รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน – หลายคนที่เมื่อพูดถึงการรีไฟแนนซ์บ้าน ก็มีทั้งคนที่ไม่อยากรีไฟแนนซ์ให้ยุ่งยาก เสียเวลาในการเดินเรื่องเอกสารต่างๆ หรือบางคนก็อาจจะสนใจและอยากที่รีไฟแนนซ์บ้านด้วยเหตุผลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อที่ได้รับดอกเบี้ยที่ถูกกว่าธนาคารเดิม ซึ่งจะส่งผลให้ยอดผ่อนต่อเดือนก็จะถูกลงตามไปด้วย แล้วอาจจะช่วยยืดระยะเวลาการผ่อนให้นานขึ้น เพราะตอนนี้มีปัญหาทางการเงิน ขาดสภาพคล่อง แต่นอกเหนือจะสิ่งนั้นแล้ว การรีไฟแนนซ์บ้านยังสามารถขอกู้เพิ่มได้จากวงเงินหนี้เดิมอีกด้วย สำหรับใครที่ต้องการใช้เงินก้อนเพื่อมาใช้จ่ายในเรื่องต่างๆ ซึ่งวงเงินที่สามารถกู้เพิ่มได้นั้นก็จะมีตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักล้านกันเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับมูลค่าบ้านของคุณ และการประเมินราคาจากธนาคาร โดยส่วนใหญ่แล้วการรีไฟแนนซ์บ้านนั้นธนาคารจะให้วงเงินกู้สูงสุดอยู่ที่ 95% ของราคาประเมิน เช่น กรณีที่บ้านมีมูลค่า 3 ล้านบาท และได้ผ่อนไปแล้วเหลือหนี้อยู่ประมาณ 8 แสนบาท มารีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารใหม่โดยที่ได้รับวงเงินกู้อยู่ที่ 2,850,000 บาท ฉะนั้นหากคุณกู้แบบเต็มวงเงินก็นำเงินไปใช้หนี้กับธนาคารเดิม 8 แสนบาท และส่วนต่างที่เหลือก็นำมาใช้จ่ายได้ตามที่ต้องเลย วันนี้เราเลยรวบรวมสินเชื่อในการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินมาฝาก สำหรับใครที่ต้องรีไฟแนนซ์บ้านที่ได้รับทั้งดอกเบี้ยถูก แถมมีเงินเหลือไว้ใช้จ่ายอีกด้วย ติดตามอ่านบทความนี้กันได้เลยค่ะ
รวมผลิตภัณฑ์สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน อัพเดทล่าสุด 2563
ธนาคาร |
ชื่อสินเชื่อ | จุดเด่น | เงื่อนไขการกู้ | ดอกเบี้ย |
ธนาคาร UOB | ยูโอบี โฮมโลน รีไฟแนนซ์ | กู้เงินเพิ่มได้สบาย สมัครง่ายมาก อนุมัติด่วนภายใน 3 วัน ดอกเบี้ยต่ำ ให้วงเงินกู้สูง และผ่อนสบายนาน 30 ปี | สมัครได้ตั้งแต่อายุ 21 ปีขึ้นไปแต่จะต้องไม่เกิน 70 – 75 ปี โดยจะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท |
ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ 2.99 ต่อปี หรือสูงสุด MRR – 1.75 ต่อปี หรือเท่ากับ 6.00 ต่อปี |
ธนาคารเกียรตินาคิน |
สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ | ให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 50 ล้านบาท สามารถกู้เพิ่มได้ สมัครง่าย อนุมัติเร็ว 3 วันเท่านั้น จ่ายน้อย ผ่อนได้นาน 30 ปี | สมัครได้ตั้งแต่อายุ 20 – 25 ปีขึ้นไป จะต้องมีรายได้ 15,000 บาทขึ้นไป สามารถสมัครได้ทั้งทำงานประจำและประกอบธุรกิจส่วนตัว | ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ 2.89 ต่อปี |
ธนาคาร TMB | สินเชื่อบ้าน ทีเอ็มบี รีไฟแนนซ์ | เงินกู้สูง ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนได้นานถึง 35 ปี พร้อมอนุมัติให้ภายใน 7 วันทำการ | ผู้สมัครจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 – 60 ปี มีรายได้ 15,000 – 20,000 บาท สมัครได้ทั้งทำงานประจำกับนิติบุคคล |
ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ 3.05 ต่อปี หรือสูงสุด MRR – 1.90 ต่อปี หรือเท่ากับ 5.25 ต่อปี |
ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ |
สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ | ให้วงเงินกู้สูงสุด 100% ของยอดหนี้เดิม แถมด้วยวงเงินเพิ่มเติม ผ่อนจ่ายได้นานถึง 35 ปี | ผู้สมัครจะต้องมีอายุตั้งแต่ 21 – 65 ปี และจะต้องมีรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท | ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 2.30 ต่อปี หรือสูงสุดร้อยละ 5.50 ต่อปี |
ธนาคาร CIMB | สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน | กู้ง่าย ได้วงเงินเพิ่ม ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนจ่ายได้นาน แถมฟรีค่าจดจำนอง ฟรีค่าดำเนินการ ฟรีค่าประเมิน | ผู้สมัครจะต้องมีอายุตั้งแต่ 21 – 62 ปี และจะต้องมีรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท |
ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 3.99 ต่อปี |
ธนาคารธนชาต |
สินเชื่อ Refinance | วงเงินกู้สูงสุดถึง 100% พร้อมวงเงินเพิ่ม ผ่อนจ่ายได้นานสูงสุด 30 ปี | ผู้สมัครจะต้องมีอายุตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป และมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท | ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 3.29 ต่อปี หรือสูงสุดร้อยละ MRR – 0.650 ต่อปี หรือเท่ากับ 6.85 ต่อปี |
ธนาคารกสิกรไทย | สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ | สมัครได้ทุกอาชีพ อนุมัติรวดเร็วภายใน 3 วัน ให้วงเงินกู้สูง ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนจ่ายได้สบายนาน 30 ปี | ผู้ยื่นสมัครจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 – 70 ปี ซึ่งจะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน และมีอายุการทำงาน 1 ปีขึ้นไป หากทำธุรกิจส่วนตัวก็จะต้องเปิดมาแล้วอย่างน้อย 2 ปี |
ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 3.65 ต่อปี หรือสูงสุดร้อยละ MRR – 1.50 ต่อปี หรือเท่ากับ 5.37 ต่อปี |
ธนาคารกรุงเทพ |
สินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์สินเชื่อ
ที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินอื่น |
อนุมัติวงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน พร้อมให้วงเงินเพิ่มเติมที่สูง ฟรีค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ และยังเลือกผ่อนจ่ายได้ทั้งแบบคงที่กับแบบขั้นบันได | ผู้ที่ยื่นรีไฟแนนซ์จะต้องมีประวัติการจ่ายที่ดีในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ก่อนที่จะมายื่นขอรีไฟแนนซ์บ้าน
|
ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 1.74 ต่อปี หรือสูงสุดร้อยละ MRR – 1.50 ต่อปี หรือเท่ากับ 5.375 ต่อปี |
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา | สินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์ | กู้ง่าย อนุมัติไว ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนสบาย นาน 30 ปี พร้อมฟรีค่าประเมินหลักประกัน | สมัครได้เฉพาะคนสัญชาติไทย ที่มีอายุ 20 – 65 ปี โดยจะต้องมีอายุการทำงาน 2 ปีขึ้นไป |
ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 0.50 ต่อปี หรือสูงสุดร้อยละ MRR – 1.75 ต่อปี หรือเท่ากับ 5.20 ต่อปี |
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ |
สินเชื่อบ้านสุขสันต์ (Refinance in) | ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน ขอกู้ง่าย ให้วงเงินก็สูง ผ่อนจ่ายได้นานถึง 40 ปี และฟรีค่าธรรมเนียมในการยื่นขอกู้ | ผู้ขอยื่นรีไฟแนนซ์ได้ทั้งคนที่รายได้ประจำ อาชีพอิสระ หรือประกอบธุรกิจส่วน |
ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 3.025 ต่อปี หรือสูงสุดร้อยละ MRR – 0.50 ต่อปี หรือเท่ากับ 6.125 ต่อปี |
credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน กับ ยูโอบี โฮมโลน รีไฟแนนซ์ จากธนาคาร UOB
ยูโอบี โฮมโลน รีไฟแนนซ์ ตอบโจทย์มากสำหรับคนที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้านและอยากกู้วงเงินเพิ่มเติมจากหนี้ เพื่อมาใช้จ่ายในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะปิดหนี้บัตรเครดิต ใช้หนี้นอกระบบ หรืออยากจะต่อเติมบ้าน หรืออยากนำเงินไปลงทุนเพื่อหมุนเวียนในธุรกิจส่วนตัว ก็สามารถมายื่นกู้ขอรีไฟแนนซ์ได้ที่ธนาคาร UOB ที่พร้อมให้กู้เงินเพิ่มได้ง่ายอีกด้วย ซึ่งมาพร้อมกับวงเงินกู้ที่ให้สูงสุดถึง 90% จากราคาประเมินบ้าน ฉะนั้นยิ่งคุณมีหนี้คงเหลือเดิมเหลือน้อยเท่าไร โอกาสที่จะมีเงินส่วนต่างเหลือใช้มากขึ้นเท่านั้น แถมยังได้รับดอกเบี้ยสุดพิเศษคงที่อยู่ที่ 2.99% ต่อปี สามารถผ่อนจ่ายได้สบายๆนานสูงสุดถึง 30 ปี ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะมีอะไรบ้างนั้น มาติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ
เงื่อนไขการสมัครสินเชื่อยูโอบี โฮมโลน รีไฟแนนซ์
- รีไฟแนนซ์ได้เฉพาะบุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น
- ผู้ที่ยื่นรีไฟแนนซ์จะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อเดือน
- กรณีที่ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์ทำงานประจำ เช่น พนักงานเอกชน รับราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ จะต้องมีเงื่อนไข ดังนี้
- อายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป และเมื่อรวมกับระยะเวลาการผ่อนแล้วจะต้องมีอายุไม่เกิน 70 ปี
- มีอายุการทำงานไม่น้อยกว่า 2 ปีขึ้นไป
- กรณีที่ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์ประกอบธุรกิจส่วนตัวหรือมีอาชีพอิสระ จะต้องมีเงื่อนไข ดังนี้
- อายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป และเมื่อรวมกับระยะเวลาการผ่อนแล้วจะต้องมีอายุไม่เกิน 75 ปี
- ธุรกิจส่วนตัวหรือกิจการที่ดำเนินอยู่นั้นจะต้องทำมาอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 3 ปีขึ้นไป
วงเงินในการปล่อยกู้สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน
การอนุมัติวงเงินสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านของธนาคารยูโอบี จะแบ่งกรอบวงเงินสำหรับบ้านที่อยู่อาศัยในกรุงเทพกับบ้านที่อยู่ในต่างจังหวัด รวมไปถึงวงเงินการปล่อยกู้ให้กับบ้านกับคอนโดมิเนียมก็ให้วงเงินไม่เท่ากัน โดยวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท แต่ถ้าสำหรับบ้านต่างจังหวัดก็จะได้รับวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 15 – 30 ล้านบาท ซึ่งรายละเอียดต่างๆของวงเงิน จะมีดังนี้
- กรณีที่นำบ้านมารีไฟแนนซ์กับธนาคาร
- หากบ้านอยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล จะได้รับวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 100% ของราคาประเมิน
- หากบ้านอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด จะได้รับวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 85 – 90% ของราคาประเมิน
- กรณีที่นำคอนโดมิเนียมมารีไฟแนนซ์กับธนาคาร
- หากบ้านอยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล จะได้รับวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 100% ของราคาประเมิน
- หากบ้านอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด จะได้รับวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 80 – 90% ของราคาประเมิน
อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อยูโอบี โฮมโลน รีไฟแนนซ์
สำหรับอัตราดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้านจะมีทางเลือกให้คุณได้เลยหลากหลาย พร้อมกับการเลือกทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ถ้าเลือกทำประกันชีวิตคุ้มครองก็จะรับดอกเบี้ยที่ถูกพิเศษ นอกจากนี้แล้วการคิดดอกเบี้ยก็จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ วงเงินกู้สำหรับการรีไฟแนนซ์ กับวงเงินกู้เพิ่ม อัตราดอกเบี้ยจะแตกต่างกัน มาดูรายละเอียดกันเลย
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านในการรีไฟแนนซ์ จะมีให้เลือกกัน 4 ทางเลือก ดังนี้
- กรณีที่เลือกดอกเบี้ยคงที่ในช่วง 3 ปีแรก ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อหรือไม่ ดังนี้
- ทางเลือกที่ 1 กรณีที่เลือกทำประกัน MRTA
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านในช่วง 3 ปี จะอยู่ที่ร้อยละ 2.99 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ 4 ปีเป็นต้นไป จะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.00 ต่อปี
- หากคิดดอกเบี้ยเฉลี่ยในช่วง 3 ปี ก็จะอยู่ที่ร้อยละ 2.99 ต่อปี และคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาเงินกู้ จะอยู่ที่ร้อยละ 4.65 ต่อปี
- ทางเลือกที่ 2 กรณีที่เลือกไม่ทำประกัน MRTA
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านในช่วง 3 ปี จะอยู่ที่ร้อยละ 3.15 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ 4 ปีเป็นต้นไป จะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.00 ต่อปี
- หากคิดดอกเบี้ยเฉลี่ยในช่วง 3 ปี ก็จะอยู่ที่ร้อยละ 3.15 ต่อปี และคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาเงินกู้ จะอยู่ที่ร้อยละ 4.71 ต่อปี
- กรณีที่เลือกดอกเบี้ยคงที่ในช่วง 2 ปีแรก ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อหรือไม่ ดังนี้
- ทางเลือกที่ 3 กรณีที่เลือกทำประกัน MRTA
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านในช่วง 2 ปี จะอยู่ที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านในปีที่ 3 ก็จะเพิ่มขึ้นจาก 2 ปีขึ้นมาซึ่งจะอยู่ที่ร้อยละ 4.30 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ 4 ปีเป็นต้นไป จะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.00 ต่อปี
- หากคิดดอกเบี้ยเฉลี่ยในช่วง 3 ปี ก็จะอยู่ที่ร้อยละ 3.10 ต่อปี และคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาเงินกู้ จะอยู่ที่ร้อยละ 4.66 ต่อปี
- ทางเลือกที่ 4 กรณีที่เลือกไม่ทำประกัน MRTA
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านในช่วง 2 ปี จะอยู่ที่ร้อยละ 2.65 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านในปีที่ 3 ก็จะเพิ่มขึ้นจาก 2 ปีขึ้นมาซึ่งจะอยู่ที่ร้อยละ 4.45 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ 4 ปีเป็นต้นไป จะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.00 ต่อปี
- หากคิดดอกเบี้ยเฉลี่ยในช่วง 3 ปี ก็จะอยู่ที่ร้อยละ 3.25 ต่อปี และคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาเงินกู้ จะอยู่ที่ร้อยละ 4.73 ต่อปี
- ทางเลือกที่ 3 กรณีที่เลือกทำประกัน MRTA
- ทางเลือกที่ 1 กรณีที่เลือกทำประกัน MRTA
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านในการรีไฟแนนซ์ สำหรับวงเงินกู้เพิ่ม จะมีให้เลือกกัน 2 ทางเลือก ดังนี้
- กรณีที่เลือกทำประกัน MRTA
- ดอกเบี้ยวงเงินกู้เพิ่มในช่วง 2 ปีแรก จะเป็นดอกเบี้ยลอยตัวซึ่งจะอยู่ที่ MRR – 2.50 ต่อปี หรือเท่ากับ 5.25 ต่อปี
- ดอกเบี้ยวงเงินกู้เพิ่มตั้งแต่ปีที่ 3 เป็นต้นไป จะเป็นดอกเบี้ยลอยตัวซึ่งจะอยู่ที่ MRR – 1.75 ต่อปี หรือเท่ากับ 6.00 ต่อปี
- หากคิดดอกเบี้ยเฉลี่ยในช่วง 3 ปี ก็จะอยู่ที่ร้อยละ 5.50 ต่อปี และคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาเงินกู้ จะอยู่ที่ร้อยละ 5.79 ต่อปี
- กรณีที่เลือกไม่ทำประกัน MRTA
- ดอกเบี้ยวงเงินกู้เพิ่มในช่วง 2 ปีแรก จะเป็นดอกเบี้ยลอยตัวซึ่งจะอยู่ที่ MRR – 2.35 ต่อปี หรือเท่ากับ 5.40 ต่อปี
- ดอกเบี้ยวงเงินกู้เพิ่มในช่วงปีที่ 3 จะเป็นดอกเบี้ยลอยตัวซึ่งจะอยู่ที่ MRR – 1.60 ต่อปี หรือเท่ากับ 6.15 ต่อปี
- ดอกเบี้ยวงเงินกู้เพิ่มตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป จะเป็นดอกเบี้ยลอยตัวซึ่งจะอยู่ที่ MRR – 1.75 ต่อปี หรือเท่ากับ 6.00 ต่อปี
- หากคิดดอกเบี้ยเฉลี่ยในช่วง 3 ปี ก็จะอยู่ที่ร้อยละ 5.65 ต่อปี และคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาเงินกู้ จะอยู่ที่ร้อยละ 5.85 ต่อปี
ทั้งนี้ ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยของ MRR = 7.75 ซึ่งการจะมีผลกระทบสำหรับดอกเบี้ยเงินกู้ที่ลอยตัว หากในอนาคตมีการปรับเปลี่ยนนั้นก็จะอาจจะส่งผลกระทบต่อดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านด้วยเช่นกัน
ระยะเวลาการผ่อนของสินเชื่อยูโอบี โฮมโลน รีไฟแนนซ์
สำหรับระยะเวลาการในผ่อนสินเชื่อธนาคารจะให้ผ่อนได้นานสูงสุด 30 ปี แต่ก็จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของอายุที่กำหนด
สำหรับใครที่สนใจอยากจะรีไฟแนนซืบ้านเพิ่มวงเงินกับธนาคารยูโอบีนั้นจะต้องเตรียมเอกสารต่างๆให้พร้อมสำหรับการยื่นสมัครเพื่อความรวดเร็วในการอนุมัติ ซึ่งเอกสารก็จะประกอบไปด้วย 3 ส่วน ดังนี้
เอกสารส่วนตัวของผู้ที่ยื่นรีไฟแนนซ์บ้าน
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- กรณีที่สมรสแล้วให้แนบเอกสารของคู่สมรสมาด้วยพร้อมกับสำเนาทะเบียนสมรส หรือกรณีที่หย่าร้างก็จะต้องแนบสำเนาหย่าร้าง
- กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงชื่อหรือนามสกุล ให้แนบเอกสารการเปลี่ยนแปลงที่ทางราชการออกมาให้
เอกสารทางการเงินของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์บ้าน
- สลิปเงินเดือน (เดือนล่าสุด) หรือจะใช้เป็นหนังสือรับรองเงินเดือน (ต้นฉบับเท่านั้น)
- สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารย้อนหลังติดต่อเนื่องกัน 6 เดือน
- กรณีที่ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์ทำประกอบธุรกิจส่วนตัวหรือทำอาชีพอิสระ จะต้องแนบเอกสารของบริษัทมาด้วย ดังนี้
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน
- สำเนาทะเบียนการค้า
- สำเนาหนังสือบริคณห์สนธิ
เอกสารทางด้านหลักทรัพย์ของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์บ้าน
- สัญญาซื้อขายที่ดิน (ทด.13)
- หลักฐานการผ่อนค่างวดสินเชื่อบ้านกับสถาบันการเงินเดิม จะต้องใช้ใบเสร็จต่อเนื่องกัน 12 เดือน
- สัญญาเงินกู้และสัญญาจำนอง
ช่องทางการสมัครสินเชื่อยูโอบี โฮมโลน รีไฟแนนซ์
- สำหรับใครที่สนใจอยากจะรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินกับธนาคารยูโอบี สามารถเข้าไปสมัครได้ที่ธนาคารยูโอบีทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสมัครผ่านทางออนไลน์ก็ง่าย สะดวก รวดเร็ว สนใจคลิกที่นี่เลย
credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน กับ สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ จากธนาคารเกียรตินาคิน
สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ที่ให้คุณได้กู้เงินได้มากกว่าหนี้เดิมที่เป็นอยู่ สามารถขอกู้เงินเพิ่มได้ตามที่ต้องการแต่จะต้องไม่เกินวงเงินสูงสุด 100% จากราคาประเมินของธนาคาร หรือสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท สมัครก็ง่ายไม่ยุ่งยากเรื่องเอกสาร ถ้ากลัวว่าสมัครคนเดียวกลัวว่าจะไม่ผ่านก็สามารถกู้ร่วมได้เลยโดยธนาคารให้กู้ร่วมได้มากถึง 4 คนเลย ใช้เวลาการอนุมัติเพียงไม่นานแค่ 3 วันเท่านั้น รู้ผลการอนุมัติทันที และถ้าสนใจสมัครในช่วงนี้ด้วยนั้นจะมีโปรโมชั่นพิเศษมอบให้ด้วยการฟรีค่าจดจำนองหรือฟรีค่าประเมินหลักประกัน และในส่วนของดอกเบี้ยเท่าไร มีเงื่อนไขรายละเอียดอย่างไรบ้าง มาดูรายละเอียดกัน
เงื่อนไขการสมัครสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
- บ้านที่สามารถนำมารีไฟแนนซ์นั้นคุณจะต้องผ่อนกับสถาบันการเงินเท่านั้น
- บ้านที่จะนำมารีไฟแนนซ์ได้จะต้องมียอดหนี้คงค้างมากกว่า 500,000 บาทขึ้นไป
- โดยที่ผ่านมาผู้ยื่นรีไฟแนนซ์บ้านจะต้องมีประวัติการผ่อนจ่ายกับสถาบันการเงินเดิมไม่ต่ำกว่า 12 เดือน
- โดยผู้ยื่นรีไฟแนนซ์จะต้องไม่เคยมีประวัติค้างจ่าย และไม่มีประวัติการถูกดำเนินคดีแพ่งและอาญา
- โดยผู้ยื่นรีไฟแนนซ์จะต้องไม่เคยมีประวัติการปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินมาก่อน
- กรณีที่ทำงานประจำ จะต้องมีเงื่อนไขการสมัคร ดังนี้
- ต้องมีสัญชาติไทยเท่านั้น
- โดยที่จะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป
- จะต้องมีฐานเงินเดือนไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน
- มีอายุการทำงานทั้งที่ทำงานปัจจุบันกับที่ทำงานเดิมจะต้องรวมกันไม่น้อยกว่า 1 ปี
- กรณีที่เป็นเจ้าของธุรกิจ จะต้องมีเงื่อนไขการสมัคร ดังนี้
- ต้องมีสัญชาติไทยเท่านั้น
- โดยที่จะต้องมีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป
- จะต้องมีรายได้ในธุรกิจไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน
- ธุรกิจหรือกิจการที่ดำเนินอยู่นั้นจะต้องเปิดมาอย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 2 ปี
วงเงินในการปล่อยกู้สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน
ธนาคารจะให้วงเงินในการรีไฟแนนซ์บ้านสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท ซึ่งวงเงินนี้จะรวมทั้งกับยอดหนี้เดิมที่ค้างกับสถาบันการเงินเดิม และวงเงินที่ต้องการเพิ่ม โดยเมื่อรวมกันทั้งสองวงเงินนี้จะต้องไม่เกิน 100% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินจากธนาคาร
อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
สำหรับอัตราดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้านจะเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 2.89 ต่อปี ซึ่งจะเป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
ระยะเวลาการผ่อนของสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
ในการผ่อนจ่ายค่างวดของสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์นั้นธนาคารจะให้คุณสามารถผ่อนได้สบายๆ นานสูงสุด 30 ปี
เอกสารประกอบการสมัครสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
สำหรับเอกสารที่จะต้องใช้ในการรีไฟแนนซ์บ้านนั้นจะมีลักษณะคล้ายๆกับเอกสารการขอสินเชื่อบ้านทั่วไปเลย ซึ่งจะแบ่งออกไปแล้วแต่อาชีพแต่ละคนของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์ มีรายละเอียด ดังนี้
กรณีที่ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์มีรายได้ประจำ จะต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชน หรือจะใช้เป็น สำเนาหนังสือเดินทาง จะต้องถ่ายเอกสารมา 2 ชุด
- สำเนาทะเบียนบ้าน ให้ถ่ายเอกสารหน้าแรกที่มีที่อยู่และหน้าที่มีของผู้ขอรีไฟแนนซ์
- กรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล จะต้องแนบเอกสารการเปลี่ยนมาประกอบการสมัครด้วย
- หากมีสำเนาทะเบียนสมรส หรือสำเนาใบหย่า หรือสำเนาใบมรณบัตรของคู่สมรส ถ้ามีให้แนบเอกสารดังกล่าวมาด้วย
- สลิปเงินเดือน หรือ หนังสือรับรองเงินเดือน ระบุ รายได้ ตำแหน่งงาน จะต้องมีอายุไม่เกิน 2 เดือน
- สำเนารายการเดินบัญชีเงินเดือนให้ย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน (ล่าสุดนับจากเดือนที่สมัคร)
กรณีที่ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์ที่เป็นเจ้าของธุรกิจ หรือ มีอาชีพอิสระ จะต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชน ของผู้ที่ยื่นรีไฟแนนซ์หรือผู้ที่มีอำนาจ จะต้องถ่ายเอกสารมา 2 ชุด
- สำเนาทะเบียนบ้าน ให้ถ่ายเอกสารหน้าแรกที่มีที่อยู่และหน้าที่มีของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์
- กรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล จะต้องแนบเอกสารการเปลี่ยนมาประกอบการสมัครด้วย
- หากมีสำเนาทะเบียนสมรส หรือสำเนาใบหย่า หรือสำเนาใบมรณบัตรของคู่สมรส ถ้ามีให้แนบเอกสาร
- เอกสารของบริษัท ได้แก่ สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน และสำเนาหนังสือบริคณห์สนธิ และสำเนาหนังสือบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น โดยจะต้องมีอายุไม่เกิน 3 เดือน
- สำเนารายการเดินบัญชีเงินฝากให้ย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน (ล่าสุดนับจากเดือนที่สมัคร) ทั้งนี้จะต้องใช้บัญชีเงินฝากทั้งของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์และบัญชีเงินฝากของธุรกิจ
- แผนที่สถานที่ประกอบธุรกิจของผู้ที่ยื่นรีไฟแนนซ์บ้าน
เอกสารแสดงหลักประกันในการยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้าน
นอกจากจะต้องเอกสารส่วนตัวของผู้ที่ยื่นรีไฟแนนซ์แล้วยังจะต้องเตรียมเอกสารที่แสดงถึงหลักประกันของคุณอีกด้วย ซึ่งเอกสารก็จะประกอบด้วย ดังนี้
- สำโฉนดบ้านที่นำมารีไฟแนนซ์ กรณีที่เป็นคอนโดมิเนียมก็ให้ใช้เป็นสำเนาหนังสือกรรมสิทธิ์
- สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย หรือสำเนาใบจอง
- แผนที่ตั้งของบ้านหรือคอนโดมิเนียมที่นำมารีไฟแนนซ์
- สัญญาเงินกู้ และสำเนาจำนอง
ค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคาร
- ค่าธรรมเนียมสำรวจและค่าประเมินหลักประกัน (โปรโมชั่นฟรี)
- ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย ซึ่งจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด
- ค่าอากรแสตป์ในการทำสัญญารีไฟแนนซ์ จ่ายอยู่ที่ 0.05% ของวงเงินกู้
- ค่าจดจำนองส่วนที่เกิน 100,000 บาท จะต้องจ่ายให้กับกรมที่ดิน
ช่องทางการสมัครสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
- หากใครที่สนใจอยากจะรีไฟแนนซ์บ้านสามารถสมัครได้ด้วยกัน 2 ช่องทาง คือ สมัครที่เคาน์เตอร์ธนาคารเกียรตินาคินทุกสาขาทั่วประเทศ หรือจะสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ง่ายๆ คลิกที่นี่
credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน กับ สินเชื่อบ้าน ทีเอ็มบี รีไฟแนนซ์ จากธนาคาร TMB
ใครที่ต้องการจะรีไฟแนนซ์บ้าน เปลี่ยนธนาคารใหม่ เลือกที่นี้เลยกับ สินเชื่อบ้าน ทีเอ็มบี รีไฟแนนซ์ จากธนาคาร TMB พร้อมให้วงเงินกู้สูงเต็มพิกัด มีเงินส่วนต่างเหลือสำหรับใช้จ่ายในเรื่องต่างๆที่ต้องการ ไม่ว่าใครต้องการเงินไปโปะหนี้บัตรเครดิต หรือต้องการใช้เงินไปเป็นค่าเทอมบ้าง ค่ารักษาพยาบาล เพิ่มลงทุนในธุรกิจส่วนตัว เป็นต้น ด้วยดอกเบี้ยสุดพิเศษกว่าใครเริ่มต้นที่ 3.05% ต่อปี ผ่อนจ่ายได้สบายนานถึง 35 ปี สนใจรีบยื่นเรื่องได้เลย อนุมัติให้รวดเร็วทันใจไม่เกิน 7 วัน รู้ผลทันที ลองมาดูรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์กับธนาคาร TMB ได้เลย
เงื่อนไขการสมัครสินเชื่อบ้าน ทีเอ็มบี รีไฟแนนซ์
- ผู้สมัครจะต้องมีอายุระหว่าง 20 – 60 ปี
- สามารถยื่นขอรีไฟแนนซ์ได้ทั้งคนที่ทำงานประจำและผู้ที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว
- กรณีที่ผู้สมัครทำงานประจำ (พนักงานบริษัททั่วไป/ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ) ต้องมีเงื่อนไข ดังนี้
- จะต้องมีฐานเงินเดือนไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทขึ้นไป
- ผู้สมัครจะต้องรับเงินผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารใดก็ได้
- ผู้สมัครจะต้องมีอายุการทำงานไม่น้อยกว่า 4 เดือน และจะต้องผ่านการทดลองงาน
- กรณีที่ผู้สมัครประกอบธุรกิจส่วนตัว ต้องมีเงื่อนไข ดังนี้
- จะต้องมีรายได้หมุนเวียนในธุรกิจไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทขึ้นไป
- ธุรกิจที่ดำเนินการนั้นจะต้องตั้งอยู่ในประเทศไทย และดำเนินกิจการมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปีขึ้นไป
วงเงินในการปล่อยกู้สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน
ธนาคารจะปล่อยเงินกู้ในการรีไฟแนนซ์บ้านจะให้วงเงินเริ่มต้นอยู่ที่ 500,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20,000,000 บาท โดยจะขึ้นอยู่การประเมินหลักทรัพย์ของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์ โดยการอนุมัติวงเงินจะแบ่งไปตามมูลค่าของหลักทรัพย์ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังนี้
- กรณีที่บ้านหรือคอนโดมิเนียม มีมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท จะได้รับวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 95% ของราคาประเมินจากธนาคาร
- กรณีที่บ้านหรือคอนโดมิเนียม มีมูลค่าตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป จะได้รับวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 90% ของราคาประเมินจากธนาคาร
อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้าน ทีเอ็มบี รีไฟแนนซ์
สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคาร TMB ธนาคารจะมีผลิตภัณฑ์เสริมด้วยกัน 3 ประเภท ได้แก่ 1.สมัครประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ทีเอ็มบีคุ้มบ้าน (MRTA) 2.สมัครใช้บริการหักบัญชีอัตโนมัติผ่านบัญชีออมทรัพย์ ทีเอ็มบี เพื่อผ่อนจ่ายสินเชื่อบ้าน และ 3.สมัครบัตรเดบิต TMB แต่ถ้าใครมีแล้วก็ไม่ต้องสมัครเพิ่ม ทั้งนี้ คุณสามารถเลือกเองได้เลยว่าจะสมัครครบทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์หรือไม่ตาม เพราะจะส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน มีรายละเอียดดังนี้
กรณีที่คุณสมัครผลิตภัณฑ์เสริมครบ 3 ประเภท อัตราดอกเบี้ยที่ได้รับจะมีดังนี้
- ทางเลือกที่ 1 (ดอกเบี้ย MRR =7.15 ต่อปี)
- ดอกเบี้ยในช่วงปีที่ 1 – 3 ดอกเบี้ยลอยตัวจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 4.10 ต่อปี
- ดอกเบี้ยตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.15 ต่อปี
- ดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 3.05 ต่อปี
- ทั้งนี้ ดอกเบี้ยที่แท้จริงของสัญญาเงินกู้ตลอดสัญญาจะอยู่ที่ร้อยละ 4.35 ต่อปี
ทั้งนี้ กรณีที่เลือกทางเลือกที่ 1 จะได้รับสิทธิพิเศษ ก็คือ ฟรีค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ และฟรีค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย
- ทางเลือกที่ 2 (ดอกเบี้ย MRR =7.15 ต่อปี)
- ดอกเบี้ยในช่วงปีที่ 1 – 3 ดอกเบี้ยลอยตัวจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 3.75 ต่อปี
- ดอกเบี้ยตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.15 ต่อปี
- ดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 3.40 ต่อปี
- ทั้งนี้ ดอกเบี้ยที่แท้จริงของสัญญาเงินกู้ตลอดสัญญาจะอยู่ที่ร้อยละ 4.47 ต่อปี
ทั้งนี้ กรณีที่เลือกทางเลือกที่ 2 จะได้รับสิทธิพิเศษ ก็คือ ฟรีค่าจดทะเบียนจำนอง ฟรีค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ และฟรีค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย
กรณีที่คุณสมัครผลิตภัณฑ์เสริมไม่ครบ 3 ประเภท อัตราดอกเบี้ยที่ได้รับจะมีดังนี้
- ดอกเบี้ยในช่วงปีที่ 1 – 3 ดอกเบี้ยลอยตัวจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 3.15 ต่อปี
- ดอกเบี้ยตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.90 ต่อปี
- ดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 4.00 ต่อปี
- ทั้งนี้ ดอกเบี้ยที่แท้จริงของสัญญาเงินกู้ตลอดสัญญาจะอยู่ที่ร้อยละ 4.84 ต่อปี
ทั้งนี้ กรณีที่เลือกทางเลือกที่ 1 จะได้รับสิทธิพิเศษ ก็คือ ฟรีค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ และฟรีค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย
ระยะเวลาการผ่อนของสินเชื่อบ้าน ทีเอ็มบี รีไฟแนนซ์
สามารถผ่อนจ่ายสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านได้นานสูงสุด 35 ปี แต่เมื่อรวมอายุของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์กับระยะเวลาการผ่อนนั้นจะต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี ฉะนั้น ถ้าต้องการระยะเวลาผ่อนนานๆก็จะต้องขอกู้ตอนที่อายุไม่มาก
เอกสารประกอบการสมัครขอสินเชื่อบ้าน ทีเอ็มบี รีไฟแนนซ์
สำหรับเอกสารที่จะต้องใช้ในการยื่นรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคาร TMB นั้นเอกสารจะต้องประกอบไปด้วย เอกสารส่วนบุคคล ที่จะแบ่งออกไปตามอาชีพของผู้สมัคร และเอกสารด้านหลักทรัพย์ที่นำมายื่นรีไฟแนนซ์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
เอกสารส่วนบุคคลของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์บ้าน
- หากผู้สมัครทำงานประจำเป็นพนักงานบริษัทเอกชนทั่วไป
- สำเนาบัตรประชาชน (เซ็นชื่อพร้อมสำเนาถูกต้อง)
- เอกสารแสดงที่มาของรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน / หนังสือรับรองเงินเดือน
- Statement ย้อนหลัง 1 เดือน
- หากผู้สมัครทำงานเป็นข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานธนาคาร หรือพนักงานเงินทุนหลักทรัพย์
- สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาบัตรข้าราชการ แต่จะต้องใช้สำเนาทะเบียนมายื่นคู่กันด้วย (เซ็นชื่อพร้อมสำเนาถูกต้อง)
- เอกสารแสดงที่มาของรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน / หนังสือรับรองเงินเดือน
- Statement ย้อนหลัง 1 เดือน
- หากผู้สมัครเป็นเจ้าของกิจการ หรือทำธุรกิจส่วนตัว
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้สมัครหรือผู้ที่อำนาจในการลงนาม (เซ็นชื่อพร้อมสำเนาถูกต้อง)
- Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
- เอกสารของบริษัท ซึ่งจะแยกไปตามที่จดทะเบียน ดังนี้
- บริษัทจำกัด จะต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
- หนังสือรับรองการจดทะเบียน / บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น
- ห้างหุ้นส่วนจำกัด จะต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
- หนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด
- ร้านค้า จะต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
- สำเนาใบทะเบียนพาณิชย์ หรือใบกรมทะเบียนการค้า
- บริษัทจำกัด จะต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
เอกสารด้านหลักทรัพย์ของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์บ้าน
- สำเนาโฉนดที่ดินทุกหน้า หรือสำเนา นส.3ก จะต้องถ่ายเอกสารมาให้ครบทุกหน้า
- หลักฐานการจ่ายบิลค่างวดกับสถาบันการเงินเดิม
- สำเนาสัญญาเงินกู้สินเชื่อบ้านกับสถาบันการเงินเดิม
- สำเนาหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้าง หรือใบอนุญาตปลูกสร้างบ้าน หรือ ทด. 13
ช่องทางการสมัครสินเชื่อบ้าน ทีเอ็มบี รีไฟแนนซ์
หากใครที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินกับธนาคาร TMB ก็สามารถไปสมัครได้ที่ธนาคาร TMB ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือใครไม่สะดวกในการเดินทางก็จะสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ง่ายที่นี่
credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน กับ สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ จากธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์
สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการรีไฟแนนซ์ที่มีวงเงินสูง โปะหนี้จากธนาคารเดิมแล้วยังมีเงินอีกส่วนหนึ่งไว้ใช้จ่ายได้ตามอเนกประสงค์ที่ต้องการ ไม่ว่าจะต่อเติมบ้าน ซ่อมแซมบ้าน จ่ายค่ารักษาพยาบาล ใช้หนี้ในระบบหรือหนี้นอกระบบ สามารถนำเงินส่วนต่างมาใช้จ่ายได้อย่างสบาย ด้วยวงเงินที่ธนาคารให้กู้สูงสุดถึง 100% จากของภาระหนี้คงเหลือจากสถาบันการเงินเดิม แต่ไม่เกินราคาประเมินหลักประกันที่ธนาคารจะเป็นผู้ประเมินราคา นอกจากนี้แล้วยังใจดีให้ผ่อนจ่ายสบายๆเริ่มต้นเพียงแค่ 3,500 บาทต่อเงิน 1,000,000 บาท ไม่เพียงเท่านั้นยังให้ผ่อนจ่ายได้นานอีกด้วย เรามาดูรายละเอียดต่างๆของสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์กันเลยค่ะ
เงื่อนไขการสมัครสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
- ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์จะต้องเป็นคนที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น
- ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์จะต้องอาศัยอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
- โดยผู้ยื่นขอรีไฟแนนซ์จะต้องมีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป และเมื่อรวมกับระยะเวลาในการผ่อนจ่ายค่างวดจะต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี
- ผู้ที่ยื่นขอรีไฟแนนซ์จะต้องมีรายได้ต่อเดือนไม่น้อยกว่า 20,000 บาทขึ้นไป
- กรณีที่ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์มีรายได้ประจำ (พนักงานบริษัท/ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ)
- จะต้องมีอายุในการทำงานไม่น้อยกว่า 1 ปีขึ้นไป
- กรณีที่ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์ประกอบธุรกิจส่วนตัว
- กิจการหรือธุรกิจจะต้องดำเนินการมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี และตั้งอยู่ในประเทศไทย
วงเงินในการปล่อยกู้สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน
ธนาคารจะให้วงเงินกู้สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านสูงสุด วงเงินสูงสุด 100% ของภาระหนี้คงเหลือจากสถาบันการเงินเดิม แต่ไม่เกินราคาประเมินหลักประกันที่นำมารีไฟแนนซ์ ซึ่งวงเงินที่ได้รับนั้นจะสามารถไปโปะหนี้เก่าจากธนาคารเดิมได้ แถมยังมีเงินเพิ่มอีกด้วย
อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
การคิดดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จะมีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ และก็จะแยกออกเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งจะแบ่งไปตามรายได้ของผู้ยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้าน มีรายละเอียดดังนี้
กรณีที่ผู้ยื่นขอรีไฟแนนซ์มีรายได้ตั้งแต่ 75,000 บาทขึ้นไป
แบบที่ 1 (ดอกเบี้ยแบบลอยตัว)
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านในช่วงปีที่ 1 – 2 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR – 5.45% หรือเท่ากับ 2.30% ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านในช่วงที่ 3 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR – 3.65% หรือเท่ากับ 4.10% ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR – 2.25% หรือเท่ากับ 5.50% ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านในช่วง 3 ปีแรก เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 90% ต่อปี และคคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดสัญญาเงินกู้จะอยู่ที่ 3.90% ต่อปี
แบบที่ 2 (ดอกเบี้ยคงที่)
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านในช่วงปีที่ 1 – 2 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 2.45% ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านในช่วงที่ 3 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR – 3.50% ต่อปี หรือ 4.25% ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR – 2.25% หรือเท่ากับ 5.50% ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านในช่วง 3 ปีแรก เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 05% ต่อปี และคคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดสัญญาเงินกู้จะอยู่ที่ 4.00% ต่อปี
กรณีที่ผู้ยื่นขอรีไฟแนนซ์มีรายได้ตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป
แบบที่ 1 (ดอกเบี้ยแบบลอยตัว)
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านในช่วงปีที่ 1 – 3 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR – 4.75% หรือเท่ากับ 3% ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR – 2.25% หรือเท่ากับ 5.50% ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านในช่วง 3 ปีแรก เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 3.00% ต่อปี และคคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดสัญญาเงินกู้จะอยู่ที่ 4.03% ต่อปี
แบบที่ 2 (ดอกเบี้ยคงที่)
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านในช่วงปีที่ 1 – 2 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 3.15% ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านในช่วงที่ 3 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR – 4.60% ต่อปี หรือเท่ากับ 3.15% ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR – 2.25% หรือเท่ากับ 5.50% ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านในช่วง 3 ปีแรก เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 15% ต่อปี และคคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดสัญญาเงินกู้จะอยู่ที่ 4.12% ต่อปี
ทั้งนี้ หากยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้านและได้รับอนุมัติวงเงินกู้ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 นี้จะได้รับดอกเบี้ยส่วนลดพิเศษ หากมีรายได้ตั้งแต่ 75,000 บาท ก็จะได้รับดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ 2.30% ต่อปี แต่ถ้ามีรายได้ตั้งแต่ 20,000 บาท ก็จะได้รับดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ 3.00% ต่อปี นอกจากนี้แล้วยังสามารถเลือกผ่อนแบบขั้นต่ำได้อีกด้วยเพียงแค่ 1,000,000 บาทต่อยอดผ่อน 3,500 บาท ทั้งนี้ ก็จะต้องดอกเบี้ยแบบที่ 2 เท่านั้น ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR = 7.750%
ค่าใช้จ่ายที่จะต้องเสียในการรีไฟแนนซ์บ้าน
แม้ว่าจะได้รับวงเงินกู้เพิ่มเติมจากการรีไฟแนนซ์บ้านก็ตาม แต่ก็อาจจะต้องเตรียมเงินไว้อีกส่วนหนึ่ง เพราะมีค่าใช้จ่ายต่างๆที่จะต้องจ่ายให้กับธนาคารและกรมที่ดิน ดังนี้
- จ่ายให้กับธนาคารในการสำรวจและประเมินบ้านที่นำมารีไฟแนนซ์ จำนวนเงินจะอยู่ที่ 2,500 บาท
- จ่ายให้กับธนาคารในการทำสัญญาค่าอากรแสตมป์ จะคิดอยู่ที่ 0.05% ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติ
- จ่ายเบี้ยประกันอัคคีภัย จะเป็นไปปตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติและเงื่อนไขของบริษัทประกันภัย
- กรณีที่ปิดหนี้ก่อน 3 ปี จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับธนาคาร เป็นจำนวนเงิน 3% ของยอดหนี้ที่ยังคงค้างอยู่
เอกสารประกอบการยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้าน
เอกสารที่จะต้องเตรียมในการยื่นรีไฟแนนซ์บ้านก็จะต้องมีเอกสารส่วนบุคคล เอกสารที่แสดงที่มาของรายได้ และเอกสารด้านหลักประกัน ทั้งนี้ หากผู้ยื่นมีอาชีพที่แตกต่างกันการเตรียมเอกสารก็จะไม่เหมือนกัน ดังนี้
เอกสารส่วนบุคคลของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์
- สำเนาบัตรประชาชน หรือ สำเนาบัตรข้าราชการ
- สำเนาทะเบียนบ้าน จะต้องถ่ายหน้าที่มีที่อยู่และหน้าที่มีชื่อของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์
- สำเนาใบทะเบียนสมรส/ ใบหย่า/ ใบมรณบัตร/ ใบเปลี่ยนชื่อสกุล (ถ้ามีให้แนบเอกสารดังกล่าวมาด้วย)
เอกสารแสดงที่มาของรายได้ของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์
- กรณีที่มีรายได้ประจำ (พนักงานบริษัท/ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ)
- สลิปเงินเดือน (เดือนล่าสุด) หรือ หนังสือรับรองเงินเดือน
- สำเนาบัญชีธนาคาร หรือ Statement จะต้องย้อนหลัง 6 เดือน
- หากมีรายได้อื่นๆที่ไม่ใช่เงินเดือนให้แนบเอกสารแสดงถึงรายได้เสริมมาด้วย
- กรณีที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล คัดไม่เกิน 3 เดือน
- สำเนาใบกรมทะเบียนการค้า
- สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น
- สำเนาใบ ภพ.30 พร้อมใบเสร็จรับเงิน ย้อนหลัง 6 เดือน (ถ้ามี)
- สำเนาบัญชีธนาคาร หรือ Statement จะต้องย้อนหลัง 6 เดือน จะต้องใช้ทั้งของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์และบัญชีของธุรกิจ
เอกสารด้านหลักประกันของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์
- สำเนาโฉนดที่ดิน หนังสือกรรมสิทธิ์กรณีที่เป็นคอนโดมิเนียม ถ่ายเอกสารมาให้ครบทุกหน้า
- สำเนาสัญญาเงินกู้ขอสินเชื่อเดิมที่กับสถาบันการเงินเดิม
- สำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน จะต้องถ่ายเอกสารมาให้ครบทุกหน้า
- สำเนาใบเสร็จที่จ่ายค่างวดสินเชื่อบ้านให้กับสถาบันการเงินเดิม (เดือนล่าสุด)
- แผนที่บ้านที่นำมารีไฟแนนซ์บ้าน
ช่องทางการสมัครสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
สำหรับใครที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม หรือว่าต้องการสมัครยื่นรีไฟแนนซ์บ้าน สามารถติดต่อได้ที่ ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ทุกสาขาทั่วประเทศ
credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน กับ สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน จากธนาคาร CIMB
สำหรับใครที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้านแล้วเพิ่มวงเงิน เพื่อจะได้มีเงินหมุนในการใช้จ่าย หรือมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินก้อน ลองเลือกมารีไฟแนนซ์บ้าน กับธนาคาร CIMB ที่มีสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านให้ทั้งกรณีที่ไม่ขอวงเงินเพิ่มและกรณีที่ขอวงเงินเพิ่ม โดยที่ไม่ต้องเสียค่าดำเนินการให้กับธนาคารอีกด้วย นอกจากนี้แล้วยังจะในส่วนของวงเงินเพิ่มจะได้สูงสุดไม่เกิน 40% ของราคาประเมินแต่เมื่อรวมกับวงเงินรีไฟแนนซ์บ้านจะต้องไม่เกิน 95% ของราคาประเมิน งั้นมาดูรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวกับสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคาร CIMB กันเลยค่ะ
เงื่อนไขการสมัครสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
- ยื่นขอรีไฟแนนซ์ได้เฉพาะคนที่มีสัญชาติไทยและอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
- ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์ตั้งแต่ 21 – 62 ปี และเมื่อรวมอายุกับระยะเวลาการผ่อนจะตองไม่เกิน 65 ปี
- กรณีที่เป็นพนักงานประจำ/ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ จะต้องมีอายุการทำงานตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
- กรณีที่เป็นพนักงานสัญญาจ้างของหน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจ หรือบริษัทที่น่าเชื่อถือ เฉพาะพนักงานในระดับบริหารตั้งแต่ระดับผู้จัดการ / หัวหน้างานขึ้นไป จะต้องมีอายุการทำงานตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป
- ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์บ้านจะต้องเป็นผู้ที่มีชื่อเป็นผู้กู้สินเชื่อบ้านกับสถาบันการเงินเดิม
- ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์บ้านจะต้องมีรายได้ตั้งแต่เดือนละ 30,000 บาทขึ้นไป
วงเงินในการปล่อยกู้สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน
การอนุมัติสินเชื่อในการรีไฟแนนซ์บ้านแบบขอเพิ่มวงเงินนั้นธนาคารจะมีกรอบวงเงินให้ต่างกันระหว่างบ้านที่อยู่ในกรุงเทพกับบ้านที่อยู่ต่างจังหวัด จะให้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 95% ของราคาประเมิน ถ้าหลักประกันอยู่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จะได้รับวงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท แต่ถ้าหลักประกันอยู่ในเขตต่างจังหวัด จะได้รับวงเงินกู้สูงสุด 40 ล้านบาท และถ้าต้องการวงเงินกู้เพิ่มเติมจะได้รับวงเงินกู้ไม่เกิน 40% ของราคาประเมินหลักประกัน ทั้งนี้เมื่อรวมวงเงินกู้เพื่อปิดหนี้เดิมกับเงินส่วนที่เพิ่มจะต้องไม่เกิน 95% ของราคารประเมินหลักประกัน
อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
อัตราดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินนั้นจะมีให้เลือกเพียงแค่ระหว่างที่ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อกับไม่ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อ มีรายละเอียดดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยแบบที่ 1 กรณีที่ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อ
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านในช่วง 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 3.885 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 3.99 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.00 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 5.875 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของสัญญาเงินกู้ตลอดสัญญาจะอยู่ที่ร้อยละ 5.393 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยแบบที่ 2 กรณีไม่ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อ
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านในช่วง 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 3.585 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 4.29 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.00 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 5.875 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของสัญญาเงินกู้ตลอดสัญญาจะอยู่ที่ร้อยละ 473 ต่อปี
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย MRR = 7.875% ต่อปี
เอกสารประกอบการสมัครของสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
- สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาบัตรข้าราชการ หรือสำเนาบัตรพนักงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งบัตรที่ใช้จะต้องเป็นบัตรที่มีเลขที่บัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- กรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อ หรือเปลี่ยนนามสกุล ให้แนบเอกสารเปลี่ยนแปลงมาด้วย
- กรณีที่สมรสแล้วให้แนบสำเนาใบทะเบียนสมรส หรือถ้ากรณีที่เลิกกันแล้วก็ให้แนบสำเนาใบหย่า
- สลิปเงินเดือน หรือ หนังสือรับรองเงินเดือน
- สำเนาบัญชีธนาคารที่เงินเดือนเข้าย้อนหลัง 3 เดือน
- สำเนาใบเสร็จการจ่ายหนี้เงินกู้ หรือ ใบแจ้งยอดหนี้เงินกู้ (Statement) จะต้องย้อนหลังอย่างน้อย 3 เดือน
ช่องทางการสมัครสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
หากสนใจอยากมารีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินกับธนาคาร CIMB สามารถไปสมัครได้ที่ธนาคารทุกสาขาทั่วประเทศ หรือจะสมัครผ่านทางออนไลน์ก็ได้เช่นกัน สนใจคลิกที่นี่เลย
credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน กับ สินเชื่อ Refinance จากธนาคารธนชาต
ใครที่อยากรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อลดดอกเบี้ยให้ถูกลง และมีความจำเป็นต้องการใช้เงินก้อนอีกด้วยนั้น ลองมารีไฟแนนนซ์บ้านกับ สินเชื่อ Refinance จากธนาคารธนชาต ที่จะช่วยให้คุณลดภาระค่าใช้จ่าย ไม่ต้องทนแบกรับภาระค่างวดสินเชื่อบ้าน ช่วยยืดระยะเวลาการในการผ่อนให้นานขึ้น แถมด้วยดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นพิเศษ นอกจากนี้แล้วยังพร้อมให้วงเงินกู้เพิ่มเติมอีกหากคุณมีจำเป็นต้องการใช้เงินให้ได้ไปใช้จ่ายได้ตามอเนกประสงค์กันเลย ด้วยวงเงินอนุมัติให้เริ่มต้นอยู่ที่ 500,000 บาท เปิดโอกาให้ผ่อนนานสูงสุด 30 ปี ในส่วนของรายละเอียดอื่นๆมาดูกันเลยค่ะ
เงื่อนไขการสมัครสินเชื่อ Refinance
- สมัครได้ทั้งคนที่มีสัญชาติไทยและไม่ได้ถือสัญชาติไทย
- ผู้สมัครจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป
- ผู้สมัครจะต้องมีรายได้ต่อเดือนตั้งแต่ 10,000 บาท
- ผู้สมัครจะต้องมีอายุการทำงานหรือถ้าประกอบธุรกิจจะต้องดำเนินกิจการมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี
- ผู้สมัครจะต้องมีประวัติการผ่อนสินเชื่อบ้านกับสถาบันการเงินเดิมมาแล้วไม่ต้องกว่า 2 ปี และจะต้องมีสถานะปกติ
วงเงินในการปล่อยกู้สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน
วงเงินในการอนุมัติธนาคารจะให้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน ถ้าเป็นบ้านหรือคอนโดมิเนียมที่อยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล จะได้วงเงินเริ่มต้นอยู่ที่ 700,000 บาท แต่ถ้าบ้านหรือคอนโดมิเนียมที่อยู่ในเขตต่างจังหวัด จะได้วงเงินเริ่มต้นอยู่ที่ 500,000 บาท
อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อ Refinance
ดอกเบี้ยขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านนั้นจะมีให้เลือกด้วยกัน 2 ทางเลือก โดยที่คุณสามารถเลือกได้ตามที่ต้องการได้เลย มีรายละเอียดดังนี้
- ทางเลือกที่ 1
- รีไฟแนนซ์บ้าน 2 ปีแรก จะเสียดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 3.290 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านปีที่ 3 จะเสียดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MLR – 3.290 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 4.210 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านเข้าสู่ปีที่ 4 เป็นต้นไป จะเสียดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MLR-3.360 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 4.140 ต่อปี
- ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาเงินกู้ในการรีไฟแนนซ์บ้านจะเท่ากับร้อยละ 4.890 ต่อปี
- ทางเลือกที่ 2
- รีไฟแนนซ์บ้าน 2 ปีแรก จะเสียดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 4.250 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านปีที่ 3 จะเสียดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MLR – 0.900 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 6.60 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านเข้าสู่ปีที่ 4 เป็นต้นไป จะเสียดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MLR – 0.650 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 6.85 ต่อปี
- ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาเงินกู้ในการรีไฟแนนซ์บ้านจะเท่ากับร้อยละ 5.623 ต่อปี
ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR = 7.50 ต่อปี ฉะนั้นหากอัตราดอกเบี้ย MRR มีการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะปรับขึ้นหรือลดลงก็ตามจะส่งทำให้ดอกเบี้ยในรีไฟแนนซ์บ้านมีการเปลี่ยนแปลง ยกเว้นแต่อัตราดอกเบี้ยที่ได้รับนั้นเป็นดอกเบี้ยคงที่
ทั้งนี้ ถ้าหากคุณเลือกทำประกันชีวิต MRTA จะได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.15 ต่อปี แต่ถ้าเลือกทำประกันชีวิต MRTA Plus จะได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ต่อปี
เอกสารประกอบการสมัครของสินเชื่อ Refinance
เอกสารประกอบการยื่นเพื่อรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารธนชาตก็ไม่ได้แตกต่างไปจากธนาคารสักเท่าไร ซึ่งจะมีเอกสารหลักๆเพียงไม่กี่ด้าน ได้แก่ เอกสารที่แสดงตัวบุคคล เอกสารที่แสดงที่มาของรายได้ และเอกสารที่แสดงของหลักประกัน มีรายละเอียดดังนี้
เอกสารที่แสดงตัวบุคคล
- สำเนาบัตรประชาชน/สำเนาทะเบียนบ้าน (ของผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วม(ถ้ามี))
- สำเนาเอกสารการเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล (ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง)
- สำเนาทะเบียนสมรส หรือ สำเนาทะเบียนการหย่า หรือสำเนาใบมรณะบัตรคู่สมรส (ถ้ามี)
- กรณีที่ผู้ยื่นขอรีไฟแนนซ์เป็นชาวต่างชาติ จะต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
- สำเนาหนังสือเดินทาง (Passport)
- สำเนาใบต่างด้าว หรือ ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย หรือ สำเนาทะเบียนบ้าน (ท.ร.14
- กรณีที่ผู้ยื่นขอรีไฟแนนซ์เป็นชาวต่างชาติ จะต้องมีผู้ค้ำประกันโดยผู้ค้ำประกันจะต้องเป็นคู่สมรสเท่านั้น และต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
- สำเนาหนังสือเดินทาง (Passport)
- กรณีที่ผู้ค้ำประกันทำงานเป็นพนักงานประจำจะต้องใช้สำเนาหนังสือรับรองการทำงานในประเทศ (Work permit) รวมอายุงานประจำในประเทศไทยอย่างน้อย 2 ปี โดยหนังสือยังไม่หมดอายุ และ ถ่ายสาเนาทุกหน้า
- กรณีผู้ค้ำประกันเจ้าของธุรกิจใช้ อายุธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ 3 ปี โดยธุรกิจปัจจุบันต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 1ปี
- สำเนาทะเบียนสมรสกับผู้มีสัญชาติไทยมาแล้วมากกว่า 1 ปี หรือ กรณีมีบุตร ใช้เอกสารที่ตรวจสอบความสัมพันธ์กับบุตรได้
เอกสารแสดงที่มาของรายได้
- กรณีที่มีรายได้ประจำ (พนักงาน/ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ)
- สลิปเงินเดือน จะต้องใช้เดือนล่าสุด หรือจะใช้เป็นหนังสือรับรองเงินเดือน ที่ระบุ รายได้ ตำแหน่งงาน และอายุการทำงาน ซึ่งหนังสือจะต้องออกไม่เกิน 1 เดือน
- กรณีที่มีรายได้ไม่แน่นอน เช่น บางเดือนได้ค่าคอมมิชชั่นสูง หรือมีค่าล่วงเวลา จะต้องใช้สลิปเงินเดือนย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน
- กรณีที่มีรายได้เสริมเพิ่มเติม หรือว่ารายได้ที่ได้รับเป็นเงินสด ภงด. 90 91 และหนังสือรับรองการหักภาษี 50 ทวิ
- รายการเดินบัญชีเงินฝากที่มีรายได้เข้า ย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน
- กรณีที่เป็นเจ้าของกิจการ (กรณีที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล)
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท จะต้องคัดไม่เกิน 3 เดือน
- สำเนาหนังสือรับรองห้างหุ้นส่วนจากัด
- สำเนาทะเบียนผู้ถือหุ้น (บอจ. 5) อายุไม่เกิน 3 เดือน
- ภ.พ. 30 พร้อมใบเสร็จ ให้ย้อนหลัง 6 เดือนล่าสุด
- กรณีที่มีงบการเงินของกิจการให้ใช้ย้อนหลัง 2 ปี
- รายการเดินบัญชีเงินฝากที่มีรายได้เข้า ย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน
- กรณีที่เป็นเจ้าของกิจการ (กรณีที่ไม่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล)
- ใบทะเบียนพาณิชย์
- กรณีที่กิจการมีการเช่าที่อยู่ก็จะต้องแนบสัญญาเช่าที่ตั้งของกิจการมาด้วย
- ภาพกิจการทั้งมุมกว้างและอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบการกิจการ
- บัญชีรายรับ-รายจ่าย และ/หรือ ใบเสร็จที่มีการซื้อ-ขาย ย้อนหลัง 6 เดือนล่าสุด
- รายการเดินบัญชีเงินฝากที่มีรายได้เข้า ย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน
- กรณีที่ทำอาชีพอิสระ (Freelance) เช่น นักแสดง นายหน้าขายประกัน ขายตรง
- บัตรประจำตัววิชาชีพ หรือ หลักฐานแสดงอาชีพ เช่น สัญญาจ้าง
- ใบเสียภาษี ภงด. 90, ภงด. 91 พร้อมใบเสร็จ เพื่อแสดงถึงรายได้ให้ย้อนหลัง 6 เดือน
- รับรองการหักภาษี 50 ทวิ หรือ หลักฐานแสดงเสียภาษีเงินได้
เอกสารแสดงถึงหลักประกัน
- ใบเสร็จการจ่ายบิลค่างวดกับสถาบันการเงินเดิม จะต้องใช้ 2 เดือนย้อนหลัง
- สำเนาสัญญาเงินกู้ที่มีรายละเอียดของสัญญาทั้งวงเงิน ระยะเวลา เงื่อนไข และสัญญาต่อท้าย (กรณีที่มี)
- สำเนาสัญญาจำนอง และสำเนาต่อท้ายสัญญาจำนอง (กรณีที่มี)
- กรณีที่มีการขอกู้เงินเพิ่มจากยอดหนี้เดิม จะต้องแนบสำเนาเงินกู้และสำเนาจำนองที่เกี่ยวข้องกับหลักประกันที่นำมารีไฟแนนซ์ทุกฉบับ
ช่องทางการสมัครสินเชื่อ Refinance
สำหรับใครที่สนใจอยากจะมารีไฟแนนซ์บ้านนั้นสามารถเข้าไปติดต่อสอบถามหรือสมัครได้ที่ธนาคารธนชาตทุกสาขาทั่วประเทศ หรือถ้าไม่สะดวกในการเดินทางจะเลือกสมัครผ่านทางออนไลน์ก็ได้เช่นกัน สนใจคลิกที่นี่
credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน กับ สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ จากธนาคารกสิกรไทย
สำหรับใครที่ต้องการลดภาระค่าใช้จ่าย ยอดผ่อนบ้านที่เป็นอยู่ก็เพิ่มสูงขึ้น ดอกเบี้ยก็สูง เงินก็ไม่พอใช้ ชักหน้าไม่ถึงหลัง ลองมารีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินกับธนาคารกสิกรไทย ที่พร้อมให้วงเงินสูงสุด 95% ของราคาประเมิน ดอกเบี้ยก็เริ่มต้นเพียงแค่ 3 กว่าๆต่อปีเท่านั้น ทำให้สบายในการผ่อนจ่าย โดยที่สามารถผ่อนจ่ายได้นานสูงสุด 30 ปี และที่สำคัญยังสามารถขอกู้เงินเพิ่มเติมจากยอดหนี้ที่มีอยู่กับสถาบันการเงินเดิมได้อีกด้วย ทำให้การเงินของคุณมีสภาพคล่องมากยิ่งขึ้น แถมยังสมัครก็ง่าย อนุมัติก็ไวใช้เวลาเพียงแค่ 3 วันเท่านั้นรูผลการอนุมัติทันทีเลย หากสนใจก็ลองมาดูในรายละเอียดต่างๆกันก่อนเลยค่ะ
เงื่อนไขการสมัครสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
- ผู้สมัครจะต้องมีอายุระหว่าง 20 – 70 ปี
- โดยมีที่ผู้สมัครจะต้องมีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป
- ขอสมัครได้ทุกอาชีพไม่ว่ามีรายได้ประจำหรือมีอาชีพอิสระ
- กรณีที่ผู้สมัครทำงานประจำ จะต้องมีอายุการทำงานไม่ต่ำกว่า 1 ปี
- กรณีที่ผู้สมัครประกอบกิจการส่วนตัว จะต้องดำเนินกิจการมาแล้วอย่างน้อย 2 ปี
- สามารถขอกู้ร่วมกับผู้อื่นได้ไม่เกิน 3 คน โดยผู้กู้ร่วมจะต้องเป็นเครือญาติตามกฎหมาย
วงเงินในการปล่อยกู้สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน
ธนาคารจะปล่อยเงินกู้ในการรีไฟแนนซ์บ้านให้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 95% ของราคาประเมินหลักประกัน แต่ถ้าหลักประกันนั้นมีมูลค่ามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไปนั้น วงเงินกู้ที่ได้รับจะให้สูงสุดไม่เกิน 80% ของราคาประเมินหลักประกัน และแม้ว่าวงเงินที่อนุมัตินั้นจะมากกว่ายอดหนี้ที่มีกับสถาบันการเงินเดิมก็ตาม เงินส่วนต่างที่เหลือคุณสามารถนำไปใช้จ่ายได้ตามที่ต้องการ
อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
สำหรับอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกำหนดนั้น จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มแรกสำหรับคนที่ต้องการทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อ กับกลุ่มคนที่ไม่ต้องการทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อ ซึ่งแน่นอนว่าอัตราดอกเบี้ยของทั้งสองกลุ่มนี้ก็จะไม่เท่ากัน เรามาดูดอกเบี้ยของแต่ละกลุ่มกันเลย
กลุ่มที่ 1 กรณีที่ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อ อัตราดอกเบี้ย ดังนี้
- ดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้านในช่วง 3 ปีแรก ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยแบบคงที่อยู่ที่ร้อยละ 3.65 ต่อปี
- ดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยแบบลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR –1.50 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 5.37 ต่อปี
- ทั้งนี้ หากคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา อัตราดอกเบี้ยก็จะอยู่ที่ร้อยละ 4.73 ต่อปี
กลุ่มที่ 2 กรณีที่ไม่ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อ หรือทำประกันชีวิตที่นอกเหนือเงื่อนไข อัตราดอกเบี้ย ดังนี้
- ดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้านในช่วง 3 ปีแรก ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยแบบคงที่อยู่ที่ร้อยละ 3.75 ต่อปี
- ดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยแบบลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR –1.50 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 5.37 ต่อปี
- ทั้งนี้ หากคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา อัตราดอกเบี้ยก็จะอยู่ที่ร้อยละ 4.77 ต่อปี
เอกสารประกอบการสมัครของสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
ในส่วนของเอกสารที่จะต้องใช้ในการยื่นเรื่องขอรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารกสิกรไทยนั้น ก็เป็นเอกสารทั่วไป ที่แสดงถึงตัวบุคคล รายได้ และหลักประกัน ดังนี้
- แบบฟอร์มการยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารกสิกรไทย
- สำเนาบัตรประชาชน หรือจะเลือกใช้สำเนาบัตรข้าราชการ บัตรพนักงานรัฐวิสาหกิจ
- สำเนาทะเบียน จำเป็นจะต้องถ่ายเอกสารมาให้ครบทุกหน้าที่มีในสมุดทะเบียนบ้าน
- หากมีการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล ให้แนบเอกสารเปลี่ยนแปลงมาด้วย
- กรณีที่แต่งงานแล้วจดทะเบียนสมรส ให้แนบสำเนาทะเบียนสมรสมาด้วย
- กรณีที่แต่งงานแล้วแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ให้แนบหนังสือยืนยันสถานภาพการสมรส
- กรณีที่มีการเลิกร้างกับคู่สมรส ให้แนบสำเนาใบหย่า หรือใบแจ้งความเลิกร้าง
- กรณีที่คู่สมรสเสียชีวิต ให้แนบสำเนาใบมรณะบัตรของคู่สมรสมาด้วย
- เอกสารต่างๆที่แสดงถึงที่มาของรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หรือ หนังสือรับรองเงินเดือน หรื ใบแนบหนังสือสั่งจ่าย (กรณีที่เป็นข้าราชการบำนาญ) หรือ ใบ 50 ทวิ (กรณีที่มีอาชีพอิสระ)
- Statement ให้ย้อนหลัง 6 เดือนต่อเนื่อง นับจากเดือนที่ยื่นเรื่องขอรีไฟแนนซ์
- สำเนาใบเสร็จที่จ่ายค่างวดเดือนล่าสุดกับสถาบันการเงินเดิม
- สำเนาสัญญาเงินกู้จากสถาบันการเงินเดิม
ช่องทางการสมัครสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
หากใครที่มีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลในส่วนใดเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดูได้ในเว็บไซต์ของธนาคารกสิกรไทย หรือจะเข้าไปสอบถามด้วยตัวเองที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศ หรือใครที่อยากสมัครแบบง่ายๆ สะดวก รวดเร็ว ก็เลือกสมัครผ่านทางออนไลน์ได้เลย เพียงคลิกที่นี่
credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน กับ สินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินอื่น จากธนาคารกรุงเทพ
ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน หาดอกเบี้ยต่ำ ได้วงเงินกู้สูงที่ปิดหนี้เก่าได้ มีเงินก้อนส่วนหนึ่งเหลือไว้ใช้จ่าย สินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินอื่น จากธนาคารกรุงเทพ ตอบโจทย์ได้ครบทุกความต้องการของการรีไฟแนนซ์ ที่มาพร้อมกับเงื่อนไขสุดพิเศษ ดอกเบี้ยจัดว่าถูกจริงๆ เริ่มต้นเพียงแค่ร้อยละ 1.74 ต่อปีเท่านั้น สามารถผ่อนจ่ายได้อย่างสบายนานสูงสุด 35 ปี ไม่เพียงเท่านั้นยังมีสิทธิพิเศษมอบให้หากยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารกรุงเทพวันนี้รับไปเลยฟรีค่าดำเนินการจัดไฟแนนซ์ให้ ถ้าใครที่สนใจอยากรู้รายละเอียด ลองมาอ่านกันก่อนได้เลยค่ะ
เงื่อนไขการสมัครสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
- อายุกับระยะเวลาการผ่อนจะต้องไม่เกิน 65 ปี
- ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์จะต้องมีประวัติการจ่ายที่ดีตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา
วงเงินในการปล่อยกู้สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน
ธนาคารจะให้วงเงินกู้สูงไม่เกิน 100% ของราคาประเมินหลักทรัพย์ของคุณ หรือจะให้เท่ากับภาระหนี้คงเหลือกับสถาบันการเงินเดิมอยู่ หรือหากต้องการเงินเพิ่มเติมธนาคารก็จะให้สินเชื่อเนกประสงค์เพิ่มเติมให้กับคุณ เรียกได้ว่าได้ทั้งเงินโปะหนี้เดิม ได้ทั้งเงินหมุนเวียนในกระเป๋าอีกด้วย
อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
สำหรับการคิดดอกเบี้ยของธนาคารกรุงเทพนั้น ธนาคารจะแบ่งออกเป็น บ้านที่อยู่อาศัยทั่วไป กับ บ้านที่อยู่ในโครงการของบริษัทมหาชนและบริษัทในเครือ นอกจากนี้แล้วแต่ละกลุ่มก็ยังมีหลากหลายทางเลือกอีกด้วย มีรายละเอียดดังนี้
กรณีที่หลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยทั่วไป
- ทางเลือกที่ 1
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยในปีแรก จะแบ่งเป็นการทำประกันชีวิตกับไม่ทำประกันชีวิต
- กรณีที่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 1.74 ต่อปี
- กรณีที่ไม่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 1.99 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยเข้าสู่ปีที่ 2 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR –3.50 ต่อปี
- ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปีตลอดทั้งสัญญาจะอยู่ที่ร้อยละ 3.90 – 3.95 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยในปีแรก จะแบ่งเป็นการทำประกันชีวิตกับไม่ทำประกันชีวิต
- ทางเลือกที่ 2
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยในปีแรก จะแบ่งเป็นการทำประกันชีวิตกับไม่ทำประกันชีวิต
- กรณีที่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี
- กรณีที่ไม่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 2.75 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยเข้าสู่ปีที่ 2 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 2.75 ต่อปี
- ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปีตลอดทั้งสัญญาจะอยู่ที่ร้อยละ 3.94 – 4.00 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยในปีแรก จะแบ่งเป็นการทำประกันชีวิตกับไม่ทำประกันชีวิต
- ทางเลือกที่ 3
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยในปีแรก จะแบ่งเป็นการทำประกันชีวิตกับไม่ทำประกันชีวิต
- กรณีที่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR –4.375 ต่อปี
- กรณีที่ไม่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR –4.125 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยเข้าสู่ปีที่ 2 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR –4.125 ต่อปี
- ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปีตลอดทั้งสัญญาจะอยู่ที่ร้อยละ 3.94 – 4.00 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยในปีแรก จะแบ่งเป็นการทำประกันชีวิตกับไม่ทำประกันชีวิต
- ทางเลือกที่ 4 (ฟรีค่าจดจำนอง)
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยในปีแรก จะแบ่งเป็นการทำประกันชีวิตกับไม่ทำประกันชีวิต
- กรณีที่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 3.00 ต่อปี
- กรณีที่ไม่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 3.25 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยเข้าสู่ปีที่ 2 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 3.25 ต่อปี
- ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปีตลอดทั้งสัญญาจะอยู่ที่ร้อยละ 4.15 – 4.20 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยในปีแรก จะแบ่งเป็นการทำประกันชีวิตกับไม่ทำประกันชีวิต
ทั้งนี้ ดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ทางเลือกที่ 1 – ทางเลือกที่ 4 ดอกเบี้ยจะแตกต่างกันเฉพาะในช่วงปีที่ 1 – 2 เท่านั้น ตั้งแต่ปีที่ 3 ขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้านจะเท่ากันหมดเลย ดังนี้
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยเข้าสู่ปีที่ 3 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR –1.50 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยเข้าสู่ปีที่ 4 – 5 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.00 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยเข้าสู่ปีที่ 6 เป็นต้นไปนั้น ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.50 ต่อปี
กรณีที่หลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยกลุ่มโครงการของบริษัทมหาชนและบริษัทในเครือ
- ทางเลือกที่ 1
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยในปีแรก จะแบ่งเป็นการทำประกันชีวิตกับไม่ทำประกันชีวิต
- กรณีที่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 1.74 ต่อปี
- กรณีที่ไม่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 1.99 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยเข้าสู่ปีที่ 2 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR –3.625 ต่อปี
- ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปีตลอดทั้งสัญญาจะอยู่ที่ร้อยละ 3.55 – 3.60 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยในปีแรก จะแบ่งเป็นการทำประกันชีวิตกับไม่ทำประกันชีวิต
- ทางเลือกที่ 2
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยในปีแรก จะแบ่งเป็นการทำประกันชีวิตกับไม่ทำประกันชีวิต
- กรณีที่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 2.375 ต่อปี
- กรณีที่ไม่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 2.625 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยเข้าสู่ปีที่ 2 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 2.625 ต่อปี
- ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปีตลอดทั้งสัญญาจะอยู่ที่ร้อยละ 3.57 – 3.62 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยในปีแรก จะแบ่งเป็นการทำประกันชีวิตกับไม่ทำประกันชีวิต
- ทางเลือกที่ 3
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยในปีแรก จะแบ่งเป็นการทำประกันชีวิตกับไม่ทำประกันชีวิต
- กรณีที่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR –4.50 ต่อปี
- กรณีที่ไม่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR –4.25 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยเข้าสู่ปีที่ 2 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR –4.25 ต่อปี
- ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปีตลอดทั้งสัญญาจะอยู่ที่ร้อยละ 3.57 – 3.62 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยในปีแรก จะแบ่งเป็นการทำประกันชีวิตกับไม่ทำประกันชีวิต
- ทางเลือกที่ 4 (ฟรีค่าจดจำนอง)
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยในปีแรก จะแบ่งเป็นการทำประกันชีวิตกับไม่ทำประกันชีวิต
- กรณีที่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 2.875 ต่อปี
- กรณีที่ไม่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 3.125 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยเข้าสู่ปีที่ 2 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 3.125 ต่อปี
- ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปีตลอดทั้งสัญญาจะอยู่ที่ร้อยละ 3.77 – 3.82 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยในปีแรก จะแบ่งเป็นการทำประกันชีวิตกับไม่ทำประกันชีวิต
และเช่นเดียวกันเลย อัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ทางเลือกที่ 1 – ทางเลือกที่ 4 ดอกเบี้ยจะแตกต่างกันเฉพาะในช่วงปีที่ 1 – 2 เท่านั้น ตั้งแต่ปีที่ 3 ขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้านจะเท่ากันหมดเลย ดังนี้
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยเข้าสู่ปีที่ 3 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR –2.375 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยเข้าสู่ปีที่ 4 – 5 ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.625 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ยเข้าสู่ปีที่ 6 เป็นต้นไปนั้น ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.75 ต่อปี
ปัจจุบันดอกเบี้ย MRR = 6.875 ต่อปี
ช่องทางการสมัครสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
หากใครสนใจอยากจะสมัครมารีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารกรุงเทพก็สามารถเข้าไปติดต่อสมัครได้กับเจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงเทพทุกสาขาทั่วประเทศได้เลยค่ะ
credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน กับ สินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์ จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา
สินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์ สำหรับคนที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้านพร้อมพ่วงกับการขอกู้เงินวงเงินเพิ่มเติมนอกเหนือจากหนี้ก็สามารถกู้เพิ่มกับสินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคชที่ให้วงเงินสูงสุดถึง 95% ของราคาประเมิน ดอกเบี้ยก็สุดพิเศษเริ่มต้นเพียงแค่ 0.50 ต่อปีเท่านั้น ผ่อนจ่ายได้สบายนาน 30 ปี ทำให้ยอดเงินผ่อนต่อเดือนไม่สูงมาก คุณก็ไม่ต้องแบกภาระที่หนักจนเกินไป ไม่เพียงเท่านั้นยังจะฟรีค่าประเมินหลักประกัน และค่าจดจำนองให้อีกด้วย ส่วนรายละเอียดต่างๆของสินเชื่อจะมีอะไรบ้างนั้น ติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ
เงื่อนไขการสมัครสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
- ยื่นขอรีไฟแนนซ์เฉพาะคนที่มีสัญชาติไทย
- ผู้สมัครจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
- สมัครได้ทั้งกรณีที่ทำงานประจำ และประกอบธุรกิจส่วนตัว
- โดยจะต้องมีอายุในการทำงานไม่น้อยกว่า 2 ปีขึ้นไป หรือธุรกิจจะต้องดำเนินการไม่ต่ำกว่า 2 ปี
- สามารถขอกู้ร่วมกับบุคคลอื่นได้แต่จะต้องมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติเท่านั้น
วงเงินในการปล่อยกู้สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน
ธนาคารจะให้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 95% จากราคาประเมิน และถ้าหากวงเงินที่ประเมินได้นั้นมากกว่ายอดหนี้ที่มีอยู่ คุณสามารถขอกู้วงเงินเพิ่มเติม เพื่อนำมาใช้จ่ายได้อีกด้วย
อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
อัตราดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้านกับกรุงศรีนั้น จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ กลุ่มที่เป็น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม หรือคอนโดมิเนียม ส่วนอีกกลุ่มก็จะเป็น อาคารพาณิชย์ เป็นต้น นอกจากนี้แล้วยังจะแบ่งในส่วนของวงเงินในการอนุมัติอีกด้วย มีรายละเอียดดังนี้
หลักประกันประเภท ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม หรือคอนโดมิเนียม
กรณีที่รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารอนุมัติวงเงินกู้ให้ตั้งแต่ 1,000,000 – 1,500,000 บาท
- ทางเลือกที่ 1
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ในช่วงปีที่ 1 ดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 0.80 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ในช่วงปีที่ 2 – 3 ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.55 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.75 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ของทางเลือกที่ 1 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.20 ต่อปี หรือถ้าคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงก็จะอยู่ที่ร้อยละ 4.01 ต่อปี
- ทางเลือกที่ 2
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ในช่วง 3 ปีแรก ดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 3.00 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.75 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ของทางเลือกที่ 2 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.00 ต่อปี หรือถ้าคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงก็จะอยู่ที่ร้อยละ 3.98 ต่อปี
- ทางเลือกที่ 3 (ฟรีค่าจดจำนอง)
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ในช่วงปีที่ 1 ดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 0.55 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ในช่วงปีที่ 2 – 3 ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.80 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.75 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ของทางเลือกที่ 3 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.62 ต่อปี หรือถ้าคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงก็จะอยู่ที่ร้อยละ 4.23 ต่อปี
กรณีที่รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารอนุมัติวงเงินกู้ให้ตั้งแต่ 1,500,000 บาทขึ้นไป
- ทางเลือกที่ 1
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ในช่วงปีที่ 1 ดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 0.75 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ในช่วงปีที่ 2 – 3 ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.55 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.75 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ของทางเลือกที่ 1 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.18 ต่อปี หรือถ้าคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงก็จะอยู่ที่ร้อยละ 4.01 ต่อปี
- ทางเลือกที่ 2
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ในช่วงปีที่ 1 ดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 1.90 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ในช่วงปีที่ 2 ดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 2.45 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ตั้งแต่ปีที่ 3 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.75 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ของทางเลือกที่ 2 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.18 ต่อปี หรือถ้าคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงก็จะอยู่ที่ร้อยละ 4.01 ต่อปี
- ทางเลือกที่ 3
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ในช่วง 3 ปีแรก ดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 2.95 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.75 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ของทางเลือกที่ 3 จะอยู่ที่ร้อยละ 2.95 ต่อปี หรือถ้าคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงก็จะอยู่ที่ร้อยละ 3.96 ต่อปี
- ทางเลือกที่ 4
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ในช่วง 3 ปีแรก ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 3.80 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.75 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ของทางเลือกที่ 4 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.15 ต่อปี หรือถ้าคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงก็จะอยู่ที่ร้อยละ 4.08 ต่อปี
- ทางเลือกที่ 5
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ตลอดทั้งสัญญาเงินกู้ ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.95 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ของทางเลือกที่ 5 จะอยู่ที่ร้อยละ 4.00 ต่อปี หรือถ้าคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงก็จะอยู่ที่ร้อยละ 4.00 ต่อปี
- ทางเลือกที่ 6 (ฟรีค่าจดจำนอง)
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ในช่วงปีที่ 1 ดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 0.50 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ในช่วงปีที่ 2 – 3 ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.90 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.75 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ของทางเลือกที่ 6 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.53 ต่อปี หรือถ้าคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงก็จะอยู่ที่ร้อยละ 4.19 ต่อปี
หลักประกันประเภท ได้แก่ อาคารพาณิชย์
กรณีที่รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารอนุมัติวงเงินกู้ให้ตั้งแต่ 1,000,000 – 5,000,000 บาท
- ทางเลือกที่ 1
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ในช่วงปีที่ 1 – 2 ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.10 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ตั้งแต่ปีที่ 3 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 0.85 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ของทางเลือกที่ 1 จะอยู่ที่ร้อยละ 5.27 ต่อปี หรือถ้าคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงก็จะอยู่ที่ร้อยละ 5.64 ต่อปี
- ทางเลือกที่ 2
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ในช่วงปีที่ 1 ดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 4.75 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ตั้งแต่ปีที่ 2 ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 0.85 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ของทางเลือกที่ 2 จะอยู่ที่ร้อยละ 5.65 ต่อปี หรือถ้าคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงก็จะอยู่ที่ร้อยละ 5.84 ต่อปี
กรณีที่รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารอนุมัติวงเงินกู้ให้ตั้งแต่ 5,000,000 บาทขึ้นไป
- ทางเลือกที่ 1
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ในช่วง 3 ปีแรก ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.60 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 0.85 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ของทางเลือกที่ 1 จะอยู่ที่ร้อยละ 4.35 ต่อปี หรือถ้าคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงก็จะอยู่ที่ร้อยละ 5.16 ต่อปี
- ทางเลือกที่ 2
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ในช่วงปีที่ 1 ดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 4.25 ต่อปี
- ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 0.85 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ของทางเลือกที่ 1 จะอยู่ที่ร้อยละ 5.48 ต่อปี หรือถ้าคิดเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริงก็จะอยู่ที่ร้อยละ 5.75 ต่อปี
ระยะเวลาการผ่อนของสินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์
สามารถผ่อนได้สบายๆ นานสูงสุดถึง 30 ปี ทั้งนี้ เมื่อรวมอายุของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์บ้านกับระยะเวลาการผ่อนจะต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี
เอกสารประกอบในการยื่นสินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์
สำหรับคนที่สนใจอยากจะรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา แนะนำให้เตรียมเอกสารประกอบการสมัครให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อความรวดเร็วในการอนุมัติสินเชื่อ โดยเอกสารที่จะต้องใช้ยื่นในการสมัครก็จะมีดังนี้
- บัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการ (ถ่ายเอกสารพร้อมเซ็นและสำเนาถูกต้อง)
- สำเนาทะเบียนบ้าน (ถ่ายเอกสารพร้อมเซ็นและสำเนาถูกต้อง)
- กรณีที่มีคู่สมรส ให้แนบเอกสารของคู่สมรสม รวมทั้งสำเนาทะเบียนสมรส
- กรณีที่หย่าร้างกับคู่สมรส ให้แนบสำเนาหนังสือหย่า หรือถ้าคู่สมรสเสียชีวิต ให้แนบสำเนาใบมรณบัตร
- สลิปเงินเดือน หรือ หนังสือรับรองเงินเดือน หรือถ้ามีรายได้อื่นๆก็ให้แนบเอกสารหลักฐานมาด้วย
- กรณีที่ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์ประกอบธุรกิจส่วนตัว ให้แนบเอกสารของกิจการมาด้วย ได้แก่ หนังสือรับรองการจดทะเบียน / ใบกรมทะเบียนการค้า / สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น / สำเนา ภ.พ 20 / สำเนา ภ.พ. 30 / สำเนาบริคณห์สนธิ
- สำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน หรือ สำเนาสัญญาเงินกู้เงินกับสถาบันการเงินเดิม
- สำเนาใบเสร็จเงินกู้ที่จ่ายกับสถาบันการเงินเดิม ซึ่งจะต้องใช้เดือนล่าสุด
ช่องทางการสมัครสินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์
สำหรับใครที่ต้องการสมัครรีไฟแนนซ์บ้านสามารถเข้าไปติดต่อได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือจะเลือกสมัครผ่านทางออนไลน์ สนใจคลิกได้เลย
credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน กับ สินเชื่อบ้านสุขสันต์ (Refinance in) จากธนาคารอาคารสงเคราะห์
หากพูดถึงเรื่องบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้าน หรือรีไฟแนนซ์บ้าน จะต้องนึกถึงธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่มีสินเชื่อบ้านมากมาย สามารถตอบโจทย์ได้ครบทุกความต้องการของทุกคนอย่างแน่นอน ถ้าใครที่อยากรีไฟแนนซ์บ้าน ดอกเบี้ยต่ำๆ ผ่อนสบายๆนาน 40 ปี เลือกมารีไฟแนนซ์กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้เลย งั้นมาดูรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวกับสินเชื่อนี้กันก่อนเลยค่ะ
วงเงินในการปล่อยกู้สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน
การปล่อยวงเงินกู้ธนาคารจะให้ตามราคาประเมิน ซึ่งจะเป็นไปตามเกณฑ์หลักประกันและตามเกณฑ์รายได้ของผู้ยื่นขอรีไฟแนนซ์
อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านสุขสันต์ (Refinance in)
- รีไฟแนนซ์บ้านในช่วงเดือนที่ 1 – เดือนที่ 36 ( 3 ปีแรก ) จะเสียดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 3.025 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านในช่วงเดือนที่ 37 – เดือนที่ 42 ธนาคารจะไม่คิดดอกเบี้ย โดยดอกเบี้ยจะเป็น 0% ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านในช่วงเดือนที่ 43 เป็นต้นไปนั้น จะเสียดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.00 ต่อปี (ในกรณีที่เป็นลูกค้าสวัสดิการ) หรือดอกเบี้ยร้อยละ MRR – 0.50 ต่อปี (กรณีที่เป็นลูกค้ารายย่อย) และถ้าเป็นกรณีที่กู้เงินเพื่อซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ดอกเบี้ยจะร้อยละ MRR
ระยะเวลาการผ่อนของสินเชื่อบ้านสุขสันต์ (Refinance in)
สำหรับการผ่อนค่างวดของสินเชื่อบ้านสุขสันต์นั้น ธนาคารจะกำหนดระยะเวลาขั้นต่ำเริ่มต้นอยู่ที่ 3 ปี 6 เดือนขึ้นไป และจะให้ผ่อนได้นานสูงสุด 40 ปี ทั้งนี้ เมื่อรวมอายุกับระยะเวลาการผ่อนแล้วผู้กู้จะต้องมีอายุไม่เกิน 70 ปี แต่ถ้าผู้ที่ยื่นขอรีไฟแนนซ์เป็นข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ธนาคารจะขยายช่วงอายุให้ถึง 75 ปี
ช่องทางการสมัครสินเชื่อบ้านสุขสันต์ (Refinance in)
- หากสนใจที่จะรีไฟแนนซ์บ้านสามารถเข้าไปติดต่อสมัครได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาทั่วประเทศได้เลย
แหละนี้ก็คือสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินของธนาคารต่างๆ ที่เราได้รวบรวมมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์เป็นอย่างมากสำหรับเพื่อนๆทุกคน และสำหรับเพื่อนๆคนไหนที่มองหาสินเชื่ออื่นๆไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล หรือใครที่อยากจะรีไฟแนนซ์บ้าน รีไฟแนนซ์รถยนต์ รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต รวมไปถึงใครที่ยังไม่มีบัตรเครดิตแล้วอยากจะเป็นคนมีเครดิตเหมือนคนอื่นบ้าง ก็สามารถหาข้อมูลบัตรเครดิตที่เหมาะสำหรับเพื่อนๆได้ที่เว็บไซต์ iMoney.in.th นี้ได้เลย พวกเราทีมงาน iMoney ได้รวบรวมเขียนบทความที่เกี่ยวกับการเงินทุกรูปแบบ ให้อ่านง่ายๆ เข้าใจกันได้ง่ายๆ หรือจะสมัครผ่านช่องทางนี้ก็สะดวกเลย สุดท้ายนี้ฝากเพื่อนๆช่วยกด Like กด Share บทความนี้กันเยอะๆนะคะ และถ้าอยากรู้ว่าในครั้งหน้าเราจะมีบทความการเงินเรื่องอะไรนั้น อย่าลืมติดตามอ่านกันด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ