เดี๋ยวนี้การสมัครง่ายเครดิตนั้นง่ายขึ้นมาก ทำให้คนทำงานที่มีเงินเดือนมีบัตรเครดิตกันแทบจะทุกคนเลยก็ว่าได้ ซึ่งการมีบัตรเครดิตก็ทำให้เราใช้ชีวิตได้สะดวกสบายเพิ่มขึ้น มีคล่องตัวทางการเงินมากขึ้น แต่สิ่งเหล่านี้ในบ้างครั้งก็อาจจะเป็นกับดักให้กลายเป็นหนี้โดยที่ไม่ทันระวัง จากหนี้ก้อนเล็กก็นำไปสู่หนี้ก้อนใหญ่ บางคนก็มีการฟ้องร้องเป็นคดีความ บางคนก็มีโดนยึดทรัพย์บ้างก็มี ไม่ว่าเราจะมีเป็นหนี้เล็กน้อยหรือมาก ยังไงเราก็จะต้องใช้คืนเขาอยู่ดี แต่ก็จะต้องจ่ายหนี้ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ดอกเบี้ยจะต้องเป็นไปอย่างยุติธรรมทั้งสองฝ่าย หลายคนที่เป็นหนี้บัตรเครดิต ไม่มีเงินจ่าย ก็มีความกังวลว่าจะต้องโดนฟ้องร้องบ้าง จนวันนี้เกิดคำถามที่ว่า “เป็นหนี้บัตรเครดิตเท่าไหร่ถึงโดนฟ้อง?” ซึ่งเราจะมาหาคำตอบไปพร้อมๆกัน
เช็คข้อมูลสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตทุกธนาคารที่นี่
รับคำปรึกษาเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตได้ที่ Line ของ iMoney
Advertising :
เป็นหนี้บัตรเครดิตเท่าไหร่ถึงโดนฟ้อง?
Credit : https://pixabay.com
ขึ้นชื่อว่าเป็น “หนี้” ไม่ว่าเงินที่ยืมมาจะมากหรือน้อยก็ถือว่าเป็นหนี้ เจ้าหนี้ก็สามารถฟ้องร้องขอให้ชดใช้เงินได้ แต่ถ้าถามว่าเป็นหนี้บัตรเครดิตเท่าไรถึงจะโดนฟ้องนั้น บอกเลยว่าขึ้นอยู่กับสถาบันการเงิน เพราะบางครั้งถ้าเป็นหนี้ในจำนวนน้อย อาจจะไม่ฟ้องร้อง เพราะไม่คุ้มค่า เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา แต่ก็ใช่ว่าจะเหมือนกันทุกสถาบันการเงิน ซึ่งการเป็นหนี้นั้นให้พึงระลึกไว้เสมอว่าเราเอาเงินเขามาใช้ ก็จะต้องใช้คืนไม่ว่าเงินจะมากหรือน้อย
ไม่มีเงินจ่ายหนี้บัตรเครดิตจะเป็นอย่างไร
- ถ้าไม่สามารถจ่ายหนี้บัตรเครดิตได้ตามกำหนด ก่อนอื่นเลยก็จะต้องโดนโทรทวงถามหนี้ ว่าจะจ่ายได้ไหม? จ่ายเมื่อไร? ถ้าจ่ายไม่ได้ก็จะดำเนินการฟ้องร้องต่อไป แต่ถ้ามีการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้หรือที่เรียกว่า “ปรับโครงสร้างหนี้” ได้ก็ไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลให้ยุ่งยากเสียเวลา แต่ถ้าไม่สามารถตกลงกันได้ อาจจะด้วยยอดเงินที่สูง ค่าปรับมากเกินไปนั้น คุณก็จะต้องรอหมายศาลต่อไป
นานแค่ไหนที่สถาบันการเงินจะมีการฟ้องร้อง
- ส่วนใหญ่แล้วระยะเวลาในการฟ้องร้องนั้นจะมีระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่เงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงิน
กรณีที่ได้รับหมายศาลจากการโดนฟ้องหนี้บัตรเครดิตควรจะต้องทำอย่างไร
- สิ่งแรกเลยก็คือตรวจสอบรายละเอียดว่า ชื่อ นามสกุล ถูกต้องไหม ยอดหนี้ที่คงค้าง ตรงกันหรือไม่อย่างไร และที่สำคัญคุณจะต้องไปที่ศาลตามที่นัด ไม่เช่นกัน เจ้าหนี้ก็จะได้เปรียบในการฟ้องร้อง เพราะคุณจะไม่สามารถขอไกล่เกลี่ยหรือลดจำนวนหนี้ได้เลย
ในเมื่อความจำเป็นเรื่องการเงินของแต่ละคนไม่เหมือนกันอันนี้เราเข้าใจได้ แต่ถ้าเมื่อไรที่เป็นหนี้ ก็ต้องใช้หนี้ ถ้าไม่จ่ายหนี้ ก็จะต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไป ฉะนั้นก่อนที่จะใช้เงินอะไรก็ตามขอให้ทุกครั้งมีสติและรอบคอบในการใช้เงิน เพื่อที่จะได้ไม่มาเป็นทุกข์ในภายหลัง ทุกปัญหาเรื่องการเงินปรึกษาได้ที่ iMoney
ขอขอบคุณสำหรับข้อมูล www.sanook.com