รีไฟแนนซ์บ้านธนชาต – ปัญหาอย่างหนึ่งสำหรับคนที่กำลังผ่อนบ้าน ก็คืออัตราดอกเบี้ยที่เริ่มปรับสูงขึ้น หลังจากที่หมดโปรโมชั่นส่วนลดดอกเบี้ย ส่วนใหญ่แล้วธนาคารเมื่อตอนที่ขอกู้สินเชื่อบ้านใหม่ๆนั้น มักจะมีข้อเสนอมากมาย มอบส่วนลดดอกเบี้ยให้ที่เรียกว่าถูกเลยก็ว่าได้ แต่เริ่มก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 หรือปีที่ 6 เพราะบางธนาคารก็จะให้โปรโมชั่นอยู่ที่ 3 – 5 ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร ทำให้บางคนจะต้องแบกรับภาระผ่อนค่างวดสินเชื่อบ้านที่เพิ่มสูงขึ้น ตามมาด้วยดอกเบี้ยที่สูงปรี๊ด ทำให้หลายคนเลือกทางออกด้วยการรีไฟแนนซ์บ้าน แต่ก็อาจจะยังลังเลว่ารีไฟแนนซ์แล้วจะดีไหม แล้วถ้าอยู่ระหว่างการผ่อนจะสามารถรีไฟแนนซ์ได้หรือไม่ ขอบอกเลยค่ะว่าการรีไฟแนนซ์บ้านเป็นอีกหนึ่งวิธีที่หลายคนนิยมทำกันมากที่สุด เนื่องจากสิ่งแรกที่ได้รับอย่างแน่นอนเลยก็คือ ดอกเบี้ยถูกกว่าสินเชื่อบ้านเดิม มีเงินเหลือใช้มากขึ้น หรือใครที่ต้องการใช้เงินก้อน ก็ยังสามารถขอกู้เงินเพิ่มเติมได้จากส่วนต่างระหว่างหนี้เดิมกับวงเงินกู้ที่ได้รับอนุมัติ ส่วนใครที่ยังตัดสินใจไม่ถูกไม่รู้ว่าเลือกธนาคารไหนดี วันนี้เรามีสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารธนชาตมาฝากเพื่อนๆทุกคนกัน ที่พร้อมให้กู้ได้แม้ว่าจะกำลังผ่อนบ้านกับธนาคารอื่นอยู่ ให้วงเงินกู้สูง พร้อมเงินเพิ่มเติม ลองมาดูรายละเอียดเงื่อนไขการสมัครกันเลยค่ะ
ผลิตภัณฑ์สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารธนชาต อัพเดทล่าสุด 2563
ชื่อสินเชื่อ |
จุดเด่น | เงื่อนไขการกู้ | ประเภทของสินเชื่อ | ดอกเบี้ย |
สินเชื่อ Refinance | กู้ง่าย อนุมัติเร็ว ให้วงเงินกู้สูงสุด 100% พร้อมรับวงเงินเพิ่มเติม แถมผ่อนจ่ายได้นานถึง 30 ปี | ผู้สมัครจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป จะต้องมีรายได้ต่อเดือน 10,000 บาทขึ้นไป และจะต้องผ่อนกับสถาบันการเงินเดิมไม่ต่ำกว่า 2 ปี | บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ และคอนโดมิเนียม |
ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 3.29 ต่อปี |
credit : https://pixabay.com
สินเชื่อ Refinance กับธนาคารธนชาต
เริ่มแบกรับภาระในการผ่อนบ้านไม่ไหว ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดี ยิ่งต้องประหยัดเงิน ยิ่งต้องรัดเข็มขัด จะทนจ่ายดอกเบี้ยแพงอยู่ไปทำไม เปลี่ยนย้ายมารีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารธนชาตด้วยสินเชื่อ Refinance ที่มาพร้อมกับดอกเบี้ยสุดพิเศษ เริ่มต้นดอกเบี้ยเพียงแค่ร้อยละ 3.29 ต่อปี ตามด้วยวงเงินกู้ที่ให้เต็ม 100% ของราคาประเมินหลักประกัน หมดกังวลหากจำเป็นต้องการใช้เงินก้อน ก็สามารถขอกู้เพิ่มเติมได้อีกด้วย จ่ายน้อย ผ่อนสบายได้นาน 30 ปี และที่สำคัญเงื่อนไขการสมัครก็ทำให้สมัครง่าย ขอเพียงแค่มีรายได้เริ่มต้น 10,000 บาท ก็สามารถยื่นรีไฟแนนซ์บ้านได้แล้ว สนใจก็ลองมาดูในรายละเอียดของการสมัครรีไฟแนนซ์บ้านกันเลยค่ะ
จุดเด่นของสินเชื่อ Refinance
- ขอกู้เงินเพิ่มเติมจากหนี้เดิมที่มี
- จ่ายน้อย ผ่อนสบาย กับรีไฟแนนซ์บ้าน
- ดอกเบี้ยสุดพิเศษเฉลี่ย 3 ปี เพียงแค่ 3.29%
- พร้อมให้วงเงินกู้สูงสุด 100% จากราคาประเมิน
- ไม่ว่าบ้านจะผ่อนหมดหรือยังอยู่ระหว่างการผ่อนก็รีไฟแนนซ์ได้
วงเงินการอนุมัติของสินเชื่อ Refinance
ธนาคารธนชาตจะให้วงเงินสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านสูงสุดอยู่ที่ 100% จากราคาประเมิน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 500,000 – 700,000 บาท ซึ่งจะขึ้นอยู่ที่ตั้งของหลักประกันด้วยว่าอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล หรือว่าตั้งอยู่ที่ต่างจังหวัด
ประเภทของหลักประกันที่สามารถนำมารีไฟแนนซ์ได้
บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ และคอนโดมิเนียม สามารถนำมาขอยื่นรีไฟแนนซ์กับธนาคารธนชาตได้ทั้งหมด
อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อ Refinance
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ทางเลือกที่ 1 (ดอกเบี้ย MRR = 7.50 ต่อปี)
- ในช่วง 2 ปีแรกของสัญญารีไฟแนนซ์ ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 3.29 ต่อปี
- เข้าสู่ช่วงปีที่ 3 ของสัญญารีไฟแนนซ์ ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MLR – 29 ต่อปี
- ตั้งแต่ปีที่ 4 ของสัญญารีไฟแนนซ์ ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MLR – 36 ต่อปี
- หากคิดเฉลี่ยแล้วดอกเบี้ยในช่วง 3 ปีแรกของการรีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 3.596 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดทั้งสัญญารีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยจะเท่ากับร้อยละ 4.89 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ทางเลือกที่ 2 (ดอกเบี้ย MRR = 7.50 ต่อปี)
- ในช่วง 2 ปีแรกของสัญญารีไฟแนนซ์ ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 4.25 ต่อปี
- เข้าสู่ช่วงปีที่ 3 ของสัญญารีไฟแนนซ์ ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MLR – 90 ต่อปี
- ตั้งแต่ปีที่ 4 ของสัญญารีไฟแนนซ์ ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MLR – 65 ต่อปี
- หากคิดเฉลี่ยแล้วดอกเบี้ยในช่วง 3 ปีแรกของการรีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 5.033 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดทั้งสัญญารีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยจะเท่ากับร้อยละ 5.623 ต่อปี
หากสังเกตดีๆจะเห็นได้เลยว่าดอกเบี้ยทั้งสองทางเลือกนั้นมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ค่อนข้างจะแตกต่างกันสูงมากเลย เพราะถ้านำดอกเบี้ยทางเลือกที่ 1 ที่ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี อยู่ที่ร้อยละ 3.596 ต่อปี นั้นไปเทียบกับดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ของธนาคารอื่นก็ใกล้เคียงกัน แต่ถ้าเป็นทางเลือกที่ 2 ดอกเบี้ยอาจจะสูงไปสำหรับการเปรียบเทียบกับดอกเบี้ยของธนาคารอื่น ฉะนั้นขอแนะนำถ้าจะรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารธนชาตควรจะเลือกเป็นดอกเบี้ยทางเลือกที่ 1 รับรองคุ้มอย่างแน่นอน นอกจากนี้แล้วไม่ว่าจะเลือกดอกเบี้ยทางไหนก็ตาม ถ้าทำประกันชีวิต MRTA ด้วยนั้นจะได้รับส่วนลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอีก เช่น ถ้าเลือกซื้อประกันชีวิต MRTA รับไปเลยส่วนลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.15 ต่อปี และถ้าเลือกซื้อประกันชีวิต MRTA Plus รับไปเลยส่วนลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ต่อปี ใครสะดวกแบบไหนก็เลือกได้เลยค่ะ
ค่าธรรมเนียมในการรีไฟแนนซ์บ้านของสินเชื่อ Refinance
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะต้องเตรียมสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้าน และเป็นอีกส่วนหนึ่งที่คุณจะต้องนำรวมกับดอกเบี้ยด้วยว่าถ้ารีไฟแนนซ์ใหม่นั้นจะคุ้มหรือไม่ ฉะนั้นลองมาดูกันสิว่าถ้าเลือกที่จะย้ายมารีไฟแนนซ์กับธนาคารธนชาตจะต้องเตรียมเงินไว้สำหรับค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
- เริ่มจากค่าประเมินราคาหลักประกัน ที่ธนาคารจะต้องเรียก จะเริ่มต้นขั้นต่ำอยู่ที่ 3,000 บาท โดยราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- กรณีที่ถ้าต้องการปิดหนี้ก่อนหรือว่าต้องการจะรีไฟแนนซ์ย้ายไปยังธนาคารอื่นก่อน 3 ปี ธนาคารจะเรียกเก็บค่าปรับหรือค่าธรรมเนียม ซึ่งจะอยู่ที่ 3% ของยอดหนี้ที่เหลืออยู่ทั้งหมด ฉะนั้นก่อนที่จะรีไฟแนนซ์ไปที่ไหนก็จะต้องดูเงื่อนไขของสินเชื่อเดิมก่อนด้วย
ใครบ้างที่สามารถยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้านได้กับธนาคารธนชาต
สินเชื่อทุกประเภทของทุกธนาคารล้วนมีเงื่อนไขที่กำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครไว้ฉะนั้นใครก็ตามที่สนใจอยากจะสมัครสินเชื่ออะไรหรือต้องการรีไฟแนนซ์ไปที่ไหน สิ่งสำคัญก่อนที่จะไปดูอัตราดอกเบี้ย ก็จะต้องพิจารณาก่อนเลยว่าตัวเรามีคุณสมบัติตรงกับที่ธนาคารกำหนดไว้หรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นการรีไฟแนนซ์ธนาคารธนชาตนั้นจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
- ผู้ที่มีสัญชาติไทยหรือสัญชาติอื่น
- สมัครได้จะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป
- จะต้องมีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 10,000 บาทขึ้นไป
- กรณีที่ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์บ้านทำงานประจำ จะต้องมีอายุการทำงานไม่มากกว่า 1 ปีขึ้นไป แต่ถ้ามีอายุการทำงานยังไม่ถึง 1 ปี จะต้องมีเอกสารรับรองการทำงานจากที่ทำงานเดิมเพื่อมาแสดงว่าเคยทำงานที่เดิมมาไม่น้อยกว่า 1 ปี
- กรณีที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว จะต้องดำเนินธุรกิจไม่น้อยกว่า 1 ปีขึ้นไป
- สามารถให้บุคคลในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่ คู่สมรส พี่น้อง สามารถมาขอกู้ร่วมได้
เงื่อนไขการขอรีไฟแนนซ์บ้านของสินเชื่อ Refinance
สำหรับใครที่อยากจะย้ายมารีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารธนชาตนั้นจะต้องกลับไปดูสัญญาสินเชื่อบ้านกับสถาบันการเงินได้ผ่อนจ่ายมาแล้วเกิน 2 ปีแล้วหรือยัง ถ้าหากเพิ่งจะผ่อนไม่ถึง 2 ปี จะไม่สามารถมายื่นขอรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารได้ นอกจากนี้แล้วที่ผ่านจะต้องมีประวัติการจ่ายที่ดีและมีบัญชีสถานะเป็นปกติ
เอกสารที่จะต้องใช้ในการสมัครขอยื่นสินเชื่อ Refinance
เอกสารประกอบการขอยื่นรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารจะแบ่งแยกออกไปตามอาชีพของผู้สมัครถ้าเป็นในกรณีที่มีรายได้ประจำ เอกสารในการสมัครก็จะไม่ค่อยยุ่งยากอะไร แต่ถ้าประกอบธุรกิจส่วนตัวนั้น นอกจากจะต้องเตรียมเอกสารส่วนตัวแล้วยังจะต้องเตรียมเอกสารแสดงถึงธุรกิจที่ดำเนินการอยู่อีกด้วย ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
เอกสารส่วนบุคคล (จะแบ่งไปตามอาชีพของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์)
- กรณีที่มีรายได้ประจำ (พนักงานบริษัททั่วไป/ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ)
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้กู้
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้กู้
- เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) สำเนาทะเบียนสมรส / สำเนาใบหย่า / สำเนาใบมรณบัตรคู่สมรส / สำเนาการเปลี่ยนแปลงชื่อ – นามสกุล
- กรณีที่มีคนกู้ร่วมด้วยจะต้องแนบสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนของผู้กู้ร่วมมาด้วย
- กรณีที่เป็นเจ้าของกิจการ หรือทำธุรกิจส่วนตัว
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้กู้หรือผู้ที่มีอำนาจในการลงนาม
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้กู้หรือผู้ที่มีอำนาจในการลงนาม
- เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) สำเนาทะเบียนสมรส / สำเนาใบหย่า / สำเนาใบมรณบัตรคู่สมรส / สำเนาการเปลี่ยนแปลงชื่อ – นามสกุล
- กรณีที่ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์เป็นชาวต่างชาติ
- สำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) ของผู้กู้และผู้ค้ำประกันที่เป็นคู่สมรส
- สำเนาใบต่างด้าว หรือ ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย หรือ สำเนาทะเบียนบ้าน ของผู้กู้และผู้ค้ำประกันที่เป็นคู่สมรส
- สำเนาทะเบียนสมรสของผู้กู้กับผู้มีสัญชาติไทยมาแล้วมากกว่า 1 ปี
- เอกสารเพิ่มเติมของผู้ค้ำประกัน ได้แก่
- กรณีที่ผู้ค้ำมีรายได้ประจำ สำเนาหนังสือรับรองการทำงานในประเทศ (Work permit)
- กรณีที่ผู้ค้ำประกอบธุรกิจ จะต้องมีอายุการดำเนินกิจการในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 3 ปีขึ้นไป
เอกสารทางการเงินของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์บ้าน (จะแบ่งไปตามอาชีพของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์)
- กรณีที่มีรายได้ประจำ (พนักงานบริษัททั่วไป/ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ)
- สลิปเงินเดือน หรือ หนังสือรับรองรายได้ เอกสารให้ย้อนหลัง 1 เดือน แต่ถ้ากรณีที่มีรายได้อื่นๆที่ไม่ใช่เงินเดือน เช่น ค่าคอมมิชชั่น ค่าล่วงเวลา จะต้องเตรียมเอกสารย้อนหลัง 6 เดือน
- หากมีรายได้อื่นๆ แนบสำเนา ภงด. 90 หรือ ภงด. 91 หรือ หนังสือรับรองการหักภาษี 50 ทวิ
- Statement ย้อนหลังติดต่อกันนาน 6 เดือน
- กรณีที่ประกอบกิจการ โดยจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท/ห้างหุ้นส่วนจำกัด
- สำเนาทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ. 5)
- ภ.พ. 30
- รายงานงบการเงินของบริษัท ย้อนหลัง 2 ปี (ถ้ามี)
- Statement ย้อนหลังติดต่อกันนาน 6 เดือน
- กรณีที่ทำธุรกิจส่วนตัว โดยไม่จดทะเบียนติบุคคล
- สำเนาใบทะเบียนพาณิชย์
- เอกสารการเช่าพื้นที่ในการทำธุรกิจส่วนตัว (ถ้ามี)
- รูปภาพกิจการโดยจะต้องถ่ายให้ทั่วทุกมุม ทั้งมุมกว้าง มุมแคบ รวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆ
- สำเนาใบเสร็จที่มีการซื้อขาย ย้อนหลัง 6 เดือน หรือ สมุดบัญชีรายรับและรายจ่าย (ถ้ามี)
- Statement ย้อนหลังติดต่อกันนาน 6 เดือน
- กรณีที่ทำอาชีพอิสระ (Freelance) เช่น นักแสดง นายหน้าขายประกัน ขายตรง
- บัตรประจำตัววิชาชีพของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์
- ใบเสียภาษี ภงด. 90, ภงด. 91 ย้อนหลัง 6 เดือน
- สำเนาเอกสารหักภาษี 50 ทวิ
เอกสารด้านหลักประกันในกรณีรีไฟแนนซ์บ้าน
- หลักฐานการจ่ายเงินให้กับสถาบันการเงินเดิม ย้อนหลัง 2 เดือน
- สำเนาสัญญาเงินกู้ของสินเชื่อบ้านเดิมที่มีระหว่างผู้กู้กับสถาบันการเงินเดิม
- สำเนาสัญญาจำนอง และสำเนาต่อท้ายสัญญาจำนอง (ถ้ามี)
- สำเนาเงินกู้และสำเนาจำนองที่เกี่ยวข้องกับบ้านที่จะนำมารีไฟแนนซ์ ในกรณีที่ต้องการขอกู้เงินเพิ่มเติม
สนใจต้องการรีไฟแนนซ์กับสินเชื่อ Refinance
สามารถเข้าไปติดต่อสอบถามรายละเอียด หรือต้องการขอคำปรึกษาเบื้องต้นในการรีไฟแนนซ์บ้าน ก็สามารถไปติดต่อได้ที่พนักงานธนาคารธนชาตทุกสาขาทั่วประเทศ หรือถ้าต้องการสมัครแบบง่ายๆ สะดวก รวดเร็ว ก็เลือกสมัครผ่านทางออนไลน์ได้เลย
แหละนี้ก็คือบทความที่เกี่ยวกับสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารธนชาต หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้สำหรับใครกำลังต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน และนอกจากสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านของธนาคารธนชาตแล้วยังมีอีกหลากหลายธนาคารที่มีสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลย ขึ้นอยู่กับว่าสินเชื่อของธนาคารไหนสามารถตอบโจทย์และเหมาะสำหรับเพื่อนๆมากที่สุด แต่ถ้าใครที่ตัดสินใจได้แล้วว่าจะรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารนี้ แต่ก็อยากให้ลองมองหาสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านของสถาบันการเงินอื่นๆมาเปรียบเทียบก่อนที่จะตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้าน ซึ่งเพื่อนๆสามารถหาข้อมูลรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารอื่นๆได้ที่เว็บไซต์ iMoney.in.th สุดท้ายนี้ฝากเพื่อนๆช่วยกด Like กด Share ติดตามกันมากๆนะคะ ที่จะมาคอยอัพเดทข่าวสารทางด้านการเงิน
ขอขอบคุณข้อมูลสินเชื่อในการรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารธนชาต www.thanachartbank.co.th