ประกันรถยนต์กรุงไทย – สวัสดีค่ะปีใหม่ไทยทุกคนนะคะ ช่วงนี้กำลังจะเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ หลายคนก็คงจะเริ่มหยุดงานกันบ้างแล้ว บางคนก็เริ่มวางแผนโปรแกรมเที่ยวกันแล้วว่าปีนี้จะไปเล่นน้ำสงกรานต์ที่ไหนกันดี และยิ่งช่วงวันหยุดยาวแบบนี้สิ่งที่สำคัญและจะต้องระมัดระวังกันก็คือ อุบัติเหตุ ซึ่งเป็นที่จะต้องมีโครงการรณรงค์ ไม่เมาไม่ขับ เพราะอุบัติเหตุนั้นมาสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทุกเมื่อและเกิดขึ้นได้กับทุกคน จากที่ผ่านมาเราได้เคยพูดถึงเรื่องการทำประกันภัยไว้มากมายไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตที่คุ้มครองชีวิตทั้งแบบระยะสั้นหรือระยะยาว หรือประกันสุขภาพ ที่จะมาช่วยแบ่งภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล หรือประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่จะคุ้มครองยามที่เกิดอุบัติเหตุไม่ว่าคุณจะเป็นขับรถยนต์หรือนั่งรถโดยสารหรืออยู่บ้านเฉยๆก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน และนอกจากประกันเหล่านี้ ยังมีประกันอีกอย่างหนึ่งก็คือ ประกันภัยรถยนต์นั้นเอง นอกจากเราจะให้ความสำคัญกับชีวิตแล้ว ควรที่จะให้ความสำคัญกับรถยนต์ด้วย เพราะถ้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหากเราเป็นฝ่ายผิด จนเป็นเหตุให้อีกฝ่ายนั้นต้องได้รับบาดเจ็บหรือร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต หรือรถยนต์ของอีกฝ่ายเสียหายอย่างหนัก นั่นหมายถึงสิ่งที่คุณจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆที่จะเกิดขึ้น แต่ถ้ามีประกันภัยรถยนต์ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายจากมากให้เหลือน้อยลงหรืออาจจะไม่ต้องเสียเงินเลยก็ได้ และที่ผ่านมาเราก็เคยได้แนะนำไปหลายบริษัทประกันภัย วันนี้เราเลยอยากจะแนะนำประกันรถยนต์กรุงไทยกันบ้าง ซึ่งจริงๆแล้วธนาคารกรุงไทยนั้นก็มีบริษัทในเครือที่ให้บริการเกี่ยวกับประกันภัยก็คือ “กรุงไทยพานิชประกันภัย” จะมีอะไรบ้างและน่าสนใจแค่ไหนมาดูกันเลย
รวบรวมบทความประกันรถยนต์กรุงไทยที่น่าสนใจ 2563
ผลิตภัณฑ์ |
จุดเด่น | เงื่อนไขการสมัคร | เบี้ยประกันภัย |
ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 | คุ้มครองทุกกรณี อุ่นใจเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และเหมาะสำหรับรถยนต์ใหม่ๆกับคนที่ขับรถเป็นประจำ | รถยนต์ทั่วไปที่จดทะเบียนส่วนบุคคลโดยที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 7 ปี |
ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่นรถ ปีที่จดทะเบียน |
ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 2+ |
จ่ายเบี้ยถูกกว่าประกันชั้น 1 แต่รับความคุ้มครองเท่ากับประกันชั้น 1 และสามารถซื้อความคุ้มครองกรณีน้ำท่วมได้ | รถยนต์ทุกประเภท ทุกยี่ห้อสมัครทำประกันชั้น 2 ได้ | จ่ายเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ 7,493 บาทต่อปี ทั้งนี้เบี้ยประกันภัยจะปรับเพิ่มขึ้นตามทุนประกันภัย ยี่ห้อรถ รุ่นรถ และปีที่จดทะเบียน |
ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 3+ | ขับน้อย คุ้มครองสูง จ่ายเบี้ยถูก เกิดเหตุฉุกเฉินเมื่อไร โทรขอความช่วยเหลือได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง | ไม่กำหนดยี่ห้อรถยนต์ ไม่กำหนอายุในการใช้งานของรถยนต์ |
จ่ายเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ 6,799 บาทต่อปี ทั้งนี้เบี้ยประกันภัยจะปรับเพิ่มขึ้นตามทุนประกันภัย ยี่ห้อรถ รุ่นรถ และปีที่จดทะเบียน |
ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 3 |
เบี้ยถูกที่สุด คุ้มครองแค่รถคู่กรณีเท่านั้น เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยได้ใช้รถยนต์ | ไม่กำหนดยี่ห้อรถยนต์ ไม่กำหนอายุในการใช้งานของรถยนต์ |
จ่ายเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ 2,454.79 บาทต่อปี |
Credit : https://www.canva.com
ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่อุ่นใจได้เลยไม่ว่าจะมีเหตุอะไรเกิดขึ้นตามจะเป็นรถชนรถ โดยที่คุณเป็นฝ่ายผิดก็ตาม หรือใครที่ขับไปชนกับสิ่งของต่างๆ ประกันก็คุ้มครองเช่นกัน ซึ่งจะเหมาะมากๆสำหรับคนที่เพิ่งถอยรถยนต์มาใหม่ หรือยังขับไม่ค่อยคล่องนั้น เพราะเราอาจจะไปชนอะไรก็ได้โดยเราเองก็ไม่ได้ตั้งใจ ไม่เพียงให้ความคุ้มครองกับรถเราอย่างเดียวเท่านั้น รถยนต์หรือทรัพย์สินต่างๆของคนอื่น หากได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้นมาจากเรานั้น ประกันก็จะจ่ายชดเชยความเสียนั้นให้อีกด้วย
จุดเด่นของประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1
- คุ้มครองทุกอย่างแบบครอบคลุมมากที่สุด
- รถที่มีอายุการใช้งาน 7 ปี ก็เลือกทำประกันได้
- รถชน รถหาย รถไฟไหม้ เจอภัยธรรมชาติน้ำท่วม ประกันพร้อมดูแล
ความคุ้มครองที่ได้รับจากการทำประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1
- ความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณ ประกันจะคุ้มครองดังนี้
- จากการที่โดนโจรกรรมรถยนต์
- จากการที่โดนไฟไหม้ทำให้รถยนต์เสียหาย
- จากภัยธรรมชาติเกิดภาวะน้ำท่วม จนรถยนต์ได้รับความเสียหาย
- จากการที่รถยนต์ชนกับรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ด้วยกันหรือชนสิ่งอื่นๆที่ไม่ใช่รถ
- ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลภายนอก ประกันจะคุ้มครองดังนี้
- กรณีที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บหรือต้องสูญเสียอวัยวะส่วนใดของร่างกาย หรือทุพพภาพถาวรสิ้นเชิง ประกันก็พร้อมจะดูแลและจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้
- กรณีที่รถยนต์หรือทรัพย์สินอื่นๆของบุคคลภายนอกได้รับความเสียหาย ประกันก็พร้อมจะดูแลและจ่ายชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นให้
- ความคุ้มครองเพิ่มเติมต่อท้ายสัญญา “ประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองเพิ่มเติม” ประกันจะคุ้มครองดังนี้
- มอบประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลให้โดยจะคุ้มครองคุณและคนที่อยู่ในรถยนต์ด้วย กรณีที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บหรือต้องสูญเสียอวัยวะส่วนใดของร่างกาย หรือทุพพภาพถาวรสิ้นเชิง
- ดูแลค่ารักษาพยาบาลให้คุณและคนที่อยู่ในรถยนต์ หากได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
- วงเงินในการประกันตัวผู้ขับขี่ กรณีที่ต้องโทษทางอาญาในเรื่องของการขับขี่จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย
Credit : https://www.canva.com
ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 2+
ประกันภัย 2+ นี้ได้รับความนิยมเลือกทำประกันภัยกันมากขึ้นในหมู่คนที่มีรถยนต์ เพราะให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันภัยชั้น 1 เลย ซึ่งจริงๆแล้วจากเดิมก็จะมีประกันภัยรถยนต์ ประเภท 2 แต่อาจจะไม่ค่อยได้รับความนิยมสักเท่าไร คนเลยหันมาสนใจกับประกันภัย 2+ นี้ เพราะนอกจากคุ้มครองรถยนต์เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังคุ้มครองกรณีที่รถยนต์หายหรือเสียหายจากไฟไหม้อีกด้วย ซึ่งจะเห็นได้เลยว่าการที่คนมักจะเลือกซื้อประกันภัยชั้น 1 ก็เพราะต้องการความคุ้มครองกรณีที่รถหาย และในความเป็นจริงนั้นเพียงแค่ซื้อประกันภัย 2+ ก็สามารถซื้อประกันภัยเพื่อความคุ้มครองได้แล้ว แถมยังจ่ายเบี้ยถูกกว่า และสามารถเลือกทุนประกันภัยที่ต้องการให้ประกันคุ้มครองวงเงินของรถยนต์ของคุณเท่าไรค่ะ
จุดเด่นของประกันภัยรถยนต์ ประเภท 2+
- จ่ายเบี้ยน้อย แต่รับความคุ้มครองสูง
- รถหายหรือถูกไฟไหม้ ประกันก็จ่ายเงินชดเชยให้
- ดูแลซ่อมรถยนต์ให้ทั้งเราและคู่กรณี หากคุณเป็นฝ่ายผิด
ความคุ้มครองที่ได้รับจากประกันภัยรถยนต์ ประเภท 2+
- ความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณ ประกันจะคุ้มครองดังนี้
- รถยนต์เสียหายจากการชน ตามทุนประกันภัยที่เลือก ตั้งแต่ 100,000 – 300,000 บาท
- รถยนต์หาย หรือโดนไฟไหม้ทำให้รถยนต์เสียหายนั้น ประกันจะชดเชยความเสียหายให้ไม่เกิน 200,000 บาท
- รถยนต์เสียหายจากภาวะน้ำท่วม สามารถซื้อประกันความคุ้มครองในส่วนนี้เพิ่มเติมได้
- ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลภายนอก ประกันจะคุ้มครองดังนี้
- กรณีที่บุคคลภายนอกได้รับความเสียหายต่อชีวิตหรือร่างกายนั้น จะได้รับเงินชดเชยให้คนละไม่เกิน 1,000,000 บาท ซึ่งในการจ่ายเงินชดเชยให้นั้นประกันจะมีวงเงินจ่ายได้ไม่เกิน 10,000,000 บาทต่ออุบัติเหตุในหนึ่งครั้ง
- กรณีที่ทรัพย์สินของบุคคลภายนอกได้รับความเสียหายนั้น จะได้รับเงินชดเชยตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่เกิน 1,000,000 บาท
- ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิตของคุณ ประกันจะคุ้มครองดังนี้
- หากคุณหรือคนที่นั่งมาในรถยนต์ด้วยนั้นได้รับบาดเจ็บประกันก็จะมีวงเงินค่ารักษาพยาบาลให้คนละไม่เกิน 100,000 บาท แต่ถ้าอุบัติเหตุนั้นทำให้เสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะต่างๆ หรือทุพพลภาพนั้น ประกันก็จะจ่ายให้คนละไม่เกิน 100,000 บาท
- วงเงินเพื่อใช้ในการประกันตัวของผู้ที่ขับขี่ให้ไม่เกิน 200,000 บาทต่อครั้ง
เบี้ยประกันภัยรถยนต์ ประเภท 2+
- เบี้ยประกันภัยเริ่มต้นอยู่ที่ 7,499.63 บาทต่อปี ซึ่งอัตรานี้เราเปรียบจากรถยนต์ยี่ห้อ Honda รุ่น Brio โดยมีทุนประกันภัยอยู่ที่ 100,000 บาท ทั้งนี้ หากเลือกทุนประกันภัยคุ้มครองรถยนต์ของเราอยู่ที่ 200,000 บาท เบี้ยประกันภัยก็จะอยู่ที่ 8,499.01 บาท แต่ถ้าเป็นทุนประกันภัย 300,000 บาท เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ 9,466.46 บาท
นอกจากนี้แล้วยังสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมในกรณีที่รถเสียหายจากภัยธรรมชาติ อย่างน้ำท่วมได้ เพียงแค่เพิ่มเงินอีกนิดหน่อยเพื่อแลกกับความคุ้มครอง
Credit : https://www.canva.com
ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 3+
ใครที่มีรถยนต์อาจจะใช้งานมานานแล้ว หรือว่าไม่ค่อยได้ขับรถยนต์สักเท่าไร มีไว้ก็ได้แค่จอดทิ้งไว้ที่บ้านจะใช้ทีก็ต้องรอวันหยุด แต่ที่สำคัญเงินในกระเป๋าก็อาจจะมีน้อย ลองหันมาเลือกเป็นประกันภัยชั้น 3+ ที่ให้ความคุ้มครองไม่น้อยไปกว่าประกันภัยชั้น 2+ เลย ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองทั้งรถเรา กรณีเฉี่ยวชนกับรถด้วยกัน รวมถึงคุ้มครองรถของคู่กรณีอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังให้ความคุ้มครองชีวิตทั้งของคุณ คู่กรณี และคนที่เดินทางไปกับคุณอีกด้วย สิ่งที่แตกต่างระหว่างประกันภัยชั้น 2+ กับ 3+ ก็คือ ชั้น 3+ จะไม่คุ้มครองกรณีที่รถหาย หรือรถเสียหายจากไฟไหม้นั่นเอง หากคุณคิดว่าไม่จำเป็น หรือไม่ต้องการให้คุ้มครองกรณีรถหายนั้น ก็เลือกเป็นประกันภัยชั้น 3+ นี้ได้เลย
จุดเด่นของประกันภัยรถยนต์ ประเภท 3+
- จ่ายเบี้ยน้อย ถูกใจ สบายกระเป๋า
- ให้ความคุ้มครองทั้งรถเรา รถเขา
- พร้อมคุ้มครองดูแลชีวิตผู้ร่วมทางทุกคนทั้งเราและคู่กรณี
ความคุ้มครองที่ได้รับจากประกันภัยรถยนต์ ประเภท 3+
- ความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณ ประกันจะคุ้มครองดังนี้
- คุ้มครองรถชนกรณีที่มีการชน โดยจะคุ้มครองตามทุนประกันภัยเหมือนกับประกันชั้น 2+ เลย มีทุนประกันภัยให้เลือก ตั้งแต่ 100,000 – 300,000 บาท
- ทั้งนี้ หากต้องการความคุ้มครองกรณีน้ำท่วม ก็สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้
- ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลภายนอก ประกันจะคุ้มครองดังนี้
- คุ้มครองคู่กรณี โดยจะจ่ายให้คนละไม่เกิน 1,000,000 บาท ในกรณีที่คู่กรณีได้รับความเสียหายชีวิต หรือร่างกาย จากอุบัติเหตุที่มีคุณเป็นต้นเหตุนั้น แต่ค่าสินไหมทดแทนต่างๆที่ประกันจะจ่ายให้นั้นจะต้องไม่เกิน 10,000,000 บาทต่อครั้ง
- คุ้มครองทรัพย์สินคู่กรณี โดยจะจ่ายให้คนละไม่เกิน 1,000,000 บาท ไม่ว่าทรัพย์สินนั้นจะเป็นรถยนต์ที่เสียหายจากการชน หรือทรัพย์สินภายในรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ
- ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิตของคุณ ประกันจะคุ้มครองดังนี้
- ประกันจ่ายกรณีเกิดอุบัติเหตุให้คนละไม่เกิน 100,000 บาท (คุ้มครองคุณและคนที่อยู่ในรถของคุณ)
- ประกันจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กรณีเกิดอุบัติเหตุให้คนละไม่เกิน 100,000 บาท (คุ้มครองคุณและคนที่อยู่ในรถของคุณ)
- ประกันมีวงเงินเพื่อให้นำไปยื่นประกันกันตัวไม่เกิน 200,000 บาทต่อครั้ง กรณีที่ได้รับโทษทางอาญาที่เกี่ยวกับการขับขี่รถยนต์
เบี้ยประกันภัยรถยนต์ ประเภท 3+
- เบี้ยประกันภัยจะคิดตามทุนประกันภัยที่เลือก ซึ่งในที่นี่จะมีให้เลือกด้วยกัน 3 ระดับ คือ
- ทุนประกันภัย 100,000 บาท จ่ายเบี้ยประกันภัยเท่ากับ 6,85 บาท
- ทุนประกันภัย 200,000 บาท จ่ายเบี้ยประกันภัยเท่ากับ 7,799.23 บาท
- ทุนประกันภัย 300,000 บาท จ่ายเบี้ยประกันภัยเท่ากับ 8,68 บาท
ทั้งนี้ อัตราเบี้ยประกันภัยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามยี่ห้อรถยนต์ รุ่นรถยนต์ ปีที่จดทะเบียนรถยนต์ และทุนประกันภัยที่ด้วยเช่นกัน
ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 3
ประกันชั้น 3 นี้จะเน้นคุ้มครองแต่รถของคู่กรณีเท่านั้น หากเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมานั้น และรถยนต์ของคุณเสียหาย ประกันจะจ่ายให้เฉพาะค่าความเสียหายให้แก่คู่กรณีเท่านั้น ส่วนรถยนต์ของคุณนั้น จะต้องจ่ายเงินค่าซ่อมเอง ซึ่งเราต้องยอมรับว่าประกันชั้น 3 นี้คนส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยนิยมกันเลือกทำกัน แม้ว่าจะจ่ายเบี้ยประกันภัยถูกก็ตาม แต่รถยนต์ของใครที่เก่าๆหน่อย ใช้งานมาเกิน 10 ปีไปแล้ว ประกอบกับไม่ค่อยได้ใช้รถอีกด้วย เลือกทำประกันภัยนี้ก็ได้เช่นกันค่ะ
จุดเด่นของประกันภัยรถยนต์ ประเภท 3
- งบน้อย สมกับความคุ้มครอง
- คุ้มครองเฉพาะรถของคู่กรณีเท่านั้น
- คุ้มครองชีวิตของคุณและคู่กรณี รวมถึงคนที่นั่งอยู่ในรถคุณด้วย
ความคุ้มครองที่ได้รับจากประกันภัยรถยนต์ ประเภท 3
- ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลภายนอก ประกันจะคุ้มครองดังนี้
- กรณีที่คู่กรณีได้รับความเสียหายแก่ชีวิตหรือร่างกาย ประกันจะคุ้มครองให้คนละไม่เกิน 300,000 บาท และวงเงินคุ้มครองภาพรวมของอุบัติเหตุนั้นจะต้องไม่เกิน 10,000,000 บาท
- กรณีที่มีทรัพย์สินอะไรก็ตามของคู่กรณีเสียหาย ประกันจะคุ้มครองให้ไม่เกิน 600,000 บาท
- ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิตของคุณ ประกันจะคุ้มครองดังนี้
- คุ้มครองชีวิตของคุณและคนที่นั่งอยู่ในรถยนต์ หากได้รับบาดเจ็บก็เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ แต่ถ้าเสียชีวิตหรือสูญเสียอวัยวะส่วนใดก็ตามรวมถึงทุพพลภาพนั้น ประกันก็จะให้วงเงินคุ้มครองคนละไม่เกิน 50,000 บาท
- คุ้มครองกรณีที่คุณถูกดำเนินคดีทางอาญาในการขับขี่รถยนต์นั้น ประกันจะให้วงเงิน 100,000 บาท เพื่อไปยื่นประกันตัว
เบี้ยประกันภัยรถยนต์ ประเภท 3
- เบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ 2,79 บาทต่อปี
จากข้อมูลประกันรถยนต์ของกรุงไทยที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้นั้น เพื่อนๆก็คงจะเห็นประกันรถยนต์ชั้น 1 ชั้น 2+ ชั้น 3+ ไม่ค่อยแตกต่างกันสักเท่าไร เพราะทุกประเภทนั้นจะให้ความคุ้มครองรถยนต์ของคุณ รถยนต์ของคู่กรณี และคุ้มครองชีวิตคุณและคู่กรณีเหมือนกันเลย แตกต่างกันเพียงแค่ว่าคุณต้องการความคุ้มครองกรณีที่รถหาย รถเสียหายจากไฟไหม้ น้ำท่วม หรือไม่เท่านั้น และต้องการวงเงินอยู่ที่เท่าไร หากตอบโจทย์ของตัวเองในส่วนนี้ได้ ก็จะเลือกแผนความคุ้มครองที่ต้องการได้เช่นกัน นอกจากประกันรถยนต์กรุงไทยแล้ว iMoney ยังมีบทความเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ของบริษัทประกันภัยอื่นๆ เช่น เมืองไทยประกันภัย อาคเนย์ประกันภัย กรุงเทพประกันภัย LMG ประกันภัย เป็นต้น เพื่อนๆลองเข้ามาอ่านได้ผ่านทางเว็บไซต์ออนไลน์ได้เลยที่ iMoney.in.th ทั้งนี้ยังมีบทความเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมาย ยังไงพวกเราทีมงานฝากเพื่อนๆติดตามบทความ หรือมีข้อสงสัยก็สามารถแสดงความคิดเห็นผ่านทาง Facebook iMoney ได้อีกช่องทางหนึ่งเลยนะคะ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อนและพบกันใหม่ในครั้งหน้าสวัสดีค่ะ