รีไฟแนนซ์บ้านเอื้ออาทร – ปัญหาอย่างหนึ่งสำหรับคนที่มีภาระในการผ่อนบ้านก็คือ หมุนเงินไม่ทัน ยอดเงินที่ผ่อนในแต่ละเดือนก็เพิ่มสูงขึ้นไปตามอัตราดอกเบี้ย เพราะส่วนใหญ่แล้วการกู้ซื้อบ้านใหม่ๆ ก็มักจะมีโปรโมชั่นส่วนลดดอกเบี้ยในช่วง 3 ปีแรกเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะปรับดอกเบี้ยลอยตัวขึ้น ทำให้ยอดเงินผ่อนสูงขึ้น บางคนที่พอจะมีรายได้หรือหมุนเงินทันก็ไม่มีปัญหา แต่บางคนก็อาจจะมีปัญหา การเงินสะดุด ทำให้เริ่มรู้ผ่อนไม่ไหว จึงทำให้หลายคนเลือกที่จะ “รีไฟแนนซ์บ้าน” แต่สำหรับใครที่กู้ซื้อบ้านเอื้ออาทร หากจะรีไฟแนนซ์บ้านนั้นก็จะต้องกลับไปดูเงื่อนไข เนื่องจากโครงการบ้านเอื้ออาทรส่วนใหญ่แล้ว ห้ามการโอนสิทธิเช่าซื้อภายในระยะเวลา 5 ปี ฉะนั้นหากจะรีไฟแนนซ์ได้ก็จะต้องให้ผ่อนครบแล้ว 5 ปี จึงจะทำการรีไฟแนนซ์ได้ ก็จะทำลักษณะเดียวกับการรีไฟแนนซ์บ้านทั่วไปเลย ซึ่งข้อดีของการรีไฟแนนซ์นั้นก็จะส่วนทำให้ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากเลย วันนี้เราจะมาแนะนำสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเอื้ออาทรจากธนาคารต่างๆที่น่าสนใจมาฝากกัน จะน่าสนใจแค่ไหน ให้วงเงินเท่าไรกันบ้าง และดอกเบี้ยเป็นอย่างไร มาติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ
รวมผลิตภัณฑ์สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเอื้ออาทร อัพเดทล่าสุด 2563
ธนาคาร |
ชื่อสินเชื่อ | จุดเด่น | เงื่อนไขการกู้ | ดอกเบี้ย |
ธนาคารอาคารสงเคราะห์
|
สินเชื่อบ้านสุขสันต์ (Refinance in) | กู้ง่าย ฟรีดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน สามารผ่อนจ่ายได้นานจนถึงอายุ 75 ปี | ยื่นขอรีไฟแนนซ์ได้ทั้งบุคคลทั่วไปหรือจะเป็นลูกค้าสวัสดิการ |
ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 3.025 ต่อปี |
ธนาคารออมสิน |
สินเชื่อเคหะ | ดอกเบี้ยต่ำ ให้วงเงินกู้สูงสุด 100% ราคาประเมิน ผ่อนจ่ายน้อยและนานสูงสุด 30 ปี | ผู้สมัครจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 – 65 ปี โดยที่จะต้องมีรายได้ที่แน่นอน | ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ MRR – 6.00% หรือเท่ากับร้อยละ 0.870 ต่อปี |
ธนาคาร TMB | สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน | สมัครง่าย ดอกเบี้ยพิเศษนาน 3 ปี ฟรีค่าจดจำนอง ฟรีค่าเบี้ยประกันภัย และฟรีประเมินหลักทรัพย์ สามารถผ่อนได้นานถึง 35 ปี | สมัครได้ทั้งคนที่ทำงานประจำและเจ้าของธุรกิจ ซึ่งจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 – 60 ปี โดยที่จะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 15,000 – 20,000 บาท |
ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 3.05 ต่อปี |
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา |
สินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์ | กู้ง่าย อนุมัติเร็ว ให้วงเงินสูงสุดถึง 95% ของราคาประเมิน ฟรีค่าจดจำนอง ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนนาน 30 ปี | ผู้สมัครจะต้องมีอายุ 20 – 65 ปี ซึ่งสามารถยื่นรีไฟแนนซ์ได้คนที่ทำงานประจำหรือมีธุรกิจส่วนตัว | ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ร้อยละ 0.50 ต่อปี |
ธนาคารกสิกรไทย | สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ | สมัครง่าย อนุมัติเร็วภายใน 3 วัน ดอกเบี้ยต่ำคงที่นาน 3 ปี ผ่อนจ่ายน้อยเริ่มต้น 3,300 บาท สามารถผ่อนได้นาน 30 ปี | ผู้สมัครจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 – 70 ปี ซึ่งจะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท |
ดอกเบี้ยเริ่มต้นคงที่นาน 3 ปี อยู่ที่ร้อยละ 3.65 ต่อปี |
credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์บ้านเอื้ออาทร กับ สินเชื่อบ้านสุขสันต์ (Refinance in) จากธนาคารอาคารสงเคราะห์
สินเชื่อบ้านสุขสันต์ (Refinance in) เหมาะสำหรับใครที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้าน อาคาร ห้องชุด หรือบางคนต้องการใช้เงินก้อนเพื่อไปต่อเติมบ้าน หรือนำเงินไปใช้จ่ายทั่วไป ใช้หนี้ เป็นต้น ก็สามารถนำบ้านมารีไฟแนนซ์ได้เลย แต่จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการบ้านเอื้ออาทรด้วย ซึ่งในการรีไฟแนนซ์บ้านนี้สามารถช่วยยืดระยะเวลาการผ่อนได้นานถึง 40 ปี และที่สำคัญอัตราดอกเบี้ยก็ถูกแสนถูก รายละเอียดจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ
จุดเด่นสินเชื่อบ้านสุขสันต์ (Refinance in)
- วงเงินกู้สูง
- ผ่อนนาน 40 ปี
- ดอกเบี้ยต่ำพิเศษ
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านสุขสันต์ (Refinance in)
- เริ่มตั้งแต่เดือนที่ 1 – เดือนที่ 36 อัตราดอกเบี้ยจะคงที่อยู่ที่ร้อยละ 3.025 ต่อปี
- ตั้งแต่เดือนที่ 37 – เดือนที่ 42 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ต่อปี (ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยนาน 6 เดือน)
- อัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ในช่วงเดือนที่ 43 ขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของผู้ที่ขอรีไฟแนนซ์ ดังนี้
- กรณีที่เป็นลูกค้าสวัสดิการ ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.00 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 5.625 ต่อปี
- กรณีที่เป็นลูกค้ารายย่อย ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 0.50 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 125 ต่อปี
- กรณีที่กู้เงินไปซื้ออุปกรณ์ต่างๆ อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ MRR หรือเท่ากับร้อยละ 6.625 ต่อปี
ทั้งนี้ ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR = 6.625 ต่อปี
วงเงินการอนุมัติสินเชื่อบ้านสุขสันต์ (Refinance in)
- การอนุมัติวงเงินจะเป็นตามหลักประกัน หรือตามมูลค่าบ้านของคุณ และจะต้องพิจารณาควบคู่ไปตามเกณฑ์รายได้ของคุณด้วยว่าจะมีความสามารถในการผ่อนจ่ายมากน้อยแค่ไหน
ระยะเวลาการผ่อนสินเชื่อบ้านสุขสันต์ (Refinance in)
- การผ่อนสินเชื่อบ้านจะเริ่มผ่อนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 3 ปี 6 เดือนขึ้นไป หรือสามารถผ่อนได้นานสูงสุดถึง 70 ปี ทั้งนี้ระยะเวลาการผ่อนนั้นเมื่อรวมกับอายุของผู้ที่นำบ้านมารีไฟแนนซ์จะต้องรวมกันไม่เกิน 70 ปี แต่ถ้าคุณมีอาชีพ ข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี จะได้ยืดอายุได้มากกว่า เมื่อรวมกับระยะเวลาการผ่อนจะต้องไม่เกิน 75 ปี
ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้านกับสินเชื่อบ้านสุขสันต์ (Refinance in)
สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านนั้นจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการด้วย ซึ่งในส่วนนี้อาจจะต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าด้วยว่า ค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายเพิ่มกับดอกเบี้ยที่ได้รับนั้นบวกลบคูณหารกันแล้วจะคุ้มค่าหรือไม่ โดยค่าใช้จ่ายจะมีดังนี้
- ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในการทำสัญญา จะต้องจ่าย 1,000 บาท
- ค่าประเมินหลักประกันซึ่งธนาคารจะคิดในราคาพิเศษ จะแบ่งไปตามวงเงินกู้ที่ได้รับอนุมัติ ดังนี้
- กรณีที่วงเงินกู้อนุมัติไม่เกิน 500,000 บาท ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 1,900 บาทต่อหลักประกัน
- กรณีที่วงเงินกู้อนุมัติเกิน 500,000 บาท ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 2,300 บาทต่อหลักประกัน
- ฟรีค่าธรรมเนียมในการยื่นเรื่องขอรีไฟแนนซ์ ซึ่งปกติแล้วจะต้องจ่ายอยู่ที่ร้อยละ 0.1 ของวงเงินกู้ในการทำสัญญา
คุณสมบัติของผู้ยื่นขอรีไฟแนนซ์กับสินเชื่อบ้านสุขสันต์ (Refinance in)
- ผู้ที่ยื่นสินเชื่อจะต้องเป็นกลุ่มลูกค้ารายย่อยทั่วไป หรือเป็นลูกค้าสวัสดิการที่ไม่มีเงินฝาก สามารถยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารอาคารสงเคราะห์
เอกสารประกอบการสมัครสินเชื่อบ้านสุขสันต์ (Refinance in)
- เอกสารส่วนบุคคล
- บัตรประชาชน หรือใครที่เป็นข้าราชการก็สามารถใช้บัตรข้าราชการก็ได้ค่ะ
- สำเนาทะเบียนของผู้ที่ยื่นรีไฟแนนซ์
- กรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อ สกุล จะต้องแนบเอกสารในการเปลี่ยนมาด้วย
- กรณีที่มีสถานะสมรม หย่า หรือคู่สมรสตาย ก็จะต้องแนบเอกสารดังกล่าวมาด้วย
- กรณีที่ผู้ที่ยื่นรีไฟแนนซ์ทำงานประจำที่มีรายได้
- สลิปเงินเดือน (เดือนล่าสุด) หรือ หนังสือรับรองเงินเดือน (ระบุเงินเดือน ตำแหน่งงาน)
- หนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการ
- สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน
- กรณีที่ผู้ที่ยื่นรีไฟแนนซ์ทำอาชีพอิสระ
- สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน/หลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่นๆ
- หนังสือรับรองบริษัทพร้อมวัตถุประสงค์ ไม่เกิน 3 เดือน
- สำเนาทะเบียนการค้า
- หลักฐานการเสียภาษีเงินได้
- รูปถ่ายกิจการ
- สำเนาใบประกอบวิชาชีพ
เอกสารด้านหลักประกันที่จะต้องยื่นในการขอรีไฟแนนซ์บ้าน
- สำเนาสัญญากู้เงิน และสำเนาสัญญาจำนองกับสถาบันการเงินเดิม
- ใบเสร็จการผ่อนชำระหรือบัญชีหมุนเวียนย้อนหลัง 1 หรือ 2 ปี
ช่องทางการสมัครขอยื่นสินเชื่อบ้านสุขสันต์ (Refinance in)
- หากสนใจหรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ธนาคาอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ทุกสาขาทั่วประเทศ
credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์บ้านเอื้ออาทร กับ สินเชื่อเคหะ จากธนาคารอออมสิน
สินเชื่อเคหะ กับธนาคารออมสิน เป็นสินเชื่อสำหรับคนที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเอง หรือจะใครกำลังผ่อนบ้านแล้วเริ่มรู้สึกจ่ายไม่ไหว หรืออยากได้เงินสักก้อนเพื่อมาใช้จ่ายหมุนเวียนในครอบครัว ไม่ว่าบ้านที่กำลังผ่อนนั้นเป็นบ้านที่ซื้อจากโครงการต่างๆของภาคเอกชน หรือจะเป็นบ้านเอื้ออาทรก็ตาม สามารถยื่นขอรีไฟแนนซ์กับธนาคารออมสินได้เลย ด้วยเงื่อนไขการสมัครที่ไม่ยุ่งยาก ที่ให้วงเงินสูงตามราคาบ้านของคุณ แล้วยังให้ผ่อนจ่ายได้นานถึง 30 ปีอีกด้วย ส่วนรายละเอียดอื่นๆนั้นจะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย
จุดเด่นของสินเชื่อเคหะ
- ยื่นขอรีไฟแนนซ์ง่ายไม่ยุ่งยาก
- ได้รับดอกเบี้ยในอัตราต่ำพิเศษ
- จ่ายน้อย ผ่อนได้นานสูงสุด 30 ปี
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเคหะ
สำหรับการคิดดอกเบี้ยของสินเชื่อเคหะของธนาคารออมสินนั้น ธนาคารจะมีให้เลือก 2 ประเภท ก็คือ สำหรับคนที่เลือกทำประกันชีวิตในการคุ้มครองสินเชื่อ กับกลุ่มคนที่ไม่ทำประกันชีวิต แน่นอนว่ากลุ่มคนที่เลือกทำประกันชีวิตย่อมได้รับดอกเบี้ยที่ถูกกว่า เนื่องจากมีประกันชีวิตของคุ้มครองความเสี่ยงในกรณีที่คุณไม่สามารถผ่อนได้ เช่น เสียชีวิต หรือทุพพลภาพ เป็นต้น งั้นเรามาดูรายละเอียดดอกเบี้ยแต่ละประเภทกันค่ะ
กรณีที่เลือกทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อเคหะ
- อัตราดอกเบี้ยแบบที่ 1
- ในช่วงที่สินเชื่อปีที่ 1 จะต้องจ่ายดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MRR – 6.00 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 0.870 ต่อปี
- ในช่วงที่สินเชื่อปีที่ 2 จะต้องจ่ายดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.00 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 870 ต่อปี
- ในช่วงที่สินเชื่อปีที่ 3 ขึ้นไป จะต้องจ่ายดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.00 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 870 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยแบบที่ 2
- ในช่วงที่สินเชื่อปีที่ 1 ดอกเบี้ยจะคงที่อยู่ที่ร้อยละ 4.00 ต่อปี
- ในช่วงที่สินเชื่อปีที่ 2 และปีที่ 3 ดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นเป็นดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 4.50 ต่อปี
- ในช่วงที่สินเชื่อปีที่ 4 ขึ้นไป ดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.00 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 870 ต่อปี
กรณีที่เลือกไม่ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อเคหะ
- อัตราดอกเบี้ยแบบที่ 1
- ในช่วงที่สินเชื่อปีที่ 1 จะต้องจ่ายดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MRR – 4.00 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 2.870 ต่อปี
- ในช่วงที่สินเชื่อปีที่ 2 จะต้องจ่ายดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.00 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 5.870 ต่อปี
- ในช่วงที่สินเชื่อปีที่ 3 จะต้องจ่ายดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MRR – 75 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 6.120 ต่อปี
- ในช่วงที่สินเชื่อปีที่ 4 ขึ้นไป จะต้องจ่ายดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ MRR – 50 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 6.370 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยแบบที่ 2
- ในช่วงที่สินเชื่อปีที่ 1 จนถึงปีที่ 3 ดอกเบี้ยจะคงที่อยู่ที่ร้อยละ 5.50 ต่อปี
- ในช่วงที่สินเชื่อปีที่ 4 ขึ้นไปนั้น ดอกเบี้ยจะเปลี่ยนมาเป็นดอกเบี้ยลอยตัว ซึ่งจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 50 ต่อปี หรือเท่ากับร้อยละ 6.370 ต่อปี
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่ลอยตัวนั้น จะต้องขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ย (MRR) MINIMUM RETAIL RATE หรือที่เรียกว่า ดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี ว่าปัจจุบันธนาคารมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่เท่าไร หากมีการปรับเพิ่มขึ้น ดอกเบี้ยเงินกู้ก็จะต้องเพิ่มขึ้นไปด้วย หรือถ้ามีการปรับลดลงดอกเบี้ยก็จะลดลงเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ปัจจุบันดอกเบี้ย MRR = 6.870 ต่อปี
วงเงินการอนุมัติสินเชื่อเคหะ
ธนาคารจะอนุมัติวงเงินกู้ให้ไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินบ้านของคุณ แต่จะต้องมีเงื่อนไขในการให้วงเงินกู้ ซึ่งจะเกณฑ์ด้วยกัน ดังนี้
- หากเป็นการกู้สัญญาที่อยู่อาศัยหลังที่ 1
- กรณีที่บ้านหรือห้องชุดมีราคาซื้อขายต่ำกว่า 10 ล้านบาท
- หากเป็นบ้านพร้อมที่ดิน ธนาคารจะให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 95 ของราคาประเมิน
- หากเป็นห้องชุด ธนาคารจะให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 90 ของราคาประเมิน
- กรณีที่บ้านหรือห้องชุดมีราคาซื้อขายตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป
- ธนาคารจะให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 80 ของราคาประเมิน
- หากเป็นการกู้สัญญาที่อยู่อาศัยหลังที่ 2
- กรณีที่บ้านหรือห้องชุดมีราคาซื้อขายต่ำกว่า 10 ล้านบาท
- หากเป็นบ้านพร้อมที่ดิน โดยที่กำลังผ่อนบ้านหลังที่ 1 ตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ธนาคารจะให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 90 ของราคาประเมิน
- หากเป็นห้องชุด โดยที่กำลังผ่อนบ้านหลังที่ 1 น้อยกว่า 3 ปี ธนาคารจะให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 80 ของราคาประเมิน
- กรณีที่บ้านหรือห้องชุดมีราคาซื้อขายตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป
- ธนาคารจะให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 80 ของราคาประเมิน
- หากเป็นการกู้สัญญาที่อยู่อาศัยหลังที่ 3
- กรณีที่กำลังผ่อนบ้านหลังที่ 1 และหลังที่ 2 อยู่ด้วยนั้น ไม่ว่าจะผ่อนมาแล้วกี่ปี ธนาคารจะให้วงเงินกู้ไม่เกินร้อยละ 70 ของราคาประเมิน
- กรณีที่บ้านหรือห้องชุดมีราคาซื้อขายต่ำกว่า 10 ล้านบาท
- กรณีที่บ้านหรือห้องชุดมีราคาซื้อขายต่ำกว่า 10 ล้านบาท
ระยะเวลาการผ่อนสินเชื่อเคหะ
- สำหรับการผ่อนบ้านของสินเชื่อเคหะ ธนาคารออมสินให้ผ่อนได้สูงสุดไม่เกิน 30 ปี ทั้งนี้ เมื่อรวมอายุกับระยะเวลการผ่อนแล้วคุณจะต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี
เอกสารประกอบการสมัครสินเชื่อเคหะ
สำหรับเอกสารในการยื่นขอรีไฟแนนซ์กับธนาคารออมสินในสินเชื่อเคหะ คุณจะต้องเตรียมเอกสารต่างๆ ดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ยื่รีไฟแนนซ์
- กรณีที่ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์มีคู่สมรส จะต้องแนบเอกสารสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนของคู่สมรสมาด้วย
- สำเนาทะเบียนสมรส กรณีที่หย่าร้างก็จะต้องแนบสำเนาใบหย่า หรือกรณีที่คู่สมรสเสียชีวิตก็จะต้องแนบใบมรณบัตรของผู้สมรสมาด้วย
- เอกสารแสดงที่มาของรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน หรือ ใบหัก ณ ที่จ่าย
เอกสารด้านหลักประกันที่จะต้องยื่นในการขอรีไฟแนนซ์บ้าน
- สำเนาสัญญากู้เงิน และสำเนาสัญญาจำนองกับสถาบันการเงินเดิมที่เป็นหนี้อยู่
- ใบเสร็จที่จ่ายเงิน
คุณสมบัติของผู้ที่ยื่นขอรีไฟแนนซ์สินเชื่อเคหะ
- ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์จะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 – 65 ปี
- มีอาชีพที่มีรายได้ประจำที่แน่นอน
- ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์จะต้องมีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกกับธนาคารออมสิน (สามารถเปิดบัญชีในภายหลังได้)
ช่องทางการสมัครขอยื่นสินเชื่อเคหะ
- หากสนใจหรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ หรือจะโทรไปสอบถามได้ที่ Call Center 1115
credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์บ้านเอื้ออาทร กับ สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน จากธนาคาร TMB
หากคิดจะรีไฟแนนซ์บ้าน ลองมาที่ธนาคาร TMB เพราะตอนนี้ธนาคารจัดโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับใครที่มายื่นรีไฟแนนซ์บ้านกับ TMB จะได้รับดอกเบี้ยในอัตราพิเศษเพียงแค่ 3.05% นานถึง 3 ปี เรียกได้ว่าดอกเบี้ยต่ำสุดๆไปเลย แถมวงเงินที่ปล่อยกู้ก็ให้เริ่มต้นอยู่ที 500,000 บาท สามารถผ่อนจ่ายได้สบายๆแบบชิลๆนานสูงสุดถึง 35 ปี และโปรโมชั่นที่น่าดึงดูดมากกว่าส่วนลดดอกเบี้ยก็เห็นทีจะเป็น ฟรีค่าจดทะเบียนจำนอง ค่าประเมินหลักทรัพย์ ค่าเบี้ยประกันภัยอัคคีภัย ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะช่วยทำให้ประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้มากเลยทีเดียว ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น มาดูกันเลย
จุดเด่นของสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
- สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก
- อนุมัติรวดเร็วภายใน 7 วัน
- ให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 20 ล้านบาท
- พิเศษดอกเบี้ยต่ำ 3.05% นาน 3 ปี
- จ่ายน้อย และผ่อนได้นานสูงสุดถึง 35 ปี
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
การรีไฟแนนซ์บ้านก็เหมือนกับการขอสินเชื่อบ้าน ฉะนั้นการคิดคำนวณดอกเบี้ยนั้นก็จะต้องพิจารณาจากว่าในการขอสินเชื่อนั้นได้มีการเลือกทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อในกรณีที่เสียชีวิตหรือไม่ โดยที่ธนาคารจะมีผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ประเภทให้เลือกว่าคุณจะสมัครทั้ง 3 ประเภทเลยหรือไม่ หรือว่าจะสมัครเพียงแค่ประเภทเท่านั้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 นี้ก็จะประกอบด้วย 1.สมัครทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ 2.สมัครใช้บริการหักบัญชีเงินฝากแบบอัตโนมัติ และ3.สมัครบัตรเดบิต TMB โดยอัตราดอกเบี้ยก็จะแบ่งเป็น 2 เงื่อนไข คือ กลุ่มที่สมัครครบทั้ง 3 ประเภท กับ กลุ่มที่สมัครไม่ครบทั้ง 3 ประเภท ดังนี้
กรณีที่ขอรีไฟแนนซ์บ้านและสมัครพร้อมกับผลิตภัณฑ์เสริมทั้ง 3 ประเภท
- ทางเลือกที่ 1 (ฟรีค่าเบี้ยประกันภัยอัคคีภัยและค่าประเมินราคาหลักทรัพย์)
- รีไฟแนนซ์บ้านในช่วง 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะอยู่ร้อยละ MRR – 4.10 ต่อปี หรือคิดเป็นดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี อยู่ที่ร้อยละ 3.05 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยจะอยู่ร้อยละ MRR – 15 ต่อปี หรือคิดเป็นดอกเบี้ยเฉลี่ยจะอยู่ที่ร้อยละ 5.00 ต่อปี
- ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงในการรีไฟแนนซ์บ้านจะอยู่ที่ร้อยละ 4.35 ต่อปี
- ทางเลือกที่ 2 (ฟรีค่าจดทะเบียนจำนอง ค่าเบี้ยประกันภัยอัคคีภัยและค่าประเมินราคาหลักทรัพย์)
- รีไฟแนนซ์บ้านในช่วง 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะอยู่ร้อยละ MRR – 75 ต่อปี หรือคิดเป็นดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี อยู่ที่ร้อยละ 3.40 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยจะอยู่ร้อยละ MRR – 15 ต่อปี หรือคิดเป็นดอกเบี้ยเฉลี่ยจะอยู่ที่ร้อยละ 5.00 ต่อปี
- ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงในการรีไฟแนนซ์บ้านจะอยู่ที่ร้อยละ 4.47 ต่อปี
กรณีที่ขอรีไฟแนนซ์บ้านและสมัครพร้อมกับผลิตภัณฑ์เสริมไม่ครบทั้ง 3 ประเภท
- รีไฟแนนซ์บ้านในช่วง 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะอยู่ร้อยละ MRR – 3.15 ต่อปี หรือคิดเป็นดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี อยู่ที่ร้อยละ 00 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยจะอยู่ร้อยละ MRR – 90 ต่อปี หรือคิดเป็นดอกเบี้ยเฉลี่ยจะอยู่ที่ร้อยละ 5.25 ต่อปี
- ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงในการรีไฟแนนซ์บ้านจะอยู่ที่ร้อยละ 4.84 ต่อปี
สำหรับสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับในกรณีที่สมัครผลิตภัณฑ์เสริมไม่ครบทั้ง 3 ประเภท ก็จะได้รับฟรีค่าเบี้ยประกันภัยอัคคีภัย และฟรีค่าประเมินราคาหลักทรัพย์
ทั้งนี้ ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR = 7.15 ต่อปี
วงเงินการอนุมัติสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
การอนุมัติวงเงินสินเชื่อในการรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารจะกำหนดวงเงินขั้นต่ำให้อยู่ที่ 500,000 บาท และจะอนุมัติวงเงินให้สูงสุดไม่เกิน 20,000,000 บาท ทั้งนี้ ก็จะต้องขึ้นอยู่กับมูลค่าราคาของหลักทรัพย์ที่นำมายื่นขอรีไฟแนนซ์ด้วย ซึ่งจะเป็นออกเป็น 2 กรณี ดังนี้
- กรณีที่นำบ้านพร้อมที่ดิน หรือ ห้องชุด ที่มีราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท วงเงินเท่ากับยอดหนี้เดิม มารีไฟแนนซ์กับธนาคาร TMB จะได้รับวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 95% ของราคาประเมินจากธนาคาร
- กรณีที่นำบ้านพร้อมที่ดิน หรือ ห้องชุด ที่มีราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป วงเงินเท่ากับยอดหนี้เดิม มารีไฟแนนซ์กับธนาคาร TMB จะได้รับวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 90% ของราคาประเมินจากธนาคาร
ระยะเวลาการผ่อนสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
- สามารถผ่อนสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ได้นานสูงสุด 35 ปี แต่ก็เมื่อรวมระยะเวลการผ่อนกับอายุของคุณแล้วจะต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี ฉะนั้น ยิ่งอายุน้อยเท่าไร โอกาสที่จะได้ผ่อนนานก็มีมากขึ้นเท่านั้น
คุณสมบัติของผู้ที่ยื่นขอรีไฟแนนซ์สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
- ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์จะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 – 60 ปี
- กรณีที่ทำงานประจำ เช่น พนักงานบริษัท ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ
- จะต้องมีฐานเงินเดือนไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท
- โดยผู้ที่ยื่นรีไฟแนนซ์จะต้องรับเงินเดือนด้วยการโอนเงินเข้าบัญชี
- จะต้องทำงานกับที่ปัจจุบันไม่น้อยกว่า 4 เดือน และจะต้องผ่านทางทดลองงานมาแล้ว
- กรณีที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว
- จะต้องมีรายได้หมุนเวียนในธุรกิจไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน
- ธุรกิจที่ประกอบนั้นจะต้องอยู่ในประเทศไทยและดำเนินการมานานกว่า 2 ปี
เอกสารประกอบการสมัครสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
เอกสารยื่นประกอบการสมัครในการขอรีไฟแนนซ์บ้านนั้นผู้สมัครจะต้องเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน โดยจะแบ่งเอกสารการสมัครไปตามอาชีพของผู้สมัคร ดังนี้
กรณีที่เป็นพนักงานบริษัท
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้กู้
- สลิปเงินเดือน (เดือนล่าสุด) จะต้องใช้ตัวจริงและสลิปเงินเดือนจะต้องพิมพ์ด้วยกระดาษคาร์บอนในตัว แต่ถ้าไม่มีก็ให้ใช้เป็น หนังสือรับรองเงินเดือน (อายุไม่เกิน 2 เดือน)
- สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 1 เดือน
กรณีที่เป็นข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานธนาคาร หรือพนักงานเงินทุนหลักทรัพย์
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้กู้ หรือจะใช้สำเนาบัตรข้าราชการก็ได้แต่จะต้องแนบมาพร้อมกับสำเนาทะเบียนบ้าน
- สลิปเงินเดือน (เดือนล่าสุด) กรณีที่ใช้หนังสือรับรองเงินเดือน (อายุไม่เกิน 2 เดือน) จะต้องเพิ่มสำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารย้อนหลัง 1 เดือน
กรณีที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว หรือเป็นเจ้าของกิจการ
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้กู้ หรือผู้ที่อำนาจในการลงนาม
- สำเนาบัญชีเงินฝากที่มีเงินหมุนเวียนในธุรกิจให้ย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน
- สำเนาใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจ ซึ่งจะเป็นทั้งแบบในรูปบริษัท ห้างหุ้นส่วน หรือร้านค้า ดังนี้
- กรณีที่จดทะเบียนเป็นบริษัท
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน (คัดไม่เกิน 3 เดือน)
- สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (มีอายุไม่เกิน 3 เดือน)
- กรณีที่จะจดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด (คัดไม่เกิน 3 เดือน)
- กรณีที่จะจดทะเบียนเป็นร้านค้า
- สำเนาใบทะเบียนพาณิชย์ หรือใบกรมทะเบียนการค้า
- กรณีที่จดทะเบียนเป็นบริษัท
เอกสารด้านหลักประกันที่จะต้องยื่นในการขอรีไฟแนนซ์บ้าน
- สำเนาโฉนดที่ดินทุกหน้า หรือสำเนา นส.3ก ทุกหน้า
- สำเนาใบเสร็จที่จ่ายค่างวดสินเชื่อบ้านกับธนาคารเดิม ซึ่งจะต้องใช้ใบเสร็จล่าสุด
- สำเนาสัญญาเงินกู้จากธนาคารเดิม
- สำเนาหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้าง หรือใบอนุญาตปลูกสร้างบ้าน หรือ ทด. 13
ช่องทางการสมัครขอยื่นสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
- สำหรับใครที่ต้องการสมัครหรือต้องการสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์บ้านนั้นสามารถเข้าไปติดต่อสอบถามได้ที่ธนาคาร TMB ทุกสาขา ทั่วประเทศ หรือถ้าไม่สะดวกจะโทรสอบถามในเบื้องต้นก่อนก็ได้ที่ Call Center 1558
credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์บ้านเอื้ออาทร กับ สินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์ จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา
สินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์ เหมาะสำหรับใครที่คิดอยากจะรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อลดดอกเบี้ยที่จ่ายแพง อยากลดยอดเงินผ่อนต่อเดือนให้น้อยลง หรือต้องการยืดระยะเวลาในการผ่อนได้นานขึ้น เลือกมารีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารกรุงศรีได้เลย ฟรีค่าธรรมเนียมในการประเมินหลักประกัน พร้อมทั้งให้วงเงินกู้ที่สูงสุดถึง 95% ของราคาประเมิน จ่ายรายเดือนน้อยๆได้นานถึง 30 ปี และที่สำคัญอัตราดอกเบี้ยถูกเป็นพิเศษ ที่ใครเห็นก็ต้องร้องว้าวอย่างแน่นอน หากสนใจอยากมารีไฟแนนซ์บ้านลองมาดูรายละเอียดไปพร้อมๆกันเลยค่ะ
จุดเด่นของสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
- อนุมัติวงเงินสูงสุดถึง 95%
- ผ่อนสบายได้นานสูงสุด 30 ปี
- ดอกเบี้ยสุดพิเศษร้อยละ 0.5 ต่อปี นาน 1 ปี
- ฟรีค่าธรรมเนียมสำรวจและประเมินหลักประกัน
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
อัตราดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารกรุงศรีจะมีให้เลือกด้วยกันหลากหลายทางเลือก และจะแบ่งไปวงเงินกู้ในการอนุมัติ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
กรณีได้รับวงเงินกู้ตั้งแต่ 1,000,000 – 1,500,000 บาท
- อัตราดอกเบี้ยทางเลือกที่ 1
- รีไฟแนนซ์บ้านปีแรก จ่ายดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 0.80 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านปีที่ 2 – 3 จ่ายดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.55 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านปีที่ 4 เป็นต้นไป จ่ายดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 75 ต่อปี
- หากคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี จะจ่ายดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 3.20 ต่อปี
- ทั้งนี้ คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดทั้งสัญญาเงินกู้จะอยู่ที่ร้อยละ 4.01 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยทางเลือกที่ 2
- รีไฟแนนซ์บ้าน 3 ปีแรก จ่ายดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 3.00 ต่อปี
- หากคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี จะจ่ายดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 3.00 ต่อปี
- ทั้งนี้ คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดทั้งสัญญาเงินกู้จะอยู่ที่ร้อยละ 3.98 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยทางเลือกที่ 3 (ฟรีค่าจดจำนอง)
- รีไฟแนนซ์บ้านปีแรก จ่ายดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 0.55 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านปีที่ 2 – 3 จ่ายดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 1.80 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านปีที่ 4 เป็นต้นไป จ่ายดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 75 ต่อปี
- หากคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี จะจ่ายดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 3.62 ต่อปี
- ทั้งนี้ คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดทั้งสัญญาเงินกู้จะอยู่ที่ร้อยละ 4.23 ต่อปี
สำหรับใครที่ได้รับเงินกู้ไม่ถึง 1,500,000 บาทนั้น ถ้าจะให้เลือกแนะนำเป็นทางเลือกที่ 2 น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แม้ว่าจะไม่ได้รับฟรีค่าจดจำนอง แต่หากมองถึงดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ที่เราได้รับนั้น เป็นดอกเบี้ยที่ถูกที่สุดในบรรดาทางเลือกทั้ง 3 นี้ และอีกอย่างไหนๆจะรีไฟแนนซ์แล้วก็ควรจะเลือกดอกเบี้ยที่คุ้มที่สุดด้วยล่ะค่ะ
กรณีได้รับวงเงินกู้ตั้งแต่ 1,500,000 บาทขึ้นไป
- อัตราดอกเบี้ยทางเลือกที่ 1
- รีไฟแนนซ์บ้านปีแรก จ่ายดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 0.75 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านปีที่ 2 – 3 จ่ายดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 2.55 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านปีที่ 4 เป็นต้นไป จ่ายดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 75 ต่อปี
- หากคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี จะจ่ายดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 3.18 ต่อปี
- ทั้งนี้ คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดทั้งสัญญาเงินกู้จะอยู่ที่ร้อยละ 4.01 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยทางเลือกที่ 2
- รีไฟแนนซ์บ้านปีแรก จ่ายดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 1.90 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านปีที่ 2 จ่ายดอกเบี้ยคงที่เพิ่มขึ้นจากปีแรกอยู่ที่ร้อยละ 2.45 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านปีที่ 3 เป็นต้นไป จ่ายดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 75 ต่อปี
- หากคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี จะจ่ายดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 3.18 ต่อปี
- ทั้งนี้ คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดทั้งสัญญาเงินกู้จะอยู่ที่ร้อยละ 4.01 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยทางเลือกที่ 3
- รีไฟแนนซ์บ้านในช่วง 3 ปีแรก จ่ายดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 2.95 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านปีที่ 4 เป็นต้นไป จ่ายดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 75 ต่อปี
- หากคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี จะจ่ายดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 2.95 ต่อปี
- ทั้งนี้ คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดทั้งสัญญาเงินกู้จะอยู่ที่ร้อยละ 3.96 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยทางเลือกที่ 4
- รีไฟแนนซ์บ้านในช่วง 3 ปีแรก จ่ายดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 80 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านปีที่ 4 เป็นต้นไป จ่ายดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 75 ต่อปี
- หากคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี จะจ่ายดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 3.15 ต่อปี
- ทั้งนี้ คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดทั้งสัญญาเงินกู้จะอยู่ที่ร้อยละ 4.08 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยทางเลือกที่ 5
- ตลอดทั้งสัญญาในการรีไฟแนนซ์บ้าน ดอกเบี้ยลอยตัวเท่ากันทุกปี ซึ่งจะอยู่ที่ร้อยละ MRR – 95 ต่อปี
- หากคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี จะจ่ายดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 4.00 ต่อปี
- ทั้งนี้ คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดทั้งสัญญาเงินกู้จะอยู่ที่ร้อยละ 4.00 ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยทางเลือกที่ 6 (ฟรีค่าจดจำนอง)
- รีไฟแนนซ์บ้านในช่วงปีแรก จ่ายดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 0.50 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านปีที่ 2 – 3 จ่ายดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 90 ต่อปี
- รีไฟแนนซ์บ้านปีที่ 4 เป็นต้นไป จ่ายดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR – 75 ต่อปี
- หากคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี จะจ่ายดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 3.53 ต่อปี
- ทั้งนี้ คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดทั้งสัญญาเงินกู้จะอยู่ที่ร้อยละ 4.19 ต่อปี
จากที่เห็นทางเลือกของอัตราดอกเบี้ยทั้ง 6 ทางเลือกแล้ว หากมองความคุ้มค่ามากที่สุดก็เห็นจะเป็นทางเลือกที่ 3 เพราะเป็นทางเลือกที่มีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดในบรรดา 6 ทางเลือก ทั้งนี้ ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR = 6.95% ต่อปี
วงเงินการอนุมัติสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
วงเงินในการอนุมัติของธนาคารนั้นจะให้สูงสุด 95% ของราคาประเมินจากธนาคาร ทั้งนี้ ก็จะขึ้นอยู่กับหลักทรัพย์ของคุณด้วยว่ามีมูลค่าเท่าไร
ระยะเวลาการผ่อนสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
- ในส่วนของระยะเวลาการผ่อนจ่ายค่างวดสินเชื่อบ้านนั้น สามารถผ่อนจ่ายได้นานสุด 30 ปี โดยเมื่อรวมระยะเวลาการผ่อนกับอายุของคุณแล้วจะต้องไม่เกิน 65 ปี
คุณสมบัติของผู้ที่ยื่นขอรีไฟแนนซ์สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
- สามารถยื่นรีไฟแนนซ์บ้านได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
- โดยผู้ยื่นรีไฟแนนซ์บ้านจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 – 65 ปี
- ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์จะต้องเป็นคนที่สัญชาติไทย
- กรณีที่ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์เป็นพนักงานประจำ จะต้องมีอายุการทำงานไม่น้อยกว่า 2 ปี สามารถนำระยะเวลาการทำงานของที่เก่าและปัจจุบันรวมกันได้ แต่จะต้องผ่านการทดลองงานแล้วเท่านั้น
- กรณีที่ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์ประกอบธุรกิจส่วนตัว จะต้องประกอบธุรกิจในประเทศไทย และดำเนินกิจการมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปีขึ้นไป
เอกสารประกอบการสมัครสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
เอกสารประกอบการสมัครนั้นส่วนใหญ่แล้วจะประกอบด้วย 3 ส่วน คือ เอกสารส่วนบุคคล เอกสารแสดงที่มาของรายได้ และเอกสารด้านหลักประกัน ซึ่งเราได้รวบรวมมาฝากกัน ดังนี้
เอกสารข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์
- สำเนาบัตรประชาชน หรือจะใช้เป็นสำเนาบัตรข้าราชการ
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- กรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อ หรือ นามสกุล จะต้องแนบเอกสารหลักฐานการเปลี่ยนแปลง
- กรณีที่มีคู่สมรส จะต้องแนบเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้
- สำเนาทะเบียนสมรส หรือสำเนาใบหย่า หรือสำเนาใบมรณบัตร (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต)
เอกสารแสดงที่มีรายได้ของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์
- กรณีที่เป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ประจำ (พนักงานบริษัท/ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ)
- หนังสือรับรองการทำงาน ระบุ เงินเดือน ตำแหน่งหน้าที่ หรือ สลิปเงินเดือน (ล่าสุด) แต่ถ้าทำงานประจำแล้วมีค่า commission ให้แล้วสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 12 เดือน มาด้วย
- หากมีโบนัสให้สำเนาหนังสือรับรองโบนัส
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากที่มีเงินเดือนเข้าบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน แต่ถ้ามีค่า commission ให้ย้อนหลัง 12 เดือน
- แนบสำเนาการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา พร้อมใบเสร็จในการจ่ายภาษีย้อนหลัง 2 ปี
- กรณีที่เป็นบุคคลธรรมดาที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว
- สำหนังสือรับรองการจดทะเบียน คัดไม่เกิน 3 เดือน
- สำเนาใบกรมทะเบียนการค้า
- สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ไม่เกิน 3 เดือน
- สำเนาบัญชีเงินฝากทั้งของผู้กู้และของกิจการ โดยจะต้องย้อนหลัง 6 เดือน
- สำเนา ภ.พ. 30 พร้อมใบเสร็จ (กรณีที่มีให้แนบมาด้วย)
- สำเนา ภ.พ. 20 พร้อมใบเสร็จ (กรณีที่มีให้แนบมาด้วย)
- สำเนาบริคณห์สนธิ ไม่เกิน 3 เดือน
เอกสารด้านหลักประกันของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์
- ถ่ายสำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ของหลักประกัน
- สำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน
- สำเนาสัญญากู้เงินกับสถาบันการเงินเดือน
- สำเนาใบเสร็จในการจ่ายค่างวดสินเชื่อกับสถาบันการเงินเดิม
- แผนที่ตั้งของบ้านที่นำมารีไฟแนนซ์
ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้านกับสินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์
แน่นอนว่าการรีไฟแนนซ์บ้านย่อมจะมีค่าใช้จ่ายที่คุณจะต้องจ่ายเพื่อการรีไฟแนนซ์ ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมในการประเมิน หรือจะเป็นค่าเบี้ยประกันภัย รวมไปถึงค่าจดจำนอง งั้นเราลองมาดูกันสิถ้ามารีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารกรุงศรี จะต้องเตรียมเงินไว้จ่ายค่าอะไรบ้าง
- ฟรีค่าธรรมเนียมในการประเมิน มูลค่า 3,210 บาท
- ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย จะพิจารณาจากวงเงินกู้ในการรีไฟแนนซ์บ้าน
- ค่าอากรแสตมป์ในการทำสัญญา โดยจะต้องจ่ายอยูที่ 0.05% ของวงเงินกู้ แต่จะไม่เกิน 10,000 บาท
- ค่าจดจำนอง จะต้องจ่ายให้กับกรมที่ดิน โดยจะต้องจ่ายอยูที่ 1% ของวงเงินกู้
- กรณีที่ปิดหนี้ก่อน 3 ปี จะต้องเสียค่าเบี้ยปรับ 3%1 ของยอดหนี้คงเหลือ
ช่องทางการสมัครขอยื่นสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
- สำหรับใครที่สนใจอยากสมัครก็เข้าไปติดต่อได้กับเจ้าหน้าที่ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขาทั่วประเทศ หรือจะเลือกสมัครผ่านทางออนไลน์ก็ได้เช่นกัน สนใจคลิกที่นี่ได้เลย
credit : https://pixabay.com
รีไฟแนนซ์บ้านเอื้ออาทร กับ สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ จากธนาคารกสิกรไทย
สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านของธนาคารกสิกรไทยเป็นหนึ่งสินเชื่อที่มีความน่าสนใจไม่น้อย ที่สามารถจะช่วยตอบโจทย์ได้ดีสำหรับคนที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน มองหาสินเชื่อที่ให้วงเงินกู้สูง ดอกเบี้ยที่สุดพิเศษ เริ่มต้นเพียงแค่ร้อยละ 3.65 ต่อปี นาน 3 ปี หากนำไปเทียบกับดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกับสถาบันการเงินเดิมรับรองได้เลยว่าถูกว่าอย่างแน่นอน ซึ่งข้อดีของดอกเบี้ยถูกก็จะช่วย ทำให้ภาระการผ่อนค่างวดบ้านน้อยลง ผ่อนได้นานขึ้น ให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 95% จากราคาประเมินหลักทรัพย์ที่นำมารีไฟแนนซ์ เรามาดูรายละเอียด เงื่อนไขในการสมัคร รวมไปใครบ้างที่สามารถมายื่นรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารกสิกรไทยได้บ้าง มาดูกันเลย
จุดเด่นของสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
- อนุมัติไวภายใน 3 วัน
- จ่ายน้อย ผ่อนสบายขึ้น
- ดอกเบี้ยคงที่นาน 3 ปี
- ผ่อนจ่ายได้สบายนาน 30 ปี
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
สำหรับอัตราดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้านนั้นจะทั้งด้วยกัน 2 แบบ ก็คือ แบบที่ 1 คือเลือกทำประกันคุ้มครองสินเชื่อ กับแบบที่ 2 ที่ไม่ทำประกัน หรือทำประกันที่นอกเหนือจากเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ซึ่งมีรายละเอียดของดอกเบี้ย ดังนี้
อัตราดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้าน แบบที่ 1 (กรณีที่ซื้อประกันคุ้มครองสินเชื่อตามเงื่อนไขธนาคาร)
- ดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้านในช่วง 3 ปีแรก ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 3.65 ต่อปี
- ดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR-1.50 ต่อปี
- ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดสัญญาในการรีไฟแนนซ์บ้านนั้นจะอยู่ที่ร้อยละ 4.73 ต่อปี
อัตราดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้าน แบบที่ 2 (กรณีที่ไม่ซื้อประกันคุ้มครองสินเชื่อตามเงื่อนไขธนาคาร)
- ดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้านในช่วง 3 ปีแรก ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ร้อยละ 3.75 ต่อปี
- ดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์บ้านตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ที่ร้อยละ MRR-1.50 ต่อปี
- ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดสัญญาในการรีไฟแนนซ์บ้านนั้นจะอยู่ที่ร้อยละ 4.77 ต่อปี
ทั้งนี้ คุณยังสามารถจะเลือกขอผ่อนจ่ายในช่วงปีแรกในอัตราที่ถูก เริ่มต้นอยู่ที่ 1,000,000 บาทต่อวงเงินผ่อนเดือนละ 3,300 บาท แต่จะต้องมีเงื่อนไขที่ว่าระยะเวลาการกู้สินเชื่อบ้านตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปเท่านั้น
วงเงินการอนุมัติสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
ธนาคารจะให้วงเงินกู้ไม่เกิน 95% จากราคาหลักทรัพย์ ซึ่งแน่นอนว่าวงเงินที่ได้รับจะมากกว่ายอดหนี้เป็นอยู่กับสถาบันการเงินเดิมอย่างแน่นอน
ระยะเวลาการผ่อนสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
- ผ่อนจ่ายค่างวดในการรีไฟแนนซ์บ้านได้นานสูงสุดถึง 30 ปี
คุณสมบัติของผู้ที่ยื่นขอรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
- ยื่นรีไฟแนนซ์บ้านได้เฉพาะคนที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น
- ผู้ที่ยื่นรีไฟแนนซ์บ้านจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป แต่จะต้องไม่เกิน 70 ปี
- ผู้ที่ยื่นรีไฟแนนซ์บ้านจะต้องมีรายได้ต่อเดือนไม่น้อยกว่า 15,000 บาทขึ้นไป
- กรณีที่ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์ที่มีรายได้ประจำ จะต้องมีอายุการทำงานไม่น้อยกว่า 1 ปี โดยสามารถรวมระยะเวลาที่ทำงานเก่ากับที่ใหม่รวมกันได้ แต่ที่ทำงานใหม่นั้นจะต้องทำงานไม่น้อยกว่า 6 เดือน และจะต้องผ่านการทดลองงานแล้ว
- กรณีที่ผู้ยื่นรีไฟแนนซ์ที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว จะต้องทำธุรกิจมาแล้วอย่างน้อย 2 ปี
เอกสารประกอบการสมัครสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
เอกสารที่จะใช้ในการสมัครยื่นรีไฟแนนซ์บ้านนั้น ขึ้นอยู่กับอาชีพของคุณว่าทำงานประจำ หรือประกอบธุรกิจส่วนตัว ซึ่งรายละเอียดในการเตรียมเอกสารจะมีดังนี้
เอกสารส่วนบุคคลของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์
- ใบสมัครยื่นสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์และหนังสือให้ความยินยอม
- สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาบัตรข้าราชการ หรือสำเนาบัตรรัฐวิสาหกิจ
- สำเนาทะเบียนบ้านจะต้องถ่ายเอกสารมาให้ครบทุกหน้า
- กรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อ หรือเปลี่ยนนามสกุล จะต้องแนบเอกสารเปลี่ยนแปลงที่ทางราชการออกให้
- กรณีที่แต่งงาน จะต้องแนบเอกสารมาดังนี้
- กรณีที่จดทะเบียนสมรส จะต้องแนบสำเนาใบทะเบียนสมรส
- กรณีที่ไม่ได้จดทะเบียน จะต้องแนบหนังสือยืนยันสถานภาพ หรือถ้ามีลูกก็จะต้องแนบสำเนาสูติบัตรของลูก
- กรณีที่เป็นหม้าย จะต้องแนบสำเนาใบหย่า หรือใบแจ้งความเลิกร้าง
- กรณีที่คู่สมรสเสียชีวิต จะต้องแนบสำเนาใบมรณะ
เอกสารด้านการเงินของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์
- กรณีที่มีรายได้ประจำ (พนักงานบริษัทเอกชน/ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ)
- สลิปเงินเดือน (ล่าสุด) หรือหนังสือรับรองเงินเดือน (ไม่เกิน 3 เดือน)
- สลิปโบนัส (ถ้ามี)
- สำเนารายการเดินบัญชี หรือ Statement ให้ย้อนหลัง 6 เดือน
- กรณีที่เป็นข้าราชการบำนาญ
- ใบแนบหนังสือสั่งจ่าย
- สำเนารายการเดินบัญชี หรือ Statement ให้ย้อนหลัง 6 เดือน
- กรณีที่เป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว
- สำเนารายการเดินบัญชี หรือ Statement ให้ย้อนหลัง 6 เดือน
- หากมีเอกสารที่แสดงถึงรายได้จากทางอื่นๆ ก็ให้แนบเอกสารมาด้วย
- กรณีที่ทำงานอิสระ ไม่มีรายได้ประจำ
- สำเนารายการเดินบัญชี หรือ Statement ให้ย้อนหลัง 6 เดือน
- ใบ 50 ทวิ ที่แสดงถึงรายได้ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
เอกสารด้านหลักทรัพย์ของผู้ยื่นรีไฟแนนซ์
- สำเนาสัญญาเงินกู้สินเชื่อบ้านกับสถาบันการเงินเดิมที่เป็นหนี้อยู่
- สำเนาใบเสร็จในการจ่ายบิลค่างวดเดือนล่าสุดที่จ่ายให้กับสถาบันการเงินเดิม
ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้านกับสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
- เตรียมเงินในการจ่ายค่าประเมินหลักทรัพย์ จะประมาณ 3,000 บาท (ไม่รวมภาษี 7%)
- เตรียมเงินในการจ่ายค่าธรรมเนียมการจดจำนอง ซึ่งจะต้องจ่ายอยู่ที่ 1% ของวงเงินกู้ แต่จะต้องไม่เกิน 200,000 บาท
- เตรียมเงินในการจ่ายค่าอากรแสตมป์ในการทำสัญญา ซึ่งจะต้องจ่ายอยู่ที่ 0.05% ของวงเงินกู้ที่ได้รับอนุมัติ
- เตรียมเงินในการจ่ายค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย
ช่องทางการสมัครขอยื่นสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์
- สามารถสมัครขอยื่นรีไฟแนนซ์บ้านได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศ หรือจะเลือกสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ที่นี่เลย
การรีไฟแนนซ์บ้าน เป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดีสำหรับคนที่กำลังผ่อนบ้านหรือใครที่ต้องการใช้เงินก้อน อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะรีไฟแนนซ์นั้นก็ควรที่ต้องคิดให้รอบคอบ ตรวจสอบรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นสัญญาเดิมกับธนาคารเดิมที่เป็นหนี้อยู่ หรือเงื่อนไขต่างๆของสินเชื่อธนาคารใหม่ที่เราจะย้ายไปรีไฟแนนซ์ด้วย ว่ามันคุ้มค่าหรือไม่ และที่สำคัญสำหรับคนที่คิดจะรีไฟแนนซ์บ้านเอื้ออาทรนั้น ก็จะต้องดูในเงื่อนไขสัญญาให้ดีๆด้วย ส่วนใครที่ผ่อนมาเกินกำหนดของการเคหะแล้ว และต้องการนำบ้านไปเข้าไฟแนนซ์เพื่อนำเงินออกมาใช้นั้น หากยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกธนาคารไหนดีนั้นก็สามารถมาหาข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์บ้านได้ที่ iMoney.in.th รับรองได้เลยว่ามีครบทุกเรื่องของการเงิน นอกเหนือจากสินเชื่อบ้านแล้วยังมีสินเชื่ออื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมาย ท้ายสุดนี้ฝากเพื่อนๆช่วยกันกด Like กด Share กันเยอะๆด้วยนะคะ เผื่อว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน สวัสดีค่ะ