สวัสดีครับทุกท่าน หลังจากที่รัฐบาลที่น่ารักของเรามีโครงการบัตรทองมาให้เราใช้หลายปี หลายๆคนคงจะสงสัยว่าวิธีเช็คสิทธิ์บัตรทองด้วยเลขบัตรประชาชนของเราทำยังไงได้บ้าง วันนี้ทีมงาน iMoney ขออาสาพาทุกท่านไปหาวิธีในการตรวจสอบสิทธิ์การรักษาด้วยบัตรทองของทุกคน ว่าเราจะทำยังไง ใช้สิทธ์รักษาอะไรได้บ้าง และต้องไปใช้บริการที่โรงพยาบาลไหน เดี๋ยวไปดูกันเลยครับ
1. เช็คสิทธิ์บัตรทองด้วยเลขบัตรประชาชน บนเว็บไซต์ของ สปสช
วิธีแรกเป็นการเช็คสิทธิ์ที่ง่ายและสะดวกที่สุดเลยครับ เพียงแค่เข้าไปที่เว็บไซต์ของ สปสช. และเข้าไปเมนูตรวจสอบสิทธิ์ด้วยตัวเอง กรอกข้อมูล และเราก็จะสามารถทราบได้ว่ารายละเอียดสิทธิ์ในการรักษาของเรามีรายละเอียดอะไรบ้าง สำหรับท่านที่ยังไม่เห็นภาพ
1. เข้าไปที่เว็บไซต์ของ สปสช
อันดับแรกแน่นนอนครับ เข้าไปที่เว็บไซต์ของ สปสช ก่อนครับ (ลิงค์ : https://www.nhso.go.th/frontend/index.aspx ) หลักจากเข้ามาแล้วจะเจอเมนูอำนวยความสะดวกต่างๆ เยอะแยะเลยครับ แต่เราจะเข้ามาเพื่อเช็คสิทธิ์บัตรทองของเราใช่ไหมครับ งั้นไปดูข้อต่อไปกันเลย
2. เลือกเมนู “ตรวจสอบสิทธิหลักประกันสุขภาพ”
หลังจากเข้ามาที่เว็บไซต์แล้วก็เลื่อนลงมาด้านล่างจะเจอกับเมนูต่างๆของเว็บไซต์ สปสช. ครับ และให้เราเลือกที่เมนู “ตรวจสอบสิทธิหลักประกันสุขภาพ” ก็คือการคลิกไปที่ ไอคอนตามรูปด้านล่างนี้ได้เลยครับ
3. กรอกข้อมูลเพื่อเช็คสิทธิ์บัตรทองด้วยเลขบัตรประชาชน
ขั้นตอนถัดไปคือการกรอกข้อมูล เลขบัตรประจำตัวประชาชน วัน-เดือน-ปีเกิด และใส่ตัวอักษรตามที่เว็บไซต์บอกให้ครบ แล้วกดตกลงได้เลยครับ
4. ได้รับรายละเอียดสิทธิ์บัตรทอง หรือสิทธิ์การรักษาอื่นๆ
ในที่สุดเราก็จะพบกับเพียงเท่านี้เราก็จะพบกับรายละเอียดข้อมูลสิทธิ์รักษาต่าง ๆ ของเราครับ ต้องขอบคุณ สปสช. ที่ทำเว็บไซต์ให้เราใช้งานได้สะดวกสบายจริงๆ
2. เช็คสิทธิ์บัตรทองผ่าน Mobile Application ของ สปสช.
สำหรับคนที่ไม่ชินในการเข้าไปที่เว็บไซต์ และสะดวกในการใช้งาน App บนมือถือมากกว่า ทาง สปสช. ของเราก็น่ารักอีกเช่นเคย ได้ทำ Application บนมือถือมาให้ทุกท่านได้ตรวจสอบสิทธิ์การรักษาอีก 1 ช่องทางด้วยครับ วิธีการก็ง่ายๆ เพียงแค่เพื่อน ๆ ใช้โทรศัพท์มือถือของท่าน (ต้องเป็น smart phone iOS หรือ android เท่านั้น ) เข้าไปที่ App store (ของ iPhone) หรือจะเป็น Play Store (ของ Android) แล้วค้นหา App ที่ชื่อว่า สปสช. และ Download เข้ามาใช้งานบนโทรศัพท์มือถือของทุกท่านได้เลย ส่วนขั้นตอนการใช้งานดูด้านล่างนี้นะครับ
1. เข้าไปที่ App สปสช.
สำหรับใครที่ Download เสร็จแล้ว ก็เข้ามาที่ Application สปสช ได้เลยครับ
2. login เข้าระบบของ สปสช.
เข้ามาก็จะเจอหน้า login เข้าระบบของ สปสช. ครับ แต่เราจะเอาข้อมูลการเข้าระบบจากที่ไหน ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวเราจะพาไปตรวจสอบ และสมัครกันครับ
3. ตรวจสอบหรือลงทะเบียนเข้าระบบของ สปสช.
เชื่อว่าส่วนใหญ่จะไม่แน่ใจว่ามีบัญชีใน สปสช. หรือไม่ใช่ไหมครับ ทาง สปสช. เค้าคิดมาแล้วครับ ว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้ามาแล้ว งงแน่ๆ เลยจะมีขั้นตอนให้ตรวจสอบ ด้วยการเช็คผ่านหมายเลขบัตรประชาชนครับ แล้ว App ก็จะบอกว่าเรามีข้อมูลในระบบหรือยัง ถ้ามีแล้วก็จะสามารถ login เข้าไปได้เลย หรือถ้ายังไม่มีเค้าก็จะให้เรากรอกข้อมูลนิดหน่อยเพื่อลงทะเบียนได้เลยครับ
4. App โชว์รายละเอียดสิทธิ์บัตรทองหรือสิทธิ์การรักษาอื่นของเรา
หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนต่างๆ App ก็จะโชวร์รายละเอียดสิทธิ์การรักษาของเราขึ้นมาครับ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิ์บัตรทอง หรือสิทธิ์อื่นๆ ตัวแอพก็จะบอกเราทั้งหมด แล้วหลังจาก login ครั้งแรกแล้ว ถ้าเราลืมหรืออยากเช็คอีกรอบ ก็ไม่ต้อง login ซ้ำนะครับ ตัว App จะจำข้อมูลของเราไว้และสามารถเข้ามาตรวจสอบได้เลย
5. ความสามารถอื่นๆ นอกจากเช็คสิทธิ์ของตัวเอง
นอกจากการเช็คสิทธิ์บัตรทองผ่าน App นี้แล้ว แอพนี้สามารถทำอย่างอื่นได้อีกเยอะแยะเลยครับ ยังไงฝากทุกท่านไปลองเล่นแล้วมา comment บอกกันบ้างนะครับ
3. เช็คสิทธิ์บัตรทองด้วยตัวเองที่โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน
ท่านสามารถเข้าไปที่โรงพยาบาล สถานพยาบาล สำนักงานเขต หรือจะเข้าไปที่ สปสช. เพื่อเช็คสิทธิ์ของท่านได้โดยตรงเช่นกันนะครับ สำหรับใครที่ไม่สะดวกใช้งานบนเว็บ หรือบนมือถือ ก็สามาถเดินทางไปที่สถานที่กังกล่าวเพื่อแจ้งถามสิทธิ์ในการรักษาพยาบาลได้เลยครับ
4. โทรเช็คสิทธิ์บัตรทองผ่านทางสายด่วน สปสช. 1330
ช่องทางสุดท้ายแล้วครับที่เราจะแนะนำ คือการโทรไปถามเลยครับ แต่จะเจอระบบอัตโนมัติที่ สามารถกด 2 แล้วใส่หมายเลขบัตรประชาชน 13 เมื่อหมายเลขบัตรครบแล้วกด # แล้วรอฟังรายละเอียดสิทธิ์การรักษาของเราได้เลยครับ
โอเคครับ ในทุกสุดก็จบไปแล้วนะครับสำหรับเช็คสิทธิ์บัตรทองด้วยเลขบัตรประชาชนในช่องทางต่างๆ ต้องเรียนตามตรงว่า ทางทีมงานชื่นชม ทาง สปสช. มากๆ เลยในมุมก็การทำช่องทางให้ประชาชนเข้าไปตรวจสอบได้อย่างสะดวกสบาย ถือเป็นหนึ่งในหน่วยงานรัฐที่ใช้เทคโนโลยีมาช่วยบริการประชาชนได้อย่างดีเยี่ยม เลยนะครับ ถ้ายังไง ใครลองใช้ช่องทางไหน ได้ผลยังไง ก็ฝากมาคอมมเ้นบอกเราที่ Page ได้นะครับ หรือถ้าใครคิดว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ต่อคนที่คุณรัก อย่าลืม กดแชร์ให้เค้าได้รับรู้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์นี้ได้นะครับ วันนี้ทีมงาน iMoney ก็ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ