ประกันสุขภาพครอบครัว – การทำประกันสุขภาพดีอย่างไร? เราควรจะทำประกันสุขภาพหรือไม่? ซึ่งจริงๆแล้วคนที่รู้คำตอบดีที่สุดว่าจะทำประกันสุขภาพก็คุณนั่นเอง เพราะบางคนก็มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลอยู่แล้ว ก็เลยไม่อยากจะเสียเงินตรงนี้ แต่สำหรับบางคนที่มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล แต่ก็อยากได้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติม เพราะในบางครั้งสวัสดิการที่มีอยู่ไม่สามารถเบิกได้ครบ หากเกินวงเงินที่กำหนดก็จะต้องควักเงินในกระเป๋าของตัวเอง ก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าค่ารักษาเดี๋ยวแพงขึ้นกว่าเดิมมาก และที่สำคัญเวลาจะไปหาในละครั้งก็ต้องใช้เวลารอนานมาก บางทีก็เสียเวลาไปแล้วครึ่ง แต่ถ้าคุณลองเลือกใช้เป็นประกันสุขภาพก็จะได้รับการบริการที่รวดเร็ว ซึ่งหากใครมีเงินที่จะซื้อประกันสุขภาพหน่อยก็จะเลือกความสะดวกสบายและครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลเกือบจะทั้งหมดก็ว่าได้เลย ไม่เพียงเท่านั้นการทำประกันสุขภาพบางกรมธรรม์ยังเพิ่มความคุ้มครองในกรณีที่ยังคุ้มครองโรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็ง ที่มีค่ารักษาสูงพอควรเลย หรือบางกรมธรรม์หากตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งคุณก็จะได้รับเงินก้อนไว้ใช้จ่ายในการดำรงชีพหรือนำมาเป็นค่ารักษาพยาบาลก็ได้อีกด้วย ด้วยเหตุผลต่างๆเหล่านี้ทำให้คนเราให้ความสนใจมากขึ้นในการเลือกซื้อทำประกันสุขภาพ และที่สำคัญเดี๋ยวนี้การซื้อประกันสุขภาพนั้นบางบริษัทประกันชีวิตให้คุณสามารถซื้อประกันสุขภาพแบบเดี่ยวได้เลยโดยที่ไม่ต้องซื้อประกันชีวิตก่อน และวันนี้ iMoney ก็มีบทความที่เกี่ยวกับการทำประกันสุขภาพครอบครัว เหมาะมากสำหรับคนรุ่นใหม่ เพียงแค่จ่ายครั้งเดียวครอบคลุมค่ารักษากันแบบยกครัวกันไปเลย เรามาดูรายละเอียดของประกันสุขภาพครอบครัวกันเลยค่ะ
รวบรวมประกันสุขภาพครอบครัวจากบริษัทประกันสุขภาพที่น่าสนใจ 2563
บริษัทประกันสุขภาพ |
ผลิตภัณฑ์ | จุดเด่น | เงื่อนไขการทำประกัน |
ไทยวิวัฒน์ประกันภัย | ประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์ | สมัครทั้งครอบครัวรับลดส่วนสูงถึง 10% พร้อมให้ความคุ้มครองค่ารักษาสูงสุดถึง 8 ล้านบาท และเบี้ยผ่อนจ่ายรายเดือนได้ |
สมัครได้ทั้งคนไทยและต่างชาติที่มีอายุไม่เกิน 65 ปี |
แอลเอ็มจี ประกันภัย |
ประกันสุขภาพ แผนอีลิท ซีรีย์ | คุ้มครองสูง 80 ล้านบาทต่อปี คุ้มครองนานจนถึงอายุ 90 ปี และยังได้รับส่วนลดหากสมัครทั้งครอบครัว และคุ้มครองทุกที่ทั่วโลก | สมัครได้ทั้งแบบคนเดียวหรือทั้ง 3 คนครอบครัว โดยที่ต่ออายุความคุ้มครองได้จนถึงอายุ 90 ปี |
ทิสโก้ อินชัวรันส์ โซลูชั่น | ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย TISCO My Care Supreme | เหมาจ่ายค่ารักษาสูงสุด 24 ล้านบาท มีแผนความคุ้มครองให้เลือกที่หลากหลาย สมัครพร้อมกันทั้งครอบครัวรับส่วนลดสูงถึง 5% แถมยังเพิ่มความในการจ่ายเบี้ยประกันภัย |
สมัครได้ตั้งแต่อายุ 15 วันขึ้นไป จนถึงอายุ 60 ปี โดยที่สามารถต่อความคุ้มครองได้จนถึงอายุ 90 ปี |
เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต |
ประกันสุขภาพ แฟมิลี่ แคร์ | จ่ายครั้งเดียวคุ้มครองค่ารักษาทั้งครอบครัว พร้อมรับส่วนลด 25% ของเบี้ยประกันภัย และคุ้มครองทั้งค่ารักษาและคุ้มครองกรณีเสียชีวิต |
เป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด |
Credit : https://pixabay.com
ประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์ จากไทยวิวัฒน์ประกันภัย
สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองกันแบบทั้งครอบครัว แนะนำเป็นผลิตภัณฑ์นี้เลยกับ ประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์ จากไทยวิวัฒน์ประกันภัย ที่ตอบโจทย์ได้ครบทุกความต้องการที่เกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลเลย ที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาสูงสุด 8 ล้านบาท นอกจากนี้แล้วหากคุณสมัครทำประกันสุขภาพกันแบบยกครัวนั้นยังจะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยอีกด้วย และหากคุณเกิดเจ็บป่วยหรือได้รับอุบัติเหตุฉุกเฉินในขณะที่อยู่ต่างประเทศยังสามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลต่างประเทศได้ ซึ่งประกันสุขภาพก็ยังคงให้ความคุ้มครองค่ารักษาให้กับคุณอีกด้วย
จุดโดดเด่นของประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์
- เบี้ยประกันสุขภาพสามารถผ่อนจ่ายรายเดือนได้
- รับส่วนลด 10% เบี้ยประกันภัยหากสมัครทั้งครอบครัว
- หากมีประวัติที่ดีจะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยสูงสุด 15%
- สมัครทำประกันสุขภาพได้ทั้งคนไทยและคนต่างชาติที่อยู่ประเทศไทย
- คุ้มครองค่ารักษาให้แบบครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศกรณีฉุกเฉิน
แผนความคุ้มครองของประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์
- มีแผนความคุ้มครองให้เลือกด้วยกัน 6 แผน โดยทั้ง 6 แผนคุ้มครองนี้ก็จะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าห้อง ค่าผ่าตัด หรือค่าธรรมเนียมต่างๆในการรักษาพยาบาล แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือจะเป็นในเรื่องของวงเงินคุ้มครองในแต่ละรายการของการรักษาพยาบาลมากกว่า โดยมีรายละเอียดดังนี้
- แผน 1 STAR กรณีที่นอนโรงพยาบาลจะวงเงินคุ้มครองค่ารักษาจะอยู่ที่ 150,000 บาท
- แผน 2 STAR กรณีที่นอนโรงพยาบาลจะวงเงินคุ้มครองค่ารักษาจะอยู่ที่ 400,000 บาท
- แผน 3 STAR กรณีที่นอนโรงพยาบาลจะวงเงินคุ้มครองค่ารักษาจะอยู่ที่ 600,000 บาท
- แผน 4 STAR กรณีที่นอนโรงพยาบาลจะวงเงินคุ้มครองค่ารักษาจะอยู่ที่ 1,000,000 บาท
- แผน 5 STAR กรณีที่นอนโรงพยาบาลจะวงเงินคุ้มครองค่ารักษาจะอยู่ที่ 2,000,000 บาท
- แผน 6 STAR กรณีที่นอนโรงพยาบาลจะวงเงินคุ้มครองค่ารักษาจะอยู่ที่ 8,000,000 บาท
ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์
- ค่าห้องพักของผู้ป่วย รวมถึงค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาลต่างๆ จะแบ่งออกเป็น 2 กรณี
- กรณีที่นอนรักษาตัวที่ห้องปกติ จะเบิกค่าห้องได้วันละ 1,000 – 12,000 บาท (ตามแผนที่เลือก)
- กรณีที่นอนรักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยหนัก หรือ ห้อง ไอ.ซี.ยู จะเบิกค่าห้องได้วันละ 2,000 – 10,000 บาท (ตามแผนที่เลือก) แต่ถ้าเลือกแผน 4 STAR – 6 STAR จะเบิกค่าห้องได้ตามจริงของค่าห้อง
- ค่ารักษาพยาบาลทั่วไป จะสามารถเบิกได้ 12,000 – 70,000 บาท (ตามแผนที่เลือก) แต่ถ้าเลือกแผน 4 STAR – 6 STAR จะเบิกได้ตามจริง
- ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ และยังเบิกค่ารักษาพยาบาลในการรักษาต่อเนื่องได้อีก 15 วัน โดยจะเบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 5,000 – 10,000 บาท (ตามแผนที่เลือก) แต่ถ้าเลือกแผน 4 STAR – 6 STAR จะเบิกได้ตามจริงที่โรงพยาบาลเรียกเก็บ
- ค่ารักษาในการปลูกถ่ายอวัยวะ จะเบิกได้ไม่เกิน 30,000 – 1,000,000 บาทต่อปี (ตามแผนที่เลือก)
- ค่ารักษาในการฟอกไต จะเบิกได้ไม่เกิน 30,000 – 1,000,000 บาทต่อปี (ตามแผนที่เลือก)
- กรณีที่จะต้องมีการผ่าตัด ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม สามารถเบิกค่าผ่าตัด ค่าแพทย์ผ่าตัด ค่าห้องและอุปกรณ์ในการผ่าตัด หรืออื่นๆ เบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 20,000 – 80,000 บาท (ตามแผนที่เลือก) แต่ถ้าเลือกแผน 4 STAR – 6 STAR จะเบิกได้ตามจริงที่โรงพยาบาลเรียกเก็บ
- ค่าเยี่ยมไข้ กรณีที่นอนโรงพยาบาลจะมีแพทย์มาตรวจดูอาการ ซึ่งสามารถเบิกค่าบริการให้กับแพทย์ได้ไม่เกินวันละ 500 – 1,000 บาท (ตามแผนที่เลือก) แต่ถ้าเลือกแผน 4 STAR – 6 STAR จะเบิกได้ตามจริงที่โรงพยาบาลเรียกเก็บ ทั้งนี้ จะเบิกได้แค่วันละ 1 ครั้งเท่านั้น
- กรณีที่ต้องการขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะเบิกได้ไม่เกิน 2,000 – 12,000 บาทต่อครั้ง (ตามแผนที่เลือก) แต่ถ้าเลือกแผน 6 STAR จะเบิกได้ตามจริง
- กรณีที่จะต้องมีการเคลื่อนย้ายในการรักษาพยาบาล หรือเป็นการย้ายจากโรงพยาบาลกลับไปยังบ้านนั้น เบิกค่าบริการได้ไม่เกิน 500,000 บาทต่อ แต่ถ้าเลือกแผน 6 STAR จะเบิกได้ตามจริง คุ้มครองแฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น
- กรณีที่อยู่ต่างประเทศหากจะต้องมีการเคลื่อนย้ายกลับประเทศ หรือจะจัดงานศพในต่างประเทศนั้น จะคุ้มครองได้เฉพาะคนที่เลือกแผน 6 STAR เท่านั้น
- กรณีที่ผู้ที่ทำประกันสุขภาพยังมีอายุไม่เกิน 16 ปี และจะต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล สามารถเบิกค่าเตียงเสริมสำหรับการเฝ้าไข้ได้ไม่เกิน 500 – 1,000 บาท (ตามแผนที่เลือก)
นอกจากนี้แล้วยังมีความคุ้มครองในด้านอื่นๆ ที่ให้ความคุ้มครองนอกเหนือจากค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่นอนโรงพยาบาล ดังนี้
- รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมด้วยความคุ้มครองกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทุกกรณี รวมทั้งการขับขี่รถจักรยานยนต์หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จนเป็นเหตุให้ต้องสูญเสียอวัยวะของร่างกายกลายเป็นบุคคลทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง หรือเสียชีวิต จะได้รับเงินชดเชยด้วยวงเงิน 100,000 – 500,000 บาท (ตามแผนที่เลือก)
- เบิกค่าตรวจสุขภาพประจำปีได้ ปีละ 1 ครั้ง ด้วยวงเงินไม่เกิน 300 – 8,000 บาท
- กรณีที่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแต่คุณไม่ได้ใช้สิทธิในการเบิกค่ารักษาพยาบาลกับประกันสุขภาพนั้นจะได้รับเงินชดเชยแทน ซึ่งจะได้รับเงินวันละ 500 – 2,000 บาท (เบิกได้ไม่เกิน 30 วันต่อปี)
ประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์ยังให้ความคุ้มครองในกรณีที่ไปรักษาแต่ไม่ได้โรงพยาบาล โดยจะมีแผนให้เลือกด้วยกัน 2 แผน คือ แบบสแตนดาร์ด หรือจะเลือกแบบเดอลุกซ์ เนื่องจากทั้ง 2 แผนที่จะให้วงเงินคุ้มครองที่ไม่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
- แผนแบบสแตนดาร์ด จะเบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 400 – 50,000 บาท (ตามแผนหลักที่เลือก)
- แผนแบบเดอลุกซ์ จะเบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 600 – 75,000 บาท (ตามแผนหลักที่เลือก)
ทั้งนี้ในการเบิกค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกนั้น หากคุณเลือกแผน 1 STAR – 4 STAR นั้นจะเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ไม่เกิน 30 ครั้งต่อปี แต่ถ้าเลือกแผน 5 STAR – 6 STAR สามารถเบิกค่ารักษาได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง จะเบิกกี่ครั้งต่อปีก็ได้
คุณสมบัติของผู้ทำประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์
- สมัครได้ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ซึ่งจะต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี และยังสามารถต่ออายุความคุ้มครองได้จนถึงอายุ 70 ปี
ช่องทางการสมัครทำประกันภัยสุขภาพสตาร์เฮลท์
- สำหรับคนที่สนใจสามารถเลือกสมัครได้ทั้งทางโทรศัพท์ Call Center 1231 หรือทางออนไลน์ก็ได้เช่นกัน เพียงคลิกที่นี่
Credit : https://pixabay.com
ประกันสุขภาพ แผนอีลิท ซีรีย์ จากแอลเอ็มจี ประกันภัย
ประกันสุขภาพ แผนอีลิท ซีรีย์ เป็นประกันสุขภาพที่มอบสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับใครที่อยากทำประกันสุขภาพให้กับครอบครัว หากสมัครตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปนั้นจะได้รับส่วนลดพิเศษจากราคาเบี้ยประกันภัย และให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั่วโลกอีกด้วย แถมวงเงินค่ารักษารวมทั้งไม่ว่าจะรักษาในฐานะผู้ป่วยในหรือผู้ป่วยนอกก็จะได้รับวงเงินคุ้มครองค่ารักษาสูงสุดถึง 80 ล้านบาทต่อปี ไม่เพียงเท่านั้นทุกครั้งที่รักษาคุณยังไม่ต้องสำรองจ่ายอีกด้วย ซึ่งต้องบอกเลยว่าประกันสุขภาพนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีสำหรับคนที่มีครอบครัวแล้ว เนื่องจากให้ความคุ้มครองแบบครอบคลุม รวมถึงค่าคลอดลูกอีกด้วย เผื่อใครที่กำลังวางแผนจะมีลูก ก็จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการคลอดลูก ส่วนรายละเอียดความคุ้มครองจะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย
จุดที่โดดเด่นของประกันสุขภาพ แผนอีลิท ซีรีย์
- คุ้มครองค่ารักษาครอบคลุมทุกที่ทั่วโลก
- วงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 80 ล้านบาทต่อปี
- คุ้มครองค่ารักษาทุกกรณีทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก
- สมัครทำประกันสุขภาพพร้อมทั้งครอบครัวรับลด 3%
- สามารถต่ออายุความคุ้มครองค่ารักษาได้จนถึงอายุ 90 ปี
สำหรับใครที่สนใจอยากจะทำประกันสุขภาพนี้ ก่อนก็จะต้องรู้เสียก่อนว่าประกันสุขภาพนี้จะแผนความคุ้มครองให้เลือกด้วยกัน 2 แผน 2 วงเงินของค่ารักษาพยาบาลต่อครั้ง และต่อปี ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการวงเงินคุ้มครองอยู่ที่เท่าไร
- ความคุ้มครอง แผนซิลเวอร์ เบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อครั้ง และไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อปี
- ความคุ้มครอง แผนโกลด์ เบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อครั้ง และไม่เกิน 80 ล้านบาทต่อปี
ซึ่งดูจากวงเงินที่คุ้มครองแล้วต้องบอกเลยว่าทั้งสองแผนมีวงเงินที่แตกต่างกันค่อนข้างมากเลยทีเดียว บอกได้คำเดียวเลยว่าถ้ามีเงินก็ให้เลือกแผนโกลด์เลย เพราะวงเงินคุ้มครองค่อนข้างสูง ทำให้เราอุ่นใจกับค่ารักษาพยาบาลที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากอนาคตเราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะจะเจ็บป่วยเล็กน้อย หรือเจ็บป่วยหนัก หากจะต้องมีการผ่าตัดหรือนำเทคโนโลยีใหม่ๆมารักษา ก็จะต้องใช้เงินรักษาค่อนข้างสูง แต่ถ้ามีงบไม่ค่อยมาก ก็เลือกเป็น แผนซิลเวอร์ นี้ก็ได้
ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพ แผนอีลิท ซีรีย์
คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่นอนโรงพยาบาล จะสามารถเบิกค่ารักษาได้ดังนี้
- ค่าห้องผู้ป่วยปกติ รวมค่าอาหารและบริการต่างๆ เบิกได้วันละ 8,000 – 16,000 บาท (ตามแผน) แต่ถ้าหากรักษาตัวให้ห้องผู้ป่วยหนัก หรือห้อง ไอ.ซี.ยู จะเบิกค่าห้องได้ตามจริง
- ค่ารักษาพยาบาลต่างๆ ได้แก่ ค่าผ่าตัด ค่าคำปรึกษาจากแพทย์ ค่าบริการทั่วไป ค่าจ้างพยาบาลพิเศษ เป็นต้น ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเหล่านี้จะสามารถเบิกได้ตามจริง
- ค่ารักษาในการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือเปลี่ยนอวัยวะ หรือฟอกไต ภายในระยะเวลา 1 ปีนั้นจะเบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 1,000,000 – 2,000,000 บาท (ตามแผน)
- ค่ารักษากับแพทย์ทางจิตเวช ภายในระยะเวลา 1 ปีนั้นจะเบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 100,000 – 200,000 บาท (ตามแผน)
คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่ไม่นอนโรงพยาบาล จะสามารถเบิกค่ารักษาได้ดังนี้
- แอลเอ็มจีประกันภัย จะเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ตามจริงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาจากการเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ นอกจากแล้วนี้หากมีความจำเป็นจะต้องไปรักษากับแพทย์ทางเลือก ก็สามารถเบิกค่ารักษาได้ตามจริงเช่นกัน
คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ
- หากตั้งครรภ์คุณสามารถเบิกค่ารักษาได้ไม่ว่าจะเป็นกรณีคลอดลูก หรือกรณีแท้งลูก หรือภาวะผิดปกติของการตั้งครรภ์ โดยมีรายละเอียดดังนี้
- เบิกค่าคลอดลูกไม่ว่าจะคลอดธรรมชาติหรือผ่าตัด จะเบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 100,000 – 150,000 บาท (ตามแผน)
- เบิกค่ารักษากรณีแท้งลูก ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการขูดมดลูก เป็นต้น จะเบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 50,000 – 75,000 บาท (ตามแผน)
- เบิกค่าคลอดในกรณีที่ตั้งครรภ์ผิดปกติ เช่น ท้องนอกมดลูก หรือจะต้องผ่าคลอดลูกฉุกเฉิน จะเบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 200,000 – 300,000 บาท (ตามแผน)
- หากเสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ จากอุบัติเหตุทุกกรณีรวมทั้งที่เกิดจากขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ หรือถูกฆาตกรรม หรือการถูกทำร้ายร่างกาย คุณหรือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินชดเชยให้ด้วยวงเงิน 200,000 บาท
- มอบเงินช่วยเหลือค่าจัดงานศพให้กับผู้ที่ทำประกันสุขภาพ หากเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ จะได้รับเงินช่วยเหลือ 10,000 – 15,000 บาท
- เบิกค่ารักษาในการทำฟันได้ ซึ่งจะเบิกได้ไม่เกิน 80,000 บาท และทุกครั้งที่ไปรักษาฟันนั้น ประกันสุขภาพนี้จะช่วยออกค่ารักษาให้ไม่เกิน 80% ของค่ารักษาทั้งหมด
- เบิกค่ารักษาสายตา ซึ่งจะเบิกได้ไม่เกิน 10,000 บาท และทุกครั้งที่ไปรักษาประกันสุขภาพนี้จะช่วยออกค่ารักษาให้ไม่เกิน 80% ของค่ารักษาทั้งหมด
อัตราเบี้ยประกันสุขภาพ แผนอีลิท ซีรีย์
- สำหรับคนที่ทำประกันสุขภาพนี้กันทั้งครอบครัวนั้น ในการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพจะคิดจากอายุของผู้ที่ทำประกันภัยของแต่ละคน ซึ่งแน่นอนว่าอายุไม่เท่ากัน ก็จ่ายเบี้ยไม่เท่ากัน แต่ที่แน่ๆก็คือจะได้รับส่วนลด 5% ของเบี้ยประกันภัย นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษอื่นๆที่จะลดเบี้ยประกันภัยอีกด้วย
- หากเลือกทำประกันภันสุขภาพโดยที่ไม่รวมค่ารักษาพยาบาลแบบไม่นอนโรงพยาบาล จะไปเลยส่วนลด 20% ของเบี้ยประกันภัย
- ทุกครั้งในการจ่ายค่ารักษาพยาบาลหากคุณร่วมจ่ายด้วยจะได้รับส่วนลดดอกเบี้ย ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
- หากจ่ายส่วนแรก 50,000 บาทต่อคนต่อปี จะได้ส่วนลด 20% ของเบี้ยประกันภัย
- หากจ่ายส่วนแรก 100,000 บาทต่อคนต่อปี จะได้ส่วนลด 30% ของเบี้ยประกันภัย
เงื่อนไขในการสมัครประกันสุขภาพ แผนอีลิท ซีรีย์
- สมัครได้ทั้งแบบคนเดียวหรือทั้งแบบครอบครัว โดยที่สามารถต่ออายุความคุ้มครองได้จนถึงอายุ 90 ปี
ช่องทางการสมัครประกันสุขภาพ แผนอีลิท ซีรีย์
Credit : https://pixabay.com
ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย TISCO My Care Supreme จากทิสโก้ อินชัวรันส์ โซลูชั่น
หากคุณกำลังมองหาประกันสุขภาพสำหรับสมาชิกในครอบครัวอยู่ เราขอแนะนำประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย TISCO My Care Supreme ที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องกังวลค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้น โดยจะให้ความคุ้มครองทั้งในกรณีที่ไปรักษาที่โรงพยาบาลจะนอนหรือไม่นอนโรงพยาบาลก็ตาม ประกันก็จะดูแลค่ารักษาพยาบาลให้ด้วยวงเงินสูงสุดถึง 24 ล้านบาท และยังคุ้มครองค่าห้องผู้ป่วยให้สูงสุดถึงวันละ 10,000 บาทเลย นอกจากการรักษากับแพทย์แผนปัจจุบันแล้วยังสามารถเลือกที่จะรักษาแพทย์ทางเลือกได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการรักษาโดยการฝังเข็ม รวมไปถึงยังให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่ารักษาสายตาและการทำฟัน และที่สำคัญหากคุณสมัครทำประกันสุขภาพนี้กันทั้งครอบครัวตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ยังจะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัย แต่การทำประกันสุขภาพครอบครัวนั้นคุณจะต้องเลือกทำแผนความคุ้มครองเดียวกัน ไม่สามารถเลือกคนละแผนความคุ้มครองได้ รายละเอียดมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย
จุดที่โดดเด่นของประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย TISCO My Care Supreme
- เลือกแผนความคุ้มครองได้มากถึง 4 แผน
- สมัครยกครัวรับส่วนลด 5% ของเบี้ยประกันภัย
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลต่างๆด้วยวงเงินสูงสุด 24 ล้านบาท
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งในประเทศและต่างประเทศหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
- เพิ่มความสะดวกมากขึ้นด้วยการจ่ายเบี้ยประกันภัยได้ทั้งเงินสดและบัตรเครดิต
แผนความคุ้มครองของประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย TISCO My Care Supreme
- แผนคุ้มครอง Supreme Mini
- สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ต่อครั้งต่อโรคไม่เกิน 1,000,000 บาท แต่เมื่อรวมกันแล้วจะต้องไม่เกิน 3,000,000 บาทต่อปี
- แผนคุ้มครอง Supreme 1
- สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ต่อครั้งต่อโรคไม่เกิน 1,000,000 บาท แต่เมื่อรวมกันแล้วจะต้องไม่เกิน 5,000,000 บาทต่อปี
- แผนคุ้มครอง Supreme 2
- สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ต่อครั้งต่อโรคไม่เกิน 2,000,000 บาท แต่เมื่อรวมกันแล้วจะต้องไม่เกิน 10,000,000 บาทต่อปี
- แผนคุ้มครอง Supreme 3
- สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ต่อครั้งต่อโรคไม่เกิน 6,000,000 บาท แต่เมื่อรวมกันแล้วจะต้องไม่เกิน 24,000,000 บาทต่อปี
จากทั้ง 4 แผนความคุ้มครองข้างต้นนี้จะเห็นได้ว่าสิ่งที่แตกต่างกันจะเป็นในเรื่องของวงเงินค่ารักษาพยาบาลในแต่ละครั้งหรือค่ารักษาต่อปี ซึ่งการเลือกแผนความคุ้มครองนั้นก็จะมีผลต่อการคิดคำนวณเบี้ยประกันภัยด้วย แต่เมื่อสมัครกันทั้งครอบครัว เบี้ยประกันภัยของแต่ละคนก็จะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับช่วงอายุของแต่ละ แม้ว่าจะเลือกแผนความคุ้มครองเดียวกันก็ตาม
ขอบเขตในการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย TISCO My Care Supreme ซึ่งจะคุ้มครองทั้งในประเทศไทย โดยที่คุณสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ทั้งกรณีที่นอนหรือไม่นอนโรงพยาบาล จะเจ็บป่วย หรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุฉุกเฉิน และหากเดินทางไปต่างประเทศเกิดได้รับบาดเจ็บกะทันหัน ก็เบิกค่ารักษาได้เช่นกัน แต่จะต้องรักษาในฐานะผู้ป่วยนอกเท่านั้น แต่ในกรณีที่เจ็บป่วยกะทันหัน ก็สามารถเบิกค่ารักษาได้ แต่จะต้องรักษาในฐานะผู้ป่วยในเท่านั้น
ผลประโยชน์และความคุ้มครองที่จะได้รับของประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย TISCO My Care Supreme
วงเงินค่ารักษาพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน จะคุ้มครองดังนี้
- คุ้มครองค่าห้องผู้ป่วยในขณะที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล
- ค่าห้องผู้ป่วยธรรมดา ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาล เบิกได้วันละ 5,000 – 10,000 บาท
- ค่าห้องผู้ป่วยวิกฤต (ห้อง ไอ.ซี.ยู) ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาล เบิกได้วันละ 10,000 – 12,000 บาท และเบิกได้ตามที่จริง หากเลือกแผนคุ้มครอง Supreme 3
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั่วไป จะเบิกค่ารักษาได้ตามจริง แต่จะต้องไม่เกินผลประโยชน์สูงสุดต่อปีที่กำหนดไว้ในแต่ละแผนความคุ้มครอง ซึ่งมีรายละเอียดความคุ้มครองดังนี้
- เบิกค่ายาและค่าสารอาหารทางเส้นเลือด
- เบิกค่าบริการในการให้เลือดหรือส่วนประกอบที่เกี่ยวกับเลือด
- เบิกค่าตรวจในการใช้ห้องปฏิบัติการ และอุปกรณ์ต่างๆทางการแพทย์
- เบิกค่าบริการในการทำกายภาพบำบัดได้
- เบิกค่าห้องผ่าตัดและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผ่าตัด
- เบิกค่ายากลับบ้านได้ ในกรณีที่แพทย์สั่งยาให้นำกลับไปกินเพื่อรักษาต่อที่บ้าน
- เบิกค่าบริการในการใช้รถพยาบาลฉุกเฉิน เพื่อเคลื่อนย้ายจากโรงพยาบาลไปโรงพยาบาล หรือจากโรงพยาบาลไปที่บ้าน
- เบิกค่ารักษาพยาบาลในการที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง
- เบิกค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่องได้หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว ซึ่งจะเบิกได้ไม่เกิน 30 วัน
- เบิกค่าใช้จ่ายต่างๆในการหัตถการหรือการผ่าตัดเล็ก
- คุ้มครองค่าบริการพยาบาลส่วนตัว กรณีที่แพทย์แนะนำว่าจะต้องมีพยาบาลในการช่วยเหลือคุณในระหว่างที่พักรักษาตัวที่บ้าน คุณสามารถเบิกค่าบริการนี้ได้ไม่เกิน 20,000 บาท หรือจ่ายให้ตามจริงแต่ไม่เกินผลประโยชน์สูงสุด (ขึ้นอยู่กับแผนความคุ้มครองที่เลือก) โดยจะเบิกได้ไม่เกิน 30 วันต่อปี
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือค่ารักษาในการฟอกไต หรือค่ารักษาปลูกไขกระดูก ซึ่งจะเบิกค่ารักษาได้ต่อปีไม่เกิน 1,000,000 – 2,000,000 บาท
- คุ้มครองค่ารักษากับแพทย์จิตเวช ซึ่งจะเบิกค่ารักษาได้ต่อปีไม่เกิน 20,000 – 100,000 บาท (ขึ้นอยู่กับแผนความคุ้มครองที่เลือก)
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในการผ่าตัด เช่น ค่าแพทย์ในการผ่าตัด ค่าธรรมเนียมแพทย์วิสัญญี จะเบิกค่ารักษาได้ตามจริงแต่ไม่เกินวงเงินที่กำหนด
- คุ้มครองค่าบริการของแพทย์ เช่น ค่าบริการแพทย์ในการดูแลเจ้าของไข้ หรือค่าบริการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคในการให้คำปรึกษา จะเบิกค่ารักษาได้ตามจริงแต่ไม่เกินวงเงินที่กำหนด
วงเงินค่ารักษาพยาบาลในฐานะผู้ป่วยนอก จะคุ้มครองดังนี้
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในการรักษาโดยที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล เช่น ค่ายา ค่าตรวจ ค่าแพทย์ หรือค่าธรรมเนียมต่างๆ จะได้รับความคุ้มครองดังนี้
- แผนคุ้มครอง Supreme Mini เบิกได้ครั้งละไม่เกิน 1,000 บาท และเบิกได้ไม่เกิน 30 วันต่อปี
- แผนคุ้มครอง Supreme 1 เบิกได้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี
- แผนคุ้มครอง Supreme 2 เบิกได้ไม่เกิน 40,000 บาทต่อปี
- แผนคุ้มครอง Supreme 3 สามารถเบิกค่ารักษาได้ตามจริง และไม่จำกัดจำนวนครั้งในการรักษาพยาบาล
- คุ้มครองค่ารักษาในการทำกายภาพบำบัด หรือค่ารักษาแพทย์ทางเลือก จะได้รับความคุ้มครองดังนี้
- แผนคุ้มครอง Supreme Mini จะไม่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในส่วนนี้
- แผนคุ้มครอง Supreme 1 สามารถเบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี
- แผนคุ้มครอง Supreme 2 สามารถเบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 40,000 บาทต่อปี
- แผนคุ้มครอง Supreme 3 สามารถเบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อปี
- คุ้มครองค่ารักษาในการคลอดลูก จะได้รับความคุ้มครองดังนี้
- เบิกค่าคลอดลูก จะมีวงเงินให้อยู่ที่ 60,000 – 100,000 บาท (เฉพาะแผนคุ้มครอง Supreme 2 และแผนคุ้มครอง Supreme 3)
- เบิกค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่แท้งลูก มีวงเงินให้อยู่ที่ 30,000 – 50,000 บาท (เฉพาะแผนคุ้มครอง Supreme 2 และแผนคุ้มครอง Supreme 3)
- กรณีที่มีการท้องนอกมดลูก หรือมีภาวะที่จะต้องทำการผ่าโดยฉุกเฉิน สามารถเบิกค่ารักษาได้ ซึ่งมีวงเงินให้อยู่ที่ 120,000 – 200,000 บาท (เฉพาะแผนคุ้มครอง Supreme 2 และแผนคุ้มครอง Supreme 3)
- คุ้มครองชีวิตในกรณีที่เสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ โดยมีสาเหตุจากอุบัติเหตุ หรือถูกทำร้ายร่างกาย หรือถูกฆาตกรรม จะมีวงเงินคุ้มครองให้อยู่ที่ 200,000 บาท
- คุ้มครองค่ารักษาในการทำฟัน หรือค่ารักษาสายตา ซึ่งจะเบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 20,000 บาท โดยที่ประกันสุขภาพนี้จะจ่ายให้ 80% ของค่ารักษาที่เกิดขึ้น
ส่วนลดพิเศษสำหรับการสมัครประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย TISCO My Care Supreme
- กรณีที่ทำประกันสุขภาพแต่ไม่รวมความคุ้มครองค่ารักษาผู้ป่วยนอก จะได้รับส่วนลด 20% – 30% ของราคาเบี้ยประกันภัย
- กรณีที่ร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลกับประกันสุขภาพ โดยจะแบ่งการจ่ายออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้
- ร่วมจ่ายค่ารักษาส่วนแรกอยู่ที่ 50,000 บาทต่อคนต่อปี จะได้รับส่วนลด 20% ของราคาเบี้ยประกันภัย
- ร่วมจ่ายค่ารักษาส่วนแรกอยู่ที่ 100,000 บาทต่อคนต่อปี จะได้รับส่วนลด 30% ของราคาเบี้ยประกันภัย
- ร่วมจ่ายค่ารักษาส่วนแรกอยู่ที่ 200,000 บาทต่อคนต่อปี จะได้รับส่วนลด 40% ของราคาเบี้ยประกันภัย
- กรณีที่สมัครทำประกันสุขภาพทั้งครอบครัว ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปนั้น จะได้รับส่วนลด 5% ของราคาเบี้ยประกันภัย
เงื่อนไขในการสมัครประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย TISCO My Care Supreme
- เริ่มสมัครทำประกันสุขภาพได้ตั้งแต่อายุเพียงแค่ 15 วันขึ้นไป แต่จะต้องไม่เกินอายุ 60 ปี และยังต่ออายุความคุ้มครองได้จนถึงอายุ 90 ปี นอกจากนี้เลือกสมัครได้ทั้งแบบคนเดียวหรือแบบครอบครัว
ช่องทางการสมัครประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย TISCO My Care Supreme
ประกันสุขภาพ แฟมิลี่ แคร์ จากเอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต
ประกันสุขภาพสำหรับครอบครัว ให้คุณและคนในครอบครัวหมดกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลได้เลยไม่ว่าจะเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เพียงสมัครประกันสุขภาพ แฟมิลี่ แคร์ แพ็คเกจคุ้มครองสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองแบบคลอบคลุมทั้งผู้ป่วยในหรือผู้ป่วยนอก ซื้อประกันสุขภาพครั้งเดียว คุ้มครองให้กันแบบยกบ้านกันไปเลย และเบี้ยประกันสุขภาพที่จ่ายไปนั้นยังนำมาลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
จุดที่โดดเด่นของประกันสุขภาพ แฟมิลี่ แคร์
- ครอบคลุมทุกค่ารักษาทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก
- สมัครกันทั้งครอบครัวตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปรับส่วนลด 25%
- รักษาได้ทั้งที่โรงพยาบาลหรือคลินิกโดยไม่ต้องสำรองจ่าย
- คุ้มครองทั้งกรณีที่เสียชีวิตทุกกรณีรวมถึงกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
- เบิกค่ารักษาพยาบาลในฐานะผู้ป่วยนอกได้สูงสุดถึง 30 ครั้งต่อปี
ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพ แฟมิลี่ แคร์
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน จะเบิกค่ารักษาได้ครั้งละไม่เกิน 25,000 บาท
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยนอก จะเบิกค่ารักษาได้ครั้งละไม่เกิน 1,000 บาท (เบิกได้ไม่เกิน 30 ครั้งต่อปี)
- คุ้มครองกรณีที่เสียชีวิตหากมีสาเหตุมาจากการเจ็บป่วยด้วยโรคทั่วไปนั้นจะได้รับเงินชดเชยอยู่ที่ 50,000 บาท แต่ถ้าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจะได้รับเงินชดเชยเพิ่มอีก 50,000 บาท
จากความคุ้มครองที่เห็นนั้นอาจจะมองว่าวงเงินค่ารักษาพยาบาลนั้นไม่ได้สูงมาก แต่ก็ต้องบอกว่าคุณสามารถใช้ประกันสุขภาพนี้ร่วมกับสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลที่อยู่ก็ได้ ซึ่งวันนี้เราได้ลองลองคำนวณเบี้ยประกันภัยแบบคร่าวๆมาฝากกันว่า หากสมัครกันทั้งครอบครัวนั้นจะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยอยู่ที่เท่าไร ซึ่งในที่นี้เราสมมุติว่าผู้ที่ทำประกันภัยคุณพ่อคุณแม่มีอายุประมาณ 35 ปี ส่วนลูกมีอายุ 5 ปี เบี้ยประกันภัยจะคิดดังนี้
- สำหรับคุณพ่อที่มีอายุ 35 ปี จะจ่ายเบี้ยอยู่ที่ 8,260 บาท
- สำหรับคุณแม่ที่มีอายุ 35 ปี จะจ่ายเบี้ยอยู่ที่ 9,240 บาท
- สำหรับลูกน้อยที่มีอายุ 5 ปี จะจ่ายเบี้ยอยู่ที่ 25,560 บาท
เมื่อรวมกันแล้วทั้ง 3 คน จะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ 43,060 บาท จะได้รับส่วนลด 25% จะเหลืออยู่ที่ 32,295 บาทต่อปี
เงื่อนไขในการสมัครประกันสุขภาพ แฟมิลี่ แคร์
- เงื่อนไขการสมัครนั้นจะเป็นไปตามที่บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต กำหนด
ช่องทางการสมัครประกันสุขภาพ แฟมิลี่ แคร์
- สามารถติดต่อได้กับตัวแทนขายประกันชีวิตทั่วประเทศ หรือโทรสอบถามได้ที่ 02-632-6000 หรือจะเลือกสมัครทางออนไลน์ก็ได้
นอกจากบทความที่เกี่ยวข้องกับประกันสุขภาพแล้ว หากใครที่สนใจอยากมีเงินออมในรูปแบบของการทำประกันชีวิตก็สามารถมาอ่านบทความได้ที่เว็บไซต์ iMoney.in.th ซึ่งพวกเราทีมงานได้รวบรวมข้อมูลหลากหลายด้าน ที่มาจากหลากหลายบริษัทประกันภัยชั้นนำที่คนส่วนใหญ่เลือกทำประกันภัย และในปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่ก็เริ่มที่จะให้ความสนใจในการเลือกทำประกันชีวิต หรือประกันสุขภาพ หรือประกันอุบัติเหตุ กันเพิ่มมากขึ้น เพราะความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน เราไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย และยิ่งสำหรับคนที่จะต้องที่มีรายได้และจะต้องเสียภาษีเงินได้ในทุกๆปีนั้น การเลือกทำประกันชีวิตก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ฉะนั้นเงินที่จ่ายเบี้ยประกันภัยไปนั้นอย่างน้อยๆมาลดหย่อนภาษี ทำให้เงินไม่ได้เสียโดยเปล่าประโยชน์ เพราะไม่เสียเงินค่าเบี้ยก็จะต้องนำเงินไปจ่ายภาษีอยู่ดี และนอกจากเรื่องประกันภัยแล้ว iMoney ยังมีบทความอื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น การสมัครบัตรเครดิตไหนดีที่ให้วงเงินสูง หรือบัตรเครดิตธนาคารไหนอนุมัติเร็ว อนุมัติง่าย รวมถึงใครที่อยากรวมหนี้ไว้ที่นี่ ก็สามารถมาดูได้เลยมีธนาคารไหนบ้างที่ให้สามารถรีไฟแนนซ์ได้ หรือใครอยากซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ แต่ไม่มีเงินต้องการหาสินเชื่อ ก็มาเลือกอ่านได้ว่าที่ไหนให้วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนนาน เราได้รวบรวมข้อมูล พร้อมเปรียบเทียบจุดเด่นต่างๆของแต่ละผลิตภัณฑ์ไว้ที่นี่ที่เดียวที่มีครบทุกความต้องการเรื่องการเงิน กับ iMoney