ประกันสุขภาพรายเดือน – การมีสุขภาพที่ดีถือว่าเป็นความโชคดีอย่างมากที่ไม่โรคภัยไข้เจ็บใดๆ นอกจากเรื่องสุขภาพดีแล้วยังไม่ต้องเสียเงินกับค่ารักษาพยาบาล เพราะค่ารักษาพยาบาลเดี๋ยวนี้ค่อนข้างสูงมาก ไปหาหมอแต่ละครั้งก็จะต้องมีเงินในกระเป๋าอย่างน้อยๆหลักพัน ทำให้หลายคนเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆ ก็ไม่อยากไปหาหมอ เลยเลือกที่จะไปซื้อยากินเอง มันก็จริงที่จ่ายราคาถูก ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวในการรักษาพยาบาล แต่ถ้าใครมีประกันสุขภาพก็ไม่ต้องมาคอยกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งการทำประกันสุขภาพนั้นก็มีหลากหลายประเภทความคุ้มครอง ไม่ว่าจะนอนโรงพยาบาลหรือไม่นอนโรงพยาบาล รวมไปถึงการคุ้มครองเฉพาะโรค โดยเฉพาะโรคร้ายแรง อย่างเช่น โรคมะเร็งทั้งระยะลุกลามหรือระยะยังไม่ลุกลาม โรคหัวใจ เป็นต้น หากวันนี้ใครที่ยังไม่มีประกันสุขภาพเข้ามาดูแลคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และกังวลว่าการทำประกันสุขภาพจะต้องจ่ายเบี้ยประกันแพงและจ่ายครั้งหนึ่งก็เป็นเงินก้อน วันนี้เราจะฉีกกฎในการทำประกันสุขภาพกัน ที่ให้คุณจ่ายสบายๆรายเดือน โดยที่ไม่เป็นภาระเงินก้อนในแต่ละปี iMoney เลยรวบรวมประกันสุขภาพรายเดือนจากบริษัทประกันชีวิตต่างๆที่ให้คุณสามารถจ่ายได้แบบสบายกระเป๋า ฉะนั้นวันนี้ใครที่มีอยากประกันสุขภาพที่จ่ายเบี้ยไม่แพงนั้นไม่ควรพลาดบทความนี้เลย จะโดนใจคุณหรือไม่นั้น ติดตามอ่านไปพร้อมๆกันเลย
รวบรวมประกันสุขภาพรายเดือนที่น่าสนใจ ประจำปี 2563
บริษัทประกันสุขภาพ | ผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ | จุดที่โดดเด่น | เงื่อนไขในการสมัคร |
ซิกน่า ประกันภัย | ประกันสุขภาพมิติใหม่ คุ้มครองโรคมะเร็งทุกระยะและโรคร้ายแรง | เบี้ยถูก คุ้มครองสูงหลักล้าน ตรวจพบโรคร้ายแรงรับเงินก้อนไปใช้ได้ทันที และยังคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยในหรือผู้ป่วยนอก | เริ่มทำประกันสุขภาพได้ตั้งแต่อายุระหว่าง 20 – 60 ปี และต่ออายุความคุ้มครองได้จนถึงอายุ 70 ปี |
เมืองไทยประกันชีวิต | ประกันสุขภาพ แบบ สมาร์ทเฮลท์ | คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลด้วยวงเงินที่สูงถึง 5 ล้านบาท และยังจ่ายเบี้ยประกันได้สบายทั้งรายเดือนหรือรายปี | สมัครทำประกันสุขภาพได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน – 70 ปี และต่อความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาได้จนถึงอายุ 80 ปี |
อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต | ประกันสุขภาพ ปลดล็อค เอ็กซ์ตร้า | วงเงินค่ารักษาพยาบาลที่สูงถึง 10 ล้านบาท คุ้มครองทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก แถมเบี้ยยังนำมาลดหย่อนภาษีได้ | ทำประกันสุขภาพได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน 1 วัน – 70 ปี และขยายความคุ้มครองได้จนถึงอายุ 84 ปี |
เจนเนอราลี่ ประกันภัย (ไทยแลนด์) | ประกันสุขภาพ Gen Health Lump Sum | จ่ายเบี้ยถูก คุ้มครองค่ารักษาสูงสุด 1 ล้านบาท สมัครได้ง่ายโดยที่ไม่ต้องตรวจสุขภาพ และถ้าไม่มีเคลมรับส่วนลด 10% ของเบี้ยประกันสุขภาพในปีถัดไป | สมัครทำประกันได้ตั้งแต่อายุ 6 – 65 ปี และต่ออายุความคุ้มครองได้อายุ 69 ปี |
Credit : https://pixabay.com
ประกันสุขภาพมิติใหม่ คุ้มครองโรคมะเร็งทุกระยะและโรคร้ายแรง จากซิกน่า ประกันภัย
ปัจจุบันคนไทยมีความเสี่ยงและเป็นโรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นทุกวัน รวมไปถึงโรคร้ายแรงอื่นๆด้วย การตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายแรงนั้นนอกจากจะคร่าชีวิตแล้วยังทำให้ต้องหมดเงินมากมายไปกับค่ารักษาพยาบาลที่สูง ไหนจะค่าหมอ ไหนจะค่ายา ไปหาหมอในแต่ละครั้งก็หมดเงินไปไม่ใช่น้อยๆ แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปถ้าเลือกทำประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองกรณีที่เป็นโรคร้ายแรง เช่น โรคมะเร็ง เนื้องอก ซีสต์ ก้อนเนื้อ เป็นต้นนั้น จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้อย่างดีเลย แถมยังมีเงินก้อนเพื่อเก็บไว้ใช้อีกด้วย ส่วนรายละเอียดความคุ้มครองนั้นมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย
จุดที่โดดเด่นของประกันสุขภาพคุ้มครองโรคมะเร็งทุกระยะและโรคร้ายแรง
- เบี้ยประกันสุขภาพเริ่มต้นเดือนละ 281 บาท
- เบิกค่ารักษาได้ตามจริงทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน
- เข้ารับการรักษาโดยที่ไม่ต้องสำรองจ่ายเงินล่วงหน้า
- สมัครง่ายแม้ตรวจพบโรคร้ายแรงภายหลังก็ไม่ยกเลิกสัญญา
- คุ้มครองโรคมะเร็งทั้งในระยะลุกลามหรือในช่วงระยะไม่ลุกลาม
แผนความคุ้มครองของประกันสุขภาพคุ้มครองโรคมะเร็งทุกระยะและโรคร้ายแรง
สำหรับในการทำประกันสุขภาพนี้ ทางซิกน่าจะให้เลือกความคุ้มครองเฉพาะโรคนั่นก็คือ โรคมะเร็งทุกระยะ จะเป็นความคุ้มครองหลักๆในการทำประกันสุขภาพนี้ นอกเหนือจากนั้น คุณยังสามารถซื้อความคุ้มครองโรคร้ายแรงอื่นๆเพิ่มเติมได้ ดังนี้ โรคหลอดเลือดสมอง โรคกล้ามเนื้อหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งแต่ละโรคก็จะต้องจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพเพิ่มเติม และแผนความคุ้มครองนั้นก็จะมีให้เลือกด้วยกัน 3 แผน คือ ความคุ้มครงแผน S ความคุ้มครงแผน M และความคุ้มครงแผน L โดยวงเงินจะค่ารักษาพยาบาลจะค่อยๆเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับเบี้ยประกันสุขภาพก็จะค่อยๆเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน และในส่วนของเบี้ยประกันสุขภาพนั้นก็ให้จ่ายสบายๆ เป็นรายเดือนอีกด้วย งั้นเรามาดูกันต่อในส่วนของผลประโยชน์และความคุ้มครองกันเลยค่ะ
ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันคุ้มครองโรคมะเร็งทุกระยะและโรคร้ายแรง
การทำประกันสุขภาพนี้จะให้ความคุ้มครองโรคร้ายแรง ดังนี้ โรคมะเร็งทุกระยะ โรคหลอดเลือดสมอง โรคกล้ามเนื้อหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง แต่ละโรคก็จะให้วงเงินค่ารักษาพยาบาลที่ไม่เท่ากัน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
คุ้มครองโรคมะเร็งทุกระยะ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้
- กรณีที่โรคมะเร็งอยู่ในช่วงยังไม่ลุกลาม หรือที่ตรวตพบว่าเป็นโรคซิสต์ เนื้องอก จะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ทั้งกรณีที่นอนหรือไม่นอนโรงพยาบาล ได้ด้วยวงเงินค่ารักษาจะอยู่ที่ 150,000 – 300,000 บาท
- กรณีที่โรคมะเร็งอยู่ในช่วงลุกลาม ประกันจะให้วงเงินโดยแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- ตรวจพบรับเงินก้อนทันที จำนวน 100,000 – 500,000 บาท (ตามแผนคุ้มครอง)
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลได้ทั้งผู้ป่วยในหรือผู้ป่วยนอก ด้วยวงเงินค่ารักษาพยาบาลอยู่ที่ 500,000 – 2,500,000 บาท (ตามแผนคุ้มครอง)
นอกจากนี้แล้วสำหรับใครที่เลือกทำประกันสุขภาพนี้แล้วอยากที่จะซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมในส่วนโรคร้ายแรงอื่นๆ ซึ่งจะให้ซื้อเพิ่มทั้งหมด 3 แผน แบ่งออกเป็นแต่ละโรค ดังนี้
กรณีที่ซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด หรือโรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน ซึ่งทั้งสองโรคนี้ จะให้วงเงินคุ้มครองเท่ากัน ดังนี้
- กรณีที่ตรวจพบรับเงินก้อน ประกันจะจ่ายเงินเพื่อไว้ใช้ดำรงชีวิต 100,000 – 500,000 บาท (ตามแผนคุ้มครอง)
- เบิกค่ารักษาพยาบาลสำหรับโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด หรือโรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน ไม่ว่าในการเข้ารับการรักษานั้นจะต้องนอนหรือไม่นอนโรงพยาบาลก็ตาม สามารถเบิกค่ารักษาได้ 500,000 – 2,500,000 บาท (ตามแผนคุ้มครอง)
กรณีที่ซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง จะได้รับความคุ้มครองเฉพาะค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น โดยจะคุ้มครองเฉพาะผู้ป่วยนอกเท่านั้น ด้วยวงเงิน 150,000 – 300,000 บาท (ตามแผนคุ้มครอง)
นอกจากนี้แล้ว ยังมีผลประโยชน์ในการรักษาพยาบาลอื่นๆที่ให้ความคุ้มครองด้วย เช่น รักษาด้วยวิธีแพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน และในการเข้ารับการรักษานั้นคุณไม่ต้องสำรองจ่ายกับโรงพยาบาลที่อยู่ในเครือข่ายกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ
เบี้ยประกันประกันสุขภาพคุ้มครองโรคมะเร็งทุกระยะและโรคร้ายแรง
- สำหรับความคุ้มครองหลัก คือ โรคมะเร็ง เบี้ยประกันสุขภาพจะขึ้นอยู่แผนความคุ้มครอง ดังนี้
- แผน S เบี้ยประกันสุขภาพอยู่ที่เดือนละ 281 บาท
- แผน M เบี้ยประกันสุขภาพอยู่ที่เดือนละ 438 บาท
- แผน L เบี้ยประกันสุขภาพอยู่ที่เดือนละ 966 บาท
- กรณีที่ซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติม จะต้องจ่ายเงินตามโรคร้ายแรงที่ซื้อเพิ่ม ดังนี้
- โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด
- แผน S เบี้ยประกันสุขภาพอยู่ที่เดือนละ 54 บาท
- แผน M เบี้ยประกันสุขภาพอยู่ที่เดือนละ 88 บาท
- แผน L เบี้ยประกันสุขภาพอยู่ที่เดือนละ 196 บาท
- โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน
- แผน S เบี้ยประกันสุขภาพอยู่ที่เดือนละ 69 บาท
- แผน M เบี้ยประกันสุขภาพอยู่ที่เดือนละ 113 บาท
- แผน L เบี้ยประกันสุขภาพอยู่ที่เดือนละ 253 บาท
- โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง
- แผน S เบี้ยประกันสุขภาพอยู่ที่เดือนละ 176 บาท
- แผน M เบี้ยประกันสุขภาพอยู่ที่เดือนละ 234 บาท
- แผน L เบี้ยประกันสุขภาพอยู่ที่เดือนละ 305 บาท
- โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด
จากอัตราเบี้ยประกันสุขภาพที่เราได้บอกไปนั้นถ้าเราซื้อทั้งความคุ้มครองหลักและเสริมด้วยโรคร้ายแรงแบบครบทุกโรคนั้น เบี้ยประกันสุขภาพก็จะเริ่มต้นเพียงแค่เดือนละ 580 บาทเท่านั้นเอง แต่ถ้าไปเทียบกับค่ารักษาพยาบาลที่จะต้องจ่ายนั้นเรียกว่าคุ้มสิยิ่งกว่าคุ้มซะอีกค่ะ สำหรับใครที่สนใจอยากสมัครแต่ยังไม่รู้เงื่อนไขหรือว่าจะสมัครได้ที่ไหนนั้น มาดูกันเลย
เงื่อนไขในการสมัครทำประกันสุขภาพมิติใหม่ คุ้มครองโรคมะเร็งทุกระยะและโรคร้ายแรง
- สามารถทำประกันสุขภาพได้ตั้งแต่อายุ 20 – 60 ปี และต่ออายุความคุ้มครองในการรักษาพยาบาลได้จนถึงอายุ 70 ปี
สนใจสมัครทำประกันสุขภาพมิติใหม่ คุ้มครองโรคมะเร็งทุกระยะและโรคร้ายแรง
Credit : https://pixabay.com
ประกันสุขภาพ แบบ สมาร์ทเฮลท์ จากเมืองไทยประกันชีวิต
หมดกังวลกับค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เพียงแค่เลือกทำประกันสุขภาพ แบบ สมาร์ทเฮลท์ จากเมืองไทยประกันชีวิต ที่ให้ความคุ้มครองไม่ว่าในการรักษาตัวครั้งนั้นจะต้องนอนหรือไม่นอนโรงพยาบาลก็ตาม สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้สูงสุดถึง 5 ล้านบาทต่อปีกันเลย นอกจากนี้ยังให้ค่าห้องผู้ป่วยรวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆสูงสุดถึง 10,000 บาท ไม่เพียงเท่านั้นยังให้ความคุ้มครองแบบต่อเนื่องหลังจากที่ออกโรงพยาบาลไปแล้วแต่ยังจะต้องมารักษาต่อนั้น ประกันก็จ่ายค่ารักษาพยาบาลได้อีกด้วย ในการสมัครทำประกันสุขภาพนี้จะต้องมีตรวจสุขภาพตามเงื่อนไขที่ตามกำหนด ส่วนเงื่อนไขและแผนความคุ้มครองจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูรายละเอียดไปพร้อมๆกันเลยค่ะ
จุดที่โดดเด่นของประกันสุขภาพ แบบ สมาร์ทเฮลท์
- อุ่นใจทุกการรักษาแบบครอบคลุมทั้งนอนและไม่นอนโรงพยาบาล
- หายห่วงด้วยวงเงินค่ารักษาพยาบาลที่เหมาจ่ายให้สูงสุดถึง 5 ล้านบาทต่อปี
- สบายกระเป๋าด้วยการเลือกจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพได้ตามที่ต้องการจะรายเดือนหรือรายปี
สำหรับคนที่เลือกทำประกันสุขภาพ แบบ สมาร์ทเฮลท์ นี้ทางเมืองไทยประกันชีวิตจะมีแผนความคุ้มครองให้เลือก 5 แผนความคุ้มครอง โดยแผนความคุ้มครองแต่ละแผนนั้นจะเริ่มจากแผนที่ 1 ไปจนถึง แผนที่ 5 ซึ่งข้อแตกต่างของแต่ละแผนก็คือ วงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจะค่อยๆเพิ่มขึ้นจากแผน 1 – แผน 5 รวมถึงเบี้ยประกันสุขภาพก็จะเพิ่มตามวงเงินคุ้มครองด้วยเช่นกัน
ผลประโยชน์และความคุ้มครองของประกันสุขภาพ แบบ สมาร์ทเฮลท์
สำหรับความคุ้มครองที่จะได้รับจากประกันสุขภาพนี้จะแบ่งออกเป็น 4 กรณี ได้แก่ 1.คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีที่นอนโรงพยาบาล 2.คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่มีสาเหตุจากอุบัติเหตุ 3.คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีที่ไม่นอนโรงพยาบาล และ 4.ให้เงินช่วยเหลือกรณีที่เสียชีวิต จะมีรายละเอียดดังนี้
ค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่นอนโรงพยาบาลต่อการเข้ารักษาตัวในแต่ละครั้ง จะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
- เบิกค่าห้องผู้ป่วยปกติ รวมค่าอาหารและค่าบริการพยาบาลได้วันละ 2,000 – 10,000 บาท ซึ่งจะเบิกได้ไมเกิน 150 วัน แต่ถ้ากรณีที่ป่วยหนักจนต้องนอนรักษาตัวห้องผู้ป่วยหนัก (ไอ.ซี.ยู) ประกันจะจ่ายเพิ่มให้เป็น 2 เท่าของห้องผู้ป่วยปกติ แต่จะเบิกได้ไม่เกิน 30 วัน ซึ่งจะต้องนับรวมไปกับ 150 วันด้วย
- กรณีที่แพทย์ให้กลับบ้านได้ และสั่งยาให้นำกลับทานต่อที่บ้าน คุณสามารถเบิกค่ายาได้ไม่เกิน 7 วัน โดยมีวงเงินให้อยู่ที่ 1,500 – 3,500 บาท
- ระหว่างรักษาตัวหากมีแพทย์มาตรวจเยี่ยมอาการในแต่ละวัน สามารถเบิกค่าแพทย์ได้วันละ 1,200 – 6,000 บาท
- เบิกค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่องได้หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว แต่จะต้องไม่เกิน 30 วัน จะเบิกได้ไม่เกิน 2 ครั้ง และครั้งละไม่เกิน 1,000 – 5,000 บาท
- กรณีที่เป็นค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ เช่น ค่ารถพยาบาลฉุกเฉิน หรือค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยาและการตรวจทางห้องปฏิบัติการผู้ป่วยนอก หรือค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกี่ยวกับการผ่าตัด รวมถึงค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ นั้นประกันจะเหมาจ่ายให้จริง แต่จะต้องไม่เกินผลประโยชน์สูงสุดของการรักษาพยาบาลต่อปีของแต่ละแผนความคุ้มครอง
ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินที่เกิดจากอุบัติเหตุ จะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
- หากเกิดอุบัติเหตุคุณสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ในกรณีฉุกเฉิน จะต้องเข้ารักษาตัวภายใน 24 ชั่งหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยมีวงเงินค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 10,000 – 30,000 บาทต่อครั้ง
ค่ารักษาพยาบาลกรณีที่ไม่ได้นอนโรงพยาบาล จะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้
- ประกันจะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลให้ในกรณีที่จะต้องมีการล้างไต หรือทำเคมีบำบัด หรือทำรังสีบำบัด เพื่อรักษาโรคมะเร็ง โดยมีวงเงินค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 60,000 – 180,000 บาทต่อปี
รับเงินชดเชยกรณีเสียชีวิต
- หากคุณเสียชีวิตทุกกรณีไม่ว่าจะเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุนั้น ประกันจะมอบเงินช่วยเหลือให้ 10,000 บาท
เงื่อนไขในการสมัครทำประกันสุขภาพ แบบ สมาร์ทเฮลท์
- สมัครได้ตั้งแต่เกิด เพียงแค่อายุ 1 เดือนขึ้นไปจนถึงอายุ 70 ปี และต่อความคุ้มครองประกันสุขภาพได้จนถึงอายุ 80 ปี
สนใจสมัครทำประกันสุขภาพ แบบ สมาร์ทเฮลท์
- สมัครได้ทั้งกับตัวแทนขายประกันสุขภาพของเมืองไทยประกันชีวิต หรือจะเลือกสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ง่ายๆ ก็คลิกที่นี่
Credit : https://pixabay.com
ประกันสุขภาพ ปลดล็อค เอ็กซ์ตร้า จากอลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต
อยากทำประกันสุขภาพแต่ไม่อยากเบี้ยประกันสุขภาพรายปีสูง เนื่องจากอาจจะไม่มีงบมากพอ อยากจ่ายเบี้ยรายเดือนมากกว่า งั้นลองมาทำสมัครทำประกันสุขภาพ ปลดล็อค เอ็กซ์ตร้า จากอลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ที่จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของค่ารักษาพยาบาล ทำให้มีเงินเหลือในกระเป๋าเพิ่มมากขึ้น และยังอุ่นใจได้เลยหากเจ็บป่วยจะหนักหรือเบา ก็หายห่วงได้เลยเพราะประกันสุขภาพนี้จะมีวงเงินค่ารักษาพยาบาลให้สูงถึงปีละ 10 ล้านบาท เรียกได้ว่าเป็นวงเงินที่สูงมากเลย นอกจากนี้แล้วในการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพนั้นยังสามารถเลือกจ่ายได้ทั้งแบบรายเดือนหรือรายปีอีกด้วย ใครสะดวกแบบไหนก็เลือกแบบนั้นได้ ส่วนรายละเอียดความคุ้มครองนั้นหากเปรียบกับประกันสุขภาพอื่นๆ ก็อาจจะไม่ค่อยได้แตกต่างกันมากเท่าไร แต่ที่เด็ดกว่าประกันสุขภาพอื่นๆก็คงจะเป็นเรื่องของวงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแต่ละรายการมากกว่า ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย
จุดที่โดดเด่นของประกันสุขภาพ ปลดล็อค เอ็กซ์ตร้า
- กรณีนอนโรงพยาบาลมีวงเงินค่ารักษาสูงถึง 10 ล้านบาท
- ประกันจ่ายค่ารักษาให้ทั้งกรณีนอนหรือไม่นอนโรงพยาบาล
- สามารถต่ออายุความคุ้มครองประกันสุขภาพนี้ได้จนถึงอายุ 85 ปี
- ไม่ว่าจะเลือกจ่ายเบี้ยประกันรายเดือนหรือรายปี ก็นำเบี้ยมาลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน
สำหรับแผนความคุ้มครองของประกันสุขภาพ ปลดล็อค เอ็กซ์ตร้า จะมีให้คุณเลือก 5 แผนที่มีวงเงินคุ้มครองที่ไม่เท่ากัน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วงเงินคุ้มครอง 2,000,000 บาทขึ้นไปจนถึง 10,000,000 บาท หากคุณต้องการวงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสูงๆ เพื่อหากต้องมีการผ่าตัดในอนาคตหรืออยากจะเข้ารักษากับโรงพยาบาลเอกชนที่มีค่ารักษาพยาบาลที่สูง เราขอแนะนำให้เลือกความคุ้มครองแผน 5 เลยค่ะ ที่มีวงเงินค่ารักษาพยาบาลให้ต่อปี 10,000,000 บาท ในส่วนของรายละเอียดความคุ้มครองจะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย
ผลประโยชน์และความคุ้มครองที่จะได้รับของประกันสุขภาพ ปลดล็อค เอ็กซ์ตร้า
กรณีที่เป็นผู้ป่วยใน
สำหรับการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่ผู้ป่วยในนั้น จะแบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงเข้ารักษาก่อนที่จะนอนโรงพยาบาล หรือช่วงที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือช่วงที่ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว แต่จะต้องมีความจำเป็นที่รักษาตัวต่อเนื่อง มีรายละเอียดดังนี้
กรณีที่จะต้องพบแพทย์ก่อนที่จะนอนที่โรงพยาบาล
- สามารถเบิกค่าห้องเอ็กซเรย์และห้องแล็บ ที่ใช้ในการตรวจก่อนที่จะรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งจะให้การคุ้มครอง 30 วันก่อนที่นอนโรงพยาบาล โดยที่ประกันจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ตามจริง
กรณีที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล
- คุ้มครองค่าห้องในระหว่างที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล จะเบิกค่าห้องได้วันละ 3,000 – 15,000 บาท แต่ถ้าจะต้องรักษาตัวในห้องผู้ป่วยหนัก (ไอ.ซี.ยู) จะเบิกค่าห้องได้วันละ 6,000 – 30,000 บาท (เบิกได้ไม่เกิน 180 วัน)
- เบิกค่าแพทย์ในกรณีที่มาตรวจเยี่ยมไข้ในระหว่างที่นอนโรงพยาบาล จะเบิกได้วันละ 2,000 – 10,000 บาท (เบิกได้ไม่เกิน 180 วันต่อปี)
- เบิกค่ายาที่แพทย์ให้นำกลับบ้านได้ไม่เกิน 7 วัน หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล จะเบิกได้ครั้งละ 1,500 – 4,500 บาท
- เบิกค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่ายา ค่าเอ็กซเรย์ ค่าห้องแล็บ ค่าบริการทางกายภาพบำบัด ค่ารถพยาบาลฉุกเฉิน ค่าผ่าตัด ค่าห้องผ่าตัด ค่าวางยาสลบ เป็นต้น ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ประกันจะจ่ายให้ตามจริงที่โรงพยาบาลเรียกเก็บ
กรณีที่รักษาต่อเนื่องหลังจากออกโรงพยาบาล ภายใน 60 วัน
- สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ต่างๆ เช่น ค่าห้องเอ็กซเรย์และห้องแล็บ ซึ่งประกันก็จะจ่ายให้ตามจริง
กรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน หรือหากต้องมีการผ่าตัดโดยที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล หรือ กรณีที่ต้องมีการล้างไต ให้เคมีบำบัด หรือฉายแสงนั้น ก็สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามจริง
นอกจากนี้แล้วในการทำประกันสุขภาพ ปลดล็อค เอ็กซ์ตร้า จากอลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ยังให้คุณสามารถร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลในส่วนแรกได้อีกด้วย เพื่อช่วยลดค่าเบี้ยประกันสุขภาพได้สูงถึง 30% จากราคาเบี้ยปกติ ซึ่งในกรณีที่ต้องบอกเลยว่าอาจจะเหมาะสำหรับคนที่มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลอยู่ หรือทำงานอยู่ในบริษัทที่มีประกันสุขภาพให้ คุณก็สามารถนำสิทธิการรักษาพยาบาลมาใช้ควบคู่กับประกันสุขภาพได้เลยค่ะ
เงื่อนไขในการสมัครทำประกันสุขภาพ ปลดล็อค เอ็กซ์ตร้า
- เริ่มทำประกันสุขภาพนี้ได้ทุกเพศทุกวัยจริง เพราะจะให้เริ่มทำประกันสุขภาพได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน 1 วันขึ้นไปจนถึงอายุ 70 ปี หลังจากอายุ 70 ปี ไปแล้วสามารถต่ออายุความคุ้มครองได้จนถึงอายุ 84 ปี แต่ประกันสุขภาพนี้จะคุ้มครองจนถึงอายุ 85 ปี
สนใจสมัครทำประกันสุขภาพ ปลดล็อค เอ็กซ์ตร้า
Credit : https://pixabay.com
ประกันสุขภาพ Gen Health Lump Sum จากเจนเนอราลี่ ประกันภัย (ไทยแลนด์)
เจ็บป่วยในแต่ละครั้งต้องใช้เงินหมดไปกับค่ารักษาพยาบาลเท่าไร หายห่วงได้เลยกับค่ารักษาพยาบาลที่แพงด้วยการเลือกทำประกันสุขภาพ Gen Health Lump Sum จากเจนเนอราลี่ประกันภัย ที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายด้วยค่ารักษาพยาบาลที่สูงถึง 1 ล้านบาท ไม่ว่าจะในแต่ละครั้งจะหมดค่ารักษาพยาบาลไปเท่าไร และในปีหนึ่งจะเข้ารักษากี่ครั้ง ก็เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามจริงเลย เพียงแค่วงเงินค่ารักษาพยาบาลในแต่ละปีนั้นจะต้องไม่เกิน 1 ล้านบาทนั่นเอง หากเทียบความเป็นจริงแล้ว ถ้าไม่ใช้เคสการรักษาที่ร้ายแรงหรือป่วยหนักจริงๆ ค่ารักษาพยาบาลก็ไม่เกิน 1 ล้านบาทอยู่แล้ว และนอกจากความคุ้มครองในประเทศไทยแล้วยังให้ความคุ้มครองในต่างประเทศอีกด้วย โดยที่คุณจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปก่อนแล้วนำใบเสร็จมาเบิกเงินกับเจนเนอราลี่ ประกันภัยได้เลยค่ะ
จุดที่โดดเด่นของประกันสุขภาพ Gen Health Lump Sum
- หลากหลายช่องทางการจ่ายเบี้ย
- ผ่อนจ่ายเบี้ยรายเดือนได้ดอกเบี้ย 0%
- เบิกค่ารักษาโดยไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปี
- คุ้มครองค่ารักษาด้วยวงเงินที่สูงถึง 1 ล้านบาท
- ไม่มีเคลมประกันรับส่วนลดค่าเบี้ยประกัน 10% ในปีถัดไป
ในส่วนของประกันสุขภาพ Gen Health Lump Sum จะมีแผนความคุ้มครองให้คุณเลือกด้วยกัน 4 แผน แบ่งเป็น 4 ขนาด เริ่มตั้งแต่ ประกันสุขภาพ S เหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ต่อปี 250,000 บาท ,ประกันสุขภาพ M เหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ต่อปี 500,000 บาท ,ประกันสุขภาพ L เหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ต่อปี 750,000 บาท , ประกันสุขภาพ XL เหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ต่อปี 1,000,000 บาท โดยที่แต่ละแผนความคุ้มครองนั้นคุณสามารถเลือกได้เลยว่าต้องการจะให้คุ้มครองเฉพาะกรณีที่นอนโรงพยาบาลเท่านั้น หรือจะอยากความคุ้มครองทั้งกรณีที่รักษาโดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาลหรือนอนโรงพยาบาล
ผลประโยชน์และความคุ้มครองที่ได้รับของประกันสุขภาพ Gen Health Lump Sum
คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีที่นอนโรงพยาบาล
- เบิกค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาลได้หากนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยจะเบิกได้วันละ 2,000 – 8,000 บาท (ขึ้นอยู่การเลือกแผนความคุ้มครอง) และเบิกได้สูงสุด 180 วัน
- กรณีที่ต้องนอนรักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยหนัก หรือห้อง ไอ.ซี.ยู จะเบิกค่าห้องได้เพิ่มขึ้นจากห้องผู้ป่วยปกติ 2 เท่า ดังนั้นจะเบิกได้อยู่ที่วันละ 4,000 – 16,000 บาท (ขึ้นอยู่การเลือกแผนความคุ้มครอง) และเบิกได้สูงสุด 15 วัน
- กรณีที่จะต้องมีการเคลื่อนย้ายเพื่อในการรักษาสามารถเบิกค่ารถพยาบาลได้ 1,000 บาทต่อครั้ง
- กรณีที่จะต้องมีการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือการฟอกไต หรือการปลูกถ่ายกระดูกไขสันหลัง จะเบิกได้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อครั้งที่ได้รับบาดเจ็บ
- กรณีที่มีค่าใช้จ่ายอื่นๆที่โรงพยาบาลเรียกเก็บในระหว่างที่รักษาตัวนั้น เช่น ค่ารักษาพยาบาลทั่วไป ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกในกรณีที่ฉุกเฉิน ค่าผ่าตัดต่างๆรวมไปถึงค่าปรึกษาแพทย์ ค่าอุปกรณ์ในการผ่าตัด หรือ ค่าแพทย์ในการตรวจเยี่ยม ประกันจะจ่ายให้ตามจริงที่โรงพยาบาลเรียกเก็บ
คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีที่ไม่นอนโรงพยาบาล
- กรณีที่ไปรักษาตัวและจะต้องมีการเอ็กซเรย์ หรือมีการใช้ห้องแล็บ สามารถเบิกประกันได้ ซึ่งจะได้วงเงินคุ้มครองอยู่ที่ 800 – 1,500 บาทต่อครั้ง
คุ้มครองชีวิตกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
- หากได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียอวัยวะส่วนใดของร่างกาย ทำให้กลายเป็นบุคคลทุพพลภาพถาวรนั้น หรือเสียชีวิต จะต้องได้รับเงินชดเชย 250,000 – 1,000,000 บาท (ขึ้นอยู่การเลือกแผนความคุ้มครอง)
ทั้งนี้ สำหรับการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพ Gen Health Lump Sum ถือว่ามีหลากหลายช่องทางมากเลย ใครอยากจะจ่ายผ่านบัตรเครดิตก็จ่ายได้เลยเพราะรับบัตรเครดิตทุกธนาคาร ทุกประเภท หรือใครอยากจะผ่อนจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพก็ได้เช่น ซึ่งข้อดีอยู่ตรงที่ว่าผ่อนจ่ายโดยที่ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยใดๆเลย และยังเลือกจ่ายได้อีกว่าจะผ่อนกี่เดือน เริ่มต้นจะอยู่ที่ 3 เดือน หรือ 4 เดือน หรือ 6 เดือน หรือ 12 เดือน ส่วนใครที่ไม่มีบัตรเครดิตก็ไม่ต้องห่วงเลย เพราะยังสามารถใช้บัตรเดบิตจ่ายได้ หรือจะให้ประกันหักจากบัญชีเงินฝากก็ยังได้เลย เห็นไหมค่ะว่าหลากหลายช่องทางการจ่ายเงินจริงๆเลย
เงื่อนไขในการสมัครทำประกันสุขภาพ Gen Health Lump Sum
- สมัครทำประกันสุขภาพได้ตั้งแต่อายุ 6 ปี จนถึงอายุ 65 ปี และจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพเพื่อคุ้มครองได้จนถึงอายุ 69 ปี
สนใจสมัครทำประกันสุขภาพ Gen Health Lump Sum
แหละนี้ก็คือทั้งหมดของประกันสุขภาพรายเดือนที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ สุขภาพที่ดีหาซื้อไม่ได้ อยากมีสุขภาพที่ดีก็ต้องมั่นดูแลสุขภาพ และสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ จะต้องไปตรวจสุขภาพประจำปีด้วย แม้ว่าคุณจะทำประกันสุขภาพแล้วหมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายก็จริง แต่ใครบ้างล่ะที่อยากจะเจ็บป่วย เพราะการมีประกันสุขภาพนั้นก็เพียงใช้ลดภาระค่าใช้จ่ายที่จะต้องหมดไปกับค่ารักษาพยาบาลที่แพง ทำให้เงินเก็บที่ทำมาทั้งชีวิตยังคงอยู่ไม่หมดไปกับค่ารักษาพยาบาล สำหรับใครที่สนใจอยากจะทำประกันชีวิตหรือประกันอุบัติเหตุบ้างนั้น ก็สามารถเข้าไปอ่านบทความที่ iMoney ได้รวบรวมไว้มีหลากหลายบริษัทประกันชีวิตชั้นนำ นอกจากบทความประกันแล้วยังมีเรื่องของสินเชื่ออื่นๆที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อทุกประเภทที่เกี่ยวบ้าน หรือรถยนต์ หรือใครที่อยากจะรีไฟแนนซ์บ้าน รีไฟแนนซ์รถยนต์ ก็สามารถดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ของ iMoney.in.th ได้เช่นกัน อยากปรึกษาเรื่องการเงิน อยากรู้ข้อมูลที่เกี่ยวกับการเงิน ต้อง iMoney ที่เดียวจบทุกเรื่องของการเงิน