รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด – ปัญหาอีกอย่างหนึ่งสำหรับคนที่กำลังผ่อนรถยนต์อยู่นั้นก็คือ หมุนเงินไม่ทัน เงินไม่พอจ่ายค่างวดรถยนต์ ค่างวดเพิ่มสูงขึ้น หรือบางคนมีภาระรายจ่ายเพิ่มขึ้นทำให้การเงินต้องสะดุด ทำให้หลายคนเลือกที่จะหันมารีไฟแนนซ์รถยนต์ ลักษณะก็จะคล้ายๆกันการรีไฟแนนซ์บ้าน ที่มายื่นขอสินเชื่อรถยนต์ใหม่อีกครั้ง โดยนำเงินที่ได้รับมาโปะหนี้เก่า แล้วเริ่มต้นผ่อนใหม่ ซึ่งข้อดีก็จะอยู่ตรงที่ว่าทำให้ได้รับเงินก้อน ดอกเบี้ยถูกลง และช่วยยืดระยะเวลาในการผ่อนให้นานขึ้น ส่งผลให้ค่างวดผ่อนในแต่ละเดือนลดลง ทำให้มีสภาพการเงินคล่องตัวมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันบางคนก็กังวลว่ารถยนต์อยู่ระหว่างการผ่อนนั้นจะสามารถยื่นขอรีไฟแนนซ์ได้หรือไม่ ต้องบอกอย่างนี้ว่ามีสถาบันการเงินบางแห่งหรือลีสซิ่งบางแห่ง ที่ให้คุณสามารถเข้าไปรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้แม้ว่ายังผ่อนไม่ก็ตาม แต่ว่าจะมีที่ไหนกันบ้างนั้น วันนี้เราจะมาหาคำตอบไปพร้อมๆกันเลยค่ะ มาดูกันเลย
รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด อัพเดท 2563
สถาบันการเงิน |
ชื่อสินเชื่อ | จุดเด่น | เงื่อนไขการสมัคร | ดอกเบี้ย |
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา | กรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช “โปะ” | วงเงินกู้สูง ดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้นจ่ายเพียงแค่แสนละ 2,238 บาท ให้ผ่อนนานสูงสุดถึง 7 ปี | สมัครได้ตั้งแต่อายุ 20 – 65 ปี และจะต้องมีรถยนต์เป็นของตัวเอง ทั้งจะต้องเป็นรถเก๋ง รถกระบะ ระตู้ SUV |
ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ 12.25 ต่อปี |
ธนาคารธนชาต |
รีไฟแนนซ์รถยนต์ กับ รถแลกเงิน | วงเงินสูง 100% ผ่อนจ่ายเริ่มต้นเพียงแค่วันละ 59 บาทเท่านั้น สมัครง่ายไม่ต้องมีคนค้ำประกัน แถมยังผ่อนนาน 6 ปี | สมัครได้ตั้งแต่อายุ 20 – 65 ปี โดยที่รถยนต์จะต้องมีอายุไม่เกิน 16 ปี และไม่ใช่รถรับจ้าง และจะต้องเป็นรถเก๋ง รถกระบะ | ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ 3.18 ต่อปี |
ธนาคารเกียรตินาคิน | สินเชื่อรถกู้เงินด่วน CarQuickCash | สมัครง่าย เอกสารไม่ยุ่งยาก อนุมัติเร็วเพียงแค่ 2 ชั่วโมงรู้ผล ให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 5 ล้านบาท และผ่อนจ่ายได้นานถึง 6 ปี | สมัครได้ตั้งแต่อายุ 20 – 65 ปี ซึ่งจะต้องมีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป โดยที่รถยนต์กับระยะเวลาการผ่อนรวมกันแล้วจะต้องไม่เกิน 20 ปี |
ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ 3.88 ต่อปี |
ธนาคารกสิกรไทย |
สินเชื่อรถช่วยได้ | สมัครโดยไม่ต้องมีคนค้ำ อนุมัติและรับเงินไวภายใน 1 วัน เริ่มต้นให้ผ่อนสบายๆ เพียงแค่วันละ 57 บาท นานสูงสุด 72 เดือน | สมัครได้ตั้งแต่อายุ 20 – 70 ปี จะต้องมีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป รถยนต์จะต้องมีอายุการใช้งานไม่เกิน 16 ปี และไม่ว่าจะหมดหรือยังไม่หมดก็สมัครได้ | ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 13 ต่อปี หรือ ดอกเบี้ยร้อยละ MOR+8 |
สมหวัง เงินสั่งได้ | สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ | สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก ให้วงเงินสูงสุด 100% ของราคารถยนต์ ผ่อนจ่ายได้นาน | สมัครได้ทั้งกรณีที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ทั้งรถยนต์ที่อยู่ระหว่างการผ่อนหรือว่าหมดภาระการผ่อนแล้ว |
ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียงแค่ร้อยละ 0.49 ต่อเดือน |
credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์รถยนต์ กับ กรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช “โปะ” ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
สินเชื่อ กรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช “โปะ” เหมาะสำหรับคนที่ปัญหาทางการเงิน เงินไม่พอใช้ ต้องการรีไฟแนนซ์รถ แม้ว่าจะอยู่ระหว่างการผ่อนกับสถาบันการเงินก็ตาม สมัครยื่นขอสินเชื่อนี้ได้เลย พร้อมให้วงเงินสูง เลือกผ่อนได้ตามใจชอบจะผ่อนสั้นหนี้หมดไว หรือจะผ่อนสบายยาวๆก็ไม่ต้องกังวลว่าดอกเบี้ยจะแพง เพราะอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม ซึ่งในการผ่อนจ่ายค่างวดก็แสนจะถูก วงเงิน 100,000 บาท ให้ผ่อนเริ่มต้นอยู่ที่ 2,238 บาทต่อเดือน โดยที่ค่างวดนั้นไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอีกด้วย และที่สำคัญไม่ต้องเสียเวลาในการโอนเล่มทะเบียน ทำให้เล่มทะเบียนรถยังขาวสะอาดเป็นชื่อของคุณอีกด้วย ใครที่สนใจสามารถดูรายละเอียดได้เลย
จุดเด่นของกรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช “โปะ”
- ยื่นขอสินเชื่อง่าย อนุมัติไว
- ฟรีค่าธรรมเนียมต่างๆในการขอกู้สินเชื่อ
- ให้วงเงินกู้สูงถึง 100% ของราคาประเมิน
- ดอกเบี้ยต่ำ คิดแบบลดต้นลดดอก ยิ่งจ่ายมาก ดอกเบี้ยยิ่งถูก
- อิสระในการเลือกระยะเวลาการผ่อนจ่ายจะผ่อนสั้นหรือผ่อนยาว
วงเงินอนุมัติของสินเชื่อ คาร์ ฟอร์ แคช “โปะ”
- ธนาคารจะให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 100% ของราคาประเมินรถยนต์ ทั้งนี้ ในการประเมินรถยนต์นั้นก็จะต้องขึ้นอยู่กับสภาพของรถยนต์ ยี่ห้อรถยนต์ และอายุในการใช้งานของรถยนต์อีกด้วย
อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อ คาร์ ฟอร์ แคช “โปะ”
- สำหรับการคิดดอกเบี้ยของสินเชื่อนี้ ธนาคารจะคิดแบบลดต้นลดดอก ยิ่งเงินต้นคืนมากเท่าไร ดอกเบี้ยก็ยิ่งถูกลดลงมากเท่านั้น ซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 12.25% ต่อปี
ทั้งนี้ เราได้ลองนำตัวอย่างในการคิดคำนวณของดอกเบี้ยและยอดเงินที่จะผ่อนต่อเดือนมาให้คุณได้ลองคำนวณเล่นๆกันว่าถ้าขอกู้เงินด้วยวงเงินที่ต้องการนั้น จะต้องเสียดอกเบี้ยอยู่ที่เท่าไร และต้องผ่อนต่อเดือนเท่าไร มาดูกันค่ะ
ยกตัวอย่าง กรณีที่ยื่นรีไฟแนนซ์รถยนต์ ธนาคารได้ประเมินสภาพรถยนต์แล้วอนุมัติวงเงินกู้ให้อยู่ที่ 100,000 บาท โดยที่ดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 12.25 ต่อปี และเลือกผ่อนจ่ายในช่วงระยะเวลาสั้นๆเพียงแค่ 60 งวดเท่านั้น ซึ่งธนาคารจะเริ่มต้นให้ผ่อนอยู่ที่ 2,238 บาท
วิธีการคิดดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายในแต่ละงวดเสียก่อน ซึ่งจะมีวิธีการคิดดังนี้
ดอกเบี้ยต่องวด = (ยอดเงินกู้คงค้าง x อัตราดอกเบี้ย x จำนวนวันในการผ่อนต่องวด) / 365 วัน
= (200,000 บาท x 12.25 ต่อปี x 30 วัน) / 365 วัน
= 2,013 บาท
ระยะเวลาในการผ่อนจ่ายของ สินเชื่อ คาร์ ฟอร์ แคช “โปะ”
- ธนาคารจะให้ผ่อนจ่ายสบายๆ นานสูงสุดถึง 84 เดือน หรือคิดเป็น 7 ปี
เงื่อนไขในการยื่นขอสินเชื่อ คาร์ ฟอร์ แคช “โปะ”
- รถยนต์ที่สามารถยื่นขอสินเชื่อได้นั้นจะต้องเป็นรถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ SUV ที่จดทะเบียนตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นไป
- ผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อจะต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์อย่างน้อยๆก็ 6 เดือนขึ้นไป โดยที่ทางธนาคารจะไม่รับรถยนต์ที่มีการโอนลอยทุกกรณี ทั้งนี้ ในกรณีที่รถยนต์ยังผ่อนไม่หมดกับสถาบันการเงินเดิมก็สามารถยื่นขอสินเชื่อนี้ได้เช่นกัน
- กรณีที่ต้องการโปะหนี้ก่อนระยะเวลาที่กำหนดนั้น สามารถโประได้เมื่อต้องการ โดยที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ แต่ถ้าโปะหนี้ก่อน 1 ปีนั้น อาจจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 2% ของเงินต้นคงเหลือ
ใครที่สามารถยื่นขอสินเชื่อ คาร์ ฟอร์ แคช “โปะ” ได้บ้าง
- ผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์จชขึ้นไป แต่จะต้องไม่เกินอายุ 65 ปี
- ผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อจะต้องมีรถยนต์เป็นของตัวเอง
- ผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อจะต้องมีที่อยู่อาศัยในประเทศไทย
- ผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อจะต้องมีรายได้ขั้นต่ำตั้งแต่ 12,000 บาทขึ้นไป
ช่องการจ่ายบิลค่างวดของสินเชื่อ คาร์ ฟอร์ แคช “โปะ”
ช่องทางการจ่ายเงินของสินเชื่อนี้ มีให้เลือกหลากหลายช่องทางมาก ทั้งจ่ายแบบให้ด้วยตัวเอง หรือจ่ายแบบหักผ่านบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้แก่
- ฟรีค่าธรรมเนียมหากจ่ายผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- ฟรีค่าธรรมเนียมหากให้หักเงินค่างวดผ่านบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยาแบบอัตโนมัติ
- เสียค่าธรรมเนียมหากจ่ายผ่านจุดบริการต่างๆ ดังนี้
- เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ
- ที่ทำการไปรษณีย์ที่มีเครื่องหมาย Pay at Post ทุกสาขาทั่วประเทศ
- จุดจ่ายเงินที่เทสโก้ โลตัส ทุกสาขาทั่วประเทศ
ช่องทางการสมัครสินเชื่อ คาร์ ฟอร์ แคช “โปะ”
- สำหรับใครที่สนใจอยากสมัครหรือมีข้อมูลที่ต้องการสอบถามเพิ่มเติม ก็สามารถไปติดต่อได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขาทั่วประเทศ หรือโทรสอบถามได้ที่ Call Center 1572 หรือจะสมัครทางออนไลน์ง่ายๆ เพียงแค่คลิกที่นี่
credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์รถยนต์ กับ สินเชื่อรถแลกเงิน ธนาคารธนชาต
สินเชื่อ รถแลกเงิน ธนาคารธนชาต ตอบโจทย์สำหรับคนที่มีความจำเป็นเรื่องเงิน สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก แม้ว่ารถยนต์ติดไฟแนนซ์อยู่ก็สามารถยื่นขอกู้สินเชื่อนี้ได้ ให้วงเงินที่สูงเต็มอัตราของราคาประเมินรถยนต์ มาพร้อมกับดอกเบี้ยต่ำพิเศษเริ่มต้นเพียงร้อยละ 3.18 ต่อปี ให้ผ่อนจ่ายเงินค่างวดเริ่มต้นเพียงแค่วันละ 59 บาท ต่อวงเงินกู้ 100,000 บาท และยังช่วยยืดระยะเวลาในการผ่อนจ่ายได้นานถึง 6 ปี เรียกได้ว่าสินเชื่อนี้คุ้มยิ่งกว่าคุ้มอีก ใครที่ต้องการใช้เงินไม่ควรพลาดที่จะมาขอสินเชื่อกับธนาคารธนชาต และหากสนใจอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม หรือช่องทางการสมัครนั้น เชิญอ่านต่อได้เลยค่ะ
จุดเด่นของสินเชื่อรถแลกเงิน
- อนุมัติเร็วทันใจ
- วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน
- ผ่อนจ่ายสบายเริ่มต้นเพียงแค่วันละ 59 บาท
- ดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้นเพียงแค่ร้อยละ 3.18 ต่อปี
- ผ่อนจ่ายค่างวดรถยนต์ได้อย่างสบายนานถึง 6 ปี
- รถยนต์ที่ติดภาระกับไฟแนนซ์อยู่ก็สามารถขอสินเชื่อได้
วงเงินอนุมัติของสินเชื่อรถแลกเงิน
- วงเงินกู้ธนาคารจะให้สูงสุด 100% จากราคาประเมินของรถยนต์ วงเงินกู้เริ่มต้นจะให้อยู่ที่ 50,000 บาท ซึ่งก็จะต้อขึ้นอยู่รถยนต์ที่มาขอสินเชื่อด้วยว่าจดทะเบียนปีไหน มีอายุการใช้นานแค่ไหน และสภาพรถยนต์เป็นอย่างไร เพื่อนำมาประกอบการพิจาณาวงเงินให้กับคุณ
อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรถแลกเงิน
- สำหรับการคิดดอกเบี้ยนั้น ธนาคารก็จะคิดแบบลดต้นดอก แต่ก็จะแบ่งอัตราดอกเบี้ยไปตามประเภทของรถยนต์ และปีที่จดทะเบียน ยิ่งรถยนต์ที่ใหม่เท่าไร ดอกเบี้ยก็ยิ่งถูกเท่านั้น ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถแลกเงิน กรณีที่นำรถเก๋งมายื่นขอรีไฟแนนซ์
ปีที่รถยนต์จดทะเบียน |
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถแลกเงิน | |
อัตราดอกเบี้ยคงที่ต่อปี |
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี |
|
ตั้งแต่ปี 2014 – 2019 |
ร้อยละ 3.18 – 4.90 | ร้อยละ 5.93 – 14.91 |
ตั้งแต่ปี 2009 – 2013 | ร้อยละ 4.15 – 5.90 |
ร้อยละ 7.62 – 16.43 |
ตั้งแต่ปี 2004 – 2008 |
ร้อยละ 4.90 – 7.70 |
ร้อยละ 8.89 – 19.09 |
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถแลกเงิน กรณีที่นำรถกระบะ หรือ รถตู้ มายื่นขอรีไฟแนนซ์
ปีที่รถยนต์จดทะเบียน |
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถแลกเงิน | |
อัตราดอกเบี้ยคงที่ต่อปี |
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี |
|
ตั้งแต่ปี 2014 – 2019 |
ร้อยละ 3.18 – 9.15 | ร้อยละ 5.93 – 15.68 |
ตั้งแต่ปี 2009 – 2013 | ร้อยละ 4.65 – 10.65 |
ร้อยละ 8.47 – 17.92 |
ตั้งแต่ปี 2004 – 2008 |
ร้อยละ 5.65 – 12.15 |
ร้อยละ 10.14 – 20.11 |
สำหรับใครที่ยังไม่รู้วิธีการคิดคำนวณหากกู้เงินไปแล้วจะต้องเสียดอกเบี้ยเท่าไร และต้องผ่อนจ่ายเดือนละเท่าไร เราจึงขอยกตัวอย่างมาให้คุณเข้าใจได้ง่ายขึ้น ตามตัวอย่าง ดังนี้
ตัวอย่าง กรณีที่คุณนำรถยนต์ที่จดทะเบียนปี 2015 มายื่นขอสินเชื่อ ด้วยวงเงินกู้อยู่ที่ 400,000 บาท ธนาคารคิดดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 3.18 ต่อปี และมีระยะเวลาในการผ่อนจ่ายอยู่ที่ 5 ปี คุณจะต้องเสียดอกเบี้ยเท่าไร และผ่อนต่องวดเท่าไร
วิธีการคำนวณหาดอกเบี้ยของสินเชื่อตลอดทั้งสัญญาเงินกู้ ดังนี้
ดอกเบี้ยสินเชื่อ = (ยอดเงินต้นคงค้าง x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนปี)
(400,000 x 3.18%% x 5) = 63,600 บาท (ดอกเบี้ยที่จะต้องเสียทั้งหมด)
วิธีการคำนวณหาค่างวดที่จะต้องผ่อนจ่ายในแต่ละเดือน ดังนี้
ค่างวด = [(ยอดเงินต้นคงค้าง x อัตราดอกเบี้ยคงที่ต่อปี x จำนวนปี) + ยอดเงินต้นคงค้าง] / จำนวนงวด
= [(400,000 x 3.18% x 5) + 400,000] / 60 x 1.07 = 8,268
ระยะเวลาในการผ่อนจ่ายของ สินเชื่อรถแลกเงิน
- ธนาคารให้ผ่อนจ่ายได้นานสูงสุด 72 งวด หรือ 6 ปี เมื่อเทียบระยะเวลาการผ่อนแล้วก็เทียบเท่ากับการขอสินเชื่อซื้อรถใหม่ป้ายแดงเลย ซึ่งการผ่อนนานก็จะช่วยทำให้การเงินมีสภาพคล่องมากขึ้น ไม่ต้องจ่ายค่างวดที่สูงเกินไป
ประเภทของรถยนต์ที่สามารถขอสินเชื่อรถแลกเงินได้
- สำหรับรถยนต์ที่สามารถขอสินเชื่อนี้ได้ก็จะต้องเป็นรถที่มีอายุไม่เกิน 16 ปี และจะต้องไม่เป็นรถรับจ้าง ได้แก่ รถเก๋ง รถกระบะ
ใครที่สามารถยื่นขอสินเชื่อรถแลกเงินได้บ้าง
- ผู้สมัครจะต้องมีอายุระหว่าง 20 – 65 ปี
- สมัครขอสินเชื่อได้ทั้งกรณีที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
ช่องการจ่ายบิลค่างวดของสินเชื่อรถแลกเงิน
ช่องทางในการบิลค่างวดรถยนต์นั้น สามารถจ่ายได้โดยตรงกับธนาคารธนชาตเอง หรือจะจ่ายผ่านตัวแทนต่าง ๆ ซึ่งก็อาจจะมีค่าธรรมเนียมในการจ่ายบิล ก็จะต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละแห่ง ดังนี้
- ฟรีค่าธรรมเนียมหากจ่ายผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารธนชาตทุกสาขาทั่วประเทศ
- เสียค่าธรรมเนียมหากจ่ายผ่านจุดบริการต่างๆ ดังนี้
- กรณีที่จ่ายบิลในเขตกรุงเทพและปริมณฑล
- ที่ทำการไปรษณีย์ที่มีเครื่องหมาย Pay at Pos เสียค่าบริการ 10 บาทต่อบิล
- จุดจ่ายเงินที่เทสโก้ โลตัส เสียค่าบริการ 10 บาทต่อบิล
- จุดจ่ายเงินที่บิ๊กซี เสียค่าบริการ 10 บาทต่อบิล
- เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ เสียค่าบริการ 15 บาทต่อบิล
- จุดบริการจ่ายเงิน TOT เสียค่าบริการ 15 บาทต่อบิล
- กรณีที่จ่ายบิลในเขตต่างจังหวัด
- ที่ทำการไปรษณีย์ที่มีเครื่องหมาย Pay at Pos เสียค่าบริการ 15 บาทต่อบิล
- จุดจ่ายเงินที่เทสโก้ โลตัส เสียค่าบริการ 10 บาทต่อบิล
- จุดจ่ายเงินที่บิ๊กซี เสียค่าบริการ 10 บาทต่อบิล
- เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ เสียค่าบริการ 20 บาทต่อบิล
- จุดบริการจ่ายเงิน TOT เสียค่าบริการ 15 บาทต่อบิล
- กรณีที่จ่ายบิลในเขตกรุงเทพและปริมณฑล
ช่องทางการสมัครสินเชื่อรถแลกเงิน
- ส่วนใครที่สนใจอยากจะสมัครสินเชื่อรถแลกเงินกับธนาคารธนชาตบ้างนั้น มีให้ช่องทางการสมัครให้เลือกด้วยกัน 3 ช่องทาง ได้แก่ สมัครด้วยตัวเองที่ธนาคารธนชาตทุกสาขาทั่วประเทศ หรือจะสมัครผ่านทางโทรศัพท์ได้ที่เบอร์ Call Center 1770 หรือจะเลือกสมัครง่ายๆผ่านทางออนไลน์ คลิกที่นี่
credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์รถยนต์ กับ สินเชื่อรถกู้เงินด่วน CarQuickCash ธนาคารเกียรตินาคิน
สินเชื่อรถกู้เงินด่วน CarQuickCash สำหรับคนมีรถยนต์ที่ต้องการใช้เงินแบบด่วนๆ หรือใครที่กำลังจะลงทุนในธุรกิจส่วนตัวแต่ไม่มีเงินหรือเงินลงทุนไม่เพียงพอก็สมัครสินเชื่อนี้ได้เลย ขอเพียงแค่มีรถยนต์เป็นของตัวเองเท่านั้น และไม่ต้องกังวลใจเลยว่าถ้ารถยนต์ที่อยู่ระหว่างการผ่อนกับสถาบันการเงินอื่นๆหรือกำลังผ่อนกับธนาคารเกียรตินาคินก็สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ เพราะที่นี้รับรีไฟแนนซ์รถยนต์ไม่ว่ารถยนต์จะปลอดภาระหนี้หรืออยู่ระหว่างการผ่อนก็ตาม ด้วยวงเงินอนุมัติให้สูงสุดอยู่ที่ 5 ล้านบาท ผ่อนจ่ายได้นานถึง 72 งวด ส่วนรายละเอียดต่างๆของสินเชื่อจะมีอะไรบ้างนั้น ติดตามอ่านกันเลยค่ะ
จุดเด่นของสินเชื่อรถกู้เงินด่วน CarQuickCash
- สมัครขอรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้ทุกอาชีพ
- สมัครง่าย ไม่ต้องเตรียมเอกสารให้ยุ่งยาก
- อนุมัติเร็วทันใจ เพียงแค่ 2 ชั่วโมงรู้ผลทันที
- ให้วงเงินกู้ในการรีไฟแนนซ์สูงสุดถึง 5 ล้านบาท
- ผ่อนจ่ายค่างวดสินเชื่อรถยนต์ได้นานสูงสุดถึง 72 เดือน
วงเงินอนุมัติของสินเชื่อรถกู้เงินด่วน CarQuickCash
- วงเงินกู้ในการอนุมัติสินเชื่อธนาคารให้สูงสุด 1.5 เท่าของราคาประเมินรถยนต์ หรือสูงสุดไม่เกิน 5,000,000 บาท ถือว่าเป็นวงเงินที่สูงเลยฉะนั้นหากรถยนต์ที่นำมาเป็นรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่มาก ยี่ห้อตลาด และราคารถยนต์สูง ก็จะทำให้วงเงินกู้สูงตามไปด้วย
อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรถกู้เงินด่วน CarQuickCash
- สำหรับการคิดดอกเบี้ยของสินเชื่อนั้น ธนาคารจะพิจารณาจากระยะเวลาในการผ่อนจ่าย ยิ่งเลือกผ่อนจ่ายนานๆ ดอกเบี้ยก็จะสูง ซึ่งเราได้นำรายละเอียดมาให้ดูกัน ดังนี้
ระยะเวลาการผ่อนจ่าย |
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถกู้เงินด่วน CarQuickCash | |
อัตราดอกเบี้ยคงที่ต่อปี |
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี |
|
ระยะเวลา 12 – 48 เดือน |
ร้อยละ 3.88 – 9.00 | ร้อยละ 7.26 – 15.99 |
ระยะเวลา 60 เดือน | ร้อยละ 4.25 – 9.50 |
ร้อยละ 7.92 – 16.80 |
ระยะเวลา 72 เดือน |
ร้อยละ 6.70 – 9.50 |
ร้อยละ 12.17 – 16.80 |
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยในการคิดนั้นก็จะต้องพิจารณาหลายองค์ประกอบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ประเภทของรถยนต์ ยี่ห้อรถยนต์ รุ่นรถยนต์ อายุการใช้งานของรถยนต์ ระยะเวลาการผ่อน และคุณสมบัติของผู้สมัครสินเชื่ออีกด้วย หากสนใจแนะนำให้ลองเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อที่จะได้ทำการประเมินคร่าวๆให้กับคุณ
ระยะเวลาในการผ่อนจ่ายของ สินเชื่อรถกู้เงินด่วน CarQuickCash
- สามารถผ่อนจ่ายได้นานสูงสุดถึง 72 เดือน หรือผ่อนจ่ายได้นานถึง 6 ปี เรียกได้ว่าผ่อนกันแบบชิลๆกันไปเลย
ประเภทของรถยนต์ที่สามารถขอสินเชื่อรถกู้เงินด่วน CarQuickCash ได้
- สินเชื่อนี้รับรถยนต์ทุกประเภท ยกเว้น รถบรรทุก และ รถจักรยานยนต์
- สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ปลอดภาระหนี้หรือไม่ปลอดภาระหนี้จากสถาบันการเงินอื่นๆ
- รถยนต์ที่นำมาขอรีไฟแนนซ์จะต้องมีอายุของรถยนต์เมื่อรวมกับระยะเวลาการผ่อนแล้วจะต้องไม่เกิน 20 ปี
ใครที่สามารถยื่นขอสินเชื่อรถกู้เงินด่วน CarQuickCash ได้บ้าง
- สมัครได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
- ผู้สมัครจะต้องมีสัญชาติไทยเท่านั้น และมีอายุระหว่าง 20 – 65 ปี
- ผู้สมัครจะต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ แต่ถ้าอยู่ระหว่างการผ่อนผู้สมัครก็จะต้องเป็นผู้ครอบครองรถยนต์
- กรณีที่ผู้สมัครมีรายได้ประจำ ก็จะต้องมีเงินเดือนตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป และมีอายุการทำงานอย่างน้อย 1 ปีขึ้นไป
- กรณีที่ผู้สมัครเป็นเจ้าของกิจการ ก็จะต้องมีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป และกิจการที่เปิดนั้นจะต้องดำเนินกิจการไม่น้อยกว่า 1 ปี
ค่าใช้จ่ายที่จะต้องเสียในระหว่างการผ่อนค่างวดรถยนต์
นอกเหนือจากค่าผ่อนรถยนต์แล้ว คุณยังจะต้องเตรียมเงินเพื่อไว้จ่ายในส่วนอื่นๆอีก ซึ่งเราได้รวบรวมค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่คาดว่าจะต้องเกิดขึ้นกับคุณทั้งในระหว่างการขอรีไฟแนนซ์ หรือรีไฟแนนซ์ไปแล้ว จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกัน
ค่าใช้จ่ายในช่วงระหว่างการทำสัญญาสินเชื่อรถกู้เงินด่วน CarQuickCash
- ค่าภาษีอากรแสตม์ในระหว่างการทำสัญญา
- ค่าตรวจสภาพรถยนต์ เพื่อทำการประเมินราคารถยนต์
- ค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ พร้อมด้วยค่าต่อ พ.ร.บ. รถยนต์
- ค่าจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ กรณีที่จะต้องทำเรื่องโอนให้ธนาคารเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
ค่าใช้จ่ายในช่วงปีสุดท้ายที่ผ่อนค่างวดของสินเชื่อรถกู้เงินด่วน CarQuickCash
- ค่าภาษีรถยนต์ กับค่าเบี้ยประกัยภัยรถยนต์ พ.ร.บ.
- ค่าจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ กรณีที่จะต้องทำเรื่องโอนให้คุณเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์
- ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในกรณีที่ยอดคงค้าง ดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าธรรมเนียมต่างๆ เป็นต้น
ช่องการจ่ายบิลค่างวดของสินเชื่อรถกู้เงินด่วน CarQuickCash
- สำหรับการจ่ายบิลค่างวดรถยนต์นั้น สามารถจ่ายได้ที่ธนาคารเกียรตินาคิน หรือจะให้หักผ่านบัญชีธนาคารแบบอัตโนมัติก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าใครไม่สะดวกก็จ่ายผ่านตัวแทนต่างๆได้เช่น เคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือ จุดจ่ายเงินที่ไปรษณีย์ หรือ เทสโก้โลตัส หรือ บิ๊กซี เป็นต้น
ช่องทางการสมัครสินเชื่อรถกู้เงินด่วน CarQuickCash
- สำหรับใครที่สนใจอยากจะรีไฟแนนซ์รถยนต์กับสินเชื่อรถกู้เงินด่วน CarQuickCash ก็สมัครได้ด้วยกัน 2 ช่องทาง คือ ไปติดต่อเองที่ธนาคารเกียรตินาคินทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ง่ายๆ เพียงแค่คลิกที่นี่
credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์รถยนต์ กับ สินเชื่อรถช่วยได้ ธนาคารกสิกรไทย
สินเชื่อรถช่วยได้ เป็นสินเชื่อรถยนต์ประเภทโอนเล่มทะเบียนรถยนต์ ใครที่กำลังเดือนร้อนเรื่องเงิน ต้องการใช้เงินด่วนๆ ฉุกเฉิน หรือมีความจำเป็นต้องการเงินไปลงทุนในกิจการส่วนตัว หรือต้องการรีไฟแนนซ์รถยนต์จากสถาบันการเงินอื่นๆ ก็มายื่นสมัครสินเชื่อได้ที่ธนาคารกสิกรไทยได้เลย ขอเพียงแค่มีรถยนต์เท่านั้น ก็มีเงินใช้ทันที กู้ก็ง่าย อนุมัติก็เร็ว ให้วงเงินกู้ก็สูง ผ่อนจ่ายก็สบายกระเป๋า แถมยังมีเงินติดกระเป๋าไว้ให้ใช้จ่ายอย่างอื่นอีกด้วย ใครที่สนใจก็ลองมาดูรายละเอียดของสินเชื่อรถช่วยได้กันก่อนเลยค่ะ
จุดเด่นของสินเชื่อรถช่วยได้
- สมัครง่าย ไม่ต้องมีคนค้ำ
- อนุมัติและรับเงินภายใน 1 วัน
- วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน
- ผ่อนสบายๆเริ่มต้นเพียงแค่วันละ 57 บาท
- ระยะเวลาในการผ่อนจ่ายได้นานสูงสุดถึง 72 เดือน
- รถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 10 ปี ก็ขอรีไฟแนนซ์ได้เช่นกัน
วงเงินอนุมัติของสินเชื่อรถช่วยได้
- สำหรับสินเชื่อรถช่วยได้ ธนาคารกสิกรไทยจะให้วงเงินเต็มพิกัดสูงสุดถึง 100% ของราคาประเมินรถยนต์
อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรถช่วยได้
- การคิดดอกเบี้ยของสินเชื่อรถช่วยได้นั้นธนาคารกสิกรไทยจะมีวิธีการคิดดอกเบี้ย 2 แบบ ก็คือ คิดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat Rate) ซึ่งก็จะเปลี่ยนไปตามอายุการใช้งานของรถยนต์และระยะเวลาในการเลือกผ่อนชำระ ซึ่งดอกเบี้ยก็จะเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 13 ต่อปี หรือคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงก็จะอยู่ที่ร้อยละ 26 ต่อปี และกรณีที่คิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก อัตราดอกเบี้ยก็จะอยู่ที่ MOR+8 ซึ่งปัจจุบัน MOR =87% ต่อปี ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของ MOR สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับ ณ วันที่คุณขอสินเชื่อ
ระยะเวลาในการผ่อนจ่ายของ สินเชื่อสินเชื่อรถช่วยได้
- ผ่อนจ่ายได้นานสูงสุด 72 เดือน หรือ 6 ปี
ประเภทของรถยนต์ที่สามารถขอสินเชื่อรถช่วยได้
- สินเชื่อนี้รับรถยนต์ทุกประเภท ที่มีตั้งแต่ 4 ล้อขึ้นไป แต่จะต้องไม่เกิน 12 ล้อ โดยที่รถยนต์ที่มาขอยื่นสมัครสินเชื่อนั้นผู้สมัครจะต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ในเล่มทะเบียนที่ปลอดภาระหนี้แล้ว หรือถ้ากรณีที่ยังมีภาระผูกพันใดๆ หรืออยู่ระหว่างการผ่อนกับสถาบันการเงินอื่นๆ ก็ยื่นสมัครได้เช่นกัน ทั้งนี้จะเป็นไปตามเงื่อนไขของธนาคารกสิกรไทยที่กำหนด
ใครที่สามารถยื่นขอสินเชื่อรถช่วยได้
- ยื่นขอรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้ทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
- ผู้สมัครสินเชื่อจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป แต่จะต้องไม่เกิน 70 ปี
- ผู้สมัครที่ขอสินเชื่อไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล จะต้องมีรายได้ไม่น้อยกว่า 15,000 บาทต่อเดือน
- กรณีที่ผู้ยื่นขอสินเชื่อเป็นนิติบุคคล จะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
- ธุรกิจหรือกิจการจะต้องมีการจดทะเบียนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี
- จะต้องมีเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้สะดวก เช่น ที่บ้าน หรือ ที่ทำงาน หรือเบอร์มือถือ
- ธุรกิจหรือกิจการของคุณจะต้องมีรายได้ที่แน่นอน สามารถแสดงเอกสารที่มาของรายได้ ได้อย่างชัดเจน
- ธุรกิจหรือกิจการจะต้องตั้งอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
ช่องการจ่ายบิลค่างวดของสินเชื่อรถช่วยได้
ในการจ่ายบิลค่างวดของสินเชื่อรถช่วยได้ของธนาคารกสิกรไทยนั้นมีหลากหลายช่องให้เลือกทั้งจ่ายโดยตรงกับธนาคารกสิกรไทยเอง หรือจะจ่ายผ่านธนาคารพาณิชย์อื่นๆ หรือจ่ายผ่านตัวแทนต่างๆ ก็สามารถจ่ายได้เช่น ซึ่งมีรายละเอียดการจ่ายเงิน ดังนี้
- จ่ายบิลผ่านธนาคารกสิกรไทย ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
- เคาน์เตอร์ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศ
- แอพพลิเคชั่นของธนาคารกสิกรไทย ได้แก่ K PLUS
- เว็บไซต์ของธนาคารกสิกรไทยด้วย K-Cyber
- ทาง KLeasing On Mobile Application (PAY PLUS)
- ทาง Call Center โทร. 02-8888888 กด 885
- ทางเครื่องกดเงิน ATM ของธนาคารกสิกรไทยทั่วประเทศ
- หักผ่านบัญชีเงินฝากของธนาคารกสิกรไทย
ทั้งนี้ การจ่ายทุกช่องทางของธนาคารกสิกรไทยนั้นจะฟรีค่าธรรมเนียมในการจ่ายบิล
- จ่ายผ่านธนาคารต่างๆ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์
- จ่ายผ่านเครื่องกดเงิน ATM ของธนาคารอื่นๆ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย หรือธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือธนาคารไทยพาณิชย์ก็ได้
- จ่ายผ่านทาง Call Center ของธนาคารอื่นๆ ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารไทยพาณิชย์
- จ่ายผ่านจุดบริการต่างๆ ได้แก่ เคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือ เทสโก้ โลตัส หรือ True หรือ บิ๊กซี
ทั้งนี้ การจ่ายบิลผ่านช่องทางอื่นๆ ที่ไม่ใช่ของธนาคารกสิกรไทยนั้น จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการจ่ายบิล ซึ่งจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและบริการของแต่ละแห่ง
ช่องทางการสมัครสินเชื่อรถช่วยได้
- ช่องทางในการสมัครสินเชื่อนั้นใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปติดต่อ สอบถาม รายละเอียดข้อมูลต่างๆ หรือสมัครด้วยตัวเองที่เคาวน์เตอร์ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศ ที่คุณสะดวก หรือใครไม่สะดวกในการเดินทาง ก็สามารถสมัครผ่านทางออนไลน์ได้เช่นกัน เพียงแค่คลิกมาที่นี่
credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์รถยนต์ กับ สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ สมหวัง เงินสั่งได้
ใครที่มีรถยนต์เป็นของตัวเองที่เป็นรถเก๋ง รถกระบะ หรือรถตู้ และมีความจำเป็นต้องการใช้เงิน มายื่นสมัครขอสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ได้ที่สมหวัง เงินสั่งได้ ที่สามารถช่วยคุณเรื่องการเงิน ช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ไม่ว่าความจำเป็นเหล่านั้นของคุณจะเป็นอะไรก็ตาม ก็สมัครได้เช่นกัน และที่สำคัญแม้ว่าคุณจะกำลังผ่อนรถยนต์กับสถาบันการเงินใดก็ตาม แต่ต้องการรีไฟแนนซ์รถยนต์ เพื่อหาเงินก้อนนั้น ที่สมหวัง เงินสั่งได้ ก็พร้อมให้ด้วย ด้วยเงื่อนไขการสมัครที่ไม่ยุ่งยาก แถมยังได้รับเงินไวอีกต่างหาก รถยนต์ที่อายุการใช้งานมากกว่า 20 ปี ก็สมัครได้เช่นกัน
จุดเด่นของสินเชื่อทะเบียนรถยนต์
- อนุมัติรวดเร็ว รับเงินไว
- ให้วงเงินกู้สูง ผ่อนจ่ายได้นาน
- ไม่ต้องเสียเวลาในการโอนเล่มทะเบียน
- ดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้นเพียงแค่ร้อยละ 0.49 ต่อเดือน
- รถยนต์ที่อายุการใช้งานมากกว่า 20 ปี ยื่นขอสินเชื่อได้สบาย
วงเงินอนุมัติของสินเชื่อทะเบียนรถยนต์
- สำหรับสินเชื่อรถช่วยได้ให้วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมินรถยนต์
อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อทะเบียนรถยนต์
- อัตราดอกเบี้ยจะเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 0.49 ต่อเดือน ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามประเภทของรถยนต์ ยี่ห้อรถ รุ่นรถ ปีที่จดทะเบียน และสภาพของรถยนต์
ระยะเวลาในการผ่อนจ่ายของสินเชื่อทะเบียนรถยนต์
- เลือกผ่อนจ่ายค่างวดรถยนต์ได้อย่างสบาย เริ่มต้นผ่อนได้ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป หรือผ่อนจ่ายนานสูงสุด 72 เดือน
ประเภทของรถยนต์ที่สามารถขอสินเชื่อทะเบียนรถยนต์
- รถยนต์ที่สามารถนำมารีไฟแนนซ์ ได้แก่ รถเก๋ง รถกระบะ และรถตู้ ซึ่งจะต้องเป็นรถที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 25 ปี
ใครที่สามารถยื่นขอสินเชื่อรถช่วยได้
- สามารถยื่นขอรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้ทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดา เช่น พนักงานประจำ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือธุรกิจส่วนตัว และจดทะเบียนในนามนิติบุคคล
ช่องการจ่ายบิลค่างวดของสินเชื่อทะเบียนรถยนต์
การจ่ายบิลนั้นสามารถเลือกได้ตามที่สะดวก ซึ่งจะมีช่องทางในการให้จ่ายบิลได้ทั้งที่ตู้จ่ายเงินของสาขาสมหวัง เงินสั่งได้ หรือจะจ่ายที่ธนาคารต่างๆ จุดบริการที่รับจ่ายบิลก็ได้เช่น ดังนี้
- ฟรีค่าธรรมเนียม หากเลือกจ่ายที่ตู้รับชำระเงิน ที่สาขาสมหวัง เงินสั่งได้
- ฟรีค่าธรรมเนียม หากเลือกจ่ายบิลค่างวดที่ธนาคารทิสโก้
- เสียค่าธรรมเนียมในการจ่ายบิลค่างวด ซึ่งสามารถเลือกจ่ายได้ตามสะดวก ดังนี้
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคารกรุงเทพ
- ธนาคารกสิกรไทย เฉพาะสำนักงานสีลม
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
- จุดบริการจ่ายเงินที่ทำการไปรษณีย์
- จุดบริการจ่ายเงินที่เทสโก้โลตัส
- จุดบริการจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์เซอร์วิส
- จุดบริการจ่ายเงินที่เอไอเอส เทเลวิช และเอ็มเปย์ สเตชั่น
- จุดบริการจ่ายเงินที่ทรูมันนี่ ในร้านค้าซีพีเฟรชมาร์ท และทรูพาร์ทเนอร์ หรือ Wallet by Truemoney
ช่องทางการสมัครสินเชื่อทะเบียนรถยนต์
- สำหรับใครที่สนใจอยากสมัครสินเชื่อนี้ก็สามารถสมัครได้ที่สาขาที่เปิดให้บริการอยู่ทั่วประเทศ สามารถดูได้ว่าสาขาอยู่ไหนบ้างก็เข้าไปดูได้ในเว็บไซต์ หรือจะเลือกสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ง่ายๆ ก็คลิกที่นี่ได้เลย
credit : https://pixabay.com/th
สำหรับใครยังมีภาระในการผ่อนงวดรถยนต์กับสถาบันการเงินเดิมแล้วต้องการที่จะรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินหรือลีสซิ่งที่เราได้แนะนำไปนั้น ขอแนะนำว่าเพื่อความรวดเร็วในการอนุมัติให้เตรียมเอกสารประกอบการสมัครให้ครบถ้วน ซึ่งเอกสารการสมัครก็ขอแต่ละแห่งก็จะมีความคล้ายๆกัน ซึ่งจะแบ่งแยกออกไปตามประเภทของผู้สมัครว่าเป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ซึ่งมีรายละเอียดของเอกสารการสมัครในการรีไฟแนนซ์รถยนต์ ดังนี้
กรณีที่ผู้สมัครเป็นบุคคลธรรมดา (พนักงานประจำ,กลุ่มข้าราชการ,กลุ่มพนักงานรัฐวิสาหกิจ,กลุ่มคนที่ทำอาชีพอิสระ,กลุ่มคนที่มีธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ) จะต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้ที่ยื่นของรีไฟแนนซ์
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ที่ยื่นของรีไฟแนนซ์
- สลิปเงินเดือน หรือสำเนาหนังสือรับรองเงินเดือน ซึ่งจะต้องใช้เดือนล่าสุด
- สำเนาสมุดบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
- เล่มทะเบียนรถยนต์ตัวจริง หรือ เอกสารที่จ่ายหนี้งวดล่าสุด กรณีที่รถยนต์อยู่ระหว่างการผ่อน
- สำเนากรมธรรม์ประกันรถยนต์ ซึ่งจะต้องทำอย่างน้อยๆประเภท 3
- เอกสารที่ตรวจสภาพรถยนต์ (กรณีที่สถาบันการเงินบางแห่งจำเป็นต้องใช้)
กรณีที่สถาบันการเงินหรือลีสซิ่งบางแห่งจะต้องมีผู้ค้ำประกันในการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์ ก็จะต้องเตรียมเอกสารของผู้ค้ำประกันมายื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็น สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน เอกสารแสดงที่มาของรายได้ และสำเนาสมุดบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
กรณีที่ผู้สมัครจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล จะต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชนของกรรมการผู้ที่มีอำนาจในการลงนาม
- สำเนาทะเบียนบ้านของกรรมการผู้ที่มีอำนาจในการลงนาม
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทพร้อมวัตถุประสงค์ คัดไม่เกิน 3 เดือน
- สำเนาใบ ภพ. 20
- เอกสารแสดงการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลัง
- สำเนากรมธรรม์ประกันรถยนต์ ซึ่งจะต้องทำอย่างน้อยๆประเภท 3
- เอกสารที่ตรวจสภาพรถยนต์ (กรณีที่สถาบันการเงินบางแห่งจำเป็นต้องใช้)
ทั้งนี้ เอกสารของบริษัททั้งหมดจะต้องมีการลงลายเซ็นของผู้ที่อำนาจในการลงนาม และประทับตราบริษัททุกแผ่น และหากมีผู้ค้ำประกันก็จะต้องแนบเอกสารของผู้ค้ำประกันเหมือนกันบุคคลธรรมดาเช่นเดียวกัน
แหละนี้ก็คือ 5 สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ที่เราได้รวบรวมมาฝากกัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังคิดอยากจะรีไฟแนนซ์แต่ยังรถยนต์ยังมีภาระในการผ่อนอยู่กับสถาบันการเงินหรือลีสซิ่งต่างๆ หากใครที่จะคิดรีไฟแนนซ์เราขอแนะนำให้หาข้อมูลเยอะๆเพื่อมาประกอบการตัดสินใจ เพราะการรีไฟแนนซ์รถยนต์สำหรับบางคน เพียงแค่ต้องการลดภาระค่าใช้จ่าย ต้องการดอกเบี้ยต่ำกว่าเดิม แต่ทำไปทำมากลับต้องเสียดอกเบี้ยที่สูงกว่าเดิม มันจะกลายเป็นไม่คุ้ม หรือใครที่ผ่อนรถยนต์หมดแล้วแต่ต้องการใช้เงินสด ก็สามารถเข้ามาหาอ่านบทความได้ที่ iMoney.in.th ได้เลย ทีมงานเราได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์รถยนต์ไว้หมดแล้ว รวมไปถึงข้อมูลด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการรีไฟแนนซ์รถยนต์ ข้อดี ข้อเสีย สุดท้ายนี้หากชื่นชอบบทความนี้หรือต้องการบอกต่อเพื่อนๆ ก็กด Like กด Share กันเลย สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีค่ะ