หากนึกถึงเงินก้อนที่ใช้ได้โดยไม่ต้องเจาะจง หลายคนคงนึกถึงสินเชื่ออเนกประสงค์ วันนี้เราเลยจะมาพูดถึงสินเชื่ออเนกประสงค์ออมสิน ซึ่งเป็นสินเชื่อที่ตอบโจทย์ความต้องการเรื่องการเงินของทุกคนได้เป็นอย่างดี เพราะข้อดีของสินเชื่ออเนกประสงค์ก็คือสามารถนำเงินที่ได้มาไปใช้จ่ายได้ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายส่วนตัว หรือนำเงินไปลงทุน หรือจะไปใช้หนี้ได้ทั้งหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบกันเลย และสมัครก็ง่าย สมัครกันได้ทุกสายอาชีพอีกด้วย และวันนี้ที่เราจะมาแนะนำสินเชื่ออเนกประสงค์ของธนาคารออมสิน มีด้วยกันหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ มีทั้งที่ต้องใช้หลักประกันและไม่ต้องมีหลักประกันมาค้ำประกันในการขอสินเชื่อ อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคงจะเริ่มสนใจอยากสมัครสินเชื่อแล้วใช่ไหมคะ ถ้างั้นอย่ารอช้ากันเราไปอ่านรายละเอียด หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการสมัครสินเชื่อกันค่ะ ไปดูกันเลย
รวมผลิตภัณฑ์สินเชื่ออเนกประสงค์ออมสิน
ซึ่งสินเชื่ออเนกประสงค์ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ จะมีทั้งที่สมัครสินเชื่อโดยไม่ต้องมีคนค้ำหรือใช้หลักทรัพย์ในการค้ำประกัน และขอสินเชื่อแบบมีหลักประกัน แต่ละสินเชื่อจะมีความแตกต่างกันยังไง เดี๋ยวเราลองมาดูกันค่ะ
สินเชื่ออเนกประสงค์ แบบไม่ต้องมีคนค้ำหรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน
สินเชื่อบัตรเงินสด PRIMA CARD
เรามาเริ่มต้นสินเชื่ออเนกประสงค์กันที่ สินเชื่อบัตรเงินสด PRIMA CARD สินเชื่อที่มาในรูปบัตรกดเงินสดพร้อมใช้ได้ทุกเมื่อ จะเป็นในรูปแบบของสินเชื่อเงินหมุนเวียน คือ กดเงินมาใช้ จ่ายคืนให้ธนาคาร วงเงินก็กลับใช้ได้เหมือนเดิม จะหมุนเวียนแบบนี้ไปเรื่อยๆตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติ และสมัครก็ง่าย ไม่ต้องมีคนค้ำหรือใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันในการขอสินเชื่อ และที่สำคัญยังไม่กำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เงินอีกด้วย มาดูกันต่อกับรายละเอียดของสินเชื่อ
รายละเอียดและเงื่อนไขของสินเชื่อบัตรเงินสด PRIMA CARD
ใครที่สมัครสินเชื่อนี้ได้บ้าง
สมัครกันได้ทุกคนที่เป็นคนไทย และทุกสายอาชีพ โดยแต่ละอาชีพก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปสักเล็กน้อย ตามรายละเอียดด้านล่างนี้
- รายได้ประจำ >>>อายุ 20 – 60 ปี มีอายุงานไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- งานอิสระ >>> อายุ 20 – 60 ปี จะต้องทำอาชีพปัจจุบันไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- ทำธุรกิจส่วนตัว >>> อายุ 20 – 65 ปี ต้องดำเนินกิจการมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
วงเงินปล่อยกู้สินเชื่อ >>> สูงสุด 5 เท่าของรายได้ หรือไม่เกิน 1,500,000 บาท
ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม >>> คิดดอกเบี้ยตามจริง ใช้เงินไปเท่าไรก็คิดดอกเบี้ยเท่านั้น ซึ่งดอกเบี้ยสูงสุดจะไม่เกิน 28% ต่อปี
เงื่อนไขการจ่ายหนี้คืน >>> จ่ายได้ทั้งแบบขั้นต่ำ 5% ของยอดหนี้คงค้าง ซึ่งจะต้องไม่ต่ำกว่า 500 บาท หรือว่าจะเลือกจ่ายเต็มจำนวนเงินที่เรียกเก็บก็ได้ค่ะ แต่ถ้าจ่ายเต็มก็จะจ่ายดอกเบี้ยถูกกว่าการจ่ายเพียงแค่ขั้นต่ำค่ะ
เอกสารประกอบการสมัคร
สำหรับเอกสารสมัครจะแยกออกเป็น 2 ประเภท ฉะนั้นใครที่สนใจอยากสมัครก็จะต้องเตรียมเอกสารตามอาชีพของคุณนะคะ ตามรายละเอียดนี้ค่ะ
- ถ้ามีรายได้ประจำ เช่น พนักงานบริษัท ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ต้องเตรียมเอกสารตามนี้
- สำเนาบัตรประชาชน หรือจะเลือกใช้เป็นสำเนาบัตรข้าราชการก็ได้ แต่จะต้องแนบมาพร้อมกับสำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมเซ็นชื่อสำเนาถูกต้องมาให้เรียบร้อยนะคะ
- เอกสารด้านรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน/หนังสือรับรองเงินเดือน เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
- Statement ย้อนหลัง 3 เดือน และหน้า Book Bank ที่มีเลขที่บัญชีและชื่อ
- ถ้ามีอาชีพอิสระหรือเจ้าของกิจการ ต้องเตรียมเอกสารตามนี้
- สำเนาบัตรประชาชน
- เอกสารแสดงการดำเนินการของธุรกิจที่กำลังดำเนินกิจการอยู่ในปัจจุบัน
- เอกสารด้านรายได้ เช่น เอกสารแสดงการเสียภาษี เงินได้ หรือเอกสารอื่นๆ ซึ่งเอกสารนี้จะต้องย้อนหลัง 6 เดือน
- Statement ย้อนหลัง 3 เดือน และหน้า Book Bank ที่มีเลขที่บัญชีและชื่อคุณค่ะ
ช่องทางการจ่ายเงิน >>> จ่ายได้ทุกช่องทางของธนาคารออมสิน หรือเลือกจ่ายผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส ,เทสโก้ โลตัส และแคชเชียร์เซ็นเพย์ (CenPay)
สนใจสมัครสินเชื่อ
- สำหรับใครที่สนใจอยากสมัครเลือกได้เลยว่าจะสมัครสินเชื่อด้วยตัวเองที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ หรือจะเลือกสมัครผ่านทางออนไลน์ คลิกที่นี่ได้เลย https://www.gsb.or.th
สินเชื่อรายได้ประจำสุขใจ
อีกหนึ่งสินเชื่ออเนกประสงค์ที่สมัครได้โดยไม่ต้องใช้คนค้ำหรือหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อขอสินเชื่อ สมัครง่ายเพียงแค่คุณมีรายได้ประจำ ไม่ว่าจะทำงานที่บริษัทเอกชนหรือหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ก็สามารถยื่นสมัครสินเชื่อนี้ได้เลย โดยไม่กำหนดวัตถุประสงค์ในการกู้เงิน ทุกความจำเป็นของการใช้เงินสามารถไปนำเงินกู้ไปใช้ได้ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุน หรือใช้จ่ายหมุนเวียนในครอบครัว แม้กระทั่งใช้หนี้ก็ได้เช่นกัน ลองมาดูรายละเอียดกันค่ะ
รายละเอียดและเงื่อนไขของสินเชื่อรายได้ประจำสุขใจ
ใครที่สมัครสินเชื่อนี้ได้บ้าง
- สินเชื่อนี้จะกู้ได้เฉพาะคนที่มีรายได้ประจำเท่านั้น
- เป็นคนไทย ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 60 ปี เมื่อรวมกับอายุสัญญา
- กรณีทำงานในหน่วยของรัฐ ต้องมีอายุในการทำงานไม่น้อยกว่า 1 ปี
- กรณีที่ทำงานในบริษัทเอกชน ต้องมีอายุในการทำงานไม่น้อยกว่า 2 ปี
- มีที่อยู่ที่แน่นอน สามารถติอต่อได้เพื่อให้ทางธนาคารติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
- ยื่นกู้สินเชื่อกับธนาคารออมสินสาขาไหน ก็ต้องเปิดบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกที่สาขานั้น
- ต้องไม่เป็นพนักงานของธนาคารออมสิน
วงเงินปล่อยกู้สินเชื่อ >>> ให้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
เงื่อนไขการจ่ายเงินคืน >>> หน่วยงานจะต้องเป็นผู้หักเงินจากเงินเดือนของคุณแล้วนำส่งให้กับธนาคาร
ดอกเบี้ยของสินเชื่อ >>> จะคิดดอกเบี้ยคงที่ตลอดทั้งสัญญา
- ถ้าหน่วยงานของคุณได้รับค่าตอบแทนจากธนาคาร ดอกเบี้ยก็จะเท่ากับร้อย 0.75 ต่อเดือน
- ถ้าหน่วยงานของคุณไม่ได้รับค่าตอบจากธนาคาร ดอกเบี้ยก็จะเท่ากับร้อย 0.70 ต่อเดือน
ระยะเวลาการผ่อน >>> ผ่อนได้นานสูงสุด 8 ปี โดยวงเงินจะเป็นตัวกำหนดระยะเวลาการผ่อน
- หากวงเงินอนุมัติให้ไม่เกิน 50,000 บาท ก็จะผ่อนได้เพียง 3 ปี
- หากวงเงินอนุมัติให้ไม่เกิน 100,000 บาท ก็จะผ่อนได้นาน 5 ปี
- หากวงเงินอนุมัติให้ไม่เกิน 200,000 บาท ก็จะผ่อนได้นาน 8 ปี
ช่องทางการจ่ายเงิน >>> ค่างวดที่จะต้องจ่ายเป็นรายเดือนนั้นจะถูกหักจากเงินเดือน โดยหน่วยงานจะเป็นคนหักเงินและส่งให้กับธนาคารเอง ฉะนั้นไม่ต้องกังวลเลยว่าจะลืมจ่ายค่ะ
สนใจสมัครสินเชื่อ
- ใครที่สนใจก็เข้าไปติดต่อกับธนาคารออมสินได้ทุกสาขาเลยค่ะ
แหละนี้ก็คือสินเชื่ออเนกประสงค์ที่สมัครง่าย เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีหลักประกันใดๆเลยที่จะมาค้ำประกันในการขอสินเชื่อ งั้นเรามาต่อกันที่สินเชื่อแบบต้องมีหลักประกันกันบ้าง
สินเชื่ออเนกประสงค์ แบบมีหลักประกันโดยเลือกให้คนค้ำประกันหรือใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
สินเชื่อไทรทองอเนกประสงค์
สินเชื่อไทรทองอเนกประสงค์ สินเชื่อที่ให้อิสระทางการเงิน สามารถนำเงินกู้ไปใช้ได้ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะไปลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว หรือไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ รวมไปถึงใครที่ต้องการนำเงินก้อนไปใช้หนี้ สินเชื่อนี้ก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ด้วยวงเงินที่ให้ก็สูง ผ่อนจ่ายเป็นรายเดือนได้นาน ดอกเบี้ยก็ต่ำ งั้นมาเจาะลึกกับรายละเอียดของสินเชื่อกันค่ะ
รายละเอียดและเงื่อนไขของสินเชื่อไทรทองอเนกประสงค์
ใครที่สมัครสินเชื่อนี้ได้บ้าง
- มีอาชีพและรายได้ที่แน่นอน
- ต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ และต้องไม่เกิน 60 ปี เมื่อรวมกับระยะเวลาในการผ่อนสินเชื่อ
วงเงินปล่อยกู้สินเชื่อ >>> ให้วงเงินตามหลักประกันที่นำมาค้ำประกัน ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะใช้คนค้ำประกัน หรือว่าจะนำหลักทรัพย์มาค้ำประกันก็ได้ โดยวงเงินที่อนุมัติให้ก็ค่อนข้างจะแตกต่างกัน ลองมาดูกันค่ะ
- ขอสินเชื่อโดยมีคนค้ำประกัน จะได้วงเงินสูงสุด 300,000 บาท
- ขอสินเชื่อโดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน จะได้วงเงินสูงสุด 5,000,000 บาท นี้คือวงเงินสูงสุด แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้เท่ากันทุกคน เพราะจะต้องขึ้นอยู่กับประเภทของหลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกันอีกด้วย
- ถ้านำบ้านพร้อมที่ดินมาเป็นหลักประกัน วงเงินที่ได้ก็ไม่เกิน 90% ของราคาประเมิน
- ถ้านำคอนโดมิเนียมมาเป็นหลักประกัน วงเงินที่ได้ก็ไม่เกิน 85% ของราคาประเมิน
- ถ้านำที่ดินเปล่าเป็นหลักประกัน วงเงินที่ได้ก็ไม่เกิน 80% ของราคาประเมิน
ตัวอย่างเช่น นาย M ยื่นกู้สินเชื่อโดยนำบ้านมาค้ำประกัน ราคาที่ประเมินจะอยู่ที่ 6 ล้านบาท แต่วงเงินที่นาย M จะได้รับสูงสุดจะไม่เกิน 5 ล้านบาท ตามเพดานของสินเชื่อที่กำหนดไว้ ส่วนหลักทรัพย์อื่นๆก็ลดหลั่นกันไป ฉะนั้นแม้ว่าหลักทรัพย์จะมีมูลค่าสูงกว่าวงเงินสูงสุดที่ธนาคารกำหนด คุณก็จะได้รับเงินไม่เกินวงเงินที่ธนาคารกำหนดค่ะ
ดอกเบี้ยสินเชื่อ >>> ดอกเบี้ยจะสูงหรือต่ำนั้นก็จะขึ้นอยู่กับหลักประกันที่นำมาค้ำประกันในการขอสินเชื่อ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- ขอสินเชื่อโดยให้คนค้ำประกัน ดอกเบี้ยจะเท่ากับร้อยละ MRR + 1.75 ต่อปี
- ขอสินเชื่อโดยใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ดอกเบี้ยจะเท่ากับร้อยละ MRR ต่อปี
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยจะอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ย MRR ซึ่งมีปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ ดังนั้น ถ้าจะกู้ก็อย่าลืมตรวจเช็คอัตราดอกเบี้ยของ MRR กันด้วยนะคะ อีกอย่างอัตราดอกเบี้ย MRR ของแต่ละธนาคารก็ไม่เท่ากัน ซึ่งปัจจุบันดอกเบี้ย MRR = 6.370 ต่อปี (ประกาศเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563)
ระยะเวลาการผ่อนจ่ายคืน >>> ผ่อนจ่ายได้นานสูงสุด 25 ปี แต่ก็จะต้องขึ้นอยู่กับวงเงินกู้ที่ได้รับอนุมัติด้วยเช่นกัน
- วงเงินกู้อนุมัติให้ไม่เกิน 300,000 บาท ก็จะมีระยะเวลาการผ่อนจ่ายได้ไม่เกิน 7 ปี
- วงเงินกู้อนุมัติให้ตั้งแต่ 300,000 บาท ก็จะมีระยะเวลาการผ่อนได้นานถึง 25 ปี
หลักประกันที่ใช้ในการขอสินเชื่อ >>> การยื่นขอกู้สินเชื่อนี้จะมีหลักประกันมาค้ำประกัน ไม่เช่นกันก็จะไม่สามารถยื่นกู้ได้ ซึ่งหลักประกันที่ธนาคารกำหนดไว้ก็จะมีด้วยกัน 2 ประเภท คือ บุคคล และ หลักทรัพย์ โดยจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป
- กรณีที่เลือกให้บุคคลค้ำประกัน บุคคลนั้นจะต้องมีคุณสมบัติตามนี้
- มีคนค้ำประกันได้มากกว่า 1 คน
- อายุ 25 – 60 ปี (เมื่อรวมอายุกับระยะเวลาในการผ่อน)
- มีบ้านที่อยู่อาศัยที่แน่นอน สามารถติดต่อได้
- รายได้ของคนค้ำประกัน จะขึ้นอยู่กับอาชีพ ดังนี้
- ถ้าคนค้ำรับราชการ ต้องมีเงินเดือน 18,000 บาทขึ้นไป
- ถ้าคนค้ำเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานองค์กรของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ หรือพนักงานของหน่วยงานภาครัฐ ต้องมีเงินเดือน 25,000 บาทขึ้นไป
- ถ้าคนค้ำเป็นพนักงานออฟฟิศบริษัทเอกชน ต้องมีเงินเดือน 30,000 บาทขึ้นไป
- ถ้าคนค้ำทำงานอิสระ ต้องมีเงินเดือน 30,000 บาทขึ้นไป
- กรณีที่เลือกใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งจะต้องตั้งอยู่ในแหล่งชุมชนที่มีความเจริญ ซึ่งหลักประกันนั้นจะเป็นของคุณหรือคนอื่นก็ได้ถ้าเขายินยอมให้คุณนำมาค้ำประกันกับธนาคาร
เอกสารประกอบการสมัคร
- สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาบัตรข้าราชการ (ถ้ามีคนค้ำประกันก็ให้แนบมาด้วย)
- สำเนาทะเบียนบ้าน เฉพาะในกรณีที่ใช้เป็นสำเนาบัตรข้าราชการ (ถ้ามีคนค้ำประกันก็ให้แนบมาด้วย)
- เอกสารแสดงรายได้ เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน หรือสลิปเงินเดือน
- เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ของหลักประกัน (กรณีที่เลือกใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน)
สินเชื่อสวัสดิการ
เป็นสินเชื่อที่ให้กู้ได้เฉพาะกลุ่ม ซึ่งกลุ่มนั้นก็คือ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานข้าราชการ เพื่อเป็นสวัสดิการด้านการเงิน สำหรับใครที่ต้องการใช้เงินก้อน เพื่อไปใช้จ่ายตามที่ต้องการ หรือจะไปใช้หนี้ก็ได้ตามแต่สะดวก ด้วยวงเงินกู้ที่ให้ก็สูงถึง 5 ล้านบาท และยังผ่อนจ่ายเป็นรายเดือนได้นานถึง 20 ปีอีกด้วย แต่ถ้าจะขอกู้นั้นก็จะต้องมีคนค้ำประกันหรือไม่ก็ต้องมีหลักทรัพย์ในการที่จะนำมาค้ำประกันกับธนาคารนะคะ
รายละเอียดและเงื่อนไขของสินเชื่อสวัสดิการ
ใครที่สมัครสินเชื่อนี้ได้บ้าง
- สินเชื่อเฉพาะกลุ่ม จึงยื่นกู้ได้เฉพาะคนที่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจเท่านั้น
- ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป โดยจะผ่อนจ่ายได้จนถึงอายุ 60 ปี แต่ถ้าเป็นข้าราชการอัยการและข้าราชการตุลาการ ก็สามารถผ่อนได้จนถึงอายุ 70 ปี
- ต้องมีบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกของธนาคารออมสิน
วงเงินปล่อยกู้สินเชื่อ >>> เหมือนกับสินเชื่อไทรทองอเนกประสงค์เลย ที่วงเงินจะขึ้นอยู่กับหลักประกันที่เลือกใช้ในการขอสินเชื่อ ตามนี้เลย
- ถ้าขอสินเชื่อโดยให้มีคนค้ำประกัน
- กรณีที่หน่วยงานของคุณไม่ได้ทำ MOU กับธนาคาร จะได้เงินกู้สูงสุด 30 เท่าของรายได้
- กรณีที่หน่วยงานของคุณทำ MOU กับธนาคาร จะได้เงินกู้สูงสุด 40 เท่าของรายได้
- ถ้าขอสินเชื่อโดยใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน จะได้วงเงินกู้สูงสุด 5,000,000 บาท จะพิจารณาจากหลักทรัพย์ที่นำมาค้ำด้วยนะคะ
ดอกเบี้ยสินเชื่อ >>> คิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก โดยอ้างอิงดอกเบี้ย MRR ซึ่งจะคิดดอกเบี้ยไปตามหลักประกัน ดังนี้
- ขอสินเชื่อโดยมีคนค้ำประกัน ดอกเบี้ยเท่ากับร้อยละ MRR + 1.75 ต่อปี
- ขอสินเชื่อโดยไม่มีคนค้ำประกัน ดอกเบี้ยเท่ากับร้อยละ MRR + 1.00 ต่อปี
- ขอสินเชื่อโดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ดอกเบี้ยเท่ากับร้อยละ MRR – 0.75 ต่อปี
ทั้งนี้ ปัจจุบันดอกเบี้ย MRR – 6.370 ต่อปี ประกาศ ณ วันที่ 26 มีนาคม 2563
ระยะเวลาการผ่อนจ่ายคืน >>> ผ่อนจ่ายเป็นรายเดือนได้สบายนานถึง 15 – 20 ปี ซึ่งจะขึ้นอยู่กับหลักประกันที่นำมาหลักค้ำประกันในการขอสินเชื่อ
- ขอสินเชื่อโดยมีคนค้ำประกัน จะผ่อนจ่ายได้ไม่เกิน 15 ปี
- ขอสินเชื่อโดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน จะผ่อนจ่ายได้ไม่เกิน 20 ปี
หลักประกันที่ใช้ในการขอสินเชื่อ >>> หลักประกันที่ใช้ได้ในการขอสินเชื่อนั้นก็คือเลือกให้มีคนค้ำประกัน หรือว่าจะเลือกใช้เป็นหลักทรัพย์ โดยแต่ละหลักประกันนั้นก็จะต้องเงื่อนไขที่กำหนดไม่เหมือนกัน ดูรายละเอียดได้ตามนี้
- ขอสินเชื่อโดยมีคนค้ำประกัน โดยที่คนค้ำประกันจะต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนด
- คนค้ำประกันกับคนยื่นกู้ จะต้องทำงานที่เดียวกัน
- โดยที่คนค้ำจะต้องเป็นข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ
- แต่ถ้าคนค้ำเป็นพนักงานราชการ จะต้องมีอายุสัญญาจ้างงานที่เหลือไม่เกินและระยะเวลาการผ่อนของคุณ
- อายุผู้ค้ำ 20 – 60 ปี แต่ถ้าผู้ค้ำเป็นข้าราชการอัยการ และข้าราชการตุลาการ สามารถค้ำประกันได้จนถึงอายุ 70 ปี
- โดยที่คนค้ำจะต้องมีอายุในการทำงานไม่น้อยกว่า 3 ปี แต่ถ้าคนค้ำมีอายุน้อยกว่า 3 ปี ก็จะต้องใช้คนค้ำที่ทำงานมาอย่างน้อย 1 ปี จำนวน 2 คน
- ขอสินเชื่อโดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เลือกใช้ได้ทั้งที่เป็น ที่ดินเปล่า บ้านพร้อมที่ดิน หรือคอนโดมิเนียม ซึ่งจะต้องเป็นทรัพย์สินของตัวคุณหรือคนอื่นที่เขายินยอมให้นำมาค้ำประกัน
จากที่ดูคุณสมบัติและเงื่อนไขการสมัครเรียบร้อยแล้ว ถ้าสนใจอยากสมัครสินเชื่อนี้ ก็ต้องมาจัดเตรียมเอกสารเพื่อที่จะใช้ในการสมัครให้เรียบร้อย โดยที่เอกสารจะมีทั้งในส่วนที่เป็นของตัวเราเอง ถ้ามีคนค้ำก็ต้องแนบมาด้วย หรือถ้าใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ก็ต้องใช้เอกสารแสดงสิทธิ์ของหลักทรัพย์นั้นมาด้วยเช่นกันค่ะ ซึ่งเอกสารทุกแผ่นจะต้องเซ็นชื่อให้เรียบร้อยนะคะ
เอกสารประกอบการสมัคร
- สำเนาบัตรประชาชนหรือใช้บัตรของหน่วยงาน เช่น บัตรข้าราชาร บัตรรัฐวิสาหกิจ (ถ้ามีคนค้ำประกันก็ให้แนบมาด้วย)
- สำเนาทะเบียนบ้าน (ถ้ามีคนค้ำประกันก็ให้แนบมาด้วย)
- ถ้าแต่งงานแล้วโดยการจดทะเบียนสมรสจะต้องแนบเอกสาร ใบทะเบียนสมรส หรือถ้าหย่าร้าง ก็ต้องแนบสำเนาใบหย่า หรือถ้าคู่สมรสเสียชีวิต ก็ให้แนบสำเนาใบมรณะบัตรมาด้วย (ถ้ามีคนค้ำประกันก็ให้แนบมาด้วย)
- เอกสารด้านรายได้ เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน หรือสลิปเงินเดือน พร้อมด้วยสำเนาสมุดบัญชีเงินเดือน โดยจะต้องใช้ทั้งของตัวเราเองและของคนค้ำ
- หนังสือรับรองสถานการทำงาน เช่น หนังสือรับรองการเป็นข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรธุรกิจเอกชน โดยจะต้องใช้ทั้งของตัวเราเองและของคนค้ำ
- Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
เอกสารหลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกัน (เฉพาะคนที่ใช้หลักทรัพย์มาค้ำประกัน)
- สำเนาโฉนดที่ดินหรือกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม
- แผนที่ของที่ดินหรือบ้านหรือคอนโดมิเนียม
- ถ้ามีแบบแปลนหรือภาพถ่ายให้แนบมาด้วย
- ถ้ามีเอกสารที่กรมที่ดินได้ประเมินราคาก็ให้แนบมาด้วย
ช่องทางการสมัครสินเชื่อไทรทองอเนกประสงค์และสินเชื่อสวัสดิการ
- ใครที่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์ของทั้งสองสินเชื่อนี้ แล้วสนใจอยากสมัครก็จัดเตรียมเอกสารให้พร้อมแล้วไปติดต่อที่ธนาคารออมสินทุกสาขาได้เลยค่ะ
คราวนี้เรามาถึงสินเชื่ออเนกประสงค์ที่ยื่นกู้ได้โดยไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน แต่เลือกที่จะใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งหลักทรัพย์ค้ำประกันที่ว่านี้ ก็จะมีให้เลือก เช่น สลากออมสินพิเศษ สมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารออมสิ หรือถ้าจะเลือกนำบ้านมาค้ำประกันก็ได้เช่นกัน ลองมาดูกันสิว่าจะมีสินเชื่ออะไรบ้างที่น่าสนใจ
สินเชื่ออเนกประสงค์ แบบที่ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน แต่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
สินเชื่อชีวิตสุขสันต์
สินเชื่ออเนกประสงค์ที่ยื่นกู้ได้แม้ไม่มีคนค้ำประกัน เหมาะสำหรับลูกค้าของธนาคารออมสินที่มีสมุดบัญชีเงินฝากหรือสลากออมสินแต่ไม่อยากถอนเงินมาใช้ และช่วงนั้นก็มีความจำเป็นต้องการใช้เงินแบบด่วนๆ ก็นำสมุดบัญชีเงินฝากหรือสลากออมสินมาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อได้เลย สมัครง่าย ไม่ต้องดูรายได้ ไม่เช็คประวัติ ยื่นสมัครวันไหนก็รับเงินไปใช้ได้วันนั้นเลย สะดวก รวดเร็ว ทันใจ และที่สำคัญไม่กำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เงินอีกด้วย ถ้าสนใจก็มาอ่านรายละเอียดกันต่อได้เลยค่ะ
รายละเอียดและเงื่อนไขของสินเชื่อชีวิตสุขสันต์
ใครที่สมัครสินเชื่อนี้ได้บ้าง
- สมัครได้ทุกอาชีพ ไม่กำหนดรายได้ แต่ผู้สมัครจะต้องมีสลากออมสินพิเศษ หรือมีสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารออมสินนะคะ
- โดยผู้สมัครจะต้องบรรลุนิติภาวะแล้ว
- ต้องมีที่อยู่ที่แน่นอน ที่สามารถให้ติดต่อได้
- ต้องมีบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกกับสาขาที่ทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ
วงเงินปล่อยกู้สินเชื่อ >>> ให้วงเงินกู้ไม่เกิน 95% ของมูลค่าสลากออมสินพิเศษ หรือจำนวนเงินฝากที่มีอยู่ในบัญชี
ดอกเบี้ยสินเชื่อ >>> ดอกเบี้ยจะคิดตามหลักประกัน ซึ่งจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
- ถ้าเลือกใช้สมุดบัญชีเงินฝากค้ำประกัน ดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและบวกเพิ่มอีกร้อยละ 2 ต่อปี
- ถ้าเลือกใช้สลากออมสินพิเศษค้ำประกัน ดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่งวดของสลากออมสินพิเศษที่มี สามารถดูอัตราดอกเบี้ยได้เลยว่าของสลากออมสินที่มีอยู่นั้นงวดที่เท่าไร ก็ดูอัตราดอกเบี้ยของงวดนั้น https://www.gsb.or.th
ระยะเวลาการผ่อนจ่ายคืน >>> ถ้าเป็นการกู้ระยะยาว จะผ่อนได้นาน 10 ปี และถ้าเป็นเงินกู้เบิกเกินบัญชี จะเป็นสัญญาแบบปีต่อปี
หลักประกันที่ใช้ในการขอสินเชื่อ >>> สามารถเลือกใช้ได้ทั้งสลากออมสินพิเศษ หรือสมุดฝากเงินออมสิน หรือสมุดฝากเงินออมสินประเภทที่มีบัญชีคู่โอน และสมุดฝากเงินออมสินประเภทเผื่อเรียก (บัญชีคู่โอน) นำอย่างใดอย่างหนึ่งมาค้ำประกันได้เลยค่ะ
เงื่อนไขการยื่นขอสินเชื่อ >>> สำหรับการขอสินเชื่อนั้น คุณจะต้องไปทำเรื่องขอกู้กับธนาคารออมสินที่สาขาที่ได้ซื้อสลากออมสินพิเศษไว้ หรือมีบัญชีเงินฝาก และถ้าใครที่นำสลากออมสินพิเศษมาเป็นค้ำประกันนั้น สามารถนำสลากออมสินมารวมกันได้ เพื่อที่จะได้วงเงินตามที่ต้องการ แต่การขอกู้แต่ละครั้งจะต้องไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท หรือถ้าสลากออมสินมีมูลค่ามากกว่าวงเงินที่ต้องการใช้ ธนาคารก็จะตัดทอนให้เลือกครอบคลุมวงวงเงินที่ขอกู้ให้ค่ะ
เอกสารประกอบการสมัคร
- บัตรประชาชน
- สลากออมสินพิเศษ หรือ สมุดบัญชีเงินฝาก
สินเชื่อออมสุขใจ
เรามาต่อกันด้วยสินเชื่อออมสุขใจที่ช่วยเพิ่มความสุขให้กับลูกค้าออมสินที่มีการออมเงินอย่างสม่ำเสมอ ยามที่เดือดร้อนต้องการใช้เงินไปลงทุนเพื่อทำมาหากิน หรือจะไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงใช้หนี้ก็สามารถกู้สินเชื่อนี้ได้ ด้วยวงเงินที่ให้สูงถึง 5 เท่าของเงินออมที่มีอยู่ในบัญชีในวันที่ยื่นขอสินเชื่อ แถมดอกเบี้ยก็ถูกมากๆเพียงแค่ร้อยละ 1 ต่อเดือนเท่านั้น และยังให้ผ่อนจ่ายเป็นรายเดือนได้สบายอีกด้วย
รายละเอียดและเงื่อนไขของสินเชื่อออมสุขใจ
ใครที่สมัครสินเชื่อนี้ได้บ้าง
- ยื่นกู้กันได้ทุกสายอาชีพ ทั้งคนที่มีรายได้ประจำ หรือทำธุรกิจส่วนตัว หรือคนว่างงาน แต่อยากทำงานด้านการค้าขาย บริการ เป็นต้น
- เป็นคนไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป และผ่อนจ่ายได้ไม่เกินอายุ 60 ปี
- ต้องมีที่อยู่ที่แน่นอน โดยที่สามารถติดต่อได้
- ที่ผ่านมาต้องมีประวัติการออมเงินอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการออมเงินรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน
- ต้องไม่เป็นพนักงานธนาคารออมสิน
วงเงินปล่อยกู้สินเชื่อ >>> ให้วงเงินกู้สูงสุด 5 เท่าของเงินออม แต่ก็จะให้ไม่เกิน 200,000 บาท ทั้งนี้ก็จะต้องขึ้นอยู่ระยะเวลาในการฝากเงินของคุณด้วย ซึ่งจะแบ่งออกเป็นการฝากแบบรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน ดังนี้
- ถ้าฝากเงินเป็นรายวัน ต้องฝากไม่น้อยกว่า 3 เดือน วงเงินที่กู้ได้สูงสุด 50,000 บาท
- ถ้าฝากเงินเป็นรายสัปดาห์ ต้องฝากไม่น้อยกว่า 6 เดือน วงเงินที่กู้ได้สูงสุด 100,000 บาท
- ถ้าฝากเงินเป็นรายเดือน ต้องฝากไม่น้อยกว่า 10 เดือน วงเงินที่กู้ได้สูงสุด 200,000 บาท
ดอกเบี้ยสินเชื่อ >>> คิดดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 1 ต่อเดือนเท่านั้นค่ะ
ระยะเวลาการผ่อนจ่ายคืน >>> จ่ายคืนเป็นรายเดือน โดยยอดการผ่อนแต่ละเดือนจะเท่ากันทุกเดือน สามารถผ่อนได้นานสูงสุดไม่เกิน 8 ปี
หลักประกันที่ใช้ในการขอสินเชื่อ >>> สมุดบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียก
เอกสารประกอบการสมัคร
- บัตรประชาชน
- สมุดบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียก
- เอกสารอื่นๆที่ธนาคารกำหนดตามเงื่อนไข
ช่องทางการสมัครสินเชื่อชีวิตสุขสันต์และสินเชื่อออมสุขใจ
- สำหรับใครที่สนใจอยากสมัครทั้งสองสินเชื่อนี้ก็จะต้องไปติดต่อธนาคารออมสิน ณ สาขาที่ซื้อสลากออมสินไว้ หรือว่าจะเป็นสาขาที่มีบัญชีเงินฝากอยู่ค่ะ หรือถ้าใครมีข้อสงสัยต้องการสอบถามเพิ่มเติมก็โทรถามได้ที่ Call Center 1115 ได้เลยค่ะ
สินเชื่อออมสินบ้านแลกเงิน
อีกหนึ่งสินเชื่อที่น่าสนใจสำหรับการขอกู้สินเชื่ออเนกประสงค์นั่นก็คือ สินเชื่อออมสินบ้านแลกเงิน ที่จะเปลี่ยนบ้านให้เป็นเงินทุนหมุนเวียนไว้ใช้จ่ายในครอบครัว หรือใครที่กำลังต้องการใช้เงินก้อนเพื่อไปปิดหนี้บัตรเครดิต ไปใช้หนี้ต่างๆ หรือจะไปใช้ในชีวิตประจำวันก็สามารถยื่นกู้สินเชื่อได้ เพียงแค่นำบ้านหรือคอนโดที่ปลอดภาระภาระหนี้มายื่นกู้ ก็พร้อมรับเงินไปใช้สอยได้ตามอัธยาศัยกันเลยค่ะ ใครที่สนใจลองมาดูรายละเอียดกันได้เลยค่ะ
รายละเอียดและเงื่อนไขของสินเชื่อออมสินบ้านแลกเงิน
ใครที่สมัครสินเชื่อนี้ได้บ้าง
- อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป และเมื่อรวมอายุกับระยะเวลาการผ่อนแล้วจะต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี
- จะต้องมีทำงานที่มั่นคงและมีรายได้ที่แน่นอน
วงเงินปล่อยกู้สินเชื่อ >>> การอนุมัติวงเงินกู้นั้นจะขึ้นอยู่กับประเภทของวงเงินที่กู้กับประเภทของหลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกัน
- ถ้าเป็นการขอกู้เงินระยะยาว วงเงินที่จะไม่เกิน 10,000,000 บาท ซึ่งธนาคารจะประเมินจากหลักประกัน ดังนี้
- ถ้าหลักประกันเป็นบ้านพร้อมที่ดิน วงเงินกู้ให้สูงสุดไม่เกินร้อยละ 90 ของราคาประเมิน
- ถ้าหลักประกันเป็นคอนโดมิเนียม วงเงินกู้ให้สูงสุดไม่เกินร้อยละ 85 ของราคาประเมิน
- ถ้าเป็นการขอกู้เงินแบบผสม ระหว่างการกู้เงินระยะยาวกับกู้เบิกเงินเกินบัญชี จะได้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 10,000,000 บาท และจะต้องไม่เกินร้อยละ 80 ของราคาประเมินของหลักทรัพย์ โดยธนาคารจะพิจารณาแล้วแยกการอนุมัติวงเงินตามประเภทของการกู้เงิน
- หลักประกันทุกประเภท วงเงินกู้ให้สูงสุดไม่เกินร้อยละ 50 ของราคาประเมิน
- ถ้าเป็นการกู้เบิกเงินเกินบัญชี วงเงินกู้ให้สูงสุดไม่เกิน 1,000,000 บาท
ดอกเบี้ยสินเชื่อ >>> ดอกเบี้ยก็จะคิดแบบลดต้นลดดอก ซึ่งจะคิดดอกเบี้ยตามประเภทของเงินกู้ โดยจะอ้างอิงจากอัตราดอกเบี้ย MRR = 6.370 ต่อปี และ MOR = 6.245 ต่อปี (ประกาศ ณ วันที่ 26 มีนาคม 2563)
- ถ้าเป็นเงินกู้ในระยะยาว
- สัญญาปีที่ 1 – 2 ดอกเบี้ยจะเท่ากับร้อยละ MRR – 1.50 ต่อปี
- ตั้งแต่สัญญาปีที่ 3 ดอกเบี้ยจะเท่ากับร้อยละ MRR – 0.50 ต่อปี
- ถ้าเป็นเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี
- ดอกเบี้ยจะอยู่ในอัตราเดียวกันตลอดทั้งสัญญาจะเท่ากับร้อยละ MOR + 1.00 ต่อปี
ระยะเวลาการผ่อนจ่ายคืน >>> ผ่อนจ่ายได้นานสูงสุด 25 ปี แต่ถ้าเป็นวงเงินที่กู้เบิกเงินเกินบัญชีนั้น จะทบทวนวงเงินทุกปีค่ะ
หลักประกันที่ใช้ในการขอสินเชื่อ >>> บ้านพร้อมที่ดินหรือคอนโดมิเนียม โดยที่จะต้องตั้งอยู่ในแหล่งชุมชนที่มีความเจริญ
เอกสารประกอบการสมัคร
- สำเนาบัตรประชาชน
- เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หรือ หนังสือรับรองเงินเดือน
- Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
- เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ของบ้านหรือคอนโด
ช่องทางการสมัครสินเชื่อออมสินบ้านแลกเงิน
- สามารถไปยื่นสมัครขอสินเชื่อได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศที่ใกล้บ้าน หรือสาขาที่สะดวก หรือจะโทรไปสอบถามข้อมูลกับทาง Call Center 1115 ก่อนก็ได้เช่นกันค่ะ
แหละทั้งหมดนี้ก็คือ 7 สินเชื่ออเนกประสงค์ออมสิน ที่เรารวบรวมมามาฝากกันในวันนี้ ซึ่งสินเชื่อแต่ละตัวนั้นก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป แต่ทุกสินเชื่อมีปลายทางเดียวกันก็คือ เงินที่กู้มาแล้วสามารถนำไปใช้จ่ายได้ตามอัธยาศัยที่ต้องการโดยไม่กำหนดหรือเจาะจงวัตถุประสงค์การใช้เงิน ใครสนใจสินเชื่อก็ไปยื่นเอกสารสมัครที่ธนาคารกันได้เลยค่ะ หรือถ้าอยากลองมองหาสินเชื่ออเนกประสงค์ของสถาบันการเงินอื่นเพื่อมาเปรียบเทียบล่ะก็ เข้ามาค้นหาอ่านบทความได้ที่ iMoney.in.th ได้เลย เราได้รวบรวมไว้มากมายหลายสถาบันการเงิน และถ้าบทความนี้เป็นประโยชน์สำหรับคุณแล้วอยากส่งต่อให้กับเพื่อนคนอื่นก็กด Share ได้เลยค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจากธนาคารออมสิน
สินเชื่อบัตรเงินสด PRIMA CARD https://www.gsb.or.th/products/cards/PrimaPeopleCard/PrimaCard.aspx
สินเชื่อรายได้ประจำสุขใจ https://www.gsb.or.th/personal/products/loan/government/GSBHappyIncome.aspx
สินเชื่อไทรทองอเนกประสงค์ https://www.gsb.or.th/personal/products/loan/person/saitong.aspx
สินเชื่อสวัสดิการ https://www.gsb.or.th/personal/products/loan/person/welfare.aspx
สินเชื่อชีวิตสุขสันต์ https://www.gsb.or.th/personal/products/loan/person/life.aspx
สินเชื่อออมสุขใจ https://www.gsb.or.th/personal/products/loan/government/GSBLoanHappySavings.aspx
สินเชื่อออมสินบ้านแลกเงิน https://www.gsb.or.th/personal/products/loan/person/mortgage-money.aspx
สินเชื่อส่วนบุคคลออมสินรูปแบบอื่นๆ
สินเชื่อธนาคารออมสินมนุษย์เงินเดือน
สินเชื่อธนาคารออมสินปลดหนี้นอกระบบ
ธนาคารออมสินสินเชื่อประชารัฐ
สินเชื่อออมสินสำหรับแม่ค้า
สินเชื่อปิดบัตรเครดิตธนาคารออมสิน
สินเชื่อออมสินไม่ต้องมีคนค้ํา
สินเชื่อธนาคารออมสินไม่มีหลักทรัพย์
สินเชื่อคนพิการธนาคารออมสิน
สินเชื่ออเนกประสงค์ออมสิน
สินเชื่อต่อเติมบ้านออมสิน