสมัครง่ายๆผ่านทางออนไลน์เพียงคลิกที่นี่ได้เลย
สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ ดอกเบี้ยถูก กรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช สินเชื่อเพื่อคนมีรถ
สินเชื่อเงินสดมีหลากหลายประเภท และสินเชื่อเพื่อคนมีรถ นับว่าอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่มีรถยนต์ ที่ต้องการใช้เงิน เนื่องจากสมัครง่าย อนุมัติเร็ว ได้วงเงินที่สูง ผ่อนได้นาน แต่จะใช้รถยนต์เป็นหลักค้ำประกันในการไม่ว่ารถจะเก่าแค่ไหนก็ขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ของกรุงศรีนี้ได้ง่ายๆเพียงแค่นี้คุณก็จะได้รับเงินไปใช้จ่ายเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจ ขยายร้านค้า ซ่อมแซมบ้าน ใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน หรือแม้แต่ต้องการนำเงินก้อนไปช่วยลดภาระอื่นๆ ได้แล้ว
จุดเด่น
- สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน
- อนุมัติเร็วทันใจเพียง 1 วันพร้อมรับเงินทันที
- วงเงินอนุมัติสูงสุด 120% จากราคาประเมินของธนาคาร
- ดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้นเพียง 0.72% ต่อเดือน
- จ่ายน้อย ผ่อนนานได้แบบสบายๆนาน 6 ปี
วงเงินในการอนุมัติ : วงเงินสูงสุด 120% จากราคาประเมิน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพของรถยนต์
อัตราดอกเบี้ย : ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียงร้อยละ 0.27 ต่อเดือน หรือร้อยละ 27 ต่อปี ขึ้นการคิดดอกเบี้ยนั้นก็จะแบ่งไปตามอายุการใช้งานบวกกับสภาพรถยนต์
- สำหรับรถยนต์ที่จดทะเบียนไม่เกิน 15 ปี ดอกเบี้ยจะคงที่ร้อยละ 4.00 – 15.00 ซึ่ง EIR หรือ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง คิดแบบลดต้นลดดอกจะอยู่ที่ร้อยละ 7.00 – 27.69 ต่อปี
- สำหรับรถยนต์ที่จดทะเบียนเกิน 15 ปี ดอกเบี้ยจะคงที่ร้อยละ 10.00 – 19.00 ซึ่ง EIR หรือ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง คิดแบบลดต้นลดดอกจะอยู่ที่ร้อยละ 18.00 – 33.00 ต่อปี
คุณสมบัติในการสมัคร : อายุตั้งแต่ 20 – 65 ปี โดยรถยนต์จะต้องเป็นชื่อของผู้สมัครเท่านั้น
ช่องทางการสมัคร : สมัครได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสมัครง่ายๆทางออนไลน์เพียงแค่คลิกที่นี่
สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ กรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช “โปะ”
สินเชื่อเงินสด ที่จะเปลี่ยนจากรถยนต์เป็นเงินสด สมัครง่ายๆ ไม่ต้องเสียเวลาในการโอนเล่มให้เล่มสะอาดวิ้ง ไม่ต้องมีหลายชื่อในเล่มทะเบียนรถ ที่มาพร้อมกับดอกเบี้ยลดต้นลดดอก ให้คุณโปะได้ตามที่ต้องการ ยิ่งโปะมากเท่าไร ดอกเบี้ยก็ยิ่งลดลง ไม่ว่าจะเลือกผ่อนนานแค่ไหนดอกเบี้ยก็ยังคงที่เท่าเดิมเริ่มต้นที่ร้อยละ 0.56 ต่อเดือน และที่สำคัญฟรีทุกค่าธรรมเนียมในการขอใช้วงเงินกู้ เลือกผ่อนสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถกรุงศรีนี้ได้นานสูงสุดถึง 6 ปีเลย
จุดเด่น
- สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน
- ไม่ต้องโอนเล่มทะเบียนรถยนต์
- ฟรีทุกค่าธรรมเนียมในการขอใช้วงเงินกู้
- วงเงินอนุมัติสูงสุด 100% จากราคาประเมิน
- ดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้นเพียง 0.56% ต่อเดือน
วงเงินในการอนุมัติ : วงเงินสูงสุด 100% จากราคาประเมิน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพของรถยนต์
อัตราดอกเบี้ย : ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียงร้อยละ 0.27 ต่อเดือน หรือร้อยละ 27 ต่อปี ขึ้นการคิดดอกเบี้ยนั้นก็จะแบ่งไปตามอายุการใช้งานบวกกับสภาพรถยนต์ และพิเศษสำหรับรถยนต์ที่จดทะเบียนปี 2005-2018 ดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ร้อยละ 0.56 ต่อเดือน และรถยนต์ที่จดทะเบียนปี 2000-2004 ดอกเบี้ยเริ่มค้นที่ร้อยละ 0.63 ต่อเดือน
- สำหรับรถยนต์ที่จดทะเบียนไม่เกิน 15 ปี ดอกเบี้ยจะคงที่ร้อยละ 4.00 – 15.00 ซึ่ง EIR หรือ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง คิดแบบลดต้นลดดอกจะอยู่ที่ร้อยละ 7.00 – 27.69 ต่อปี
- สำหรับรถยนต์ที่จดทะเบียนเกิน 15 ปี ดอกเบี้ยจะคงที่ร้อยละ 10.00 – 19.00 ซึ่ง EIR หรือ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง คิดแบบลดต้นลดดอกจะอยู่ที่ร้อยละ 18.00 – 33.00 ต่อปี
คุณสมบัติในการสมัคร : อายุตั้งแต่ 20 – 65 ปี ซึ่งจะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 12,000 บาท โดยรถยนต์จะต้องเป็นชื่อของผู้สมัครเท่านั้น
ช่องทางการสมัคร : สมัครได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสมัครง่ายๆทางออนไลน์เพียงแค่คลิกที่นี่
การรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดของไฟแนนซ์แต่ละเจ้านั้นก็มีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เพื่อนๆจะต้องศึกษารายละเอียดดีๆอย่างรอบคอบเพราะบางเจ้าก็รับเฉพาะในกรณีที่จะต้องไม่มีภาระในการผ่อนแล้ว นั้นหมายความว่ารถยนต์จะต้องเป็นกรรมสิทธิ์ของเพื่อนๆแล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็มีไฟแนนซ์บางเจ้าที่รับรีไฟแนนซ์ในระหว่างที่กำลังผ่อนงวดรถอยู่ ฉะนั้นเพื่อนๆจะต้องดูเงื่อนไขในส่วนดีๆ และที่สำคัญค่าธรรมเนียมหรือดอกเบี้ยก็เป็นจริงที่สำคัญที่ควรจะต้องรู้ด้วยนะคะ และสำหรับใครที่ต้องการใช้เงินก้อน เงินด่วน นอกจากการนำรถยนต์มารีไฟแนนซ์แล้วยังมีสินเชื่ออื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล และอื่นๆอีกมากมาย ยังไงเพื่อนๆลองเข้าติดตามอ่านบทความน่ารู้เหล่านี้ได้ที่เว็บไซต์ imoney.in.th หรือติดตามทุกความเคลื่อนไหวที่ Facebook เพราะทุกเรื่องของการเงินเรามีคำตอบให้กับเพื่อนๆค่ะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์รถยนต์
รถยนต์ที่รีไฟแนนซ์ได้หรือไม่ได้ดูที่อะไร?
ส่วนใหญ่ลิสซิ่งจะรับรถได้ถึงประมาณ 16 ปีค่ะ หากรถเก่ากว่านี้ก็จะรีไฟแนนซ์รถยนต์ไม่ได้ หรือ ได้แต่ยอดน้อยมากๆ นอกจากนี้รถที่ไม่ใช่รถตลาดก็จะรีไฟแนนซ์ได้แค่ประมาณ 70% ของราคากลางค่ะ อ้อ! มีรถอีก 3 ประเภทที่ไม่รับเช่นกันก็คือ – รถแท็กซี่ที่ไม่ใช่เขียวเหลือง รถบรรทุกบางประเภท – รถที่เปลี่ยนเครื่องคนละกระกูลกัน อย่าง รถโตโยต้า ไปใส่เครื่อง คนละรุ่น หรือ รถฮอนด้าไปใส่เครื่องโตโยต้า อะไรแบบนี้ค่ะ – รถติดแก็ส NGV LPG PNG ที่ไม่ได้ติดมาจากโรงงาน หากจะให้รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดได้ต้องจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมในเล่มทะเบียนก่อนค่ะ
จะรีไฟแนนซ์ได้ต้องเข้าข่ายแบบไหน?
- ยอดค้างเก่าต้องน้อยกว่ายอดจัดใหม่ที่จัดได้
- ประวัติการผ่อนชำระต้องไม่ผิดปกติ เช่น ค้างค่างวดเกินกว่า 3 งวด หรือค้างสองงวดบ่อยๆ หากเป็นแบบนี้ทางลิสซิ่งจะลดยอดจัดลงประมาณ 5-10% ค่ะ
- ผู้ขอรีไฟแนนซ์ต้องมีรายได้อย่างน้อย 2.5 เท่าของยอดผ่อนค่ะ แต่ถ้าเป็นข้าราชการแค่ 2 เท่าก็ได้
ทางเลือกของการรีไฟแนนซ์รถ
เราสามารถเลือกรีไฟแนนซ์ได้ 3 แนวทางด้วยกันค่ะ นั่นคือ
- หากงวดผ่อนชำระเราเหลือน้อย อยู่ที่ประมาณ 8 งวดลงมา ทางลิสซิ่งเดิมจะรับรีไฟแนนซ์รถยนต์ให้โดยอัตโนมัติ ยิ่งหากเป็นลูกค้าชั้นดีด้วยยิ่งง่ายใหญ่
- หากไม่เข้าข่ายข้อแรก สามารถทำได้ด้วยตนเองโดยการหาเงินมาปิดบัญชีคงค้างและนำไปรีไฟแนนซ์ที่ใหม่
- หากไม่เข้าข่ายข้อแรก และ ไม่สะดวกที่จะนำเงินสดไปปิดบัญชีเอง รถผ่อนไม่หมดรีไฟแนนซ์ได้ไหม สามารถให้ คนกลาง หรือดีลเลอร์ของบริษัทลิสซิ่ง ปิดบัญชีนำเล่มไปรีไฟแนนซ์ได้ ซึ่งทางดีลเลอร์ก็จะคิดค่าธรรมเนียมปิดบัญชี และ ค่าธรรมเนียมการจัดไฟแนนซ์จากเราค่ะ
ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์รถ
ส่วนใหญ่ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจะมี 2 ฝั่งด้วยกันนั่นคือ ดีลเลอร์ และธนาคาร(ลิสซิ่ง) ในด้านดีลเลอร์ กรณียังผ่อนชำระอยู่กับลิสซิ่ง จะมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าปิดบัญชีที่คิดเป็นเปอร์เซ็น ขึ้นอยู่กับยอดปิดค่ะ และจะมีค่าธรรมเนียมในการจัดไฟแนนซ์ ค่าเดินทาง ค่าจัดการเอกสารเล่มทะเบียนอะไรแบบนี้
คุณสมบัติของผู้ขอรีไฟแนนซ์
- อายุ 20 – 70 ปี
- มีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท สำหรับกรุงเทพฯและปริมณฑล และรายได้ขั้นต่ำ 10,000 บาทสำหรับต่างจังหวัด (ควรมีรายได้อย่างน้อย 2 เท่าของยอดผ่อนชำระ )
- ต้องมีถิ่นพำนักในประเทศไทย
- หาผู้กู้ร่วมหากรายได้ไม่เพียงพอ
ปัญหาที่หลายคนอาจสงสัยเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์รถยนต์
หลายๆคนอาจกำลังมีคำถามใจใจ ซึ่งเราสามารถตอบได้ ดังนี้
- เงินเดือนน้อยสามารถรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้หรือไม่
ตอบ หากปัจจุบันเรามีเงินเดือนน้อยก็สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยการหาผู้กู้ร่วมค่ะ เพื่อที่จะได้นำเงินเดือนของทั้งสองคนรวมกันให้ดูมากขึ้น ซึ่งผู้กู้ร่วมได้แก่ พ่อ แม่ พี่ น้อง สามี ภรรยา หรือลูกค่ะ
- ติดในฐานข้อมูลหนี้ค้างชำระ รีไฟแนนซ์ได้ไหม?
ตอบ ติดในฐานข้อมูลหนี้ค้างชำระ ก็สามารถรีไฟแนนซ์ได้ค่ะ แต่ยอดจัดอาจน้อยอีกทั้งในการส่งค่าผ่อนรถปัจจุบันต้องปกติค่ะ
- เอกสารไม่ครบลิสซิ่งมีการอนุโลมได้ไหม?
ตอบ บางลาซิ่งอาจอนุโลมให้ค่ะ
4. พึ่งเปลี่ยนงานได้ไม่นานเท่าไร รีไฟแนนซ์ได้ไหม?
ตอบ หากเป็นบริษัทที่ ได้รับความน่าเชื่อถือเพียงพอก็สามารถรีไฟแนนซ์ได้ตามปกติค่ะ
- หากทำธุรกิจส่วนตัวโดนลดยอดจัดหรือไม่?
ตอบ ถึงจะไม่ได้มีเงินเดือนประจำก็ไม่โดนลดยอดจัดค่ะ
- หากทำงานราชการแต่เงินเดือนเหลือน้อย แบบนี้รีไฟแนนซ์ได้ตามปกติไหม?
ตอบ แบบนี้ทำได้ตามปกติค่ะ
- รีไฟแนนซ์ต้องใช้ผู้ค้ำประกันไหม?
ตอบ การรีไฟแนนซ์ไม่จำเป็นต้องใช้ผู้ค้ำประกันค่ะ
- รถยนต์โดนยึดแล้วรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้ไหม?
ตอบ พอจะมีทางอยู่บ้างค่ะ นั่นคือ
- ตรวจสอบราคากลางและยอดจัดไฟแนนซ์ หากรถของเรายังอยู่และยังค้างชำระอีกเพียงเล็กน้อย ยังสามารถจัดไฟแนนซ์ได้ในราคาสูง ด้วยการการนำบุคคลอื่นมาซื้อรถ ซึ่งก็จะทำให้เราได้ส่วนต่างตรงนี้ออกมา
- ติดต่อดีลเลอร์(เต็นท์รถ) เพื่อที่จะให้ประเมินราคารับซื้อ หากดีลเลอร์ ประเมินแล้วมีความเป็นไปได้ที่จะนำมาขายต่อภายหลัง ดีลเลอร์ก็จะไปปิดบัญชี ไถ่ถอนรถยึดให้ โดยมีค่าธรรมเนียมตามแต่จะตกลงกัน แบบนี้เราจะมีเวลาเพียงพอที่จะหาบุคคลอื่นมาซื้อรถคืนมาค่ะ หรือ นำมาจัดไฟแนนซ์รถใหม่ แต่ก็ควรเจรจาเรื่องค่าไถ่ถอนให้ชัดเจนก่อนจะดำเนินการนะคะ
มาถึงตรงนี้คงได้รับความกระจ่างมากขึ้นนะคะ…
ข้อชวนคิดในการรีไฟแนนซ์รถ
- ควรระวังให้มากกับการรีไฟแนนซ์รถแบบไม่โอนเล่ม เพราะถึงแม้ธนาคารจะแจ้งดอกเบี้ยรายเดือนให้เรารู้ ซึ่งดูเหมือนจะน้อย เช่น 0.55% ต่อเดือน แต่การผ่อนชำระแบบนี้จะเป็นแบบลดต้นลดดอก เหมือนกับดอกเบี้ยผ่อนบ้าน ที่เงินต้นจะลดเพียงเล็กน้อยส่วนมากจะเป็นดอกเบี้ยมากกว่า เมื่่อเปรียบเทียบกันแล้วก็จะเหมือนเป็นสินเชื่อบุคคลที่อัตราดอกเบี้ยแท้จริงอยู่ประมาณ 15-18% จึงแตกต่างกับการรีไฟแนนซ์รถแบบโอนเล่มอยู่พอสมควร
- พยายามอย่าให้รถถูกยึดโดยเด็ดขาด หากผ่อนชำระรถไม่ไหว ก็ให้พยายามดึงดันเอารถไว้โดยไม่ผ่อนชำระเกินกว่ากำหนด 3 เดือน เพราะหากรถโดนยึดแล้วจะสร้างปัญหาให้ในระยะยาว โดยเฉพาะเรื่องในฐานข้อมูลหนี้ค้างชำระ เพราะวันหนึ่งหากเรามีความสามารถทางการเงินแล้วอาจแก้เครดิตที่เสียไปยาก ดังนั้นรีไฟแนนซ์ได้ก็รีบจัดการค่ะ
ถึงจะดูหยุมหยิมต้องคิดเยอะ แถมเอกสารก็ต้องเตรียมมากมาย แต่หากโดยรวมสรุปว่าการ รีไฟแนนซ์รถยนต์คุ้มค่าก็สามารถทำได้และเป็นผลดีด้วย เพราะใครๆก็คงไม่อยากให้รถถูกยึดหรอกจริงไหมคะ ส่วนยอดเงินหากไม่มีความจำเป็นอะไรเร่งด่วนก็อย่าเอามาเลยค่ะ ตอนใช้หนี้เขามันทรมาน กว่าจะหมดได้ใจแทบขาดค่ะ
ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก Pixabay.com
ขอบคุณข้อมูลจาก : krungsri.com, ngerntidlor.com